CD บทที่ 208 คุณเอาโทรศัพท์ของฉันไปได้อย่างไร?
จู่ ๆ จ้าวหยู่ตะโกนเสียงดัง ทำให้ดึงดูดความสนใจของทุกคนในบริเวณนั้นทันที
“คุณคือ…” หญิงสาวที่ดูเหมือนเลขาฯ มองไปที่จ้าวหยู่ แม้ว่าเธอจะเห็นชุดตำรวจของจ้าวหยู่แต่เธอก็ยังเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าสีดำโดยไม่สนใจ
“อย่าขยับ!” การตะโกนของจ้าวหยู่ไม่เพียงทำให้ผู้หญิงตกใจเท่านั้น แต่ผู้ชมทุกคนก็ตัวสั่น "เชื่อฉัน!" จ้าวหยู่ชี้ไปที่ตราตำรวจบนเครื่องแบบของเขา “ฉันติดตามผู้ก่อการร้ายคนนี้มานานแล้ว! นี่ไม่ใช่มุกตลกแน่นอน!” เขาใช้โทรศัพท์และชี้ไปที่กระเป๋า โทรศัพท์เริ่มดังขึ้นทันทีด้วยเสียงไซเรน
"แย่แล้ว!" จ้าวหยู่ตะโกนออกมาด้วยความตกใจก่อนจากนั้นก็เริ่มถอยกลับทันที จากนั้น มีใครบางวิ่งออกไป พอมีคนเริ่มวิ่ง ด้วยอุปทานหมู่คนอื่น ๆ ก็วิ่งตาม ผู้หญิงที่พยายามหยิบกระเป๋าได้วิ่งออกจากอาคารด้วยเร็วที่คาดไม่ถึง
เมื่อเห็นความโกลาหลในลิฟต์ รปภ. 2 คนก็วิ่งเข้ามาทันที! แต่ก่อนที่ทั้งสองจะได้เข้าใกล้ พวกเขาได้ยินจ้าวหยู่คำราม
"เฮ้ พวกคุณสองคนอยากตายงั้นเหรอ!? นี่คือระเบิดนะ! ไปแจ้งตำรวจและนำคนออกไปจากที่นี่! พวกคุณต้องการให้มันระเบิดรึไง!?"
จ้าวหยู่เกือบทำให้ยามทั้งสองสะดุดล้มลง ฝูงชนเริ่มตื่นตระหนกมากขึ้น ความวุ่นวายเริ่มแพร่กระจายเป้นวงกว้าง ในไม่ช้า พวกยามก็เข้ามจากทุกทิศทุกทาง
จ้าวหยู่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันทีและเริ่มแสดง “ฮัลโหล นั่นสำนักงานใหญ่ใช่ไหม ช่วยโทรหาผู้เชี่ยวชาญด้านการวางระเบิดมาที ใช่ มาที่บริษัทเทียนหลง! มีกระเป๋าที่น่าสงสัยอยู่ที่นี่ มันอาจจะมีอยู่ในนั้น! เฮ้…” เมื่อผ่านไปครึ่งทาง เขาก็เห็นยามเรียกตำรวจ จ้าวหยู่คำรามทันที "เฮ้ย! คุณกำลังทำอะไร ทำไมยังอยู่ตรงนี้ ทำไมไม่กดสัญญาณเตือน ถ้าเกิดระเบิดนี้ระเบิดจริง ๆ พวกคุณทุกคนต้องรับผิดชอบ!”
“อ…โอ้ ฉันจะไปทำเดี๋ยวนี้!” ยามตกตะลึงและรีบไปกดสัญญาณเตือนภัย
“พวกคุณอย่ายืนตรงนั้น!” จ้าวหยู่สั่งการส่วนที่เหลือทันที “คุณไม่เห็นหรือว่ามีระเบิดในลิฟต์ ทำไมพวกคุณไม่ไปปิดการใช้งานมันล่ะ เฮ้ย เดี๋ยวนะ…” เมื่อเห็นว่าพวกยามกำลังจะปิดลิฟต์จริง ๆ เขาก็เรียกกลับทันที “ไม่ ไม่ ยังมีคนอยู่ในลิฟต์! เอาคนออกให้หมดก่อน เมื่อคนออกหมดแล้ว ให้ปิดลิฟต์ อย่ารวมตัวกันที่นี่ หาทางออกอื่น! เร็วเข้า!”
ถึงพวกยามจะตกอยู่ในความวุ่นวายแต่พวกเขาก็ทำตามคำสั่งของจ้าวหยู่ทันทีและวิ่งไปที่บันได
จ้าวหยู่หันไปหายามที่มีอายุสองสามคนมาทันที “เท่าที่ฉันรู้ ระเบิดสามารถเปิดใช้งานได้ด้วยการสัมผัสและจากระยะไกลด้วย! อาคารนี้ใหญ่มาก ถ้ามันระเบิด ใครก็ตามที่อยู่ชั้นบนจะต้องได้รับอันตราย! พวกคุณรีบไปเตือนเจ้าหน้าที่ที่คอยจับตาดูกล้องวงจรปิด ให้พวกเขารีบวิ่งออกมา!”
"ตกลง" เมื่อมาถึงจุดนี้ ไม่ว่าจ้าวหยู่จะพูดอะไร พวกเขาก็คิดว่าเป็นเรื่องจริง ยามจึงเริ่มติดต่ออีกฝ่ายทันที
ยังมียามคนสุดท้ายอยู่ข้าง ๆ จ้าวหยู่ “แล้วพวกผู้บริหารล่ะ? พวกเขากำลังประชุมอยู่ที่นั่น!”
“ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องของพวกเขา! พวกผู้บริหารได้ข้อมูลเร็วกว่าใคร ๆ หากมีอะไรเกิดขึ้น พวกเขาจะออกไปก่อนคนงานอย่างแน่นอน!”
“เอ๊ะ! จริงเหรอ?” ยามนั้นตกตะลึงอย่างสมบูรณ์และทำได้เพียงเฝ้าดูความโกลาหล สัญญาณเตือนภัยเริ่มดังขึ้นอย่างรวดเร็ว คนที่รู้เรื่องระเบิดก็วิ่งออกไปข้างนอก
พวกยามทำตามหน้าที่อย่างเคร่งครัด แม้จะรู้ว่าระเบิดสามารถระเบิดได้ทุกนาที แต่พวกเขายังคงยืนอยู่ที่ประตูทางออกต่าง ๆ ช่วยจัดระเบียบฝูงชนและป้องกันการแตกตื่น
อย่างน้อยนี่คือบริษัทเทคโนโลยี ดังนั้นจึงมีคนทำงานไม่มากนัก และทุกคนได้รับการศึกษามาอย่างดี ถึงแม้จะเร่งรีบแต่ก็ไม่มีใครตื่นตระหนก การอพยพค่อนข้างเป็นระเบียบแต่ในขณะที่ผู้คนกำลังอพยพ ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น
เมื่อคนกลุ่มสุดท้ายลงจากลิฟต์ จู่ ๆ มีเด็กน้อยเดินไปที่กระเป๋าลึกลับและถึงกับยื่นมือออกไปคว้ามัน
เมื่อยามและจ้าวหยู่เห็นเด็กคนนั้น มันก็สายเกินไปแล้วแต่ในสถานการณ์เลวร้ายเช่นนี้ จู่ ๆ ก็มีคนวิ่งออกมาจากด้านหลังเด็ก และอุ้มเด็กคนนั้นไว้ในอ้อมแขนของเขา บุคคลนั้นรีบออกไปอย่างรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งสองบินผ่านอากาศเกือบขนานกับพื้น เมื่อพวกเขาลงจอด เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กได้รับบาดเจ็บ ชายคนนั้นเอาตัวรับพื้น กอดเด็กชายไว้ในอ้อมแขนของเขาไว้แน่น
*โครม…*
โทรศัพท์สีขาวพุ่งออกไปในระยะทางที่พอเหมาะ ลงจอดที่เท้าของจ้าวหยู่ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและในที่สุดก็จำชายคนนั้นได้ คนที่เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเด็กชายคือ ฮ่าวเจียจุน เด็กรวยที่เอาแต่ใจ! โทรศัพท์ก็เป็นของเขาด้วยแต่เนื่องจากการกระแทกลงพื้น ทำให้โทรศัพท์จึงบินไปได้ไกลพอสมควร
“ท่านประธานฮ่าวคือว่า…” ยามรีบเข้าไปแล้วถามอย่างสุภาพว่า “ท่านประธานเป็นอะไรรึเปล่าครับ ท่านประธานรีบลุกขึ้นมาเถอะครับ รีบมาทางนี้ ตรงนั้นมีระเบิด!”
“ตกลง ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!” ฮ่าวเจียจุนโบกมือขณะที่เขายืนขึ้นและถามเด็กชายที่หน้าซีดด้วยความกลัวทันทีว่า "เจ้าหนู ไม่เป็นไรใช่มั้ย?"
เด็กชายส่ายหัวด้วยความตกใจ จากนั้นพ่อของเด็กชายก็โผล่ออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ เขาอุ้มเด็กชายไว้ในอ้อมแขนและโค้งคำนับให้กับฮ่าวเจียจุนทันที เขาขอบคุณฮ่าวเจียจุนอย่างไม่สิ้นสุด
"เร็วเข้า!" ฮ่าวเจียจุนโบกมือของเขา “ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง เรารีบออกจากที่นี่กันก่อนเถอะ!”
พ่อของเด็กชายรีบจับมือเด็กชายออกจากพื้นที่ทันที ทางฮ่าวเจียจุนรู้ว่าโทรศัพท์ของเขาหายไปและรีบก้มหน้ามองหามันทันที
‘เขาเป็นประธานงั้นเหรอ!?’ จ้าวหยู่ไม่ได้คืนโทรศัพท์ทันทีแต่สงสัยว่า ‘เป็นไปได้ไหมว่าฮ่าวเจียจุนเป็นประธานของบริษัทเทียนหลง’
เพราะเขาเป็นลูกชายของฮ่าวเกิงจึงไม่น่าแปลกใจที่บริษัทนี้อยู่ภายใต้บริษัทหรงเทียน!
จ้าวหยู่มองดูอย่างระมัดระวังแต่ไม่เห็นใครเหมือนบอดี้การ์ดข้างฮ่าวเจียจุนเป็นไปได้ไหมว่าฮ่าวเกิงไม่ได้กังวลว่าจะมีใครทำร้ายลูกชายของเขา?
ในขณะเดียวกัน ฮ่าวเจียจุนก็เห็นว่าจ้าวหยู่กำลังถือโทรศัพท์ของเขาอยู่ เขารีบเดินขึ้นไปหาเขาเพื่อเอาคืน แต่เมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็จำได้ทันทีว่าชายที่ถือโทรศัพท์ของเขาเป็นตำรวจที่ต้องการจะสู้กับเขาจนตายที่โรงพยาบาล!
“นี่คุณ…” ความกลัวท่วมท้นบนใบหน้าของฮ่าวเจียจุนทันที เขากลืนสิ่งที่เขาจะพูดไป
ทางด้านจ้าวหยู่ได้เพิกเฉยต่อเขาและพลิกเปิดโทรศัพท์ของเขาต่อหน้าต่อตาเจ้าของ
โทรศัพท์ของฮ่าวเจียจุนค่อนข้างปกติและดูเหมือนจะไม่ใช่ของแบรนด์ดังอะไรแต่ถึงแม้จะกระแทกอย่างแรงแต่ก็ไม่ได้เสียหายมากนัก เห็นได้ชัดว่ามันค่อนข้างคงทน สามารถบอกได้ว่าโทรศัพท์เครื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงโทรศัพท์ในชีวิตประจำวัน
เมื่อหน้าจอสว่างขึ้น จ้าวหยู่เห็นว่าพื้นหลังของโทรศัพท์ฮ่าวเจียจุนไม่ใช่ใครอื่นนอกจากพยาบาลสาวสวย เหยาเจีย!
“ไอ้เหี้ย!” จ้าวหยู่อดไม่ได้ที่จะสาปแช่งและแสดงรูปถ่ายของเหยาเจียต่อหน้าฮ่าวเจียจุน “แกเป็นสตอล์กเกอร์งั้นเหรอ!? นี่มันหมายควาว่าอะไร!?”
“อา...” ใบหน้าของฮ่าวเจียจุนเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที “อย่าเข้าใจผิด มันเป็นแค่พื้นหลังของโทรศัพท์เท่านั้น!”
“งั้นฉันขอถามได้มั้ยว่าคุณถ่ายรูปนี้ที่ไหน!? เหยาเจียรู้ตัวรึเปล่า!?” จ้าวหยู่ถามเขาเสียงดัง
“เฮ้! คุณตำรวจ” ยามก็เงยขึ้นและชี้ไปที่จ่าวหยู่ “ตอนนี้มีระเบิดอยู่นะ พวกคุณไปโต้เถียงที่อื่นได้มั้ย? ถ้ามันเกิดระเบิดขึ้นมา ฮ่าว… ประธานฮ่าวจะ…”
“คุณตำรวจ” ฮ่าวเจียจุนหน้าแดง “ภาพมันนานมากแล้วและฉันไม่มีเวลาเปลี่ยน! ฉันรู้ ฉันรู้ว่าเจียเจียเป็นแฟนคุณ ฉันจะเปลี่ยนให้ทีหลัง”
‘อะไรนะ!? แฟน!?’ จ้าวหยู่ชะงักเล็กน้อยแต่ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อตอนนั้น เขาได้พูดอย่างไร้ยางอายว่าเหยาเจียเป็นแฟนสาวของเขา!
นั่นทำให้จ้าวหยู่ยิ่งกล้าหาญมากขึ้น เขาชี้ไปที่โทรศัพท์อีกครั้งทันที
“ใช่ คุณกำลังใช้แฟนของฉันเป็นพื้นหลังโทรศัพท์ ฉันจะอยู่เฉย ๆ ได้ยังไง รีบ ๆ เปลี่ยนมันเดี๋ยวนี้!”
เมื่อจ้าวหยู่ปล่อยให้ฮ่าวเจียจุนเปลี่ยนพื้นหลังโทรศัพท์ของเขา จู่ ๆ เขาก็เกิดความคิดขึ้น ‘ฮ่าวเจียจุนเป็นประธานของบริษัทเทียนหลง บางทีเขาอาจมีข้อมูลบางอย่างที่สำคัญในโทรศัพท์ของเขา มันจะช่วยซูหยางและคนอื่นๆ ได้ไหมนะ?’
‘ถ้าฉันได้โทรศัพท์มา เราจะขอข้อมูลอะไรจากมันได้ไหม?’ จ้าวหยู่คิด แต่เขาจะได้รับมันมาได้อย่างไร?
“เฮ้ พวกคุณไม่ได้ยินฉันเหรอ!?” ยามกำลังจะเป็นบ้า เขามองไปมาระหว่างฮ่าวเจียจุนกับระเบิด โดยกลัวว่าระเบิดอาจส่งผลกระทบต่อท่านประธาน “พวกคุณไม่รู้หรือว่าในกระเป๋าใบนั้นมีระเบิด พวกคุณยังจะมาพูดถึงเรื่องผู้หญิงอยู่อีกเหรอ!?”
"ฉันรู้!" จ้าวหยู่กล่าวอย่างดื้อรั้น “นี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับความภาคภูมิใจของฉันในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ถ้าคุณไม่เปลี่ยนตอนนี้ ฉันจะตายพร้อมกับคุณวันนี้!”
"ก็ได้ ๆ" ฮ่าวเจียจุนเป็นเหมือนสัตว์ที่พ่ายแพ้ เขาเปิดโทรศัพท์ทันทีและสุ่มภาพ “ฉันเปลี่ยนแล้ว พอใจรึยัง ส่วนรูปของเหยาเจีย ฉันจะลบทีกลัง ตกลงไหม?”
"ไม่!" จ้าวหยู่คว้าโทรศัพท์มา "ฉันต้องดูว่ามีรูปอื่นในโทรศัพท์ของคุณอีกรึเปล่า!?"
“ไม่มีแล้ว ฉันมีแค่รูปเดียวจริง ๆ!” ฮ่าวเจียจุนอธิบายทันทีแต่เขากลัวความดุร้ายของจ้าวหยู่ เขาจึงไม่กล้าเอาโทรศัพท์คืน
“โอ้ คุณไม่มีเหตุผลเลย” ยามโมโห เขากระทืบเท้าและยกมือขึ้นเพื่อพยายามดึงโทรศัพท์คืน ขณะที่เขายื่นมือออกไป จู่ ๆ จ้าวหยู่ก็ตะโกนและกระโดดขึ้นไปในอากาศหลายฟุตด้วยความตกใจ เกือบจะทำให้ชายวัยกลางคนหัวใจวาย
“ฮ่าว… ฮ่าว… ฮ่าวเจียจุน!” ตาของจ้าวหยู่เบิกโพลงราวกับว่าเขาถูกฟ้าผ่า เขาก้าวไปข้างหน้าทันทีและคว้าคอเสื้อของฮ่าวเจียจุน ร่างกายของเขาสั่นเมื่อเขาชี้ไปที่รูปภาพบนโทรศัพท์
“บอกมา! คุณไปเอารูปนี้มาจากไหน!?”
ฮ่าวเจียจุนก้มศีรษะลง เขามองเห็นรูปของนางงาม แม้ว่าเธอจะไม่สวยมากแต่ก็เป็นหญิงงาม ดวงตาของเธอกลมโตและผมของเธอเป็นลอนราวกับตุ๊กตา ที่สำคัญคือ ที่ริมฝีปากด้านขวามีไฝที่ชัดเจน!!!