727 - วิญญาณศักดิ์สิทธิ์
727 - วิญญาณศักดิ์สิทธิ์
ผู้อาวุโสไท่ซ่าง(สูงสุด)หลายคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกมีอัธยาศัยที่ดีมาก ทุกคนต้อนรับพวกด้วยตนเองและสตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกก็อยู่ข้างๆ
“หินก้อนนี้แตกต่างจากหินจักรพรรดิอื่นมาก เราไม่ต้องการที่จะปิดผนึกมัน แต่ต้องการให้สิ่งมีชีวิตอมตะที่อยู่ข้างในถือกำเนิดขึ้นมาอย่างปลอดภัย”
ผู้อาวุโสไท่ซ่างกล่าวถึงความปรารถนาที่แท้จริงซึ่งแตกต่างจากสิ่งที่สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกตกลงกับเย่ฟ่านในตอนแรก บางทีเหตุผลอาจเป็นเพราะเลือดราชาโบราณที่พวกนางได้รับจากวานรศักดิ์สิทธิ์เมื่อไม่กี่วันก่อน
ในสมัยก่อนผู้อมตะโบราณของทะเลสาบหยกได้ทิ้งหินก้อนนี้ไว้ ด้วยความคาดหวัง และมันได้รับการสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้
ผู้อาวุโสหลายคนของทะเลสาบหยกพาพวกเขาไปที่สระเทพธิดา ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของทะเลสาบหยก และเป็นที่มาของชื่อพวกเขา
ข้างหน้าเป็นทะเลหมอกอันกว้างใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้นานาชนิด บนต้นไม้มีนกและสัตว์หายากมากมายกระจัดกระจายอยู่รอบนอก
ที่นี่มีแม้กระทั่งอีกาสีทองสามขา และลูกหลานของหงส์เพลิงรวมทั้งสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายกิเลนอาศัยอยู่ในป่าข้างเคียง
“ต้นท้อโบราณนั่นออกผลอีกแล้วจริงๆ!” จักรพรรดิดำพึมพำ
มีต้นไม้โบราณที่แข็งแรงราวกับมังกรขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในส่วนลึกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ มันมีความสูงหลายร้อยวา ทอดยาวขึ้นไปบนท้องฟ้าและมีความเขียวชอุ่มตลอดทั้งปี
มีหินหลากสีแวววาวอยู่ใต้ต้นท้อโบราณ มันมีลักษณะคล้ายกับใบหน้าของมนุษย์ และตอนนี้มันกำลังดูดกลืนแสงอาทิตย์และดวงจันทร์โดยที่ผู้คนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
“บัดซบ มันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร!”
สุนัขสีดำตัวใหญ่ตกใจและอดที่จะเห่าออกมาไม่ได้
ใต้ต้นท้อโบราณริมทะเลสาบเทพธิดา มีคนเฝ้าดูอยู่หลายคนพวกเขากำลังเฝ้าดูหินก้อนนี้อย่างจริงจัง หนึ่งในนั้นคือเย่ฟ่านและโอหยางเย่ซึ่งว่ากันว่าเป็นประมาจารย์ต้นกำเนิดระดับปฐพี
โอหยางเย่จ้องมองดูก้อนหินด้วยความไม่แน่ใจ ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ทันใดนั้นรอยยิ้มจางๆ ก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา
เย่ฟ่านเกลียดผู้คนจากตระกูลศิลปะต้นกำเนิดโบราณดังนั้นจึงไม่คิดจะสนทนากับคนเหล่านี้ตั้งแต่แรก
"เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!"
ทันใดนั้นวานรศักดิ์สิทธิ์พ่นลมอย่างเย็นชาก่อนจะยื่นมือขนาดใหญ่เข้าหาโอหยางเย่
"เจ้ามีเจตนาจะฆ่าเพื่อนของข้าหรือ”
หลังจากที่วานรศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นร่างมนุษย์ ผิวของมันเป็นสีทองซีดแต่ร่างกายของมันยังคงอัดแน่นไปด้วยพลังของหายากสิ่งมีชีวิตอมตะ
ความแข็งแกร่งของมันน่ากลัวอย่างถึงที่สุด แม้ว่าปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์จะอยู่ที่นี่ก็ไม่มีทางที่จะกล้าขัดขวางการลงมือของมันอย่างแน่นอน
“ครืน!”
นิ้วโป้งสีทองที่ยื่นออกไปข้างหน้าและขยายใหญ่ขึ้นกว่าสิบจั้ง จากนั้นแสงสีทองสดใสก็ปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้าทำให้โอหยางเย่หน้าเปลี่ยนสีด้วยความกลัว
เขาฝึกฝนดวงตาแห่งสวรรค์จนสำเร็จ และโดยธรรมชาติแล้วเขาสามารถเห็นร่างที่แท้จริงของวานรได้ หลังจากรู้ว่ามันเป็นทายาทของสิ่งมีชีวิตอมตะโบราณ หัวใจของเขาก็สั่นสะท้านอย่างถึงที่สุด
สิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์เหล่านี้เชื่อมโยงกับภูเขาซากศพและทะเลโลหิตอยู่เสมอ พวกมันเคยเป็นผู้ปกครองที่สมบูรณ์ของดินแดนโบราณจนกระทั่งมนุษย์เข้ามาแทนที่
แต่ไม่ว่าพวกมันจะเคยยิ่งใหญ่มากแค่ไหน โอหยางเย่ก็ไม่สามารถรอความตายอยู่เฉยๆได้ ดังนั้นเขาจึงเรียกปราณมังกรให้ระเบิดขึ้นมาในบริเวณที่วานรศักดิ์สิทธิ์ยืนอยู่
“ตึง!”
ปราณมังกรในพื้นดินลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า กลายเป็นมังกรขนาดใหญ่นับสิบตัว แต่การก่อตัวของพวกมันยังไม่ทันเริ่มต้นขึ้นก็ถูกวานรศักดิ์สิทธิ์กระแทกกำปั้นออกไปทำลายอย่างง่ายดาย!
"บูม!"
มือใหญ่ของวานรไม่เปลี่ยน และยังคงกดไปข้างหน้าด้วยพลังอันชั่วร้ายอย่างถึงที่สุด
“บูม!”
ร่างกายของโอหยางเย่สั่นสะท้าน โลหิตของชายชราไหลทะลักออกมาจากปากและจมูกอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้ร่างกายของเขาตกไปอยู่ในมือวานรศักดิ์สิทธิ์แล้ว
“เจ้าจะทำอะไร!” เขาร้องออกมาด้วยความตกใจอย่างถึงที่สุด
“วิสุทธิชน(ผู้ที่มีสายเลือดเทพ)โปรดเมตตา”
ผู้อาวุโสไท่ชางของทะเลสาบหยกรีบเกลี้ยกล่อมจากด้านข้างและขอให้วานรศักดิ์สิทธิ์ปล่อยผู้อาวุโสจากตระกูลศิลปะต้นกำเนิดเพื่อป้องกันไม่ให้เลือดของเขาแปดเปื้อนดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
“กร็อบ”
วานรศักดิ์สิทธิ์ออกแรงเล็กน้อยและหักซี่โครงโอหยางเย่ไปหลายซี่ ก่อนจะโยนร่างกายที่บิดเบี้ยวของเขาลงไปบนพื้นราวกับเศษขยะ
“เจ้าเป็นใคร กล้าดีอย่างไรถึงทำกับผู้อาวุโสของเราแบบนี้!”
ผู้คนจากตระกูลศิลปะต้นกำเนิดโบราณคำรามด้วยความโกรธ
“สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกถ้าเจ้าไม่มีคำอธิบายเรื่องนี้พวกเราจะถอนตัวไปทันที!” หลายคนตะโกนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“อย่า…!”
โอหยางเย่พยายามห้ามปรามลูกหลานของตัวเองอย่างยากลำบาก เขาเป็นคนเดียวที่ฝึกฝนดวงตาสวรรค์ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าสิ่งมีชีวิตอมตะเหล่านี้ไม่สามารถยั่วยุได้
“วิสุทธิชนโปรดระงับความโกรธ!”
คนของทะเลสาบหยกเข้ามาแทรกแซง ในฐานะเจ้าของสถานที่มันไม่มีทางที่พวกเขาจะอนุญาตให้วานรน้อยลงมือสังหารผู้คน
“เขามีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะฆ่าเพื่อนของข้า การไม่ฆ่าเขาทิ้งก็ถือเป็นความเมตตาของข้าแล้ว” วานรพึมพำและมีสีหน้าเฉยชา
สิ่งที่เขาพูดมันเป็นไปตามอารมณ์ของเขา ในตามปกติเขาคงลงมือฆ่าผู้คนจากตระกูลโบราณศิลปะต้นกำเนิดไปหมดแล้วหากไม่ใช่เพราะต้องการไว้หน้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยก
“พวกเราออกไปจากที่นี่เถอะ!”
โอหยางเย่หันไปกล่าวกับลูกหลานโดยไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งกับวานรศักดิ์สิทธิ์ขึ้นอีก โดยตอนนี้เขาพยายามระงับความโกรธอย่างถึงที่สุด
“ดูเหมือนว่าไอสังหารของเจ้าจะยังไม่ลดลงเลย?”
ดวงตาที่เร่าร้อนของวานรศักดิ์สิทธิ์จ้องมองแผ่นหลังของโอหยางเย่ด้วยรอยยิ้ม
“วิสุทธิชนอย่าเพิ่งใจร้อน อย่าสร้างความวุ่นวายอีกเลย”
ผู้อาวุโสหลายคนของทะเลสาบหยกก้าวไปข้างหน้า เพราะกลัวว่าวานรน้อยจะฆ่าโอหยางเย่จริงๆ
“พี่วานรไม่จำเป็นต้องไปยุ่งกับพวกเขา” เย่ฟ่านก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อห้ามปรามว่านอนน้อย
จากนั้นเขาก็ชักชวนสหายทั้งหมดไปศึกษาต้นไม้โบราณที่ได้ชื่อว่าเป็นต้นไม้เซียนเพียงต้นเดียวที่อยู่นอกดินแดนต้องห้ามแห่งชีวิต
มันเติบโตมาเป็นเวลาหลายแสนปีแล้ว และลำต้นของมันก็ใหญ่โตจนเกรงว่าต้องใช้ผู้คนมากกว่าครึ่งร้อยในการโอบกอด
ต้นไม้โบราณเปรียบเหมือนมังกรขนาดยักษ์ เต็มไปด้วยใบสีเขียวโปร่งแสงและส่องประกาย กิ่งก้านของมันแผ่กระจายรอบ และมีผลเพียงสามผลเท่านั้น
ลูกท้อไม่ใหญ่มากแต่เป็นเหมือนหยกสีแดง ทั้งผลเป็นสีแดงสด ส่องประกายระยิบระยับและส่งกลิ่นหอมสดชื่นทำให้ผู้คนรู้สึกสบายไปทั้งตัว
สุนัขสีดำตัวใหญ่นั้นทนไม่ไหว มันอยากกลืนผลไม้ที่อยู่ตรงหน้าเข้าไปในคำเดียว หากไม่มีผู้อาวุโสระดับปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์คอยเฝ้าอยู่ใต้ต้นท้อ มันคงลงมือไปแล้ว
ในตอนนี้วานรศักดิ์สิทธิ์มองต้นท้อด้วยความเศร้าโศกราวกับนึกถึงเรื่องราวบางอย่าง
“ชีวิตเต็มไปด้วยความผันผวน ในอดีตดินแดนภาคเหนือนั้นเคยงดงามมากแค่ไหน ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างกลับกลายเป็นทะเลทรายไปหมดแล้ว”
วานรน้อยใช้เวลาอยู่กับความคิดของตัวเองนานพอสมควรก่อนจะถอนใจและกล่าวว่า
"ต้นท้อนี้ก็ผ่านชีวิตมาอย่างยาวนานเช่นเดียวกัน"
จากนั้นมันก็เดินเข้าหาก้อนหินจักรพรรดิที่มีรูปร่างเหมือนใบหน้ามนุษย์
“ทะเลสาบหยกมีความมั่นใจว่าจะควบคุมวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในหินก้อนนี้ได้จริงหรือ?”
ดวงตาของสุนัขสีดำตัวใหญ่นั้นลึกซึ้ง แสดงออกอย่างชัดเจนวาดมันมีความกลัวต่อหินจักรพรรดิก้อนนี้
หินก้อนนี้รู้สึกได้ถึงความบริสุทธิ์และสวยงาม มันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยแท้
คนในทะเลสาบหยกรู้ดีว่าสิ่งมีชีวิตอมตะไม่มีทางเกิดขึ้นจากมนุษย์ในดินแดนของพวกเขาได้ ดังนั้นทุกคนจึงได้แต่หวังพึ่งวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในหินก้อนนี้
“สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกจักรพรรดิคนนี้กำลังเล่นกับไฟ หากวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ตื่นขึ้นมา เว้นแต่จักรพรรดินีแห่งตะวันตกจะฟื้นคืนชีพไม่เช่นนั้นทะเลสาบหยกทั้งหมดจะถูกทำลายอย่างย่อยยับ!” สุนัขสีดำตัวใหญ่พูดอย่างเคร่งขรึม