บทที่ 49 เจ้าพ่ออารมณ์(แก้ไข)
เย่วั่งชวนเล่นกับสร้อยลูกปัดที่ข้อมือของตัวเองอย่างอารมณ์ดี ขาเรียวยาวก้าวเข้าขึ้นไปบนรถ "รู้แล้ว"
"ที่ฉันให้นายตรวจสอบเรื่องหมอเทวดา ยังตรวจสอบไม่เจออีกเหรอ?"
กู๋ซานที่กำลังเดินตามหลังของอีกฝ่ายอยู่ใกล้ๆ เอ่ยตอบอย่างระมัดระวัง "ผมพบรายละเอียดบางอย่าง แต่เมื่อผมตรวจสอบข้อมูลลึกกว่านี้ก็จะถูกแฮ็กทุกครั้งเลย"
ผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังบุคคลคนนั้นงั้นเหรอ? เย่วั่งชวนไม่ได้คาดคิดว่าจะหาข้อมูลของหมอเทวดาไม่เจอ เบื้องหลังคงจะมีอิทธิพลมากจริงๆ เขาถึงหาข้อมูลไม่ได้เลย!
"รู้ไหมว่าใครเป็นคนแฮ็ก?"
กู๋ซานก็คิดว่าตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ที่เก่งพอสมควร แต่คอมพิวเตอร์ของเขากลับถูกแฮ็ก จึงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาด้วยความอับอาย "ตอนนี้ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ คุณชายวั่ง ผมขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดผมเองที่มีฝีมือไม่มากพอ เลยหาหมอคนนั้นไม่เจอ"
เย่วั่งชวนหรี่ตาลง ริมฝีปากหนาถูกเม้มเข้าหากันจนแน่น แล้วยกมือลูบขมับเล็กน้อยด้วยท่าทางที่เหมือนจะรำคาญใจ "ก็แค่หมอคนหนึ่งเท่านั้น นายก็ตรวจสอบต่อไปแล้วกัน นอกจากนี้ ลองหาดูอีกว่าในวงแหวนรอบนอก มีหมอคนไหนที่มีชื่อเสียงอีกบ้าง เพียงแค่สามารถให้เฉินเฉินเข้ารักษาได้ก็หามาให้หมด"
"ครับ" กู๋ซานพยักหน้า พร้อมกับถามต่อว่า "คุณชายวั่ง นายน้อยเย่ตื่นแล้ว คุณต้องการไปดูนายน้อยหน่อยไหม? เขาร้องจะออกจากโรงพยาบาล"
นั่นคือราชาปีศาจแห่งความโกลาหล นายน้อยเป็นสมบัติของคนในตระกูลเย่ แต่ถ้าในปักกิ่งเขาคือปีศาจตัวน้อยที่สามารถพลิกโลกกลับหัวกลับหางได้ และใครก็ไม่สามารถห้ามได้
คนที่โวยวายจะออกจากโรงพยาบาล ถ้าไม่มีคุณชายวั่งก็คงจะเอาไม่อยู่จริงๆ !
เย่วั่งชวนเหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือของเขา ข้างนอกมันมืดแล้ว เจียงหลีก็ไม่อยู่ และเขาก็ไม่สามารถทิ้งเฉียวเนี่ยนไว้ในบ้านตามลำพัง
เขาเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วแล้วพูดกับกู๋ซานว่า "วันนี้มันดึกเกินไปแล้ว พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน"
...
ชั้นบน
เฉียวเนี่ยนที่เพิ่งเปลี่ยนเป็นชุดนอนเสร็จหลังจากอาบน้ำแล้ว ก็รวบผมบนศรีษะและมัด แล้วนั่งอยู่หน้าโต๊ะโดยที่ยังไม่ได้เอื้อมมือไปเปิดคอมพิวเตอร์
สายตาของเธอเหลือบเห็นสายที่ไม่ได้รับ และข้อความในโทรศัพท์อีกหลายข้อความ
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดดู
มีเว่ยโหลว
[เธอเป็นยังไงบ้าง ออกมาแล้วหรือยัง? ]
ยังมีเยวี๋ยนโหย่งฉินอีกด้วย
[ฉันเพิ่งไปทักทายเจ้าเมืองเสร็จ เป็นอย่างไรบ้าง ตำรวจทางนั้นปล่อยตัวไหม? ]
เฉียวเนี่ยนยกขาเรียวยาวของตัวเองขึ้นพาดไว้บนโต๊ะ ส่งข้อความตอบกลับเว่ยโหลวและเยวี๋ยนโหย่งฉินสั้นๆ ว่าตัวเองนั้นไม่เป็นไร
หลังจากนั้น ก็โทรศัพท์หาป้าเฉิน
โทรศัพท์ดังขึ้นเพียงเสี้ยววินาที อีกฝ่ายก็รับสายของเธอทันที
"เนี่ยนเนี่ยน! ค่อยยังชั่ว ในที่สุดเธอก็โทรหาฉันแล้ว เธอไม่เป็นไรนะ?"
เสียงที่ดังขึ้นจากอีกด้านหนึ่งของปลายสาย เมื่อได้ยินก็รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายยังอยู่ที่โรงพยาบาล
เฉียวเนี่ยนนำขาลงมาจากโต๊ะ แล้วเอื้อมมือไปเปิดโน๊ตบุ๊ค "ฉันไม่เป็นไร เพิ่งกลับถึงบ้าน อาการบาดเจ็บของเฉินเยวี่ยนเป็นอย่างไรบ้าง? หนักไหม? ถ้าหนักล่ะก็บอกฉัน ฉันรู้จักคนในโรงพยาบาลในเมือง เดี๋ยวฉันให้ไปดูเขาซักหน่อย"
"เขาเพียงแค่แขนเคล็ด นอกนั้น ก็มีแผลเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เป็นไรมาก เธอไม่ต้องสนใจเขาหรอก ให้เขาเจ็บซะบ้างจะได้สำนึก ไม่งั้นเดี๋ยวก็ไม่จำแล้วกลายเป็นขยะสังคมเหมือนคนพวกนั้น!"
เฉียวเนี่ยนได้ยินว่าเฉินเหยวี่ยนไม่ได้เป็นอะไรมาก เธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีก และพูดกับอีกฝ่าย "เดี๋ยวฉันจะหาโอกาสคุยกับเขาเอง ป้าเฉิน ป้ายังต้องดูแลลุงเฉิน พักผ่อนให้เพียงพอล่ะ อย่าทำให้ตัวเองเหนื่อยจนล้มหมอนนอนเสื่อ ถ้าเกิดป้าไม่สบายขึ้นมา แล้วลุงเฉินจะทำยังไงล่ะ?"
"ส่วนของที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ ถ้าฉันไปเยี่ยมลุงเฉินเมื่อไหร่จะนำสิ่งนั้นไปให้"
เห็ดหลินจือเป็นยาจีนโบราณที่หายาก และมีคุณค่ามาก นอกเหนือจากการยับยั้งเซลล์มะเร็งแล้ว ยังมีความน่าอัศจรรย์อีกอย่างก็คือการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของมนุษย์
ทุกวันนี้มีผู้ป่วยจำนวนมากที่มีอาการป่วยเกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกัน ถ้าภูมิคุ้มกันต่ำก็จะนำไปสู่การเจ็บป่วยในระยะยาว
เฉียวเนี่ยนไม่คิดว่าการเสียเงินสิบล้านเพื่อแลกกับเห็ดหลินจือนั้นมันจะสิ้นเปลืองเลยซักนิด ใบหน้าที่เบิกบานคล้ายกับได้ของล้ำค่า แต่นั้นก็เป็นเพียงผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพทั่วๆ ไป