ตอนที่แล้ววันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0035
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปวันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0037

วันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0036


บทที่ 14 จัมชิล โซล, ออกล่า (2)

* * *

อาชีพฮาวนด์คือศูนย์รวมมนุษย์หลากหลายประเภท

ไม่ใช่คนเดินถนนที่หาได้ทั่วไป แต่เป็นกลุ่มที่ได้กลิ่นอันหอมหวานของโอกาส

ในหมู่พวกมันจะมีผู้นำ ซึ่งมีลูกน้องติดสอยห้อยตามมากมาย

อย่างไรก็ดี ฮาวนด์เป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรง

จึงเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ สำหรับคนที่หลงใหลในงานด้านมืด

พวกที่มีรากเหง้ามาจากความมืด ย่อมมิอาจทนอยู่ใต้กฎของโลกที่สว่างไสว

นั่นจึงกลายเป็นปัญหาทางสังคมรูปแบบใหม่ แต่ก็ถูกมองข้ามไปเพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อน เหมือนกับปัญหาสังคมส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น

จีแทโฮ ฮาวนด์ระดับเจ็ดผู้คอยรับใช้ซอจีอา รวบรวมพรรคพวกจำนวนหนึ่งก่อนจะลงมือทรยศเธอ

มีทั้งฮาวนด์ที่สวมเข็มกลัดแต่ไม่สามารถหางานดีๆ ทำได้ และฮาวนด์ที่เห็นด้วยกับแผนปล้นสมบัติของซอจีอา ส่งผลให้จีแทโฮที่ออกหน้าบ่อยในวงการฮาวนด์ สามารถรวบรวมหน้าใหม่ได้ประมาณสามสิบคนในระยะเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์

แน่นอน แก๊งของพวกมันไม่มีความกลมเกลียว หากไปตั้งรกรากในจีน มีโอกาสสูงมากที่จะหันมาแทงกันเอง

แต่ทุกคนก็ทราบเรื่องนี้ดี

‘แค่ไปให้ถึงจีนก็พอแล้ว ด้วยส่วนแบ่งของเรา คงเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตไปอีกสักระยะ’

ในหัวของพวกมันต่างคิดเช่นนี้

แต่ก่อนหน้านั้น ทุกคนยังคงเป็นครอบครัวใต้ชายคาเดียวกันจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย

ในอพาร์ตเมนต์ร้างสี่ชั้น พวกมันกระจายกันนอนบนฟูกเก่า ถุงนอน หรือลังกระดาษ

สายลมยามเช้าตรู่ของฤดูใบไม้ร่วงเข้าพัดมาจากหน้าต่างที่แตก

ในห้องที่แบ่งกันนอนสามคน กลิ่นเหม็นของบุหรี่ รามยอน และโซจูลอยตลบอบอวล

“แม่งเอ้ย… หนาวฉิบ”

ยุนมินซูที่กำลังนอนหันหน้าเข้าหากำแพง ชำเลืองไปทางหน้าต่างแตกด้วยร่างกายสั่นเทา

หลังจากหันกลับมานอนต่อ มันได้ยินเสียงฮาวนด์อีกสองคนกำลังตั้งวงดื่ม

“เวรยามข้างล่าง… คิดว่าพวกมันกำลังเล่นสนุกอยู่ไหม?”

ฮาวนด์ร่างผอมที่ถือแก้วกระดาษหัวเราะในลำคอ

“สนใจทำไม? พวกมันอาสาอยู่แทนถึงเช้าก็ดีแล้วนี่ ฉันเหนื่อยจะแย่”

“ปากบอกเหนื่อยแต่ดื่มไม่หยุด… ฉันลงไปดูข้างล่างดีไหม?”

“ไร้สาระน่า…”

ปึด!

ทันใดนั้น เสียงคล้ายผ้าขาดดังขึ้น

เสื้อของใครสักคนคงไปเกี่ยวกับตะปูที่ยื่นออกจากกำแพง

“วู้… หนวกหูชะมัด ทำอะไรเบาๆ หน่อย”

พวกมันต้องไปเปลี่ยนเวรในอีกสองชั่วโมง แต่ด้วยสภาพแบบนี้ ไม่มีทางข่มตาหลับลงแน่ โซจูที่เพิ่งดื่มเข้าไปยังไม่ออกจากหลอดอาหารด้วยซ้ำ

จากนั้นก็มีเสียงบางสิ่งตกพื้นและเสียงลาก

ระหว่างกำลังกิน มีใครเผลอทำถ้วยรามยอนตกและเหยียบซ้ำหรือไง?

แล้วสองคนนี้คิดจะก๊งยาวจนถึงเวลาเฝ้ายามเลยใช่ไหม?

น่ารำคาญชะมัด

เสียงรบกวนยังคงดังต่อเนื่อง

ในสภาพอิดโรยซึ่งยังนอนไม่เต็มอิ่ม กลิ่นบุหรี่หวานๆ โชยมาถึงจมูกยุนมินซูได้สักพักแล้ว

“น่าหงุดหงิดฉิบ… ออกไปสูบสักมวนดีกว่า”

หลังจากลุกขึ้นยืน มันรู้สึกปวดฉี่ จึงตัดสินใจแวะห้องน้ำก่อน

ขณะเกาหัวและหันกลับไปมองเพื่อนทั้งสอง

“…?”

มันได้เห็นฉากที่แปลกประหลาด

แสงจันทร์สลัวส่องผ่านหน้าต่าง ด้านหลังหน้าต่างเป็นทิวทัศน์ของเมืองจากระยะไกล

ชายแปลกหน้าคนหนึ่งกำลังอยู่ในท่าคุกเข่า

ผัวะ! พลั่ก!

ฮาวนด์ที่นอนอยู่บนพื้น พยายามแกว่งขาดีดดิ้นอย่างบ้าคลั่ง

ชิ้ง!

ชายปริศนาผู้ใช้เข่ากดหน้าอกฮาวนด์ ยกแขนของตนขึ้น

ในมือถือมีดแบบกลับด้าน

ความประหลาดใจทำให้สมองยุนมินซูทำงานช้าลง เมื่อได้สติ มันรีบกลอกลูกตาราวกับคนบ้า และหันไปเห็นฮาวดน์อีกคนกำลังนอนแน่นิ่งบนพื้นห้อง ไม่เข้าสภาพแวดล้อมที่สั่นไหว

ดวงตาเบิกกว้าง ลิ้นจุกปาก

ในห้องมีฮาวนด์ทั้งหมดสามคน

ตายไปหนึ่ง และกำลังจะตายอีกหนึ่ง

“…”

ชายปริศนาลุกขึ้นยืน เลือดสดค่อยๆ หยดจากปลายมีดในมือ

‘…อะไร?’

ในสถานการณ์อันน่าเหลือเชื่อ จิตใจฮาวนด์แตกสลายทันที

เมื่อสมองของมนุษย์ถูกผลักออกจากขอบเขตของเหตุและผล กลไกป้องกันสุขภาพจิตจะทำงาน

‘…นี่มันเรื่องบ้าบออะไร?’

ความคิดหยุดลงแค่นี้ ยุนมินซูผงะถอยหลังอย่างไร้เรี่ยวแรง จิตของมันไม่แข็งพอที่จะทนรับฉากตรงหน้า

ต้องมีชีวิตรอด

หลังจากสติหลุดไปชั่วขณะ ในหัวของมันหลงเหลือเพียงความคิดดังกล่าว

“ว…ว๊ากกกกก!!”

ยุนมินซูแหกปากตะโกน โดยหวังว่าทุกคนในอาคารจะได้ยิน ให้ไปถึงชาวบ้านในเมืองเลยยิ่งดี

มันฝืนขยับขาที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งเพื่อพาตัวเองออกจากห้อง แขนถูกแหว่งอย่างไร้ทิศทางด้วยอาการสั่น

โครม!

บานพับขึ้นสนิมหลุดออกจากวงกบ ยุนมินซูล้มลงไปพร้อมกับบานประตู

“อ๊ากก!”

มันเจ็บรุนแรงที่ข้อเท้า

กับดักไม้ที่ใครบางคนวางไว้ เจาะเข้าไปในเนื้อข้อเท้า

แม้จะเจ็บไปถึงกระดูก แต่อะดรีนาลีนกำลังหลั่ง

“บัดซบ… บัดซบ บัดซบ!!”

ยุนมันซูเดินกะเผลกไปตามทางเดิน

ชั้นบนมีจีแทโฮกับคนสนิท แค่เรียกพวกนั้นลงมาช่วย ตนก็จะปลอดภัย

มันเดินไปตามทางด้วยความหวังดังกล่าว

ทันใดนั้น

“มีอะไร? เกิดอะไรขึ้น?”

เสียงเอะอะดังขึ้นจากด้านบน คล้ายกับทุกคนตื่นหลังจากได้ยินเสียงแหกปาก

จีแทโฮและลูกน้องราวห้าหกคน เดินลงมาและหยุดมองยุนมินซูด้วยสีหน้าตึงเครียด

เมื่อตระหนักว่าตนรอดแน่ ยุนมินซูยิ้มออกทันที

มันเหยียดขาขวาโดยหวังจะขยับไปข้างหน้า ขอแค่หลบหลังจีแทโฮได้ ทุกสิ่งก็เป็นอันจบ

ปึด!

ขณะก้าวขาด้วยความหวัง ด้ายที่มองไม่เห็นรัดข้อเท้าของมันจนขาด

“…อะ?”

จากนั้น

ฉึกฉึกฉึก!

ยุนมินซูล้มลงไปด้านหน้า

แผ่นหลังถูกลูกธนูปักสามดอก คาดว่าน่าจะยิงมาจากอีกฝั่งทางเดิน

“บัดซบ! รีบปลุกเด็กๆ ทุกคนเร็วเข้า!”

จีแทโฮเริ่มตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์

มันเคยเห็นคนตายต่อหน้ามาหลายครั้ง จึงไม่มัวคิดหาเหตุผลให้เสียเวลา

ตอนนี้มีผู้บุกรุก และอีกฝ่ายคิดจะฆ่าทุกคน

มันต้องชิงฆ่าก่อน

ด้วยตรรกะที่เรียบง่าย จีแทโฮรีบออกคำสั่ง

“นายออกไปข้างนอก ตามหาคนยิงให้พบ! ส่วนนายพาคนไปปลุกเด็กๆ และค้นให้ทั่ว”

ลูกน้องที่ได้รับคำสั่งรีบปฏิบัติตาม

ภายใต้ความเป็นผู้นำของจีแทโฮ ความโกลาหลยุติลงอย่างรวดเร็ว ฮาวนด์ที่พักบนชั้นสามทยอยตื่นและเดินออกมายืนที่ระเบียงทางเดิน

ทันใดนั้นเอง

เพล้งเพล้งเพล้ง!

พุ่บพุ่บพุ่บพุ่บพุ่บ!

หน้าต่างแตกพร้อมกับเสียงลูกธนูพุ่ง

“อ๊ากก!”

“โอ้ย! ตาฉัน!”

จากบรรดาฮาวนด์บนชั้นสาม มีสามคนลงไปนอนบนพื้นในสภาพเลือดโชก

“บัดซบ! รีบออกไปข้างนอก! ลากตัวคนยิงมาให้ได้!”

* * *

ฮาวนด์คนหนึ่งรีบลงไปยังชั้นหนึ่งและออกค้นหามือยิง

โชคดีที่พกกล้องส่องทางไกลมาด้วย

แต่หาเท่าไรก็ไม่พบ จนกระทั่งมันฉุกคิดได้

‘ไม่มีทางยิงธนูใส่ทางเดินชั้นสองได้แน่…’

มุมเดียวที่เป็นไปได้คือการยิงจากเฮลิคอปเตอร์ และแถวนี้ก็ไม่มีสักลำ

ฮาวนด์คนดังกล่าวตัดสินใจลองตรวจสอบหน้าต่าง

จากนั้นก็ต้องชะงัก

มันรีบตะโกนกลับเข้าไปในตึกอย่างร้อนรน

“ลูกพี่! ลูกพี่! ข้างนอกไม่มีผู้บุกรุก!”

“แล้วมันคืออะไร? ไอ้เวร!”

“กับดัก! ทุกกรอบหน้าต่าง… ทุกกรอบหน้าต่างมีกับดักลูกศร!”

* * *

“…กับดักลูกศร?”

กับดักเนี่ยนะ?

ในยุคนี้ยังมีคนวางกับดักก่อนลงมืออีกหรือ?

เสียงกรีดร้องที่ดังจากทุกหนแห่ง ทำเอาจีแทโฮมิอาจรักษาความเยือกเย็น

นอกจากนั้น มันเพิ่งตระหนัก

เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้น ไม่ใช่ของเหยื่อรายก่อนๆ

หากแต่เป็นเหยื่อที่กำลังถูกเชือด

ฉึบ! ฉึบ!

“อั่ก!”

“อ๊าก!”

เมื่อตั้งสติได้ คนของมันที่กำลังวิ่งไปตามทางเดินชั้นสอง เสียหลักล้มลงต่อหน้าต่อตา

เลือดที่พุ่งจากลำคอ เปลี่ยนให้พื้นทางเดินที่เต็มไปด้วยฝุ่นเริ่มเจิ่งนอง

ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น แต่เหยื่อกลับถูกปาดคอด้วยบางสิ่ง

กลิ่นบุหรี่หอม

คล้ายกลิ่นหอมผสมกับกลิ่นบุหรี่

และอาการเวียนหัวแบบนี้

กลิ่นแบบนี้

จีแทโฮรู้จักเป็นอย่างดี

‘ดอกไม้นั่น!’

มันทราบทันทีว่าผู้บุกรุกคือใคร

“ไอ้ระยำคังซอนฮู! เฮ้ย! ทุกคนรีบอุดปากอุดจมูก! ถ้าไม่มีอะไรอุดให้ฉีกเสื้อมาอุดไว้!”

เหล่าลูกน้องที่ตื่นตระหนกรีบทำตามคำสั่งจีแทโฮ กระชากเสื้อเชิ้ตและนำมาอุดจมูกปากตัวเอง

ได้ผลทันที ท่ามกลางควันพร่ามัวที่ลอยฟุ้ง ร่างของคังซอนฮูค่อยๆ ปรากฏขึ้น

จีแทโฮเชื่อว่า ความวุ่นวายจบลงแล้ว

มันชนะแน่

ก่อนที่ลูกน้องคนอื่นจะตั้งสติได้ คังซอนฮูรีบวิ่งเข้าไปหลบในห้องข้างๆ พร้อมกับปิดประตู

ลูกน้องสองคนสบถหยาบคายและเปิดประตูตามเข้าไป

ทว่า

ปึกปึก!

ทั้งสองกระเด็นถอยหลังและตายคาที่

กลางหน้าผากมีลูกธนูไม้ปักเข้าไปลึก

“ไอ้ระยำ…”

นับตั้งแต่วินาทีนี้ ความกลัวเริ่มผุดขึ้นในหัวจีแทโฮที่กำลังเดือดดาล

“…ลูกพี่”

ใครบางคนเรียกจีแทโฮจากด้านหลัง เป็นเสียงที่มันคุ้นเคย

ลูกน้องที่วิ่งขึ้นมาจากชั้นหนึ่งนำมือวางบนไหล่จีแทโฮ

จีแทโฮมองกลับไปด้วยสีหน้าร้อนรน

“…”

ลูกน้องซึ่งทั่วร่างกายเต็มไปด้วยเชื้อราอันน่าขนลุก ล้มกระแทกจีแทโฮ

เชื้อราจากต่างโลก

“เชี่ย!”

จีแทโฮผลักอีกฝ่ายเต็มแรงและหนีขึ้นชั้นสาม

เสียงร้องยังคงดังมาจากชั้นล่างอย่างต่อเนื่อง

นี่คือการจู่โจม? การวิวาท?

ผิดแล้ว คังซอนฮูไม่เคย ‘สู้’ กับฮาวนด์ในตึกหลังนี้

ไม่ได้เอาชนะด้วยเทคนิค ไม่ได้ใช้พละกำลัง และไม่ได้เอาชนะด้วยอาวุธคุณภาพสูงเหมือนกับซอจีอา

อีกฝ่ายเคลื่อนไหวราวกับเล่นวิดีโอที่บันทึกไว้ ประหนึ่งอ่านพฤติกรรมของฮาวนด์อย่างทะลุปรุโปร่ง

นี่ไม่ใช่การสู้ แต่เป็นการล่า

ณ มุมหนึ่งของชั้นสาม ห้องลับสำหรับหลบหนี

ไม่มีอยู่ในแปลนเดิมของอาคาร เป็นห้องลับที่ซอจีอาสร้างขึ้นเพื่อหลบการตรวจค้นของตำรวจ

ประตูลับถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียนชนิดที่ไม่มีวันหาพบ

หลังจากจีแทโฮเข้าไป มันปิดประตูสนิทและอำพรางทางเข้า จากนั้นก็ถอนหายใจยาว

บรรยากาศรอบตัวเงียบสงัดทันที

แม้แต่เสียงกรีดร้องที่ดังไปทั่วอาคาร ก็เล็ดลอดเข้ามาไม่ได้

จีแทโฮไม่แม้แต่จะหายใจ ปิดปากกับจมูกสนิท ไม่กระดุกกระดิกปลายนิ้ว

ต้องอดทนไว้จนกว่าทุกสิ่งจะจบลง

ขณะคิดเช่นนั้น

—ธาม-ทัตซาTham-tatha

มันได้ยินเสียงที่ไม่น่าเชื่อว่าปากมนุษย์จะเปล่งได้

จีแทโฮไม่รู้ความหมาย

รู้แค่ว่าเป็นภาษารูน แต่ไม่เคยเห็นใครใช้ต่อหน้า

ทันใดนั้น

แกร่กแกร่ก!

บานพับประตูที่ล็อกอย่างแน่นหนาค่อยๆ ถูกกัดกร่อน

ทีละเล็กละน้อย

บานประตูของห้องซึ่งมีทางเข้าออกทางเดียว ใครบางคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกำลังกัดกร่อนโลหะ

“น…นาย… คังซอนฮูสินะ?”

จีแทโฮรู้ว่าคังซอนฮูมีด้านที่เป็นมิตร

แม้แต่ซอจีอายังเจรจาได้

แล้วทำไมมันจะไม่ได้?

“มาทำข้อตกลงกันเถอะ! ฉันจะยกสมบัติของซอจีอาให้นาย… ฉ…ฉันจะยกเธอให้ด้วย! อยากทำอะไรก็ตามใจเลย! ค…แค่ปล่อยฉันไปจีนก็พอ คิดว่ายังไงบ้าง? นายไม่ต้องเสียอะไรเลย มือก็ไม่เปื้อนเลือดด้วย… นายไม่ใช่คนแบบนั้นอยู่แล้ว”

ครึก!

ประตูเปิดออกในที่สุด

จีแทโฮเผชิญหน้ากับคังซอนฮู

เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวลือหนาหูว่า คังซอนฮูมีแววตาที่ยากจะบรรยายด้วยคำพูด

หลังจากได้เห็นด้วยตาตัวเอง มันเข้าใจในทันที

ไม่ใช่แววตาของฆาตกรโรคจิต แต่เป็นแววตาอันเฉยเมยของมือเชือดในโรงฆ่าสัตว์

“…ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยด้วย!”

* * *

“แฮ่ก… แฮ่ก…”

ฮาวนด์คนที่ออกไปล่าตระเวน อดไม่ได้ที่จะคิด

โล่งอกไปที

ยังมีโอกาสหนีรอด

แน่นอน มันรู้ว่าไม่มีมุมใดของโซลให้ตนซุกหัวนอนได้อีก

แต่นั่นไม่สำคัญ

ยังมีต่างโลกอยู่ไม่ใช่หรือ? แค่ย้ายไปใช้ชีวิตที่นั่นก็สิ้นเรื่อง

‘ก่อนอื่น ต้องเก็บตัวเงียบสักสองสามเดือน จากนั้นก็แอบกลับโซลและหนีไปจีน’

มันรีบเข้าสู่กระบวนการคัดกรองของประตูมิติ

เนื่องจากอาชญากรรมของตนยังไม่ถูกเปิดเผย ทุกขั้นตอนจึงผ่านไปอย่างราบรื่น สามารถเดินทางไปยังต่างโลกโดยไม่มีอุปสรรค

หลังจากเดินไปตามถนนในเบสแคมป์ มันถอนหายใจด้วยสีหน้าผ่อนคลาย

ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้

ตอนนี้คังซอนฮูกำลังจู่โจมอพาร์ตเมนต์ของฮาวนด์ในกรุงโซล

แล้วกระท่อมของเจ้าตัวล่ะ?

“…บ้านไม่มีคนอยู่สินะ”

ใบหน้าของมันฉาบไปด้วยรอยยิ้ม

ถ้าเป็นบ้านที่ไม่มีคนอยู่ อยากจะปล้นอะไรก็เลือกได้ตามสบาย

เพราะยังไงมันก็คิดจะหนีไปซ่อนตัวไกลๆ อยู่แล้ว

เมื่อตัดสินได้ มันตรงไปยังกระท่อมคังซอนฮูทันที ละแวกดังกล่าวอยู่นอกเขตลาดตระเวนของหน่วยรักษาความปลอดภัย

ไม่ว่าจะมองมุมใดก็เป็นการปล้นที่ไม่ยากเย็น

“เสร็จฉันล่ะ”

ขณะฮาวนด์มุ่งหน้าไปทางกระท่อม

“…?”

มันพบใครบางคนกำลังดูแลสวนหลังกระท่อม

เหนือความคาดหมายอย่างมาก

มีคนอาศัยอยู่ในกระท่อม?

แต่เมื่อครุ่นคิดสักพักจนเข้าใจสถานการณ์ ฮาวนด์กลับฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิม

“นังแวมไพร์?”

“…”

ลิลี่ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนและหันมาสบตา

ฮาวนด์จ้องลิลี่ด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ประหนึ่งไฮยีน่าเห็นเนื้อเน่า

“ฉันดีใจจริงๆ ที่เจอเธอ”

“…”

“เลือดของเธอแพงมากนะ รู้ตัวบ้างไหม”

ชิ้ง!

ฮาวนด์ชักมีด

จากนั้นก็ย่างกรายเข้าหาลิลี่

ลิลี่ยังคงยืนนิ่ง ดวงตาจ้องไปทางฮาวนด์

“เด็กดี อย่าขัดขืนจะดีกว่านะ”

“ผู้ชายคนนั้นบอกว่า”

แน่นอน ฮาวนด์ไม่เข้าใจคำพูดลิลี่

“คืนนี้จะมีไอ้พวกเวรคนหรือสองคนมาที่กระท่อม จะมีคนมาแน่นอน”

ลิลี่บรรจงคุกเข่าลงหนึ่งข้าง คล้ายกับเด็กเล่นดินหรือบริวารที่คุกเข่าให้ราชา

“นี่คงเป็นบททดสอบของเขา เพื่อดูว่าข้าจะเป็นภาระในอนาคตหรือไม่”

“นังนี่! มัวพล่ามอะไร!”

ฮาวนด์ที่เริ่มหงุดหงิดปรี่เข้าหาลิลี่

“…กฎของผู้นำข้อแรก ห้ามเป็นภาระ”

มีดกุรข่าที่ป่าเบอร์มิวด้าสร้างขึ้น ‘โคลด์ฟรอสต์’ สะบั้นเส้นเลือดบนข้อมือฮาวนด์ที่พุ่งเข้าใส่

ใบหน้าขาวซีดของลิลี่เต็มไปด้วยเลือด

หญิงสาวขมวดคิ้วก่อนจะถุยเลือดออกจากปาก

______________________

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์

ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:

https://www.facebook.com/bjknovel/

หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด