ตอนที่แล้วSWO ตอนที่ 22 สัตว์อสูรระดับราชัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSWO ตอนที่ 24 หรือเขาจะเป็นปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุด?

SWO ตอนที่ 23 สัตว์อสูรระดับราชันอ่อนแอเกินไป


ณ ป่าพรุแดงทางตะวันออก

โจวเฮาที่กำลังจะจากไปหลังจากพบเถาวัลย์เลือดสกาเล็ต จู่ ๆ น้ำโดยรอบก็เริ่มผันผวนอย่างรุนแรง

ตามมาด้วยเสียงคำรามที่ฟังดูเขย่าขวัญ

จระเข้ยักษ์ที่ปกคลุมไปด้วยหนามลำคัวยาวสามถึงสี่ร้อยเมตรพุ่งออกมาจากน้ำเหมือนเกาะเล็ก ๆ

ดวงตาที่เย็นชา และไม่แยแสของมันจับจ้องไปที่ตำแหน่งของโจวเฮาทันที

อันที่จริงมันรับรู้ถึงการปรากฏตัวของโจวเฮาอยู่แล้วหลังจากที่จระเข้ฟันเหล็กตัวอื่น ๆ ถูกโจมตี

แต่เพราะเขาฆ่าแค่ระดับแม่ทัพจระเข้มังกรเขี้ยวเหล็กจึงไม่คิดใส่ใจ อย่างไรก็ตามมันไม่คิดเลยว่าจะมีตัวตนระดับปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธมากกว่าสิบคนจะมาถึงชายป่า

ดังนั้นมันจึงตื่นตระหนกกับการปรากฏตัวของพวกเขาในทันที..

“พวกเจ้าต้องการจัดการข้าเรอะ? ฮึ่ม งั้นข้าจะกินมนุษย์รุ่นน้องของเจ้าก่อน!” ด้วยความคิดนี้ จระเข้มังกรเขี้ยวเหล็กจึงพุ่งเข้าหาโจวเฮา

จระเข้เขี้ยวเหล็กพุ่งข้ามผ่านพันเมตร และมาถึงหน้าโจวเฮาทันที

ปากเปื้อนเลือดของมันเปิดกว้าง ความกว้างของมันสูงกว่าอาคารสามชั้นด้วยซ้ำ

โจวเฮายืนนิ่งอยู่กับที่

เมื่อเห็นดังนั้นจระเข้มังกรเขี้ยวเหล็กจึงคิดว่าโจวเฮาจะต้องกำลังหวาดกลัวมากเป็นแน่

“เจ้ามดต่ำต้อย” ดวงตาที่เย็นชาของจระเข้มังกรเขี้ยวเหล็กเต็มไปด้วยความดูถูก หากเป็นครั้งอื่นมันคงไม่คิดกินผู้ฝึกยุทธขยะแบบนี้

ขณะที่ปากเปื้อนเลือดกำลังจะตกลงมา…

โจวเฮาก็เริ่มขยับ!

เขายกกำปั้นขึ้นขณะที่แก่นโลหิตของเขาเดือดพล่าน

ร่างช้างมังกรโบราณก่อตัวขึ้นบาง ๆ ด้านหลังเขาพร้อมเปล่งเสียงคำรามอึกทึก

บูม

หมัดของเขาสวนเข้าไปในปากเปื้อนเลือดของสัตว์อสูรระดับราชัน

พลังอันน่าสะพรึงกลัวอย่างหาที่เปรียบมิได้แผ่ออกไปทุกทิศทุกทาง

คลื่นอากาศโดยรอบก่อตัวเป็นเมฆรูปเห็ดกระจายออกไปอย่างบ้าคลั่ง ขณะเดียวกันนั้นกระแสน้ำวนเป็นชั้น ๆ ได้กระจายออกมาจากน้ำใต้ฝ่าเท้าของเขา ก่อนกวาดไปทุกทิศทุกทางด้วยความเร็วสูง

ความกลัวปรากฏขึ้นในดวงตาที่เย็นชาของจระเข้มังกรเขี้ยวเหล็กทันที

มันรู้สึกราวกับสิ่งที่มันกินไม่ใช่แค่ผู้ฝึกยุทธคนหนึ่ง แต่เป็นช้างมังกรโบราณที่น่ากลัวยิ่งกว่าตัวมัน!

ปัง

อย่างไรก็ตามเวลานี้สายเกินไปแล้วที่จะหยุด

จระเข้มังกรเขี้ยวเหล็กสัมผัสได้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่แผ่กระจายไปทั่วร่างกายในทันที อวัยวะ และกระดูกจำนวนนับไม่ถ้วนในร่างถูกลดทอนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

“นะ นี่ข้าไปยั่วยุตัวตนแบบไหนเข้ากัน!” เมื่อความคิดนี้ปรากฏขึ้นในใจ ดวงตาที่เย็นชาของมันก็ค่อย ๆ ดับแสงลง

บูม!

จระเข้มังกรเขี้ยวเหล็กซึ่งยาวกว่า 300 เมตรตกลงมากระแทกพื้น

เมื่อเห็นดังนั้นโจวเฮาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขายังค่อนข้างประหม่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรระดับราชัน

ดังนั้นครั้งนี้เขาจึงใช้พลังไปถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์

โชคดีที่ในตอนท้ายจระเข้มังกรเขี้ยวเหล็กตายอย่างที่เขาคาดไว้

“ข้าไม่นึกเลยว่าสัตว์อสูรระดับราชันจะอ่อนแอถึงเพียงนี้!” เขาส่ายหัว ถอนหายใจ และเก็บศพของจระเข้มังกรเขี้ยวเหล็กลงในกระเป๋ามิติของเขา

ด้วยชุดเต่าดำมันทำให้เขาสะดวกขึ้นมากในการรวบรวมวัตถุดิบจากสัตว์อสูร

ห่างออกไปหนึ่งหมื่นเมตร

คลื่นลมรุนแรงพัดเข้าหาพวกเขา ขณะที่กระแสน้ำวนก่อตัวเป็นคลื่นสูงสามเมตรตามมาอย่างใกล้ชิด

สีหน้าของผู้บัญชาการจ้าว และกลุ่มปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธเปลี่ยนไปทันที

“เป็นกลิ่นอายที่ทรงพลังเสียจริง!”

“สงสัยนักว่าการต่อสู้เป็นอย่างไรบ้าง!”

“มันต้องรุนแรงมากเป็นแน่!”

พวกเขามองหน้ากัน และหายใจเข้าลึกๆ ก่อนเพิ่มความเร็วอีกครั้ง

ในระยะ 10,000 เมตร หากเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธสามารถไปถึงจุดหมายได้ภายในพริบตา

อย่างไรก็ตามที่แห่งนี้คือป่าพรุแดง ภูมิประเทศของมันมีความสลับซับซ้อน ขณะที่ในน้ำไม่น่าไว้ใจ ดังนั้น ผู้บัญชาการจ้าว และคนที่เหลือจึงใช้เวลาเกือบ 10 วินาทีในการไปถึงจุดต่อสู้

"เขาอยู่ที่ไหน?"

“จระเข้มังกรเขี้ยวเหล็กล่ะอยู่ไหน?”

หลังจากมาถึง พวกเขาก็ตระหนักว่าทั้งจระเข้มังกรเขี้ยวเหล็ก และปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงคนใหม่ได้หายไปแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงร่องรอยราวกับถูกระเบิดลง

“ทุกคนกวาดสายตาไปให้ทั่ว” ผู้บัญชาการจ้าวตะโกน

ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธคนอื่น ๆ พยักหน้า ทุกคนค้นหาอย่างกระตือรือร้น แต่ไม่ว่าจะดำลงไปในน้ำ หรือเดินตามรอยพื้นที่ถูกทำลาย น่าเสียดายที่พวกเขาไม่พบแม้แต่เงา

เวลานี้เหอเปียวได้เปิดใช้งานอุปกรณ์ตรวจจับของเกราะ ภายใต้สถานการณ์ปกติ คนระดับปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธไม่ค่อยได้เปิดใช้งานมันเท่าไหร่นัก เพราะพวกเขามักจะอาศัยประสาทสัมผัสของตนเองเพื่อค้นหาสัตว์อสูรมากกว่า

“ผู้บัญชาการจ้าว ข้าไม่พบสัญญาณความร้อนเลย” เมื่อเห็นผู้บัญชาการจ้าวมองมาที่เขา เหอเปียวก็ส่ายหัว

“ผู้บัญชาการจ้าว ข้าพบซากของชุดเกราะมาตรฐาน!” ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธคนหนึ่งหยิบชิ้นส่วนเกราะขึ้นมาแล้วรีบวิ่งมาทางเขา

ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธคนอื่น ๆ ที่หาอะไรไม่พบก็กลับมาเช่นกัน

สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดทันทีเมื่อเห็นซากชุดเกราะ

ผู้บัญชาการจ้าวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “นี่เป็นเพียงชุดเกราะมาตรฐาน พลังป้องกันของมันนั้นต่ำมาก เพียงแรงกดดันจากการโจมตีที่ปล่อยออกมาจากจระเข้มังกรเขี้ยวเหล็กอย่างเดียวก็สามารถฉีกมันออกเป็นชิ้น ๆ ได้ ดังนั้นมันจึงไม่สามารถใช้ตัดสินอะไรได้”

“หรือทั้งสองจะพินาศไปด้วยกัน?” ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธคนหนึ่งคาดเดา

“เป็นไปไม่ได้! เจ้าจะอธิบายเรื่องที่ไม่มีแม้แต่ศพอย่างไร?” ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธอีกคนส่ายหัว

ผู้บัญชาการจ้าวกวาดสายตาไปยังร่องรอยที่หลงเหลือและยิ้มในทันใด “หากไม่มีศพ งั้นก็มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว!”

ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!

ปรมาจารย์ที่เหลือต่างมองมาที่เขาเป็นตาเดียว

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด