ตอนที่แล้ว614 - ผู้แข็งแกร่งตัวจริงของอาณาจักรเซียนมาถึง 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป616 - รับราชโองการ 

615 - บดขยี้อยู่ฝ่ายเดียว


1925 - บดขยี้อยู่ฝ่ายเดียว

สภาพแวดล้อมดูเหมือนจะเปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขาปรากฏตัวในสนามประลอง

มังกรแดงและผู้อาวุโสทั้งสองอยู่นอกสนามประลองเฝ้าดูจากด้านข้าง ในขณะเดียวกันสือฮ่าวและนายพลสงครามก็ปรากฏตัวขึ้นที่ใจกลางเวทีและเผชิญหน้ากัน

"เจ้าพยายามจะทำอะไร?" การแสดงออกของนายพลสงครามเปลี่ยนไป

เขาสัมผัสได้ถึงความเป็นปรปักษ์ของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนเขาจึงมองไปที่ผู้อาวุโสทั้งสองที่อยู่นอกเวที

“นี่คือวิธีที่พวกเจ้าปฏิบัติต่อแขกเหรอ”

“มาเถอะนายน้อยคนนี้จะดูแลเจ้าอย่างถูกต้อง รับรองว่าเจ้าต้องสุขกายสบายใจอย่างแน่นอน!” สือฮ่าวกล่าว

"บังอาจ. ข้ามาในนามของอาณาจักรเซียนเจ้ายังไม่คุกเข่าลงอีก!” นายพลสงครามคำรามออกมาเสียงของเขาเหมือนฟ้าร้อง ถ้าเป็นคนธรรมดาจริงๆพวกเขาคงจะกลัวแย่

อย่างไรก็ตามสือฮ่าวคือใคร? การเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ได้แตกต่างจากศัตรูที่ผ่านมาของเขาแม้แต่น้อย สือฮ่าวมั่นใจว่าจะต้องทุบตีคนผู้นี้อย่างแสนสาหัสได้แน่นอน!

“เจ้าสาระเลวมัวพร่ามอะไร!” สือฮ่าวตะโกน

เจ้าสาระเลว คำนี้จะให้นายพลสงครามทนได้อย่างไร? เขาคือผู้สูงสุดที่มีอายุมากกว่าสือฮ่าวนับล้านปีไหนเลยจะทนให้เด็กน้อยคนหนึ่งมาปีนเกลียว

ฮ่อง!

นายพลสงครามลงมือชุดเกราะบนร่างกายของเขาปล่อยเสียงเค่งเฉียง ร่างกายของเขารวมเข้ากับปราณดาบมันพุ่งเข้าหาสือฮ่าวที่อยู่ใจกลางเวทีประลองอย่างรุนแรง

“ลิงปีศาจคุกเข่ารับคำสั่ง!” นายพลสงครามตะโกนใบหน้าของเขามืดครึ้มมองลงไปที่สิ่งมีชีวิตตัวน้อยตรงหน้า

ใบหน้าของสือฮ่าวมืดลงเรื่อยๆและจากนั้นเมื่อรวมกับรูปลักษณ์ที่ดุร้ายในปัจจุบันของเขาเขาก็ดูเหมือนลิงปีศาจจริงๆ

เกียง!

ปราณกระบี่หญ้าคาของสือฮ่าวเจาะเข้าไปในก้อนเมฆแล้วกวาดออกไปด้านนอก นี่เป็นการต่อสู้ในระดับเดียวกันที่รุนแรงมาก

น่าเสียดายที่การต่อสู้ที่รุนแรงไม่ได้ดำเนินต่อไป เพราะกระบี่ของสือฮ่าวแทงทะลุหน้าอกของนายพลสงครามส่งให้เขาบินออกไปด้านนอก

จิ!

สือฮ่าวพุ่งเข้ามาพร้อมกับส่งปราณกระบี่ออกมาอีกสายมันแทงทะลุหน้าอกของนายพลสงครามอีกครั้ง

นายพลสงครามกระแทกลงกับพื้นอย่างรุนแรง สือฮ่าวยืนอยู่ที่ด้านข้างของเขาพร้อมกับกระชากเสื้อเกราะของนายพลสงครามออกมาก่อนจะกระทืบจนบี้แบน

“เจ้ากล้า!” นายพลสงครามเหมือนจะหน้ามืด

สาเหตุหลักเป็นเพราะการโจมตีนั้นหนักเกินไปเกือบจะทำให้ศีรษะของเขาหลุดออกจากร่างในตอนนี้วิญญาณดั้งเดิมของเขาสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว

ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกได้ถึงความอัปยศอดสูเล็กน้อย เขาเป็นถึงแม่ทัพที่คุมกำลังนับล้าน แต่ตอนนี้เขากลับถูกทุบตีอย่างแสนสาหัสคล้ายกับเด็กที่ถูกผู้ปกครองลงโทษ

“เจ้ายังกล้าทำตัวโอหังต่อหน้าข้า? เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถเพิ่มรอยเท้าอยู่ที่ใบหน้าของเจ้าได้อีกรอยหากข้าไม่พอใจ!” สือฮ่าว

นายพลสงครามไม่มีทางยอมแพ้เขาดิ้นรนอย่างหนักเพื่อที่จะลุกขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตามสิ่งที่รอเขาอยู่คือความมืดมิด

ลิงปีศาจหนุ่มตัวนั้นถือรองเท้าไว้ในมือพร้อมกับตบเข้าใส่ใบหน้าของเขาอย่างรุนแรง

ปา!

มันดังและชัดเจนมาก ปากจมูกและตาของนายพลสงครามถูกเต็มไปด้วยเลือดที่ทะลักออกมา ดวงตาข้างหนึ่งของเขาถูกทุบตีจนปิดสนิทมันบวมขึ้นมาแทบจะเท่ากำปั้นแล้ว

“เจ้าสาระเลวเจ้ายังกล้าโอหังอีกหรือไม่? น้ำหน้าอย่างเจ้ายังกล้าท้าทายข้า!” สือฮ่าวกล่าว

ป่าปี๊!

จากนั้นเขาก็ใช้รองเท้าตบอีกสองสามครั้งเข้าที่ใบหน้าของนายพลสงครามจนใบหน้าแทบจะบี้แบน

ในตอนนี้รอยประทับของรองเท้าติดอยู่บนใบหน้าของเขาอย่างชัดเจนสร้างความอัปยศอดสูให้กับนายพลสงครามอย่างยิ่ง

“อา…อาอา…” นายพลสงกลับสู่ความเป็นจริง เขากรีดร้องอย่างต่อเนื่องบาดแผลบนใบหน้าของเขาไม่ได้เลวร้าย แต่ความรู้สึกต่ำต้อยนี้ทำให้เขาแทบคลั่ง

เขาเป็นนายพลสงครามที่มีชื่อเสียง แต่ถูกเด็กคนหนึ่งเอารองเท้าฟาดหน้า? เขาโกรธมากจนควันพุ่งออกมาจากทวารทั้งเจ็ด!

“เจ้ากรีดร้องหาประโยชน์อันใด? ถ้าเจ้ากล้าร้องออกมาอีกแม้แต่คำเดียวรับรองว่าเจ้าได้เจอดีอย่างแน่นอน!” สือฮ่าวตำหนิ

นายพลสงครามกำลังจะบ้า เขาถูกรองเท้าฟาดโดยไม่มีเหตุผลนี่เป็นความโชคร้ายและความอัปยศอดสูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาเคยประสบมาตลอดชีวิต!

เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้สัมผัสกับสิ่งนี้เลยในชีวิต

เขาไม่เคยได้ยินว่ามีใครถอดรองเท้าเพื่อเป็นอาวุธในระหว่างการต่อสู้ที่รุนแรง อีกทั้งรองเท้าของฝ่ายตรงข้ามยังตบเข้าใส่ปากและจมูกของเขาจนเลือดทะลักออกมา!

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาประสบเหตุการณ์เช่นนี้ทำให้เขาโกรธจนร่างกายสั่นเทา ควันสีขาวจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากปากและจมูกของเขา

เรื่องนี้เขาไม่สามารถยอมรับได้ต่อให้ฆ่าเขาตายเดี๋ยวนี้ก็ยังดีซะกว่า

สิ่งที่ทำให้เขาโกรธแค้นมากที่สุดก็คือฝ่ายตรงข้ามไม่ได้รับฟังเหตุผลอะไรทั้งสิ้น เพียงแค่เขาก้าวเข้าสู่อาณาจักรแห่งความว่างเปล่าก็ถูกโจมตีจนไม่มีเวลาอธิบาย

เขาไม่เคยพบกับศัตรูที่น่าเกลียดชังเช่นนี้มาก่อน ลิงปีศาจตัวนี้ไม่สนใจจะพูดคุยเพียงใช้รองเท้าทุบตีใบหน้าของเขาถ่ายเดียว ประสบการณ์ประเภทนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่อยากจะจดจำไปตลอดชีวิต

“ไสหัวไป!” นายพลสงครามคำรามออกมา

เขาทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้พร้อมกับแสดงวิชาโบราณออกมาเพื่อโจมตีแลกชีวิตกับสือฮ่าว

ญาณวิเศษอันล้ำค่าพุ่งพล่านปะทุขึ้นสู่สวรรค์ แสงสีแดงมุ่งตรงไปทางสือฮ่าวราวกับสายฟ้า

ตอนนี้นายพลสงครามโกรธอย่างแท้จริง เขาใช้ศิลปะสวรรค์ประจำตระกูลเพื่อตัดสินผลแพ้ชนะกับสือฮ่าวในครั้งเดียว

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้เขาตื่นตระหนกและตกใจก็คือลิงปีศาจหนุ่มตัวนี้ไม่ได้ถอยหลังเลย ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มเล็กน้อยร่างกายก็ส่องแสงหกริ้วกลายเป็นศิลปะสวรรค์หกประเภทโจมตีเข้าใส่เขา

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นศิลปะสวรรค์โบราณประเภทหนึ่งเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังดูน่าเกรงขามกว่าสิ่งที่เขาแสดง มันถูกเปิดใช้งานหลังจากเขา แต่มันมีพลังมากกว่าไม่สามารถเผชิญหน้าได้!

“ไอ้สารเลวเจ้ายังไม่ยอมแพ้เหรอ”

เจ้าหนูคนนั้นตะโกนออกมาอีกครั้งเกือบจะทำให้นายพลสงครามบ้าคลั่ง การไม่สามารถสื่อสารได้นั้นเป็นเรื่องหนึ่ง แต่คำพูดของอีกฝ่ายก็ยังเฉียบคมเหมือนกับใบมีด

เขาอายุเท่าไหร่? ถึงกระนั้นเขากลับถูกเด็กเหลือขอนี่เหยียบย่ำครั้งแล้วครั้งเล่ามันเกินกว่าที่เขาจะทนไหวจริงๆ

ยิ่งไปกว่านั้นเขาสามารถบอกได้ว่าท่าทางการเยาะเย้ยของเจ้าเด็กคนนี้นั้นราบรื่นและเป็นธรรมชาติมาก

ราวกับว่านี่เป็นวิธีที่เขาพูดบ่อยๆจนติดเป็นนิสัย ซึ่งมันแทบจะทำให้เขาคุ้มคลั่งอย่างแท้จริง

ยิ่งมันเป็นเรื่องธรรมดาของฝ่ายตรงข้ามยิ่งทำให้นายพลสงครามโกรธแค้นมากยิ่งขึ้น

เจ้าหนูคนนี้ไม่เกรงใจเขายังพอว่าแต่การที่ฝ่ายตรงข้ามไม่เกรงใจต่ออาณาจักรเซียนทำให้นายพลสงครามทนไม่ได้จริงๆ

แต่ในขณะที่เขากำลังจมอยู่ในความคิดของตัวเองนายพลสงครามเห็นเท้าที่เปลือยเปล่าไม่มีรองเท้าปิดทับลงมาจากท้องฟ้า

มันตรงไปที่ใบหน้าของเขาจนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้แม้ว่าเขาจะต้องการก็ตาม

“อา…” เขากรีดร้องอย่างอนาถทันที

นี่ไม่ได้มาจากความเจ็บปวด แต่มันมาจากการสูญเสียความภาคภูมิใจ

เท้านั้นเหยียบลงบนใบหน้าของเขาเช่นเดียวกับที่ดูเหมือนจะมีกลิ่นนิดหน่อยเขาไม่สามารถยอมรับสิ่งนี้ได้อีกต่อไป

สำหรับใครบางคนในระดับของเขาพวกเขาทั้งหมดมีความหลงใหลในความสะอาดในระดับหนึ่ง ตอนนี้เขารู้สึกแย่ยิ่งกว่าถูกฆ่าเสียอีก

“เจ้ายังกล้าส่งเสียงดังอีก?” สือฮ่าวเสียใจ

เขาพบว่าการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้ตึงมือเลย มีเพียงเสียงที่ดังมากกว่าปกติเล็กน้อยเท่านั้น

อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยใส่ใจต่อความรู้สึกของนายพลสงครามคนนี้ มิหนำซ้ำเขายังตำหนิฝ่ายตรงข้ามที่ถูกทำร้ายอย่างแสนสาหัสว่าส่งเสียงดังมากเกินไป?

ป่าปี๊!

สือฮ่าวยังคงใช้ฝ่าเท้าที่เปลือยเปล่าของเขาบดขยี้ลงไปที่หน้าของนายพลสงคราม ในที่สุดเขาก็ระบายความขุ่นเคืองออกมาและได้รับความรู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมาก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด