บทที่ 48 ท่าลูบหัวพิฆาตของคุณชายวั่ง
ข้างนอกสถานีตำรวจ
ภายในรถ มีกู๋ซานกำลังนั่งอยู่ตรงเบาะคนขับ และมีชายหนุ่มคิ้วคมเข้ม ดวงตาโดดเด่นนั่งอยู่เบาะหลังฝั่งที่หน้าต่างเปิดอยู่อีกหนึ่งคน ชายคนนั้นยื่นมือข้างหนึ่งออกไปนอกหน้าต่าง และบนข้อมือมีลูกปัดพระพุทธรูปกระดูกห้อยอยู่อย่างสะดุดตา ทุกอิริยาบถราวกับสิงโตที่อยู่นิ่งๆ แต่กลับแฝงไปด้วยอำนาจ
เย่วั่งชวนเห็นเฉียวเนี่ยนกำลังเดินออกมา ดวงตาที่กระหายเลือดก็จางหายไปอย่างมาก นัยน์ตาของเขาลึกลง และเสียงที่ดังออกมาของเขานั้น ทั้งแหบห้าวและเย้ายวน "เสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอ?"
"อือ" เฉียวเนี่ยนเอื้อมมือไปเปิดประตูรถ แล้วนำกระเป๋าสะพายของตัวเองใส่ไว้ในรถก่อน จากนั้น เธอก็ก้าวขึ้นมานั่งพร้อมกับพูดว่า "เมื่อกี้พบผู้กำกับช่าย พวกเราเลยพูดคุยกันนิดหน่อย ก็เลยทำให้พี่เสียเวลาแล้ว"
"อืม" เย่วั่งชวนดูเหมือนจะไม่แปลกใจเลย เมื่อเห็นเธอขึ้นมาบนรถแล้ว จึงเอื้อมมือกดหน้าต่างรถขึ้น และเอ่ยปากสั่งกู๋ซาน "กลับไปที่คฤหาสน์ของเจียงหลี"
"ได้ครับ คุณชายวั่ง"
รถสตาร์ทแล้วค่อยๆ ขับออกไปอย่างช้าๆ
ในระหว่างทาง กู๋ซานแอบสังเกตสถานการณ์ข้างหลังผ่านกระจกมองหลังอย่างเงียบๆ และยิ่งเขาดูโปรไฟล์ของเฉียวเนี่ยนมากเท่าไหร่ เขาก็เริ่มกลัวมากขึ้นเท่านั้น
เฮ้อ~ คุณชายวั่งไปกินข้าวที่ร้านอาหารข้างทางกับลูกสาวของตระกูลเจียง!
แถมยังทะเลาะกับคนอื่นข้างถนน!
นี่มันอะไรกัน เขากำลังพูดถึงความบ้าคลั่งของวัยรุ่นอย่างนั้นเหรอ?
คุณชายวั่งที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างสบายๆ มานาน จู่ๆ ก็หวนคืนสู่ยุควัยรุ่นอายุ 18 ปี เหรอ?
...
แววตาของกู๋ซานเหมือนผลเหล็กสีแดง
ถึงแม้ว่าเฉียวเนี่ยนจะมองออกไปนอกหน้าต่างรถตลอดทาง แต่เธอก็รู้ว่ากู๋ซานกำลังแอบมองเธออยู่
ในที่สุด รถมาถึงคฤหาสน์
เย่วั่งชวนลงจากรถก่อน แล้วเดินมาเปิดประตูรถให้หญิงสาว
เฉียวเนี่ยนลงจากรถพร้อมกับกระเป๋าของตัวเอง
"เดี๋ยวก่อน" จู่ๆ เย่วั่งชวนก็เดินเข้ามาใกล้ แล้วดึงมือเฉียวเนี่ยนไปด้านข้างของรถ ร่างสูงยืนบังอยู่ด้านหน้าของหญิงสาว จึงทําให้เกิดเงาทาบลงมาต่อหน้าของเฉียวเนี่ยน
ทันใดนั้น เฉียวเนี่ยนก็ถูกบังคับให้เข้ามุมหนึ่ง เธอเริ่มหายใจติดขัด แล้วเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว แววตาของเธอเป็นประกายดำมืด พร้อมกับคิ้วทั้งสองข้างที่ขมวดเข้ามากันจนเกิดเป็นรอยย่น
ดูเหมือนว่าเย่วั่งชวนกำลังตรวจสอบร่างกายของเธอ เพื่อดูว่าเธอได้รับบาดเจ็บหรือไม่ จากนั้น เขาก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาแล้วลูบหัวเธอเบาๆ อย่างอ่อนโยน
"ไม่บาดเจ็บก็ดีแล้ว!พรุ่งนี้เธอยังต้องไปเรียนอีก รีบไปนอนเถอะ "
"..."
ระยะใกล้แบบนี้ เวลาที่เย่วั่งชวนพูด ลมหายใจของเขาดูเหมือนจะรดลงบนต้นคอของเฉียวเนี่ยน ส่วนเสียงต่ำของอีกฝ่ายมันทำให้หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะ และนั่นทำให้หญิงสาวย่อตัวลงโดยไม่รู้ตัว ร่างกายของเธอแข็งทื่อ และผิดธรรมชาติอย่างยิ่ง "อะ อืม"
เย่วั่งชวนเห็นหญิงสาวตรงหน้าราวกับเม่นตัวน้อยที่มีหนามเล็กๆ เขาหัวเราะออกมาเบาๆ และหันไปด้านข้าง เพื่อหลีกทางให้เธอ
เฉียวเนี่ยนรีบหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นมาทันที และรีบวิ่งหนีไป "พี่ก็กลับไปพักผ่อนได้แล้ว ฉันไปก่อน!"
เมื่อพูดจบ เธอก็รีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
กู๋ซานเฝ้ามองคุณชายวั่งกับหญิงสาวอยู่ตลอดเวลา เขาจ้องทั้งคู่แทบไม่ได้กระพริบตาเลยด้วยซ้ำ
อั๊ยย่ะ ตาบอดแล้ว หมาเดี่ยว* เขากําลังจะตาบอด!
(单身狗 หมาเดี่ยว* แปลว่าคนโสด แสดงถึงคนที่ยังไม่ได้แต่งงานหรือยังไม่มีแฟน)
ไม่น่าแปลกใจเลยที่คุณชายเจียงและคนอื่นๆ ชอบพูดว่าคุณชายวั่งไม่ชอบเล่นกับผู้หญิง แต่ถ้าเขาเป็นคนแบบนั้น คงไม่มีผู้หญิงคนไหนในปักกิ่งที่ไม่หลงใหลในตัวคุณชายวั่งหรอก
เมื่อครู่นี้สายตาที่เย่อหยิ่งและห่วงใยของคุณชายวั่ง ดูแข็งแกร่งราวกับผู้ใหญ่ที่สามารถพึ่งพาได้
เป็นน้องสาวของคุณชายเจียง ในวัยนี้...ไม่ใช่ว่าเด็กไปเหรอ?
แม้ว่าคุณชายวั่งอายุยังไม่เยอะมาก แต่คุณหนูเฉียวยังเรียนอยู่มัธยมปลายอยู่เลย
ยิ่งกว่านั้น เมื่อเทียบกับลูกสาวของตระกูลเจียงที่เติบโตในครอบครัวเล็กๆ ที่เพิ่งจะกลับมานั้น เห็นได้ชัดว่าคุณหนูใหญ่เจียงดี และเหมาะกับคุณชายวั่งมากกว่า...
กู๋ซานจ้องมองไปที่เย่วั่งชวนด้วยสีหน้าที่ซับซ้อนอย่างยิ่ง ท่าทางนั้นเกือบจะบิดเป็นเกลียวของดอกไม้ กลับกัน เย่วั่งชวนดูเหมือนจะอารมณ์ดีมาก แถมรอยยิ้มยังสามารถมองเห็นได้ชัดเจน และเมื่อเห็นแบบนั้น กู๋ซานก็ยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตัวเอง พร้อมกับกลืนคำพูดเหล่านั้นลงท้องทันที
เขาใช้ประโยชน์จากที่เฉียวเนี่ยนเดินเข้าไปแล้ว หันมาพูดกับเย่วั่งชวนอย่างรวดเร็วว่า "คุณชายวั่ง นายน้อยเย่ได้ยินเรื่องที่คุณชายเข้าสถานีตำรวจแล้ว ก็เลยให้คุณโทรกลับหาเขาด้วย"