614 - ผู้แข็งแกร่งตัวจริงของอาณาจักรเซียนมาถึง
1924 - ผู้แข็งแกร่งตัวจริงของอาณาจักรเซียนมาถึง
ก่อนไปสือฮ่าวได้โยนยาเม็ดสีทองส่งมอบให้นักบุญหงส์โดยตรง มันจะต่ออายุของเขาไปได้อีกพอสมควรเพียงพอที่จะทำให้เขาก้าวสู่อาณาจักรเทพที่แท้จริงได้
"ขอบคุณมาก!" เมื่อนักบุญหงส์ได้สูดดมกลิ่นสมุนไพรเขาก็รู้ทันทีว่ายาเม็ดนี้จะยืดเวลาให้เขาได้มากแค่ไหน เมื่อเขากลายเป็นเทพที่แท้จริงอายุของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกหลายพันปีอย่างไม่ต้องสงสัย
นักบุญหงส์คุกเข่าลงคำนับสือฮ่าวพร้อมกับติดตามเขากลับสู่หมู่บ้านหินผา
หลังจากนั้นสือฮ่าวก็เข้าสู่อาณาจักรแห่งความว่างเปล่าเพื่อฝึกฝนตัวเอง
“อาจารย์ท่านมาแล้ว มีสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ที่กำลังบุกเข้าสู่อาณาจักรแห่งความว่างเปล่า เขาลงมือโจมตีประตูอยู่ทุกๆวันจนผู้อาวุโสทั้งสองกำลังจะคลั่งตายแล้ว บุคคลนั้นประกาศว่าเขาต้องการพบกับวานรหกหูให้ได้” มังกรแดงรีบกล่าวอย่างร้อนรน
"เกิดอะไรขึ้น?" สือฮ่าวถาม
ท่านปู่นกบอกว่าครั้งนี้สือฮ่าวตอแยปัญหาอย่างใหญ่หลวง การที่เขาไล่ตามทูตจากอาณาจักรเซียนในครั้งนั้นเป็นเหตุให้ผู้แข็งแกร่งของอาณาจักรเซียนติดตามมาที่นี่เพื่อให้เห็นวานรหกหูด้วยตาของตัวเอง
“เขาแข็งแกร่งมากไม่มีใครสามารถต้านทานเขาได้!” ผู้อาวุโสเหรียญเงินรีบกล่าว
“อ๊ะ?” สือฮ่าวก็รู้สึกตกใจเช่นเดียวกัน
“อย่าบอกนะว่าผู้อมตะที่แท้จริงมาถึงแล้ว”
“เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว ต่อให้เป็นอาณาจักรเซียนก็ยังหาผู้อมตะสักคนได้ยาก สิ่งมีชีวิตระดับนั้นจะเดินสวนกันเหมือนมดได้อย่างไร”
ท่านปู่นกบอกว่านี่คือสิ่งมีชีวิตสูงสุดจากอณาจักรเซียน เขานำราชโองการของราชาอมตะมาเพื่อเรียกตัวทายาทของวานรหกหูกลับไป
“ยอดเยี่ยมจริงๆข้ากำลังต้องการทดสอบบางอย่างอยู่พอดี!” สือฮ่าวกล่าว
ต้องการทดสอบบางอย่าง?
ผู้อาวุโสทั้งสองกลอกตามองสือฮ่าว เจ้าหนูนี่กำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน!
“ พวกท่านทั้งสองคนพยายามจะพูดอะไร? สือฮ่าวรู้สึกรำคาญเมื่อเห็นท่าทีของทั้งสอง
“เจ้าหนูนั่นเป็นวิธีที่เจ้าควรพูดกับเราหรือ?” เคราของท่านปู่นกก็เริ่มม้วนงอ
“หยุดอวดดีสักทีมีอะไรก็รีบพูดมา” สือฮ่าวกล่าวอย่างไม่แยแส
“เฮ้เจ้าเด็กน้อย ข้าแค่โยนเจ้าเข้าไปในดินแดนแห่งการปรับแต่งของปีศาจก็เพียงพอจะทำให้เจ้ากลายเป็นก้อนเลือดได้แล้ว?!” ท่านปู่นกข่มขู่
“เลิกพูดจาไร้สาระสักที ปล่อยมันเข้ามาในเมื่อมันอยากพบข้าข้าก็จะจัดการมันเอง” สือฮ่าวกล่าวอย่างกล้าหาญ
ผู้อาวุโสทั้งสองจ้องมองสือฮ่าว เจ้าเด็กนี่เป็นเพียงผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรปลดปล่อยตนเองแต่กล้าที่จะท้าทายสิ่งมีชีวิตสูงสุดขั้นเต๋ามนุษย์ของอาณาจักรเซียน?! สมองของเจ้าได้รับความเสียหายหรือไม่?
“เร็วเข้าข้าไม่มีเวลามากขนาดนั้น!”
“ในเมื่อเจ้ารนหาที่เองพวกเราก็จะสนองให้เต็มที่!” ผู้อาวุโสเหรียญเงินกล่าว
บริเวณรอบๆประตูอาณาจักรมีเสียงดังมาก ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมามีเสียงดังจากการโจมตีประตูอย่างต่อเนื่องแม้แต่บริเวณรอบๆยังเกิดการสั่นสะเทือนเล็กน้อย
“เปิดประตู!” สือฮ่าวโบกมือให้ท่านปู่นกเปิดประตูด้วยท่าทางสง่างามและทรงอำนาจ
“เจ้ามังกรโง่มานี่”สือฮ่าวโบกมือให้มังกรแดงเข้ามาและพูดอย่างใจเย็น
“เจ้าไปถ่ายทอดราชโองการของอาจารย์”
มังกรแดงโกรธมาก! มังกรโง่สองคำนี้สร้างความเครียดแค้นให้กับมันเป็นอย่างยิ่ง ไอ้คนไหนที่คิดขึ้นมา? ดูเหมือนจะเป็นเจ้าอ้วนที่เรียกว่าเฉาอวี่เซิ่งหรืออาจจะเป็นมดสีทอง?
“เจ้าไม่ได้ยินคำพูดของอาจารย์เหรอ?” สือฮ่าวมองมันด้วยท่าทางดูถูก
มังกรแดงไม่เต็มใจถ่ายทอดคำพูดแทนอาจารย์อย่างนั้นหรือ? คิดว่าตัวเองเป็นใคร? ท่าทางของเจ้าตอนนี้เหมือนกับว่าเจ้ากลายเป็นราชาอมตะแล้ว!
แม้แต่ท่านปู่นกและผู้อาวุโสเหรียญเงินก็ไม่สามารถทนดูเรื่องนี้ได้อีกต่อไป ทั้งสองชี้มือมาที่ท่าทางอวดดีของสือฮ่าว?
“เจ้าหยิ่งผยองมากเกินไปมันจะนำมันปัญหามาสู่เจ้าในที่สุด!” นี่คือคำพูดของผู้อาวุโสเหรียญเงิน
มังกรแดงพยักหน้าอย่างดุร้ายแสดงความเห็นด้วยในเรื่องนี้
“เจ้าพยัคฆ์หน้าทำไม? เจ้ากล้าไม่เชื่อฟังคำพูดของอาจารย์?” สือฮ่าวทุบหัวมังกรแดงแล้วพูดกับผู้อาวุโสสองคนว่า
“คนจากอาณาจักรเซียนไม่ใช่ว่ามาพร้อมกับราชโองการอย่างนั้นหรือ? เขาคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมีสิทธิ์เหนือคนอื่น ข้าก็จะตอบโต้เขาด้วยราชองการเช่นเดียวกัน”
มังกรแดงก็เงียบลงเช่นกัน อาจารย์ราคาถูกของมันไม่สามารถยั่วยุได้จริงๆ
ทันใดนั้นรอยแตกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาที่ประตูของอาณาจักรสือฮ่าวรีบตะโกนทันที
“ผู้อาวุโสระวังด้วย หากสถานการณ์ดูเหมือนจะไม่เป็นใจให้รีบนำเราไปยังเวทีที่เราสามารถต่อสู้ในระดับเดียวกันได้!”
“ไหนเจ้าบอกว่าต้องการจะสอนบทเรียนให้แก่เขา” ท่านปู่นกกรอกตา
“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าข้าได้รับบทเรียนจากเขาแทน” สือฮ่าวกล่าวโดยไม่รู้สึกอับอาย
“เจ้ายังกล้าบอกว่าจะสอนบทเรียนให้แก่เขาอีก?”
ผิวหน้าของสือฮ่าวนั้นหนามากเขาไม่รู้สึกละอายเลยแม้แต่น้อย
“การทุบตีเขาไม่ใช่เรื่องใหญ่ข้าเพียงต้องการหลักประกันเล็กน้อยเท่านั้น”
แดง!
รอยแตกของประตูอาณาจักรใหญ่ขึ้น สิ่งมีชีวิตอีกด้านไม่สามารถรอได้อีกต่อไปหมัดของเขาโจมตีเข้าใส่ประตูอย่างรุนแรง
“เจ้ากล้าละเลยข้าไม่เปิดประตูอาณาจักรแม้ว่าข้าจะอยู่ที่นี่เป็นเวลานานหรือเจ้ากำลังดูหมิ่นดินแดนเทพ” นี่คือแม่ทัพสงครามระดับบ่มเพาะเขาสูงส่งอย่างน่าเหลือเชื่อ
อย่างไรก็ตามเขาเป็นคนที่มีระดับต่ำที่สุดในบรรดานายพลสงครามที่มาจากอาณาจักรเซียนในครั้งนี้ เขาคือผู้ที่อยู่ในระดับสูงสุดของเต๋ามนุษย์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตอมตะเหมือนคนอื่น
“ไปเรียกวานรหกหูมาคุกเข่ารับราชโองการ!” เมื่อเขาเห็นมังกรแดงเขาก็ชี้ไปที่มันทันที
ฟันของมังกรแดงขบแน่นรู้สึกเจ็บปวดใจ ฝ่ายตรงข้ามเป็นใครถึงกล้าชี้มาที่มันด้วยท่าทีดูหมิ่นแบบนี้
“เจ้าไม่มีหูหรือ? ทำไมยังไม่ไปอีก?” นายพลสงครามคนนี้ตะโกน
ในความเป็นจริงเขาได้เห็นสือฮ่าว ท่านปู่นกและผู้อาวุโสเหรียญเงินที่อยู่ไม่ไกล แต่เขาก็ยังคงพูดเช่นนี้ด้วยความหยิ่งผยอง
มังกรแดงต้องการใช้เล็บข่วนลงไปที่หน้าของสิ่งมีชีวิตตัวนี้เพื่อทดสอบญาณวิเศษของหงส์เพลิงที่แท้จริงสักครั้ง
มังกรที่ไม่มีมรดกของมังกรท้ายที่สุดแล้วก็ต้องพึ่งพากรงเล็บของหงส์เพลิงแทน
ใบหน้าของผู้อาวุโสเหรียญเงินและท่านปู่นกบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง ส่วนใบหน้าของสือฮ่าวมืดคล้ำอย่างถึงที่สุด
“หรือเจ้าคือทายาทของวานรหกหู? ยังไม่รีบคุกเข่าอีก!” ในที่สุดสายตาของนายพลสงครามคนนี้ก็จับจ้องไปที่ร่างของสือฮ่าว
“อาจารย์ท่านยังต้องการให้ข้าอ่านราชโองการหรือไม่” มังกรแดงเร่งเร้า คลื่นแห่งความโกรธเข้ามาเกาะกุมจิตใจของมันอย่างไม่น่าเชื่อ
"ไสหัวไปข้างๆ" สือฮ่าวปฏิเสธ
“ข้ากำลังพูดกับเจ้าอยู่เจ้ามีหูหรือเปล่า?! ทำไมยังไม่รีบคุกเข่าอีก? คุกเข่าและรับราชโองการ!” นายพลสงครามตะโกน
เขาแต่งกายด้วยชุดเกราะที่ปลดปล่อยความเย็นยะเยือกของไอสังหารอย่างไม่มีที่สิ้นสุดออกมา
ใบหน้าของสือฮ่าวกลายเป็นสีเข้มขึ้น เขามองไปที่คนๆนั้นอย่างเย็นชาพร้อมกับกล่าวว่า
“เรียกสนามประลองมาข้าจะตีมันให้กลายเป็นคนพิการ!”
ทันใดนั้นมังกรแดงก็มองเห็นแสงสว่าง ธรรมชาติของอาจารย์ราคาถูกคนนี้ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย แม้ว่าเขาจะมีท่าทีเช่นนี้แต่เขาก็คิดหาวิธีการเอาชนะคู่ต่อสู้โดยไม่ละอายแม้แต่น้อย?
"เจ้าพูดว่าอะไรนะ?" นายพลสงครามกล่าว
“ข้าจะตีเจ้าให้กลายเป็นคนพิการ!” สือฮ่าวกล่าวอย่างไม่แยแส!
จากนั้นเขาก็มองไปที่ผู้อาวุโสทั้งสอง
“ส่งเขาเข้าสู่เวที!”
“เจ้าไม่ต้องการทดสอบสิ่งต่างๆกับเขาก่อนหรือ”
“เมื่อข้าเอาชนะแล้วจะทดลองเมื่อไหร่ก็ได้!” สือฮ่าวกล่าว
เดิมทีสหายทั้งสองต้องการแกล้งเขาอีกเล็กน้อย แต่ท่าทีของนายพลสงครามนั้นดูเอาแต่ใจเกินไป แม้กระทั่งทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัด ด้วยเหตุนี้ผู้อาวุโสทั้งสองจึงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี