บทที่ 710 ข่าวดี(ตอนฟรี)
บทที่ 710 ข่าวดี
สิ่งต่างๆเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาดฝัน มันทำให้แผนเดิมที่จี้เฟิงวางไว้แต่แรกต้องล้มเลิกไป
อย่างไรก็ตาม จี้เฟิงสามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงประเภทนี้ได้ เพราะการมาของกู่เฉาและเสี่ยวอิงทำให้เซียวหยูซวนและถงเล่ยปลอดภัยขึ้น จี้เฟิงมั่นใจในฝีมือของกู่เฉาและเสี่ยวอิง
สำหรับแมงมุมขาว เขาต้องเปลี่ยนกลยุทธ์จากหน้ามือเป็นหลังมือ เดิมทีเขาต้องการที่จะสืบข้อมูลนิดหน่อยและทำให้เธอออกไปให้ไกลจากเขาและคนรอบตัวของเขาที่สุด แต่ตอนนี้เขาต้องปกป้องเธออย่างเต็มที่ นี่มันช่าง...
มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่คนละขั้วมากเกินไป จี้เฟิงปรับอารมณ์ไม่ทันไปพักใหญ่ๆ
ดังนั้นจี้เฟิงจึงพยายามไม่คิดถึงเรื่องของแมงมุมขาวและแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
อันที่จริงจี้เฟิงไม่ได้เกลียดแมงมุมขาวขนาดนั้น
ความขัดแย้งระหว่างเขากับแมงมุมขาวมันเกิดขึ้นจากตัวเขาเอง ถ้ามองจากมุมมองของแมงมุมขาว เธอมีเหตุผลมากพอที่จะเกลียดชังจี้เฟิง แต่จี้เฟิงไม่มีเหตุผลที่จะเกลียดเธอ
เพราะถ้าลองคิดดูดีๆแล้ว มันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ จี้เฟิงและเซียงหยงซานร่วมมือกันเพื่อทำลายต้าเซี่ย ซึ่งเป็นกองกำลังหนึ่งของหวางฉาว ทำให้แมงมุมขาวซึ่งเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของที่นั่นสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างในทันที จึงไม่น่าแปลกใจที่เธอจะเกลียดจี้เฟิง
ดังนั้นจี้เฟิงจึงพยายามไม่รับรู้เรื่องของแมงมุมขาว และตลอดหลายวันเขาก็ยุ่งอยู่แต่กับการเรียนและงานในโรงงานผลิตยา
ส่วนเรื่องอื่นๆก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเซียงหยงซานและคนอื่นๆไปทำงาน
ในตอนกลางวันจะมีเสี่ยวอิงและกู่เฉาคอยเฝ้าระวังภัยให้เซียวหยูซวนและถงเล่ยอยู่ใกล้ๆ ส่วนตอนกลางคืนเสี่ยวอิงก็แทบจะตัวติดกับทั้งสองสาว ไม่ต้องพูดถึงแมงมุมขาวที่เหลือตัวคนเดียว แม้ว่าจะมีเพิ่มมาอีกสองสามคนพวกเขาก็ไม่สามารถทำร้ายแฟนสาวทั้งสองคนของจี้เฟิงได้
และสิ่งนี้ก็ช่วยแก้ไขความกังวลของจี้เฟิงได้อย่างสมบูรณ์ มันทำให้เขาผ่อนคลายลงอย่างมาก และในขณะเดียวกันก็ช่วยลดปัญหาได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม จี้เฟิงก็รู้ด้วยว่านี่ไม่ใช่การแก้ปัญหาในระยะยาว เพราะเสี่ยวอิงและกู่เฉาเป็นทหารประจำการที่อยู่ในภารกิจ ดังนั้นการที่พวกเขามาอยู่เคียงข้างจี้เฟิงในเวลานี้จะเป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น และเมื่อภารกิจจบลง ทั้งสองคนก็จะจากไปและความปลอดภัยของเซียวหยูซวนกับถงเล่ยจะยังคงเป็นปัญหา ความปลอดภัยในตอนนี้เกิดขึ้นแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น
จี้เฟิงได้ตัดสินใจว่าควรจะรับสมัครบอดี้การ์ดหญิงเพิ่มเข้ามาในแผนกรักษาความปลอดภัยของโรงงานสาขา เนื่องจากแผนกรักษาความปลอดภัยหลักที่อยู่ในโรงงาน มีการรับทำงานจากภายนอกด้วย และในเมื่อตอนนี้เซียวหยูซวนและถงเล่ยจำเป็นจะต้องมีบอดี้การ์ดคอยดูแลความปลอดภัย ดังนั้นจึงต้องรับสมัครบอดี้การ์ดหญิงที่มีทักษะและคุณภาพที่ยอดเยี่ยม
จี้เฟิงแจ้งความต้องการนี้ให้อี้ซิงเฉินรู้ทันที จากนั้นก็ประกาศรับสมัครและรอฟังผล
แต่นี่ยังไม่ใช่เรื่องด่วน สำหรับบอดี้การ์ดส่วนตัวที่เขาต้องการ จะต้องมีทักษะที่ดีเยี่ยม รวมถึงทัศนคติก็ต้องยอดเยี่ยมด้วย จะเป็นการดีที่สุดหากได้ทหารหญิงที่เกษียณแล้วหรือเป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยที่เกษียณหรืออะไรทำนองนั้น....
แต่คนจำพวกนี้นั้นหายากจริงๆ และต้องใช้เวลาในการค้นหา
โชคดีที่ตอนนี้ได้เสี่ยวอิงมารับหน้าที่นี้ จี้เฟิงจึงหวังเพียงว่าเขาจะหาบอดี้การ์ดหญิงที่เหมาะสมได้ก่อนที่ภารกิจของ เสี่ยวอิง กู่เฉาและคนอื่นๆจะสิ้นสุดลง
และเพราะรับประกันได้ว่าเซียวหยูซวนและถงเล่ยจะปลอดภัย จี้เฟิงจึงมีเวลาและกำลังมากพอที่จะทำสิ่งอื่นๆ ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่มีสมาธิทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่สามารถอยู่กับพวกเธอทั้งวันตลอด 24 ชั่วโมงได้ พวกเขาและเธอจะต้องมีช่วงที่แยกจากกัน อย่างเช่นเซียวหยูซวนกลับบ้านไปหาพ่อและแม่ของเธอ... และถ้าจี้เฟิงต้องคอยตามติดทั้งสองสาวพร้อมกับทำงานไปด้วย ต่อให้จี้เฟิงแข็งแกร่งมากแค่ไหน เขาก็คงต้องหมดแรง
และถ้าได้บอดี้การ์ดหญิงอย่างเสี่ยวอิง นอกจากเซียวหยูซวนและเล่ยเล่ยจะได้รับความปลอดภัยในระดับสูงแล้ว เธออาจจะได้เพื่อนเล่นด้วย จี้เฟิงรู้สึกมีความหวังอยู่เล็กๆว่าเขาจะหาคนแบบเสี่ยวอิงได้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ง่ายเลย....
หลังจากที่ปัญหาด้านความปลอดภัยของเซียวหยูซวนและถงเล่ยได้รับการแก้ไข จี้เฟิงจึงได้ทุ่มเทพลังงานทั้งหมดให้กับยาลดน้ำหนักหมายเลข 53 ที่พัฒนาโดยโรงงานสาขา
คังหยวน ผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถอย่างมากได้ค้นพบสารทดแทนสำหรับส่วนผสมหลายอย่างในสูตรยาลดน้ำหนักหมายเลข 53 ตอนนี้ขาดแค่เพียงส่วนผสมอย่างสุดท้ายเท่านั้น และยาลดน้ำหนักหมายเลข 53 ก็จะสามารถสังเคราะห์ออกมาอย่างเป็นทางการได้!
แน่นอนว่าหวังจากที่หาสิ่งที่จะมาทดแทนได้แล้ว จะต้องใช้ระยะเวลาในการทดลองและสังเกตเพื่อความปลอดภัยอีก จี้เฟิงได้ถามสมองหมายเลข 1 เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย แต่ข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลของสมองหมายเลข 1 เป็นข้อมูลคงที่ทั้งหมด ในบันทึกไม่มีบอกเกี่ยวกับการลดประสิทธิภาพของยาหรือการเปลี่ยนแปลงตัวยาบางชนิด
ดังนั้นจี้เฟิงจึงทำได้แค่เพียงปล่อยให้คังหยวนคิดหาวิธี ตอนนี้ถึงเวลาที่จะเน้นย้ำบทบาทสำคัญของคังหยวนแล้ว
โดยอาศัยพื้นฐานที่ดีเยี่ยมของคังหยวนและประสบการณ์อันยาวนานเท่านั้น เราถึงจะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ยาที่ดีที่สุดได้
....................
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวหนึ่งเดือนก็ผ่านพ้นไป และแล้วก็มาถึงเดือนตุลาคม และวันหยุดยาวก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
จี้เฟิงไม่ได้ไปไหน เขาแค่อยู่บ้านและมีความสุขกับเวลาว่างที่หาได้ยาก
ตอนแรกจี้เฟิงตั้งใจจะไปที่หยานจิงเพื่อถามอารองและพ่อของเขาเกี่ยวกับแมงมุมขาว แต่เมื่อคิดดูอีกทีแล้วพบว่ายังไม่มีข่าวคืบหน้าจากเซียงหยงซาน จี้เฟิงจึงคิดว่ามันอาจไม่ใช่เรื่องดี เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีสายข่าวอยู่ที่ไหนบ้าง และมันอาจจะกลายเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น
จี้เฟิงจึงล้มเลิกแผนการนี้และตัดสินใจที่จะรอข่าวความคืบหน้าจากเซียงหยงซาน เพราะหากเขาไปหยานจิงตอนนี้ ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะแก้สถานการณ์ได้ในครั้งเดียว และการที่เขาต้องวิ่งไปรอบๆเช่นนี้ มีแต่สร้างปัญหาให้เพิ่มมากขึ้น และมันจะทำให้เซียวหยูซวนและถงเล่ยต้องเป็นกังวลไปด้วยเช่นกัน
“ตุ้บ—!”
จี้เฟิงโยนหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะอย่างเซ็งๆและอดไม่ได้ที่จะบีบดั้งของตัวเองและกล่าวว่า “ไหนว่ามีประสิทธิภาพ นี่ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้วยังไม่มีข่าวอะไรเลย... แล้วมาบอกว่ามีฝีมือชั้นยอด”
กู่เฉาและเสี่ยวอิงอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น พวกเขาทั้งหมดรู้ว่าจี้เฟิงกำลังพูดถึงเซียงหยงซานและหน่วยข่าวกรองของกองทัพ และถึงแม้มันจะเป็นเรื่องจริง มันก็ไม่สะดวกที่พวกเขาจะแสดงความคิดเห็น
“ยังมีเรื่องอื่นที่นายควรกังวลอยู่อีกนะ เพราะเสี่ยวหยูบ่นกับฉันว่าตั้งแต่มหาวิทยาลัยเปิดเทอม เป็นเวลาเดือนกว่าแล้ว แต่นายกลับไม่ไปหาเธอเลย เธอเริ่มไม่โอเคแล้ว” เซียวหยูซวนยื่นแอปเปิลที่ปอกแล้วให้จี้เฟิงด้วยรอยยิ้ม
จี้เฟิงหัวเราะ “ใครบอกว่าฉันไม่ได้ไปหาเธอ แต่เป็นเพราะเดือนนี้เธอไปฝึกทหารต่างหาก ฉันไปหาเธอแล้วแต่เธอไม่รู้เอง!”
“ถ้านายไปหาเสี่ยวหยูนายก็ต้องบอกให้เธอรู้สิ!” ถงเล่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉียบคม “ถึงแม้อายุของเสี่ยวหยูจะเป็นสาวแล้วแต่เธอก็ยังมีนิสัยเด็กๆ และเธอก็ชื่นชมพี่ชายคนที่สามของเธอมาก ดังนั้นเธอเลยอยากให้เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นรู้ว่าเธอมีพี่ชายที่รักเธอมาก นายจะหลบซ่อนตัวทุกครั้งที่ไปหาเธอไม่ได้!”
จี้เฟิงยิ้มและพูดว่า “โอเค หลังจากที่วันหยุดยาวสิ้นสุดลงและเสี่ยวหยูกลับมาจากหยานจิง ฉันจะไปหาเธอที่ชั้นเรียนของเธอเลย!”
เมื่อภาคการศึกษาใหม่ของสหพันธ์มหาวิทยาลัยเจียงโจวเริ่มต้นขึ้น จี้เสี่ยวหยูได้กลายเป็นนักศึกษาน้องใหม่ของที่นี่ แต่เธอและเพื่อนร่วมชั้นปีต้องเข้ารับการฝึกทหารตลอดเดือนกันยายน จี้เฟิงเองก็ต้องการให้นิสัยอ่อนแอของจี้เสี่ยวหยูแข็งแกร่งขึ้นด้วย ดังนั้นเวลาเขาไปที่ค่ายทหารเขาจึงไม่ได้ไปหาเธอโดยตรง แต่เขาก็ไม่คาดคิดว่ามันจะทำให้จี้เสี่ยวหยูรู้สึกน้อยใจ
“ว่าแต่ทางหลิวซินเป็นยังไงบ้าง?” จี้เฟิงหันกลับมาและถาม
“ท่านหัวหน้าน้อย พวกเขายังไม่พบสิ่งใดเลย ตั้งแต่ที่เริ่มจับตาดูจนมาถึงปัจจุบัน เป้าหมายใช้ชีวิตไปตามปกติ นอกจากอาจารย์และนักศึกษาในมหาวิทยาลัย เธอก็แทบจะไม่ติดต่อกับบุคคลภายนอกเลย และยังไม่พบสิ่งที่น่าจะเป็นปัญหาใดๆเลย” กู่เฉาตอบคำถามของจี้เฟิงทันที
จี้เฟิงพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม “ดูเหมือนว่าเธอจะแสดงละครได้เก่งกว่าที่คิด แต่ไม่นานหรอก ตราบใดที่เธอเป็นสุนัขจิ้งจอก หางของเธอก็จะต้องโผล่ออกมาอย่างแน่นอน และถึงแม้ว่าเธอจะไม่แสดงพิรุธอะไร และเซียงหยงซานก็ยังไม่ได้อะไรคืบหน้า แต่เธอก็หนีไปไหนไม่พ้นอยู่ดี!”
หลิวซินและฮุ่ยอี้มีหน้าที่เฝ้าติดตามและปกป้องแมงมุมขาวในเวลาเดียวกัน และเพื่อความสะดวกในการปฏิบัติภารกิจของพวกเขา พวกเขาทั้งคู่จึงทำงานเป็น รปภ.ในแผนกรักษาความปลอดภัยของสหพันธ์มหาวิทยาลัย และพวกเขาต้องอยู่ที่นั่นเป็นระยะๆในทุกๆวัน การลาดตระเวนของรปภ.มหาวิทยาลัยเหมาะสมกับการจับตาดู
ดังนั้นแทบทุกย่างก้าวของแมงมุมขาวในรั้วมหาวิทยาลัย จึงไม่มีทางหลบหนีสายตาของสองคนนั้นได้ และทั้งสองจะส่งมอบข้อมูลต่างๆที่รวบรวมไว้ในแต่ละวันผ่านกู่เฉาเพื่อส่งต่อให้จี้เฟิงเป็นประจำ เพื่อให้จี้เฟิงสามารถคิดแผนการในการปฏิบัติขั้นต่อไปได้อย่างเหมาะสมที่สุด
ชีวิตของแมงมุมขาวในมหาวิทยาลัยนั้นธรรมดามาก ซึ่งสิ่งนี้ค่อนข้างเกินความคาดหมายของจี้เฟิง แม้ว่าจนถึงตอนนี้เขาจะไม่แน่ใจว่าแมงมุมขาวเป็นผู้นำของต้าเซี่ยจริงหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่จี้เฟิงแน่ใจนั่นก็คือแมงมุมขาวตั้งตัวเป็นศัตรูกับเซียวหยูซวนและในขณะเดียวกันก็เป็นศัตรูกับเขาด้วย
การที่ยังเก็บคนแบบนี้ไว้ยังคงทำให้จี้เฟิงมีความระมัดระวังตัวอยู่เสมอ และเพราะมีหลิวซินกับฮุ่ยอี้ที่คอยเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลาที่มหาวิทยาลัย จึงทำให้จี้เฟิงโล่งใจไปได้มาก
“RRRRrrrrr~~!!”
ในขณะที่จี้เฟิงกำลังคิดอยู่ เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เขาหยิบมันขึ้นมาดู เป็นสายของคังหยวน
จี้เฟิงรับสายด้วยรอยยิ้มทันที “จี้เฟิงพูด อาเขยมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?”
ตามศักดิ์แล้ว คังหยวนเป็นสามีของอาหงก็เท่ากับว่าคังหยวนเป็นอาเขยของจี้เฟิง ดังนั้นจี้เฟิงจึงเรียกคังหยวนว่าอาเขยทุกครั้ง
แต่คังหยวนกลับรู้สึกเขินอายเล็กน้อย เขากล่าวว่า “ท่านประธาน เรียกฉันว่าเหล่าคังก็ได้... ฉันมีข่าวดีจะแจ้งให้ทราบ!”
“ข่าวดีอะไร?” จี้เฟิงตกใจเล็กน้อย
“ยาลดน้ำหนักหมายเลข 53 ของคุณ ฉันพบส่วนผสมทดแทนทั้งหมดแล้ว และมันก็สามารถนำมาสังเคราะห์ได้ภายในวันนี้เลย จากนั้นการทดลองทางคลินิก(ทดลองความปลอดภัย)ก็จะเริ่มต้นขึ้น!” คังหยวนกล่าวอย่างตื่นเต้น
จี้เฟิงดีใจมากและถามด้วยความตื่นเต้นว่า “การทดลองจะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่?”
“สามารถทำได้ทุกเมื่อ ฉันแค่โทรมาแจ้งให้คุณทราบก่อนว่าตอนนี้เรากำลังเตรียมที่จะสังเคราะห์ยาตัวนี้” คังหยวนพูดอย่างตื่นเต้น “ท่านประธาน ตามการอนุมานเบื้องต้น หลังจากใช้สารที่ค้นพบมาเป็นส่วนผสมทดแทนในการสังเคราะห์ผลิตภัณฑ์ตัวยาลดน้ำหนักนี้ ไม่น่าจะมีปัญหาทางด้านความปลอดภัย และแม้ว่าประสิทธิภาพจะไม่ดีเท่ากับสูตรยาดั้งเดิมที่คุณให้ไว้ แต่ผลที่ได้นั้นก็ดีกว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆที่คล้ายคลึงกันในตลาดอย่างแน่นอน!”
“ดี!”
จี้เฟิงพยักหน้าอย่างมีความสุข “ถ้าอย่างนั้นผมจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้ และถ้ามันประสบความสำเร็จจริงๆ ผมจะปาร์ตี้เฉลิมฉลองให้กับพนักงานทุกคนในแผนกทดลองและวิจัยของอาเขยในคืนนี้เลย!”
“ติ๊ด—!”
หลังจากวางสายแล้ว จี้เฟิงก็มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “หยูซวน เล่ยเล่ย อาเขยคังหยวนค้นพบสารทดแทนสำหรับผลิตยาลดน้ำหนักแล้ว ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ความสำเร็จน่าจะมีสูงมาก... ฉันจะไปที่โรงงานยาซักหน่อย พวกเธอจะไปด้วยกันมั้ย?”
“ไม่ไป ฉันไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพวกนี้... พี่หยูซวน พี่จะไปหรือเปล่า?” ถงเล่ยถามด้วยน้ำเสียงที่คมชัด
เซียวหยูซวนส่ายหัว เธอก็ไม่ไปเช่นกัน
จี้เฟิงพยักหน้า “โอเค ในเมื่อไม่มีใครอยากไป ฉันก็จะไปปาร์ตี้เสพสุขกับเรื่องนี้คนเดียว!”
…จบบทที่ 710~❤️