ตอนที่ 475 : เปลี่ยนเร็วเกินไปแล้ว!
ตอนที่ 475 : เปลี่ยนเร็วเกินไปแล้ว!
จินจื่อฉีกลับเข้าไปในบ้าน
เธออาศัยอยู่ที่บ้านกับแม่ของเธอ
แม่ของจินจื่อฉีเธอมีชื่อว่าเฉินจิงและเธอก็เห็นลูกสาวของเธอลงจากรถ Rolls-Royce คันใหญ่ผ่านหน้าต่างบ้าน
นั่นเป็นรถหรูราคานับล้านหยวน!
เธอรู้สึกกังวลเล็กน้อย
แม้ว่าเธอจะรู้นิสัยของลูกสาวเธอดีแต่เฉินจิงเธอเองก็เคยทำงานในสถานีโทรทัศน์มาระยะหนึ่งแล้วและเธอก็รู้ดีว่ากระแสน้ำในอุตสาหกรรมบันเทิงนั้นไหลชั่ยวแค่ไหน เธอกลัวว่าลูกสาวของเธอจะเดินผิดทางเพราะความกดดันในที่ทำงานหรือเพราะความหยิ่งทะนงของเธอ
เฉินจิงก็รู้มาว่าเมื่อเร็วๆนี้ลูกสาวของเธอนั้นได้รับแรงกดดันจากหน้าที่งานมากมาย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปถามลูกสาวของเธอเพราะเธอกลัวว่าลูกสาวของเธอจะคิดว่าเธอกังวลมากเกินไปและคิดว่าเธอกำลังรบกวนชีวิตและการทำงานของลูกสาว
“แม่ หนูกลับมาแล้ว!”
จินจื่อฉีตื่นเต้นมากเธอกระโดดขึ้นลงเพื่อเปลี่ยนรองเท้าและเข้าไปกอดเฉินจิงจากด้านหลัง
เฉินจิงยิ้ม “กลับมาแล้วเหรอ ล้างมือแล้วไปกินข้าวกัน”
ในเวลานี้เองเธอก็สังเกตเห็นว่าบนข้อมือของจินจื่อฉินมี...
นาฬิกา Patek Philippe?
เฉินจิงตกใจมาก
ในฐานะอดีตพิธีกรรายการโทรทัศน์ เธอค่อนข้างมีความรู้และรู้ถึงมูลค่าของนาฬิกา Patek Philippe ดี
ดูจากรูปแบบของนาฬิกา Patek Philippe เรือนนี้แล้วมันไม่ใช่ระดับเริ่มต้นหลักหมื่นหรือหลักแสนแน่นอนแต่~~
อย่างน้อยควรมีหลักล้าน!
เฉินจิงตกใจและตื่นตัวขึ้นมาทันที
เธอรู้ดีว่าแม้ว่าลูกสาวของเธอจะเข้าร่วมวงเกิร์ลกรุ๊ป SHN48 และกลายเป็นไอดอลแต่เธอก็ไม่สามารถซื้อนาฬิกา Patek Philippe ที่มีราคานับล้านได้อย่างแน่นอน
และมันก็ยิ่งทำให้เธอสงสัยว่าใครคือคนที่อยู่ในรถรถโรลส์-รอยซ์มากขึ้นไปอีก
คงไม่ใช่ว่า... ลูกสาวของฉันทำสิ่งที่เธอไม่ควรทำเพื่อผลประโยชน์ของหน้าที่การงาน?
เธอรอให้จินจื่อฉีนั่งลงเพื่อทานอาหารก่อนจะพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ลูก ลูกจะไม่พูดถึงสิ่งที่อยู่บนข้อมือลูกหน่อยหรอ?”
จินจื่อฉีมองลงมาและหน้าแดง "แม่ หนูกำลังจะบอกแม่อยู่พอดีเลย ดูสิ แม่คิดว่าหนูสวยไหม"
"ลูกสาวของแม่สวยมาก!"
เฉินจิงชมเชย: “แต่อย่างไรก็ตาม นาฬิกานี้ลูกเอามาจากไหน?”
“นาฬิกาเรือนนี้ราคาเท่าไหร่กันแน่”
จินจื่อฉีทำตัวเหมือนเด็กเอาแต่ใจกับแม่ของเธอ
"แม่เดาว่า... อย่างน้อยคงต้องหนึ่งล้านใช่ไหม?"
อันที่จริงเฉินจิงไม่รู้ว่ามูลค่าของนาฬิกาเรือนนี้แท้จริงแล้วมันเท่าไหร่กันแน่
"ทำไมจะไม่ถึงล่ะ?"
จินจื่อฉียิ้ม "นี่คือนาฬิการุ่น 5990 ของ Patek Philippe"
เฉินจิงแอบเปิดโทรศัพท์ของเธอใส่ชื่อและหมายเลขซีเรียลของนาฬิกาลงไปและตรวจสอบราคา
เธอตกใจมาก!
“5 ล้าน! บนเว็บไซต์ทางการของ Patek Philippe ราคาของมันทะลุ 5 ล้าน!”
เฉินจิงช็อก!
Patek Philippe มูลค่า 5 ล้าน!
ลูกสาวของฉันสวมนาฬิการาคาแพงกลับ!
“บอกความจริงมาเดี๋ยวนี้เลยนะ! คนในรถโรลส์-รอยซ์ซื้อมาให้ลูกใช่ไหม?”
การแสดงออกของเฉินจิงค่อยๆดูจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ
"ก็ใช่น่ะสิ"
จินจื่อฉีหัวเราะ
“ลูกสาว ไม่ใช่แม่บอกลูกแล้วหรอว่าลูกไม่ควรรับนาฬิการาคาแพงขนาดนี้มา คนๆนั้นสามารถซื้อนาฬิการาคาแพงให้ลูกได้ เขาคงจะต้องเป็นชายวัยกลางคนหรือชายชราแน่ๆ แต่ลูกยังเด็กอยู่นะ ลูกอย่าสายตาสั้นเพราะเราเป็นคนตัวเล็กสิ!”
เฉินจิงพูดอย่างจริงจัง
จินจื่อฉีทำหน้าบึ้งแล้วพูดว่า “แม่ ดูที่แม่พูดสิ หนูเป็นผู้หญิงแบบนั้นหรือเปล่า?
“คนที่พาหนูกลับมาตอนนี้เขาน่าจะอายุเท่าหนูเอง!”
"อะไรนะ?"
เฉินจิงตะลึงในทันที!
อายุพอๆกับลูกสาว?
แต่สามารถซื้อนาฬิกามูลค่า 8 ล้านให้ลูกสาวฉันได้แบบง่ายๆ?
เขาต้องรวยขนาดไหนกัน?
เฉินจิงตกใจมากจนพูดไม่ออกเป็นเวลานาน...
สุดท้ายเธอก็ไอออกมา “อืม ไม่ใช่คนวัยกลางคนหรือคนสูงอายุแม่ก็สบายใจได้ ตอนนี้แม่ได้ยินมาว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์กำลังซบเซาและตอนนี้กำลังมีคนรวยวัยกลางคนและคนรวยจำนวนมากเข้ามาลงทุนเพื่อที่จะจับคนในวงการ”
เมื่อได้ยินแบบนี้จินจื่อฉีก็คิดถึงเหลียงเว่ยจื่อและเธอก็แอบหลั่งเหงื่อออกมา
ถ้าวันนี้เจียงเฉินไม่ก้าวออกมาข้างหน้ามันคงจะเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่ถอยออกมาได้หรือบางทีเธออาจจะถูกเว่ยหนานและบริษัทบังคับให้เธอยอมเสียสละ
ด้วยบุคลิกลักษณะของเธอ เธออาจจะพลิกโต๊ะหรือเธอยอมตายดีกว่ายอมแพ้เธอไม่รู้จริงๆว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ต้องขอบคุณเจียงเฉินจริงๆ!
"แต่..."
คำพูดของเฉินจิงก็เปลี่ยนไป “แม้ว่าเขาจะเป็นชายหนุ่มที่ร่ำรวย แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะลงทุนโดยไม่หวังผลตอบแทน ทำไมเขาถึงต้องซื้อนาฬิการาคาแพงให้ลูกด้วยเขามีความคิดอะไรเกี่ยวกับลูกหรือเปล่า ลูกต้องระมัดระวังตัวไว้นะ คนรวยรุ่นที่สองพวกเขาเอาใจใส่ลูกต้องระวังตัวไว้ดีๆ...”
เธอพูดออกมาได้ไม่กี่คำแต่จินจื่อฉีก็ไม่อยากฟังอีกต่อไปเธอมุ่ยปากแล้วพูดว่า "แม่! แม่หัวโบราณมากเลยนะ! แม่ไม่เข้าใจ! พี่เฉินเขาไม่ได้เป็นแบบนั้น สำหรับนาฬิกาเรือนนี้เขาไม่ได้มีความคิดอะไรทั้งนั้นเขายังเพิกเฉยกับหนูอยู่เลยด้วยซ้ำ!”
"อะไรนะ?"
เฉินจิงช็อกอีกแล้ว!
ฉันรู้สึกเหมือนความคิดของตัวเองกำลังพังทลาย!
ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจ แต่โลกเปลี่ยนเร็วเกินไป!
ลูกสาวสุดที่รักของฉัน ฉันคิดว่าเธอเป็นนางฟ้าตัวน้อย กลัวว่าการออกไปข้างนอกของเธอจะทำให้เธอเดินไปในทางที่แต่ผลลัพธ์ที่ได้~~
ลูกสาวกลับบอกว่าผู้ชายคนนั้นไม่สนใจเธอเลย?
ตาบอดชัดๆ!
“นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย”
เฉินจิงไม่อยากจะเชื่อเลย "เงินมันไม่ได้มาจากลมนะ นาฬิกาเรือนนี้ราคา 5 ล้าน! เป็นของแท้! เขาให้ของลูกขนาดนี้แต่เขากลับไม่ต้องการอะไรเลยหรอ แม่ไม่เชื่อ !"
จินจื่อฉีพูดไม่ออกเธอนอนลงไปบนโต๊ะและอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา "แม่! แม่ไม่รู้อะไรจริงๆ! คนรวยบนโลกนี้เอาแต่ใจตัวเองขนาดไหน พี่ชายเฉินเขาเป็นประธานของห้าง SKP เลยนะ! เดิมทีนาฬิกาเรือนนี้เป็นสมบัติของร้านPatek Philippe สาขานี้และแน่นอนว่ามันไม่มีทางถูกนำมาขาย! แต่หลังจากที่พี่เฉินเปิดเผยตัวตน พวกเขา..."
เธอเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้...
เฉินจิง "???"
ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับเจียงเฉินทำลายมุมมองของเธอจริงๆ!
การคาดเดาก่อนหน้านี้เกี่ยวกับเจียงเฉินล้วนพังทลาย!
“ลูกหมายถึง ชายหนุ่มที่อายุประมาณลูกคนนี้เป็นประธานของห้าง SKP ตั้งแต่อายุยังน้อยอยู่แล้วและเพื่อที่จะประจบประแจงเขา Patek Philippe ถึงกับยอมมอบข้อเสนอพิเศษซื้อหนึ่งแถมหนึ่งให้เขา ดังนั้นเขาเลยซื้อนาฬิกาสองเรือนเรือนหนึ่งสำหรับซูหยานและอีกเรือนสำหรับลูก?”
เฉินจิงเต็มไปด้วยความตกตะลึง
"ใช่แล้ว"
จินจื่อฉีถอนหายใจเบา "แม่คิดว่าเงิน 5 ล้านนี้เป็นเงินจำนวนมหาศาลใช่ไหม? แต่ความจริงที่โหดร้านก็คือ.....เขาไม่ได้สนใจนาฬิกานี้เลย เอาจริงๆเขาไม่เห็นมันอยู่ในสายตาเลยด้วยเขาเลยยกให้หนูแบบไม่คิดอะไร!”
เฉินจิงตะลึง!
มีเครื่องหมายคำถามเล็กๆเต็มหัวของเธอ
“ชูหยาน นั่นแฟนเธอเหรอ”
ในที่สุดเฉินจิงก็ค้นพบบางสิ่ง
"ใช่ค่ะ"
จินจื่อฉีจับแก้มของเธอและพูดอย่างขมขื่นว่า "หนูอิจฉาพี่สาวมากที่มีแฟนหนุ่มที่หล่อเหลาแล้วยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้มากกว่านี้ด้วย!"
เฉินจิง "..."
จู่ๆเฉินจิงก็พูดขึ้นว่า “ใช่แล้ว! ตอนนี้ลูกยังไม่มีแฟนนี่! ทำไมลูกไม่รีบและพยายามพาเขากลับมาให้แม่ล่ะ?”
พรูด!
จินจื่อฉีล้มลงกับพื้น!
เฉินจิงพูดออกมาว่า “แม่บอกเลยนะ! ลูกจะปล่อยโอกาสที่ดีแบบนี้ไปไม่ได้เด็ดขาดนะ ทำไมลูกไม่โทรเรียกผู้ชายคนนั้นอา....เจียงเฉิน มาทานอาหารเย็นกับเราล่ะโอกาสแบบนี้ลูกปล่อยมันไปไม่ได้นะ”
จินจื่อฉี: "..."
แม่ ดูเหมือนว่าเมื่อสามนาทีที่แล้ว แม่ยังคงยืนกรานให้หนูระวังตัวจากเจียงเฉินอยู่เลยไม่ใช่หรอ?
แล้วทำไมตอนนี้แม่ถึงมาว่าหนูว่าไม่ยอมคว้าโอกาศไว้แล้วเล่า?
นี่มันไม่เป็นการสองมาตรฐานหรอ?
จินจื่อฉี: "..."
เฉินจิงรวบรวมพลังก่อนจะพูดออกมา "อย่ารอช้า! เร็วเข้า! บอกแม่เร็วว่าวันนี้ลูกกับเจียงเฉินไปทำอะไรกันมาบ้าง! แม่หมายถึงทุกอย่างเลยนะ! บอกแม่เกี่ยวกับทุกอย่างเลย! แม่จะช่วยลูก! วิเคราะห์เอง!”
จินจื่อฉี: "..."
ใจสั่น!
ภายใต้การบังคับและล่อลวงของเฉินจิง จินจื่อฉีก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพูดถึงเรื่องที่เขาถูกคุกคามโดยเหลียงเว่ยจื่อและถูกบังคับโดยบริษัท เธอเลยไปขอความช่วยเหลือจากหานซูหยานและหานซูหยานก็พาเธอไปหาเจียงเฉินและก็เล่าต่อว่าเจียงเฉินช่วยเธอไว้อย่างไร
หัวใจของเฉินจิงเต้นแรงเมื่อได้ยินแบบนั้น...
“ตำหนักอ๋องฉี?”
"รถหรูในโรงจอดรถ?"
“ลงทุน 8 ล้านเพื่อสร้างละคร ให้ลูกเป็นนางเอกแบบง่ายดาย”
“ประธานห้าง SKP?”
ดวงตาของเฉินจิงเปิดกว้างขึ้นและกว้างขึ้น!
“แม่จะบอกไว้เลยนะ! ผู้ชายคนนี้ลูกจะต้องจับเขาไว้ให้ได้นะ!”
เฉินจิงบีบจิยจื่อฉีอย่างแรง
จินจื่อฉีร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด "แม่กำลังทำอะไรอยู่น่ะ?"
เฉินจิงพ่นลมอย่างเย็นชาดวงตาของเธอเป็นประกายและพูดว่า “ตอนนี้แม่พอใจกับเจียงเฉินคนนี้แล้ว! เจียงเฉินคนนี้ครอบครัวของเขาจะต้องรวยมากแน่ๆแถมยังมีความยุติธรรมด้วย เขายินดีที่จะช่วยลูกกำจัดคนน่าตายนั่น และยังยินดีลงทุน 8 ล้านให้ลูกได้สร้างละคร เขาสมควรเป็นลูกเขยที่ดีของครอบครัวเราจริงๆ!”
"???"
จินจื่อฉี "...แม่! แม่กำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร พี่เฉินเขาเป็นแฟนของพี่สาวซูหยานนนะดังนั้นหนูจึงไม่ควรเข้าไปสร้างความแตกแยกให้พวกเขานะ"
เฉินจิงขมวดคิ้ว “เด็กบ้า! ลูกไม่ได้บอกเองหรอว่าลูกต้องการให้เจียงเฉินเป็นสามีของลูกแล้วทำไมลูกถึงมาพูดถึงเรื่องนี้ตอนนี้ล่ะ?”
“หนูคิด หนูคิด แต่หนูทำไม่ได้”
จินจื่อฉีกางมือออก “ว่าแต่แม่เถอะทำไมความคิดเปลี่ยนเร็วขนาดนี้ล่ะ?”
เฉินจิง "ไร้สาระ! แม่แค่ไม่รู้มาก่อนว่าเขาเก่งขนาดนี้?"
จินจื่อฉี : ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ดูเหมือนว่าแม่ของเธอคงต้องการเจียงเฉินมาเป็นลูกเขยจริงๆ