Ep.136 - การถือกำเนิดของนักทดลองสติเฟื่อง
3/3
Ep.136 - การถือกำเนิดของนักทดลองสติเฟื่อง
เมื่อฮังอวี่อยู่ในโลกวิญญาณ เขาได้เรียนรู้หินสกิลทั้งสองก้อนเรียบร้อยแล้ว
[เล่นแร่แปรธาตุระดับต่ำ] สกิลสายผลิต , เลเวลสกิลปัจจุบัน 1 (0/300) , ค่าความชำนาญ(1000/1000)
[วิเคราะห์] สกิลสายผลิต , เลเวลสกิลปัจจุบัน 1 (0/300) , ค่าความชำนาญ (500/500)
จะบ้าตาย!
สกิลสายผลิตกว่าจะอัพได้ซักเลเวลมันจะยากเกินไปไหม!
ต้องการ 300 แต้มวิญญาณต่อการอัพเลเวล? จำนวนนี้มากพอที่จะอัพเลเวลสกิลมรดกจากเลเวล 1 ไปถึงเต็มเลเวล 3 เลย!
ฮังอวี่ตระหนักว่าการที่เขาต้องการอัพเลเวลสกิลมรดกและอัพสกิลสายการผลิตทั้งสองไปพร้อมๆกันนั้นแต้มวิญญาณของเขาไม่เพียงพอ
แต่อย่าพึ่งท้อใจไป
เพราะเขายังมีโอกาสสะสมพวกมันจากกองทัพมอนสเตอร์ที่ใกล้จะบุกเข้ามา
แม้เรื่องนี้จะเป็นปัญหาสำหรับคนอื่นๆ แต่สำหรับฮังอวี่แล้ว มันคือโชคอันยิ่งใหญ่ในการกวาดแต้มวิญญาณ!
ขณะที่คนอื่นๆกำลังสู้กับพวกมอนสเตอร์ เขาสามารถใช้ดอกบัววิญญาณ ดูดซับพลังงานทางวิญญาณจากพวกมันมาอย่างช้าๆ
อย่างไรก็ตาม เขารออยู่เฉยๆไม่ได้ ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีค่ายมนุษย์หมูป่า และหากต้องการยึดที่นั่น เมือกพลังงานสไลม์คือสิ่งจำเป็น
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะพวกมันคือเชื้อเพลิงทางวิญญาณที่หาได้ง่ายที่สุดและใช้งานได้ง่ายที่สุดในช่วงนี้
เขาไม่มีเวลาไปสถานีรถไฟใต้ดินเพื่อรวบรวมมันด้วยตัวเอง ยกโทรศัพย์ขึ้นติดต่อหาโล้นซ่าทันที
โล้นซ่าได้รับคำสั่ง นำเหล่าพี่น้องกว่าสิบคนออกเดินทางไปเก็บเมือกพลังงานสไลม์ทันที
ปล่อยเรื่องยุ่งยากผู้ใต้บังคับบัญชาจัดการ นี่สินะความรู้สึกโคตร Cool ของการเป็นเจ้านาย! ฮ๊าาาาา~
“ทีมพึ่งก่อตั้ง ยังมีปัญหาติดขัดอีกเยอะ เจ้าหมานายช่วยไปเป็นหูเป็นตาให้ฉันที” ว่าจบ ฮังอวี่ผูกเมล็ดพืช 20 ไว้บนหลังฮัสกี้ “แล้วก็ฝากเอาเจ้าพวกนี้ไปปลูกด้วย ส่วนใหญ่เป็นสมุนไพรพลังจิตและสมุนไพรพลังชีวิต ที่เหลืออีกนิดหน่อยก็เป็นพวกผลไม้ ชา เครื่องเทศ พริก และพืชพรรณอื่นๆจากโลกวิญญาณ”
ฮัสกี้พูดทันที “ฮ่ง! เจ้านายไว้ใจได้ เปิ่นหวังจะจัดการให้เอง”
ฮังอวี่ไม่เสียเวลาไปปลูกพืชวิญญาณด้วยตัวเอง เนื่องจากสมาคมมังกรฟ้าก่อตั้งแผนกทำฟาร์มขึ้นแล้ว และอีกอย่างเขามีเกษตรกรวิญญาณในทีม ดังนั้นหน้าที่หว่านเมล็ดเพาะต้นกล้า รวมไปถึงเก็บเกี่ยว ปัญหาน่าหนักใจพวกนี้ ทำไมเขาต้องทำเองด้วย? ให้หวังเอ๋อกับลูกน้องจัดการมันไม่ดีกว่าหรอ!
เมล็ดพืช 20 ถุงค่อนข้างมาก ถ้าคนในทีมไม่พอก็เลือกเพื่อนบ้านที่เชื่อใจได้มาทำงานร่วมกัน ให้พวกเขารับผิดชอบในการดูแลและบำรุง จากนั้นค่อยมอบเงินอุดหนุนและรางวัลในภายหลัง
ชุมชนมังกรฟ้าจะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ แต่จะเล็กก็ไม่เล็ก หากสามารถผลักดันให้เพื่อนบ้านมาร่วมทำฟาร์มกันเยอะๆ และใช้ที่ดินทั้งหมดในชุมชนมังกรฟ้า นั่นไม่เพียงแต่จะนำพาความร่ำรวยมาสู่คนเหล่านั้น แต่ยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ตัวเอง
ฮัสกี้จากไปแล้ว
ระรื่นหูขึ้นเยอะ
ฮังอวี่หันมาทำหน้าที่ของตัวเอง เตรียมทดลองวิจัยการเล่นแร่แปรธาตุ
สกิลสายผลิตโดยทั่วไปแล้วสามารถยืดหยุ่นและใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้
อย่างการหลอมอาวุธไม่จำเป็นต้องใช้พิมพ์เขียวเสมอไป พวกเขาสามารถใช้วัสดุที่มีผลิตอุปกรณ์ได้เช่นกัน และหากทำบ่อยๆก็จะยิ่งเป็นการฝึกฝนไปในตัว
การกลั่นยาก็เช่นกัน นอกจากสูตรโพชั่นแล้วสามารถทดลองผลิตโพชั่นด้วยตัวเองก็ได้
ส่วนคุณภาพจะเป็นอย่างไร นั่นขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ที่ใส่ลงไป
ซึ่งบางครั้งความคิดสร้างสรรค์อาจมอบโชคมหาศาลให้แก่ผู้ผลิตได้อย่างไม่ทันตั้งตัว สามารถผลิตอุปกรณ์ที่มีโบนัสคุณสมบัติทรงพลัง หรือพัฒนาโพชั่นที่ให้เอฟเฟกต์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร
สามารถพลิกโชคชะตา ให้ทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิต!
ในบรรดาสกิลสายผลิตมากมาย การเล่นแร่แปรธาตุที่เป็นสิ่งที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์มากที่สุด มันสามารถใช้สร้างคัมภีร์สกิลหรือตราประทับสกิลได้ นอกจากนี้ยังมีโอกาสสร้างอุปกรณ์เล่นแร่แปรธาตุที่แปลกใหม่ ตัวอย่างเช่น สิ่งมีชีวิตจากการเล่นแร่แปรธาตุ , เทคนิคลับหุ่นเชิด , ไอเท็มเทคโนโลยี ฯลฯ
และเนื่องจากฮังอวี่ได้รับความทรงจำของจอมปราชญ์ ทำให้แม้เขาจะไม่เคยทำการเล่นแร่แปรธาตุ แต่ด้วยสามัญสำนึกและความรู้มากมาย ทั้งหมดน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการทดลอง
สำหรับฮังอวี่ การผลิตอื่นๆไม่สำคัญ สามารถมอบหมายให้คนอื่นๆได้ แต่การเล่นแร่แปรธาตุเขาจำเป็นต้องฝึกฝนมันด้วยตัวเอง
ผลิตภัณฑ์จากการเล่นแร่แปรธาตุนั้นส่งผลครอบคลุมได้เป็นวงกว้าง มันมากพอแล้วที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าของสังคม
ช่วงเวลานี้ ฮังอวี่ตั้งใจที่จะสร้างสรรค์ผลงาน โดยวัตถุดิบได้แก่เมือกสไลม์และเห็ดศพที่เก็บได้ตามรายทางจากสวนแห่งความมืด
เมือกสไลม์เป็นตัวจุพลังงานเชื้อเพลิง ส่วนเห็ดศพเป็นวัสดุที่ประกอบไปด้วยความจุพลังงานธาตุไฟ ทั้งสองสิ่งนี้สามารถนำมารวมกันได้ในทางทฤษฏีของการเล่นแร่แปรธาตุ
ดังนั้นฮังอวี่จึงอยากทดลองดู ว่าเขาจะผสมพวกมันเข้าด้วยกันได้สำเร็จหรือไม่
อันดับแรกเขากลั่นเมือกสไลม์ 5 ก้อนในลมหายใจเดียว
เมือกพลังงานทั้งห้าเปลี่ยนสภาพท่ามกลางกลุ่มแสงจากสกิลเล่นแร่แปรธาตุ จากวัตถุที่ค่อนข้างลื่นไหล พวกมันเริ่มจับตัว และมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ ลดลงมาเท่ากำปั้น จนตอนนี้มีรูปร่างเหมือนหินคริสตัลที่ให้สัมผัสนุ่มนิ่ม
[ผลึกเมือกเขียว] วัสดุทั่วไปเกรด 5
หลังจากเมือกสไลม์ทั้งห้าจับตัวกันจนมีความเข้มข้นสูง มันจึงเปลี่ยนจากวัสดุเลเวล 1 ขึ้นเป็นเลเวล 5
ผลึกที่ผ่านการเล่นแร่แปรธาตุก้อนนี้ มันให้พลังงานมากกว่าเมือกสไลม์หลายเท่า
และโครงสร้างของผลึกมีเสถียรภาพมาก แม้จะมีขนาดเล็กกว่าเมือกพลังงาน แต่เมื่อติดไฟ จะสามารถแผดเผาได้เป็นระยะเวลายาวนานกว่า อย่างไรก็ตาม เจ้าสิ่งนี้จะเกิดการระเบิดได้ยากมาก ดังนั้นจำเป็นต้องใช้ตัวจุดชนวนที่มีประสิทธิภาพ
เห็ดศพหลายชิ้นถูกแปรรูปด้วยสกิลเล่นแร่แปรธาตุ
ฮังอวี่ได้รับผงสารสกัดจากเห็ดศพ
ผงสารสกัดจากเห็ดศพมีคุณสมบัติธาตุไฟและความจุพลังงานที่แข็งกล้า ทว่าพลังงานข้างในไม่ค่อยเสถียรนัก และด้วยความไม่เสถียรของมันนี่เอง ที่จะเป็นตัวไปช่วยกระตุ้นผลึกเมือกให้มันสามารถระเบิดความจุพลังงานข้างในออกมาอย่างเต็มที่
ผงสารสกัดจากเห็ดศพ + ผลึกเมือก = ?
ด้วยเจ้าสองสิ่งนี้ มีโอกาสสามารถสร้างระเบิดมือโลกวิญญาณได้!
แม้โดยพื้นฐานแล้วจะเรียบง่าย แต่ในระยะแรก มันคุ้มค่าอย่างแน่นอน!
หากการทดลองนี้สำเร็จจริงๆ จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง!
มือของฮังอวี่ปล่อยแสงจากสกิลเล่นแร่แปรธาตุอีกครั้ง รวมวัสดุทั้งสองอย่างนี้เข้าด้วยกัน ในใจภาวนาขอให้การผสมวัสดุเป็นไปอย่างราบรื่น
แต่หากต้องการสร้างสรรค์ของชิ้นใหม่ เห็นได้ชัดว่าขั้นตอนนี้ยากมาก!
ผลึกเมือกมีความจุพลังงานมหาศาล ขณะที่พลังงานของผงสารสกัดจากเห็ดศพนั้นไม่เสถียร
ฮังอวี่ย่อมรู้ธรรมชาติของผลึกเมือก ในทำนองเดียวกันเขาก็รู้ถึงธรรมชาติของผงสารสกัดจากเห็ดศพ
แต่เขาไม่รู้ว่าผงเห็ดศพกับผลึกเมือกต้องผสมกันยังไง วิธีที่จะหลอมรวมพวกมันเข้าด้วยกัน มีกระบวนการหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทดลองอย่างช้าๆ ลองผิดลองดูไปเรื่อยๆเท่านั้น
แต่หากเลือกทางผิด ที่เขาต้องจ่ายก็มีแค่ค่าเสียเวลาและวัสดุในการทดลองเท่านั้น
ลุยสิวะ จะกลัวอะไร!
อย่างไรก็ตาม เมื่อส่วนผสมทั้งสองชนิดหลอมรวมกันได้เพียงครึ่งเดียว ผลึกเมือกก็เริ่มมีควันลอยออกมา
“ชิบหายแล้ว!”
ฮังอวี่เปิดหน้าต่าง ขว้างผลึกเมือกออกไป และ--
--บรึ้มมมม!
ผลึกเมือกระเบิดแตกตัว ปล่อยควันหนาลอยฟุ้งออกมา
เป็นไปตามคาด
ล้มเหลวจริงๆ!
เขาเหม่อมองไปยังกลุ่มควันที่ลอยฟุ้งอยู่กลางลานบ้านด้วยความรู้สึกหดหู่
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ในชั่วข้ามคืน
หากปราศจากการลองผิดลองถูก แล้วคุณจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการได้อย่างไร?
ฮังอวี่ไม่กลัวความล้มเหลว สิ่งเดียวที่เขากลัวก็คือ วัสดุในมืออาจไม่เพียงพอ
หากเขาใช้เห็ดศพจนหมด แล้วยังไม่สามารถค้นคว้าเรื่องระเบิดได้ นั่นคงเป็นการสูญเสียที่มากเกินไป
อย่างไรก็ตาม การเลือกค้นคว้าสิ่งใหม่ๆ เป็นตัวคุณเองที่ต้องแบกรับความเสี่ยง
ฮังอวี่มีความมั่นใจในตัวเอง ว่าคุณสมบัติของวัสดุทั้งสองนั้นเข้ากันง่าย ตามทฤษฏีแล้วมีโอกาสสูงที่จะสามารถสร้างสรรค์ในสิ่งที่เขาต้องการ
ตราบใดที่มีความอดทนมากพอ เขาย่อมสามารถคลำหาวิธีกลั่นที่ถูกต้องได้อย่างแน่นอน
ณ ขณะนี้เขากลายเป็นคนบ้าการทดลองไปแล้ว
และนี่คือจุดเริ่มต้นของนักทดลองสติเฟื่อง!