712 - ค้นหาด้วยจิตวิญญาณ
712 - ค้นหาด้วยจิตวิญญาณ
ด้านข้าง ทุกคนไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เจียงรุ่ยเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดแต่ลูกชายและหลานชายของเขากลับทุบตีอย่างน่าสังเวชซึ่งมันทำให้ใบหน้าของเขาถูกฉีกอย่างยับเยิน
“เจ้า…”
การแสดงออกของเจียงรุ่ยกลายเป็นเย็นชา
"ทำไมเจ้าต้องการทำอะไรข้า " เจียงอี้เหลือบมองเขาแล้วตบต่อ “ให้ข้าสั่งสอนก่อน รับรองว่าทายาทของเจ้าจะไม่ได้รับอันตรายอย่างแน่นอน...”
“เจียงอี้ไอ้สารเลว”
หน้าของเจียงรุ่ยเกือบจะกลายเป็นสีเขียว การทุบตีสั่งสอนลูกหลานแบบนี้มันเป็นการล้ำเส้นของเขาอย่างแท้จริง
รอบๆ มีคนจำนวนไม่น้อยจากตระกูลเจียง ทั้งคนวัยกลางคนและวัยหนุ่มสาว ทุกคนต่างตกตะลึงอย่างถึงที่สุด แต่พอมาคิดดูก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้
ในอดีตบรรพบุรุษเฒ่าคนนี้เคยแม้แต่ต่อสู้กับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลก่อนจะก่อกบฏโดยไร้ความเกรงกลัว การทุบตีเด็กน้อยรุ่นหลังสำหรับเขาแล้วมันไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจแต่อย่างใด
“ถ้าเจ้ากล้ารังแกถิงถิง เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะโยนเจ้าไปเป็นอาหารของมังกรทะเล!”
ในที่สุดเจียงอี้ก็หยุด เขาไม่อยากไว้ชีวิตทั้งสองคน แต่เพราะเขาอายุมากเกินไป ดังนั้นจึงเหนื่อยที่จะทุบตีพวกเขาแล้ว
แบบนี้ก็ได้เหรอ... ทุกคนมองอย่างงงๆ
“ท่านปู่ของเจ้าใจดีเกินไปแล้ว…”
หลี่เหอซุยและคนอื่นๆพึมพำ และพวกเขาทั้งหมดก็เกิดความพอใจอย่างถึงที่สุด เจียงฮ่วยเหรินกระตือรือร้นที่จะลองและอยากจะไปตบเจียงอี้เฉินอีกสักครั้งสองครั้ง
ถิงถิงอายมาก นางรู้สึกว่าลุงของนางกำลังก่อเรื่อง นางจึงดึงมุมเสื้อของเจียงฮ่วยเหรินแล้วพูดว่า “อย่าทะเลาะกันเลยท่านลุง”
เจียงฮ่วยเหรินลูบหัวนางและกล่าวว่า “ไม่ต้องห่วงนี่เป็นเรื่องดีงาม เจ้าควรทำอย่างสม่ำเสมอ”
ในโลกนี้เคยมีคำสอนแบบนี้มาก่อนหรือไม่?
“ท่านปู่ทวดเป็นอย่างไรบ้าง ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”ถิงถิงถาม
“เจ็บมือเล็กน้อย” เจียงอี้ส่ายหัว
คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็อยากกระอักเลือด แม้แต่ตัวเขาที่เป็นคนทุบตีก็ยังเจ็บมือเล็กน้อย ทั้งสองคนที่ถูกทุบตีตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง?
เจียงอี้ทิ้งเจียงอี้เฉินและชายวัยกลางคนชุดสีเทาไว้และกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
"ข้าไม่ต้องการที่จะพูดเรื่องไร้สาระอีกต่อไปแล้ว ไปนำหม้อปราณปฐพีต้นกำเนิดคืนมา!"
ทุกคนแสดงสีหน้าแปลกๆ ใครจะไม่สนใจวัตถุศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้บ้าง? อย่าบอกนะว่ามันตกไปอยู่ในตระกูลเจียงของพวกเขาแล้ว
แต่เจ้าของของมันอยู่ที่นี่ การที่มันจะถูกส่งกลับคืนไปก็เป็นเรื่องที่ชอบธรรมตั้งแต่แรก แต่คิดไปคิดมาทุกคนก็รู้สึกไม่สามารถตัดใจได้
นี่คืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถสร้างเป็นอาวุธเต๋าสุดขั้ว
แม้ว่าจะไม่สามารถไปถึงระดับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ แต่ขอเพียงให้คนที่ครอบครองอาวุธชิ้นนี้อยู่ในระดับสิ่งมีชีวิตอมตะ พวกเขาก็สามารถใช้มันปลดปล่อยพลังระดับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้
ในอดีตราชาสวรรค์อมตะของตระกูลเจียงใช้เตาเทพสุริยันกวาดล้างดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันทรงพลังให้กลายเป็นทุ่งน้ำแข็งอย่างง่ายดาย
และปราณปฐพีต้นกำเนิดที่ใช้สร้างเตาเทพสุริยันก็มีเพียงจำนวนเล็กน้อยที่พอจะทำเป็นขาตั้งของมันได้เท่านั้น
แต่มันก็ยังสามารถแบกน้ำหนักอันมากมายมหาศาลของเตาที่ว่ากันว่ามีน้ำหนักเทียบเท่าดวงดาวได้เลย
“หม้ออยู่กับเจ้าสิบสาม” เจียงรุ่ยกล่าว
การแสดงออกของเจียงอี้ทรุดลงและกล่าวว่า
"ถ้าอย่างนั้นก็ไปเรียกเจ้าสิบสามออกมา"
"ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ น้องสิบสามออกไปฝึกฝนด้านนอกของตระกูลและไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะกลับมา!"
ใบหน้าของเจียงอี้น่าเกลียด
“เขาออกจากตระกูลมื่อวันก่อน?”
“ใช่” เจียงรุ่ยตอบ
ไม่ไกลนักหัวใจของเย่ฟ่านจมลง เรื่องนี้มันไม่ง่ายจริงๆ เห็นได้ชัดว่าปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งพยายามแย่งชิงสมบัติสวรรค์ของเขาโดยไม่มีความละอายแม้แต่น้อย
ในความเป็นจริงนี่คือสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ ในเมื่อมันเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์หรือตระกูลขุนนางโบราณมันก็เป็นเรื่องยากที่คนเหล่านั้นจะคืนให้เขา
ในโลกนี้มีจักรพรรดิเกิดขึ้นมาไม่น้อย แต่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่นั้นมีจำนวนไม่มาก และจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ทุกคนล้วนมีอาวุธเต๋าสุดขั้วเป็นของตัวเอง!
การที่ตระกูลเจียงเป็นหนึ่งในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตงหวง มันไม่ใช่เพียงเพราะว่าพวกเขามีศิลปะที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้ แต่ยังรวมถึงอาวุธที่ตกทอดมาจากจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เหิงอวี้อีกด้วย
หากตระกูลของพวกเขามีอาวุธเต๋าสุดขั้วสองชิ้นพวกเขาก็จะกลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่งของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย
ต่อหน้าผลประโยชน์มากมายมหาศาลนี้ แม้แต่คนที่ได้ชื่อว่ามีจิตใจอันชอบธรรมมากที่สุดของตระกูลเจียงก็ยังเกิดความหวั่นไหว
ในตอนนี้เย่ฟ่านค่อนข้างมั่นใจว่าการลอบสังหารตัวเขาจากเทพนักฆ่าของศาลสวรรค์ คนที่จ้างวานจะต้องมีตระกูลเจียงอย่างแน่นอน
ถ้าเขาตาย ถิงถิงจะกลายเป็นเจ้าของวัตถุศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้ไปโดยปริยาย ซึ่งการกระทำของตระกูลเจียงก็มีเหตุผลรองรับทุกข้อ
“แล้วเจ้าสิบสามจะกลับมาเมื่อไหร่ เมื่อเขากลับมาแล้วเขาจะคืนหม้อวิเศษให้กับเย่ฟานหรือไม่” เจียงอี้ถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“มันยากมากที่จะบอกว่าเขาจะกลับมาเมื่อไรสำหรับหม้อวิเศษข้าคิดว่าเขาจะจัดการมันอย่างเหมาะสม” เจียงรุ่ยตอบ
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร” เจียงอี้จ้องมองอย่างเย็นชา
“บัดซบ เห็นได้ชัดว่าพวกเจ้าไม่คิดจะคืนมันกลับมา”
ข้างหลัง จักรพรรดิดำกัดฟันของเขาและจ้องเขม็งไปที่คนตระกูลเจียงบางคนอย่างอาฆาต
เย่ฟานก็ไม่พอใจเช่นกัน หากไม่ใช่ว่าราชาสวรรค์ผู้อาวุโสมีบุญคุณต่อเขาเป็นล้นพ้น ความแค้นระหว่างเขาและตระกูลเจียงรับรองว่าไม่มีทางจบลงได้อย่างแน่นอน
ครั้งนี้เขามาเพื่อส่งยาศักดิ์สิทธิ์ด้วยเจตนาดี แต่เขากลับพบว่าฝ่ายตรงข้ามได้ขโมยเอาอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเขาไปแล้ว มันจะทำให้เขาสงบใจได้อย่างไร
“เจ็บแทบตาย…”
เจียงอี้เฉินซึ่งสลบไสลจากการถูกทุบตี ตื่นขึ้นและคร่ำครวญอย่างทุกข์ระทม
เย่ฟานสงบสติอารมณ์ก่อนที่ร่างกายของเขาจะเข้าสู่สมาธิเพื่อหมุนวิถีเต๋าจิง(คัมภีร์เต๋า)อย่างระมัดระวัง และในขณะเดียวกันเขาก็กระตุ้นอักขระเก้าตัวในความว่างเปล่า
นี่เป็นข้อความศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสร้างขึ้นจากฝีมือของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ในยุคโบราณ และมันเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อเขาเข้ากับหม้อวิเศษอีกด้วย
ในขณะนี้ จิตใจของเขาเคลื่อนไหว และเขาสัมผัสได้ถึงพลังปราณจางจางที่ปรากฏขึ้นจากภูเขาเทพในตระกูลเจียงนี่เอง
หม้อนี้ถูกปรับแต่งโดยเขาซึ่งสร้างขึ้นจากเส้นทางในคัมภีร์เต๋า เย่ฟานลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็วและบอกเจียงฮ่วยเหรินและจักรพรรดิดำถึงทุกสิ่งที่เขาสัมผัสได้
ทันใดนั้นจอมวายร้ายเจียงก็คำรามด้วยความโกรธ เจียงอี้จ้องมองไปที่เกาะที่อยู่ห่างไกลก่อนจะก้าวไปข้างหน้าและกล่าวว่า
"นั่นเกาะของใคร"
“นั่นคือที่ที่เจ้าสิบสามใช้ฝึกฝน” เจียงจิ่วที่อยู่ข้างๆกล่าวอย่างเย็นชา
“ข้าคิดถึงน้องสิบสามมาหลายปีแล้ว ในเมื่อเขาไม่อยู่ข้าก็จะไปรอเขาอยู่ในเกาะนั้นก็แล้วกัน” เจียงอี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม
สีหน้าของเจียงรุ่ยทรุดลง เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องติดตามเจียงอี้ไปด้วยความโกรธ
เจียงอี้เฉินและชายวัยกลางคนชุดสีเทาดวงตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง พวกเขาจ้องมองไปที่เย่ฟ่านและเจียงฮ่วยเหรินแต่ไม่กล้าขยับตัว เพราะพวกเขาไม่ต้องการกระตุ้นความโกรธเกรี้ยวของโจรเฒ่าคนนั้นอีก
เย่ฟานยืนอยู่ในความว่างเปล่าและสัมผัสได้ถึงกลไกของปราณปฐพีต้นกำเนิดก่อนจะชี้ให้ทุกคนเห็นว่าอาวุธของเขาถูกซ่อนอยู่หลังน้ำตกที่อยู่ด้านหน้า