ตอนที่ 13(อ่านฟรี) สิ้นสุดความเป็นเพื่อน
ตอนที่ 13 สิ้นสุดความเป็นเพื่อน
ตลาดแห่งหนึ่งในโลกคู่ขนาน
จื่อหมิง ถือถุงช็อปปิ้งมากมาย ในนั้นคือเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวหลายอย่าง โชคดีที่พวกเขามีเงินติดตัวและมาสามารถใช้จ่ายที่นี่ได้ และที่สำคัญค่าเงินที่โลกปัจจุบันของพวกเขาสูงกว่าที่โลกคู่ขนานแห่งนี้ถึงหนึ่งเท่า วันนี้พวกเขาใช้เงินที่ร้านอาหารและซื้อของจำเป็นเหล่านี้ทั้งหมดเพียงแค่หนึ่งพันกว่าหยวนเท่านั้น เวลานี้จื่อหมิง ยังคงเหลือเงินสดติดตัวเขากว่า 2 หมื่นหยวน แต่น่าเสียดายที่บัตรเครดิตของเขาไม่สามารถใช้ได้ในโลกคู่ขนานนี้
กว่าจะซื้อของใช้ทั้งหมดครบก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว จื่อหมิง ขับรถกลับไปที่บ้านพักหลังเล็กใขณะที่ฟ่งฟ่ง เผลอพลับไปในรถด้วยความเหนื่อยล้า เมื่อหันไปมองที่ ฟ่งฟ่ง จื่อหมิง ก็มีความคิดขึ้นมาในใจ คงจะเป็นเรื่องที่ดีมากหากเขาจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ที่นี่กับ ฟ่งฟ่ง ได้โดยที่ไม่ต้องใส่ใจกับการหาทางกลับไปที่โลกปัจจุบันของพวกเขาอีก ยิ่งนับวัน จื่อหมิง ยิ่งรู้สึกว่าเขาต้องการที่จะอยู่ใกล้กับ ฟ่งฟ่ง มากขึ้น
แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกเขายังคงต้องหาทางกลับไปที่โลกปัจจุบัน เพราะยังมีครอบครัวและงานที่สำคัญรอพวกเขาอยู่ โดยเแพาะตัว จื่อหมิง เองเขาเพิ่งผ่านการยอมรับในฐานะรองประธานบริษัท เขาจึงไม่ควรทำให้ผู้ถือหุ้นคนอื่นในบริษัทผิดหวัง แต่ถือว่าโชคดีที่ช่วงนี้ไม่มีเรื่องยุ่ง ๆ ที่บริษัท จื่อหมิง สั่งการกับผู้จัดการที่เกี่ยวของทุกแผนกไว้แล้วก่อนที่เขาจะหยุดพักผ่อน
“ถึงบ้านพักแล้ว ฟ่งฟ่ง ตื่นเถอะ” จื่อหมิง ปลุก ฟ่งฟ่ง หลังจากที่เขาจอดรถหน้าบ้านพัก
ฟ่งฟ่ง ขยับตัวและยังคงหลับอย่างสบาย จื่อหมิง ถอนหายใจแรงพร้อมกับลงจากรถและเดินเข้าไปเปิดประตูบ้านพักค้างไว้ เก่อนที่จะเดินมาที่ประตูอีกฝั่งแล้วก้มตัวลงไปอุ้มตัวเธอเข้าไปในบ้านและวางลงอย่างอ่อนโยน
ขณะนั้น ฟ่งฟ่ง ก็ได้ลืมตาขึ้น เมื่อเธอเห็นใบหน้าของ จื่อหมิง ในระยะที่ใกล้มาก และสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเขา ฟ่งฟ่ง รู้สึกหัวใจเต้นแรงกว่าครั้งแรกที่เธอเจอกับ หย่งเล่อ เธอหน้าแดงและยังคงไม่กล้าขยับตัวแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นว่าฟ่งฟ่ง ลืมตาขึ้นมาแล้ว จื่อหมิง ก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน :"เอิ่ม..ฉันปลุกเธอแล้วแต่เธอไม่ตื่นฉันจึงอุ้มเธอมาวางตรงนี้ ไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกินเธอนะ"
"อืม..ฉันรู้ ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นอยู่แล้ว" ฟ่งฟ่ง กล่าว
"เมื่อเธอตื่นแล้ว ฉันว่าเราจัดของกันดีกว่า เดี๋ยวจะดึกไปกว่านี้ คุณชิงเอ๋อ คงเอาที่นอนมาวางไว้ให้เราตั้งแต่ตอนที่เราออกไปซื้อของ"จื่อหมิง พูดและหันหน้าไปมองที่นอน ที่ถูกพับแล้ววางอยู่ข้างประตู
มีที่นอนเพียงผืนเดียว และมันเป็นที่นอนที่เรียบง่ายทำจากผ้าที่ข้างในยัดด้วยนุ่นเท่านั้น และยังมีผ้าห่มผืนใหญ่เพียง 1 ผืนและหมอนอีก 2 ใบ
"มีที่นอนเพียงผืนเดียวและผ้าห่มก็มีแค่ผืนเดียวเช่นกัน เราคงต้องนอนที่นอนผืนเดียวกัน เธออึดอัดใจหรือเปล่า" จื่อหมิง ถามหลังจากที่เห็นเครื่องนอนแล้ว
"ไม่ฉันรู้ว่านายเป็นสุภาพบุรุษและฉันก็ไม่ได้คิดมาก"ฟ่งฟ่ง หน้าแดงเล็กน้อย
เมื่อจัดของใช้เข้าที่และเตรียมที่นอนแล้ว ฟ่งฟ่ง ไปอาบก่อน เนื่องจากมีห้องน้ำเพียงห้องเดียวจื่อหมิง นั่งรออยู่ที่ชิงช้าใต้ต้นไม้ใหญ่
อย่างที่รู้ว่าที่บ้านหลังนี้ไม่มีไฟฟ้า เมื่อโทรศัพท์มือถือของเขาแบตหมดจึงยังไม่สามารถจะชาร์ตได้ เวลานี้มีเพียงแสงจากตะเกียงเท่านั้น
"ฉันอาบน้ำเสร็จแล้ว นายไปอาบเถอะ ดึกมากแล้ว" ฟ่งฟ่ง เดินออกมาเรียก จื่อหมิง แล้วถือตะเกียงเดินกลับไปที่ห้องนอน
กว่าที่ จื่อหมิง จะอาบน้ำเสร็จเขาก็เห็นว่า ฟ่งฟ่ง ได้หลับไปบนฟูกที่ปูแบบเรียบง่ายบนพื้นบ้านที่เป็นเพียงไม้กระดาน เธอยังคงดูสวยงามและไร้เดียงสาเช่นเคย
จื่อหมิง นั่งลงบนที่นอนข้างๆเธอแล้วขยับเข้าไปใกล้เธอเล็กน้อยเพื่อคลุมผ้าห่มบนตัวของเธอ ก่อนที่เขาจะนอนลงเช่นกัน จื่อหมิง นอนและหันไปมองใบหน้าของ ฟ่งฟ่ง และค่อยๆหลับไป
กว่าจะรู้ตัวก็เป็นเวลากว่า 7 โมงเช้าของอีกวัน เมื่อลืมตาขึ้นมา ฟ่งฟ่ง ก็พบว่า จื่อหมิง นอนอยู่ข้างๆเธอโดยที่เขานั้นไม่ได้ห่มผ้า เธอจึงรีบใช้ผ้าที่เธอห่มอยู่คลุมตัวให้เขาและพูดเบาๆว่า:"คนโง่ ไม่หนาวหรือไง ทำไมไม่ห่มผ้าให้ตัวเองด้วย"
เมื่อได้ยินเสียง ฟ่งฟ่ง จื่อหมิง คว้าแขน ฟ่งฟ่ง ไว้ทันที :"ก็ฉันเห็นว่าเธอหนาวหรือจะให้ฉันกอดเธอไว้แบบนี้!” จื่อหมิง ลืมตาขึ้นมา เขาพูดและดึง ฟ่งฟ่ง เข้ามาไว้ในอ้อมกอดทันที
“ปล่อยนะ! จะกอดฉันทำไม”ฟ่งฟ่ง พยายามผลักเพื่อให้ จื่อหมิง ปล่อยเธอ
“ปล่อยไม่ได้แล้ว ฉันรักเธอ ฟ่งฟ่ง” จื่อหมิง กอด ฟ่งฟ่ง แน่นขึ้นไปอีก
เมื่อได้ยิน จื่อหมิง พูดว่ารัก ฟ่งฟ่ง ก็ไม่สามารถขยับตัวได้ เธอรู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก ในเวลานี้ ไม่มีเสียงใดๆนอกจากเสียงเต้นของหัวใจของพวกเขาทั้งคู่
“โอเค..เราคงมีอะไรให้ทำอีกหลายอย่างในวันนี้” จื่อหมิง ปล่อย ฟ่งฟ่ง ออกจากอ้อมกอดของเขา
“อ่อ..ใช่ ฉันต้องเตรียมอาหารเช้า รอเดี๋ยวนะ” ฟ่งฟ่ง ลุกเดินไปที่ครัว ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
“ทำให้อร่อยนะที่รัก ผมอยากกินอาหารฝีมือคุณ” จื่อหมิง ยังคงพูดล้อเล่นต่อไปเมื่อเห็นว่า ฟ่งฟ่ง กำลังรู้สึกเขินอายเมื่อเขาบอกว่ารักเธอ
“จื่อหมิง! ไอ้คนบ้า! เลิกแกล้งฉันได้แล้ว” ฟ่งฟ่ง ตะโกนเสียงดังออกมาจากในครัว
จื่อหมิง เดินตามฟ่งฟ่ง เข้าไปในครัว เขาตรงเข้ากอดเธอจากด้านหลัง :“ไม่แกล้งแล้ว ฉันรักเธอ รักมากจริงๆ เชื่อฉันเถอะ และฉันคิดว่าเธอก็รักฉันเหมือนกัน”
ฟ่งฟ่ง รีบหันกลับมามองหน้า จื่อหมิง ในขณะที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของเขา:“ใครรักนาย?”
“เธอยังไงล่ะ เธอรักฉัน” เมื่อพูดจบ จื่อหมิง ก็ใช้มือทั้งสองข้างของเขาประคองแก้มของ ฟ่งฟ่ง
จื่อหมิง จูบที่ริมฝีปากสีแดงระเรื่อของเธอ ในขณะนี้ ฟ่งฟ่ง ไม่ได้ปฏิเสธใดๆอีกต่อไป นี่คือจูบแรกของพวกเขาทั้งสองคน
หลังจากวันนี้ ทั้งจื่อหมิง และฟ่งฟ่ง รู้ดีแก่ใจของพวกเขาแล้วว่า จากนี้พวกเขาได้สิ้นความเป็นเพื่อนลงนับตั้งแต่วันนี้ เขาทั้งคู่ได้กลายเป็นคู่รักกันไปแล้ว
ความรักไม่สามารถกำหนดได้ว่ามันควรต้องเป็บรูปแบบไหน และเมื่อมาถึงตอนนี้ จื่อหมิง และฟ่งฟ่ง รู้เพียงว่าพวกเขามีความสุขมากเพียงใดที่ได้รักกันในฐานะคนรัก พวกเขาผ่านการเรียนรู้ความว่าเจ็บปวดจากความคิดถึงในช่วงเวลาที่พวกเขาไม่พบกัน นั้นมันทรมานแค่ไหน และแน่นอนว่าพวกเขาควรจะรักษามันไว้เป็นอย่างดี