607 - ความปั่นป่วนที่สุสานเซียน
1917 - ความปั่นป่วนที่สุสานเซียน
เยว่ฉาน เฉาอวี่เซิ่งและคนอื่นๆ ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ ผู้อาวุโสทั้งสองกำลังทำอะไรอยู่?
พวกเขาสองคนลุกขึ้นและล้มลง ด้วยการโจมตีของสือฮ่าวร่างกายของพวกเขาเคลื่อนไหวไปมาดูน่าตลกขบขัน
ต๋อง!
ทูตสวรรค์ของอาณาจักรเซียนบินออกไปด้านนอกกระแทกเข้ากับประตูของอาณาจักรวิญญาณอย่างรุนแรง โลหิตไหลซึมออกมาจากปากของเขาไม่หยุด
“ข้าจะมอบสิ่งนี้ให้กลัวแต่ว่าเจ้าจะกล้ารับมันหรือไม่เท่านั้น” วังทองแดงขนาดเล็กอยู่ในกำมือของสือฮ่าว
มันปล่อยแรงกดดันเล็กน้อยปราบปรามทูตของอาณาจักรเซียนทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก
“ไม่มีดินแดนใดภายใต้สวรรค์ที่ไม่เป็นของอาณาจักรเซียนรวมทั้งอาณาจักรที่ต่ำกว่าด้วย”
“ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของ อาณาจักรเซียนอย่างนั้นหรือ? เจ้ากล้าที่จะแย่งชิงสมบัติของข้าตอนนี้เจ้ากล้ารับมันหรือไม่!” สือฮ่าวโกรธมาก
ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไล่ตามทูตของอาณาจักรเซียน
เขารู้สึกเจ็บใจอย่างเห็นได้ชัดจากคำพูดเหล่านั้น เป็นเพราะว่าผู้คนของอาณาจักรเซียนกล่าวว่าอาณาจักรที่ต่ำกว่าอยู่ใต้การปกครองของอาณาจักรเซียน
แน่นอนว่าหลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้วเยว่ฉานและคนอื่นๆก็กลอกตามองบน
แม้ว่าสหายคนนี้จะรู้สึกหงุดหงิดอย่างแน่นอน
แต่เขาก็ใช้สิ่งนี้เป็นเหตุผลในการสร้างความยุ่งยากเช่นกัน โดยพื้นฐานแล้วการที่เขาไล่ตามมาถึงที่นี่ย่อมมีเจตนาบางอย่าง
เป็นไปได้มากว่าเขาต้องการที่จะรีดไถฝ่ายตรงข้าม
“ได้โปรดหยุดเถอะ!” ผู้อาวุโสทั้งสองยังคงกอดแข้งกอดขาของเขาไว้
ทูตของอาณาจักรเซียนกล่าวขอโทษอย่างต่อเนื่อง โดยบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจดูถูกสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในอาณาจักรที่ต่ำกว่าเขาพูดผิดไปดังนั้นเขาจึงต้องขออภัยที่ล่วงเกินสือฮ่าว
“ นอกจากนี้พวกเจ้าทุกคนหยิ่งผยองและภาคภูมิใจที่มองสิ่งมีชีวิตทั้งแปดภูมิภาคของข้าว่าเป็นคนป่าเถื่อน
โดยกล่าวว่าอาณาจักรแห่งความว่างเปล่าเป็นดินแดนที่แห้งแล้งเจ้ากล้าชี้นิ้วมาที่พวกเราเจ้าคิดว่าตัวเองเป็นคนพิเศษอย่างนั้นหรือ?!"
สือฮ่าวชี้ไปที่คนเหล่านั้นนิ้วของเขากระทุ้งเข้ากับหน้าผากของเจ้าหนูพวกนั้นทำให้พวกเขาตกใจและหวาดกลัว
พวกเขากลัวจริงๆว่าสือฮ่าวอาจจะรุกหนักขึ้นทำให้กะโหลกศีรษะของพวกเขาถูกแทงทะลุไป
ไม่มีใครแสดงความโอหังออกมา เพราะในอาณาจักรแห่งความว่างเปล่าพวกเขามีประสบการณ์มานานแล้ว นี่คืออนารยชนคนที่ทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อไม่มีทางเอาชนะได้!
“พวกเจ้ายังไม่รีบขอโทษสหายเต๋าคนนี้!” ทูตของอาณาจักรเซียนตะโกนด่าเด็กหนุ่มสาวที่มาพร้อมกันกับเขา
คนเหล่านั้นก้มหน้าลงพร้อมกับกล่าวคำขอโทษด้วยเสียงเหมือนยุง
“พวกเจ้าต้องการวังทองแดงของข้าหรือไม่? หากพวกเจ้าไม่ต้องการแล้วก็มอบค่าทำขวัญมาซะดีๆ” สือฮ่าวถามพลางแยกเขี้ยวขยับปากที่เปื้อนเลือดดูดุร้ายและน่ากลัวอย่างแท้จริง
ผู้คนของอาณาจักรเซียนต้องการสาปแช่ง วังทองแดงนี้เป็นของเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่? เห็นได้ชัดว่ามันเป็นของตำหนักเซียน!
พวกเขาจำมันได้นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาพยายามยึดมันกลับคืนมา ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังตะโกนด่าสือฮ่าวเป็นเหตุให้ปีศาจร้ายตนนี้ไล่ตามทุบตีพวกเขามาตลอดทาง
สภาพของพวกเขาในตอนนั้นราวกับกระต่ายที่หลบหนีจากสุนัขบ้าคลั่ง ช่างน่าละอายอย่างแท้จริง
“อะไรหรือพวกเจ้าจะไม่มอบค่าทำขวัญออกมา!” สือฮ่าวกล่าว
เยว่ฉานและคนอื่นๆไม่สามารถทนดูสิ่งนี้ได้ สหายคนนี้ไม่ได้ไล่ตามทุกคนมาเพราะความโกรธแค้น แต่ในความเป็นจริงเขาต้องการรีดไถบุคคลเหล่านั้น
สำหรับท่านปู่นกและผู้อาวุโสเหรียญเงินก็มองเหตุการณ์เหล่านี้อย่างนิ่งเฉยไม่แสดงท่าทีอะไรออกมา
ทูตของอาณาจักรเซียนกระพริบตาด้วยความสับสนและมึนงงเล็กน้อย ทำไมผู้อาวุโสที่ดูใจดีเหล่านี้ไม่ช่วยพวกเขาในตอนนี้?
“ พวกเจ้ามีอะไรดีๆกับตัวบ้าง? นี่คือทายาทของวานรหกหูหนึ่งในสิบอสูรผู้ยิ่งใหญ่
บรรพบุรุษของมันเคยเป็นราชาอมตะมาก่อน เมื่ออารมณ์ที่แท้จริงของมันปะทุขึ้นต่อให้เป็นผู้อมตะที่เข้าสู่อาณาจักรแห่งความว่างเปล่านี้ก็ไม่ใช่คู่มือของมัน” ท่านปู่นกกล่าว
อา!
ทูตสวรรค์ของอาณาจักรเซียนสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนาวเหน็บพร้อมกับอุทานออกมาว่า
“วานรหกหูที่สร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ในอาณาจักรเซียน? ข้านึกว่าเผ่าพันธุ์ทั้งหมดของมันอยู่อาณาจักรด้านบน แท้ที่จริงแล้วที่นี่ก็มีสายเลือดของมันอย่างนั้นหรือ?”
“ถูกต้อง!” อาวุโสเหรียญเงินพยักหน้า
จากนั้นทูตของอาณาจักรเซียนก็เชื่อฟังอย่างมากโดยนำสิ่งที่เขามีอยู่ออกมารวมกันเป็นกองขนาดใหญ่ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังขาดความมั่นใจ
“ลิงตัวนั้นมีความแข็งแกร่งมากขนาดนี้เลยหรือ” บนแท่นบูชานกกระจอกทองแดงเฉาอวี่เซิ่งไม่มั่นใจถามอย่างเงียบ ๆ
“เผ่าพันธุ์นี้มีอยู่จริงเพียงแต่ว่าหลังจากยุคเซียนโบราณพวกมันก็ไม่เคยปรากฏขึ้นมาในโลกของเรา” มดเขาสวรรค์กล่าวเบาๆ
ในท้ายที่สุดเมื่อประตูของอาณาจักรวิญญาณถูกเปิดออก ผู้คนจากอาณาจักรเซียนก็รีบหลบหนีอย่างรวดเร็วคล้ายกับหวาดกลัวโรคระบาด พวกเขาสาบานในใจว่าจะไม่กลับมาเหยียบสถานที่แห่งนี้อีก
“ลาก่อน!”
ในขณะที่แบกสิ่งของขนาดใหญ่ไว้บนหลังของเขา สือฮ่าวก็มุ่งหน้ากลับไปที่บันไดหิน
เยว่ฉาน เฉาอวี่เซิ่งและคนอื่นๆต่างก็เฝ้าดูร่างของเขาที่หายไปหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็หายจากความงุนงงและถอนหายใจออกมาด้วยความเศร้าโศก
“ยุคของฮวงจะสิ้นสุดลงอย่างนั้นหรือ” ใครบางคนกล่าวเบาๆ
“พวกเจ้าดูท่าทางของเขาแล้วคิดว่าเขากังวลในเรื่องนั้นจริงๆ?”
“เยว่ฉานเหตุไฉนเจ้าไม่อยู่ที่นี่และคลอดลูกลิงให้เขาเขาสักหลายตัว”
“...”
ทุกคนหันหน้าเดินกลับเข้าสู่อาณาจักรวิญญาณโดยไม่ได้มองกลับหลังมาอีก
ด้านล่างบนบันไดหินสือฮ่าวถามผู้อาวุโสทั้งสองว่า
“บึงนั้นจะทำให้ข้ากลายเป็นสิ่งมีชีวิตในระดับผู้สูงสุดจริงๆอย่างนั้นหรือ?”
“ตราบใดที่เจ้ายังอดทนได้ก็ไม่มีปัญหาแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นต่อให้เป็นระดับผู้สูงสุดขั้นกลางก็ไม่เห็นว่าจะเป็นไปไม่ได้!”
"ดี!"
…
หงหลง!
วันนั้นในอาณาจักรที่สูงกว่าทั่วทั้งโลกเกิดพายุฝนฟ้าคะนองครั้งใหญ่ ผู้ฝึกฝนจากเผ่าพันธุ์ต่างๆล้วนอดไม่ได้ที่จะหวาดผวา
เหนือท้องฟ้าของเกาะที่เป็นที่ตั้งของสุสานเซียน หลุมฝังศพขนาดใหญ่สีเหลืองทั้งหมดแยกออกจากกันราวกับว่าจักรวาลถูกตัดออก
หลังจากนั้นก็ปรากฏแก่นแท้ของเต๋าที่เป็นอมตะทะลักทลายออกมาจากสุสานเซียน!
ในเวลาเดียวกันภายในซากปรักหักพังบางแห่งในเก้าสวรรค์ด้านบนก็มีรอยแตกขนาดใหญ่สอดประสานพร้อมกับพลังแห่งความโกลาหลได้ปะทุออกมาอย่างรุนแรง
คชา!
สายฟ้านับล้านเส้นส่งเสียงดังกึกก้องพลังแห่งแก่นแท้ของเต๋าอมตะพรุ่งพล่านเหมือนมหาสมุทรที่กำลังบ้าคลั่ง
ด้านนอกของเกาะผู้คนมากมายต่างมองไปในทิศทางนั้นด้วยความตกตะลึง เป็นเพราะรอยแตกที่ยิ่งใหญ่เหล่านั้นปรากฏเป็นเส้นทางโบราณที่คลุมเครือน่ากลัวเป็นอย่างมาก
ยิ่งไปกว่านั้นภายในเส้นทางโบราณยังปรากฏสิ่งมีชีวิตสองสามตัว
ลักษณะของพวกมันดูเหมือนว่าจะอยู่ห่างออกไปอย่างไม่น่าเชื่อสายตาของพวกมันเย็นชาและเฉยเมยทำให้ทุกคนที่มองเห็นต่างหวาดหวั่นจนเข่าแทบทรุด
ไม่ใช่แค่ที่เดียวบางแห่งเกิดอยู่ในเก้าสวรรค์เบื้องบนบางแห่งในสิบพิภพเบื้องล่าง รอยแยกบนเส้นทางโบราณที่ยิ่งใหญ่เหล่านั้นกระจัดกระจายไปทั่วโลก
รัศมีพลังที่มันปลดปล่อยออกมาทำให้ทุกคนหวาดหวั่นอย่างถึงที่สุด หรือวันสิ้นโลกจะมาถึงแล้ว?