เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 196
ตอนที่ 196
หลังจากที่หอกสายฟ้าซึ่งก่อร่างขึ้นจากอัสนีสวรรค์เก้าชั้นฟ้าถูกขว้างออกไป รากไผ่กลับมิได้เลือกที่จะโจมตีหลินซวนต่อ
ประกายสายฟ้ารอบรากเหล่านั้นควบรวมกันกลายเป็นหัตถ์อัสนี และคว้าจับหอกสายฟ้าเอาไว้ในอุ้งมือด้วยต้องการจะดูดซับพลังจากหอกนั้น
“ดูเหมือนว่ารากไผ่จะไม่ได้มีเป้าหมายที่ข้า แต่มันต้องการอัสนีสวรรค์เก้าชั้นฟ้า!” หลินซวนทำความเข้าใจได้ในทันที
ในตอนนี้เอง เขาก็ตระหนักถึงรายละเอียดเล็กๆ ที่มองข้ามไป ในตอนที่เขากระตุ้นอัสนีสวรรค์เก้าชั้นฟ้าของตนขึ้นมาเพื่อชักนำสายฟ้าจากป่าไผ่ คล้ายว่าจะมีสายฟ้าเหล่านั้นบางส่วนที่ซึมซับเอาพลังจากอัสนีสวรรค์ของเขาเข้าไป
ท้องฟ้ายังคงปกคลุมไปด้วยทะเลอัสนี เสียงสายฟ้าคำรามยังคงดังกึกก้อง ประกายไฟฟ้าเหล่านั้นยังคงก่อตัวขึ้นราวกับเป็นคลื่นลูกยักษ์ที่ซัดสาดเข้าใส่ผู้คน!
“อ๊าก!”
แม้ว่าเหล่ารุ่นเยาว์ทั้งหลายจะหลบหนีไปก่อนหน้านี้ และระยะทางของพวกเขาก็อยู่ไกลยิ่งนัก แต่มันก็ยังไร้ค่า พวกเขาถูกสายฟ้าเหล่านั้นกระหน่ำเข้าใส่และระเบิดกลายเป็นหมอกโลหิตก่อนจางหายไปอย่างสมบูรณ์
เพราะเหตุนี้ รุ่นเยาว์เหล่านั้นที่ยังพอจะเหลือรอดอยู่จึงเนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวอันหนาวเหน็บ
ด้วยเหตุนี้ เมื่อเหล่ารุ่นเยาว์บางส่วนได้เห็นเหตุการณ์เบื้องหน้า จึงทำให้พวกเขาตื่นตระหนกยิ่งนัก ป่าไผ่แห่งนั้นดุร้ายเกินไป อีกทั้งมันยังทรงพลังมากกว่าอสูรบางตัวเสียด้วยซ้ำ!
เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งเห็นป่าไผ่ที่ไกลออกไป ดูเหมือนว่านางจะมาความคิดบางอย่าง ดวงตาของนางสั่นไหวไปชั่วขณะ ก่อนจะตัดสินใจตะโกนออกมา
“จำนวนของต้นไผ่มีมากเกินไป มันมิใช่ไผ่สวรรค์อัสนีม่วง แต่อันที่จริงแล้วพวกมันคือ... ไผ่โลหิตสายฟ้าปีศาจ!”
หลินซวนที่กำลังใช้ท่าเท้าเจ็ดเก้าสวรรค์กลับกลายออกมาพร้อมกับอักขระลับ “จู่โจม” ความเขาของบัดนี้อยู่ในระดับที่น่าหวั่นเกรง ยิ่งไปกว่านั้น การหลบหลีกช่างลื่นไหล เขาสามารถหลบรอดสายฟ้ามากมายที่กระหน่ำลงมาได้อย่างต่อเนื่อง!
หลินซวนรวดเร็วเสียจนกลายเป็นเช่นลำแสงเส้นหนึ่งและร่างของเขาเดินทางไปถึงเส้นขอบฟ้าในชั่วพริบตา!
ทว่า สิ่งที่น่าประหลาดใจก็บังเกิดขึ้น รากของไผ่ปีศาจเหล่านั้นอยู่ก็ปรากฏตัวออกมาจากความว่างเปล่าและขวางเส้นทางของเขา!
เปรี้ยง!
สายฟ้าผ่าลงมาจากเบื้องบน หลินซวนบิดกายเพื่อหลีกหนี แต่ร่างเขาก็ยังถูกแรงอัดกระแทกจากสายฟ้าเส้นนั้นปะทะเข้า นี่แสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจของมันที่ยิ่งใหญ่เสียจนก่อให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นในอากาศอันว่างเปล่า!
หลินซวนหันศีรษะกลับไปมองยังป่าไผ่นั้น เขารู้สึกได้ว่าเส้นขนทั่วร่างลุกชัน
เป็นเพราะว่าป่าไผ่ที่ดูงดงามราวกับหยกนั้นแท้จริงแล้วเติบโตขึ้นได้ด้วยโลหิตและเริ่มฟื้นฟูจิตวิญญาณของมันขึ้นมาบางส่วนแล้ว ทำให้บัดนี้มันปลดปล่อยแสงสีเลือดออกมา สีม่วงที่เคยปรากฏอยู่บนลำต้นเริ่มจางหายไปแทนที่ด้วยสีแดงคล้ำดุจโลหิต!
ถึงขั้นที่สายฟ้าสีม่วงเองก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงชาด ไผ่โลหิตสายฟ้าปีศาจทั้งหมดกำลังจะตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์!
“ในเมื่อเจ้าต้องการนัก ข้าก็จะมอบให้!”
หลินซวนหายใจเข้าลึกยาวอยู่ชั่วครู่พร้อมกัดฟันแน่น ก่อนจะอัญเชิญอัสนีสวรรค์เก้าชั้นฟ้าออกมาเป็นจำนวนมาก!
แม้ว่าปริมาณของอัสนีสวรรค์ที่หลินซวนเรียกออกมาเทียบกับทะเลสายฟ้าของไผ่โลหิตแล้วจะเป็นเพียงกลุ่มสายฟ้าเล็กๆ และหลินซวนก็เชื่อมั่นว่าไผ่โลหิตเหล่านั้นย่อมต้องสนใจในอัสนีสวรรค์ของเขาอย่างแน่นอน!
ชั่วครู่ถัดมา รากของไผ่โลหิตที่ปกคลุมผืนฟ้าไกลออกไปปลดปล่อยสายฟ้าสีเลือดที่น่าหวั่นผวายิ่งนัก!
ฉากเบื้องหน้าช่างแลดูสยดสยอง รากสีม่วงดำประกอบไปกับสายฟ้าสีแดงก่ำกวาดผ่านท้องนภา พวกมันตรงเข้าไปยังอัสนีสวรรค์ก้อนชั้นฟ้าและกลืนกินพลังสายฟ้าที่อยู่ในกำมืออย่างตะกละตะกลาม!
“หรือว่าเจ้าไผ่โลหิตพวกนี้เองก็ต้องการอัสนีสวรรค์ของข้าเช่นกัน?” หลินซวนกำลังทำความเข้าใจเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น
เหมือนเช่นคราวที่ผู้พิทักษ์ต้นหลิวปรากฏตัวออกมาเพื่อดูดซับอัสนีและใช้มันในการฟื้นฟูบาดแผล ไผ่โลหิตเหล่านี้เองก็ดูเหมือนต้องการใช้อัสนีสวรรค์ของหลินซวนเพื่อกระทำเช่นเดียวกัน!
รากของมันพัวพันเข้ากับกลุ่มก้อนสายฟ้าและกลืนกินอัสนีสวรรค์อย่างหิวกระหายราวกับเป็นยาจกที่พบเจออาหารโอชะ!
แสงสีม่วงค่อยๆ จมหายไปในกลุ่มสายฟ้าโลหิตเหล่านั้น!
หลินซวนหรี่ตาลงพลางกวาดมองไปรอบด้าน อัสนีสวรรค์เก้าชั้นฟ้าของเขาถูกดูดกลืน แต่เขาก็มิได้เศร้าใจแต่อย่างใด อันที่จริงแล้ว เขากำลังรอให้บางสิ่งเกิดขึ้นอยู่
และเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ไม่นานหลังจากนั้น ไผ่โลหิตสายฟ้าปีศาจก็เริ่มสั่นสะท้าน!
ลำต้นสีม่วงปนแดงของมันสั่นไหวจากนั้นสีก็เปลี่ยนไปเป็นเหลืองซีด ราวกับว่าพลังชีวิตของพวกมันถูกสูบออกไป!
กิ่งก้านและใบไผ่จำนวนนับไม่ถ้วนเริ่มหลุดร่วง สายฟ้าสีแดงคล้ำเริ่มปั่นป่วน แต่การจะคงทะเลอัสนีให้ยังก่อร่างได้เริ่มยากเย็นเต็มที!
ในเวลาเดียวกันนั้น กลางป่าไผ่ ไผ่โลหิตสายฟ้าปีศาจต้นหนาที่เป็นดั่งใจกลางของพวกมันเริ่มสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง
ปรากฏเป็นหลุมขนาดยักษ์ขึ้นบริเวณลำต้นที่เชื่อมติดกับราก ราวกับปากของมนุษย์ จากนั้นมันก็เริ่มกรีดร้องโหยหวน และลำต้นส่วนอื่นๆ ก็บังเกิดรอยแตกลามไปทั่ว!
“กรี๊ด!!!”
แววตาของหลินซวนเปล่งประกาย ดูเหมือนว่าเขาจะค้นพบความลับอีกอย่างแล้ว!
อัสนีสวรรค์เก้าชั้นฟ้าสามารถรักษาบาดแผลของผู้อื่นได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างระมัดระวังของหลินซวน!
หากว่าอัสนีสวรรค์ถูกดูดซับและพยายามใช้มันชำระล้างตนเองด้วยผู้อื่น มันจะกลับกลายเป็นว่าสิ่งนั้นได้เผชิญสายฟ้าลงทัณฑ์จากสรวงสวรรค์ด้วยตนเอง พลังทำลายล้างที่กักเก็บเอาไว้ของอัสนีสวรรค์นั้นมากเกินที่ผู้ใดจะจินตนาการได้
แม้ว่าความแข็งแกร่งของหลินซวนในปัจจุบันนี้จะยังมิได้มากมายนัก แต่อัสนีสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเป็นสายฟ้าขั้นสูงสุดของบรรดาสายฟ้าทั้งหมด ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ตัวตนสามัญจะสามารถควบคุมได้!
นั่นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ไผ่โลหิตปีศาจสายฟ้าจะสามารถช่วงใช้พลังฟื้นฟูของอัสนีสวรรค์นั้น เมื่อมันกลืนกินอัสนีสวรรค์เข้าไปย่อมหมายถึงพลังทำลายมหาศาลที่สร้างความเสียหายต่อร่างกายของตัวเอง!
ต้องรู้ก่อนว่าอัสนีสวรรค์เก้าชั้นฟ้านี้คือความพิโรธของสรวงสวรรค์ มันคือสายฟ้าลงทัณฑ์ที่เก็บซ่อนพลังแห่งการเข่นฆ่าของสวรรค์แห่งเต๋าเอาไว้ ยิ่งสิ่งมีชีวิตที่เผชิญหน้ากับมันแข็งแกร่งเพียงใด พลังของอัสนีสวรรค์ก็จะทบทวีมากขึ้นเท่านั้น!
ในยามปฐมกาล ยุคก่อนที่ประวัติศาสตร์จะจารึกเอาไว้ ใครก็ตามที่เผชิญหน้ากับการลงโทษจากสวรรค์ย่อมต้องหน้าถอดสีและไร้ทางต่อต้าน!
มีเทพและปีศาจนับไม่ถ้วนที่ตกตายลงด้วยน้ำมือของอัสนีสวรรค์เก้าชั้นฟ้านี้!
ส่วนทางด้านไผ่โลหิตปีศาจสวรรค์เบื้องหน้านั้น แม้ว่ามันจะเป็นตัวตนที่ทรงพลังและมีชีวิตมาเนิ่นนาน แต่การคงอยู่ของมันยังนับได้เพียงไม่กี่หมื่นปี ย่อมไม่สามารถเทียบได้กับตัวตนอมตะทั้งหลายที่ตกตายลงจากอัสนีสวรรค์!
เทียบกับเหล่ายอดฝีมือในยุคปฐมกาลทั้งหลาย มันไม่นับว่าเป็นสิ่งใดได้เลย หลังจากกลืนกินอัสนีสวรรค์เข้าไป นับเป็นโชคดีที่มันยังมิได้ตกตายลงในทันที แต่หากไม่รีบทำสิ่งใด มันย่อมไม่มีทางรอดชีวิต!
และสิ่งเหล่านี้ก็มิได้เกินไปกว่าการคาดเดาของหลินซวน ชั่วครู่ถัดมา แสงสีเลือดที่ป่าไผ่โลหิตปลดปล่อยก็จางหายไปไม่เหลือไว้แม้แต่ร่องรอย และทะเลอัสนีที่มันเป็นผู้สร้างขึ้นก็มลายสิ้นไปจากท้องนภา!
กระทั่งประกายสายฟ้าที่ปกคลุมลำต้นก็ยังสูญสลาย ลำต้นของพวกมันกลับกลายเป็นสีเหลืองซีด รอยแตกปรากฏขึ้นไปทั่วทุกพื้นที่และทุกส่วนของมันสั่นสะท้านอย่างต่อเนื่อง!
ทางด้านไผ่โลหิตปีศาจสายฟ้าที่เป็นศูนย์กลาง หลุมของมันขนาดใหญ่ขึ้น และมันกำลังกระอักของเหลวที่คล้ายเลือดออกมา กระทั่งในของเหลวนั้น ยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นทำลายล้างและความตาย!
สถานการณ์ของไผ่โลหิตย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ... และไผ่รอบนอกของพวกมันก็เริ่มเน่าเปื่อย สีเหลืองที่หมายถึงความตายของมันแพร่กระจายรวดเร็วขึ้นทุกที พลังชีวิตของมันกำลังหมดลงอย่างช้าๆ !