SWO ตอนที่ 15 โชควัวรุ่งเรือง
(TL: เปลี่ยนจากผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ เป็นผู้ฝึกยุทธครับ เดี๋ยวผมจะกลับไปแก้ตอนเก่า ๆ ให้)
“เจ้าเจออะไร?” ชายร่างสูงถามโดยไม่รู้ตัว
“มีการเคลื่อนไหว” โจวเฮากระซิบ
ชายร่างสูง ผู้ฝึกยุทธคนอื่น ๆ และบอดี้การ์ดต่างตื่นตัวทันที
ซูหลิง และนักเรียนอัจฉริยะที่เหลือกังวลเล็กน้อยเช่นกัน ถึงอย่างไรสถานที่ที่พวกเขาอยู่นี้ก็ห่างจากตัวเมืองมาเกือบ 10,000 เมตรแล้ว
อย่างไรก็ตามแม้จะผ่านไปหลายนาที แต่มันก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“จิ เจ้าเป็นผู้ฝึกยุทธประสาอะไรกัน? ขวัญอ่อนเกินไปแล้ว!”
ชายร่างสูงขมวดคิ้ว ขณะที่เขากำลังจะพูด ดวงตาของเขาก็กวาดไปทันที
"ระวัง!"
เงาสีขาวจู่โจมด้วยความเร็วสูง และเหวี่ยงนักเรียนที่พูดลงกับพื้น…
ปัง!
เสียงสไนเปอร์เก็บเสียงดังขึ้นพร้อมกับกระสุนที่ทะลุผ่านหัวของเงาสีขาว
จากนั้นทั้งกลุ่มก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเจ้าของเงาสีขาวเป็นหมาป่าขาวตัวใหญ่ตัวหนึ่ง
ซวบ! ซวบ! ซวบ!
เสียงปืนเปรียบเสมือนก้อนหินที่ทำให้เกิดระลอกคลื่นนับพัน
แทบจะในทันที เงาสีขาวก็กระโจนมาจากต้นไม้โบราณและวัชพืชที่อยู่โดยรอบ ๆ
“สู้!!” ชายร่างสูงตะโกน
ผู้ฝึกยุทธทั้ง 6 คน รวมทั้งโจวเฮาเริ่มเปิดฉากโจมตีทันที
บอดี้การ์ดลังเล ท้ายที่สุดแล้วหมาป่าขาวเหล่านี้เป็นเป้าหมายของภารกิจที่พวกเขากำลังตามหา เว้นแต่นักเรียนจะตกอยู่ในอันตราย พวกเขาไม่มีสิทธิ์เข้าไปแทรกแซง
ซวบ! ซวบ!
จำนวนหมาป่าขาวเริ่มเพิ่มขึ้นทุกขณะ
“พวกเจ้ากำลังรอใครมาตัดริบบิ้นอยู่ห่ะ! สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว!” ชายร่างสูงตวาด
การปรากฏตัวของหมาป่าขาวจำนวนมากนั้นแตกต่างจากที่พวกเขาคาดไว้อย่างเห็นได้ชัด
“แต้มโชค +15”
“แต้มโชค +20”
เมื่อบอดี้การ์ดเริ่มโจมตี โจวเฮาก็ฆ่าหมาป่าขาวที่จู่โจมเขาอย่างง่ายดาย
ในความคิดของเขา หมาป่าสีขาวเหล่านี้อ่อนแอเกินไปจนไม่คณามือเขาเลยสักนิด
พวกมันแทบไม่ต่างจากแมลงที่เผ่าพันธุ์แมลงส่งมาเพื่อรวบรวมข้อมูลเลยสักนิด เพียงหมัดธรรมดาก็สามารถป่นอวัยวะของพวกมันให้แตกได้แล้ว
ดังนั้นโจวเฮาจึงเน้นพลังงานส่วนใหญ่ไปที่จุดโชคบนหน้าจอเสมือน
จำนวนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เขามีความสุขมาก
บรู้ววว!
เมื่อบอดี้การ์ดร่วมโจมตีด้วย หมาป่าขาวกลุ่มใหญ่ก็หมดกำลังใจอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นเสียงหอนของหมาป่าตัวหนึ่งก็ระเบิดขึ้นในคืนที่มืดมิด
หมาป่าขาวจำนวนมากถอยกลับอย่างรวดเร็ว ขณะที่กลุ่มหมาป่าขาวที่ตัวใหญ่พอ ๆ กับรถถังปรากฏตัวขึ้นแทน
ต่างจากหมาป่าขาวชุดก่อนหน้า หมาป่าขาวที่มาใหม่เหล่านี้มีสองเส้นวิ่งลงมาตามเขาโค้งของพวกมัน
"ไม่ดีแน่! พวกมันคือนักรบอสูรขั้นกลาง!!”
สีหน้าของบอดี้การ์ดเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด
ความแข็งแกร่งของหมาป่าขาวถูกกำหนดโดยจำนวนเส้นบนเขาโค้ง ยิ่งมีจำนวนเส้นมากเท่าไหร่ก็ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น
เป้าหมายของนักเรียนในครั้งนี้คือการจัดการกับหมาป่าขาวที่ไม่มีเส้นบนเขา แต่หมาป่าขาวที่เข้าโจมตีพวกเขาเมื่อครู่เป็นพวกหนึ่งเส้น
มาตอนนี้หมาป่าขาวที่มีสองเส้นกลับปรากฏตัวแทนพวกเส้นเดียว
ไม่ต้องพูดถึงนักเรียน ภายใต้การถูกล้อมเช่นนี้ แม้แต่บอดี้การ์ดของพวกเขาก็สามารถถูกฆ่าได้หากพวกเขาประมาท
ที่สำคัญกว่านั้นการจะสั่งให้นักรบอสูรระดับกลางโจมตีได้แบบนี้มันจะต้องมีหมาป่าขาวระดับแม่ทัพอสูรบงการอยู่เบื้องหลัง!
"ถอย!" ชายร่างสูงตะโกน
สถานการณ์ตอนนี้มันเกินขอบเขตภารกิจของเขาไปแล้ว
บูม! บูม! บูม!
หมาป่าขาวตัวใหญ่เริ่มโจมตี
ซูหลิง และนักเรียนคนอื่น ๆ ต่างหวาดกลัวจนถึงแก่น ทุกคนทรุดตัวลงกับพื้นขณะมองหมาป่ายักษ์ด้วยใบหน้าซีดเผือก
ชายร่างสูงหมดคำพูด เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะสบถออกมา และทำได้เพียงตะโกนใส่บอดี้การ์ดเท่านั้น “รีบส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือเร็วเข้า! เราต้านรับมันได้เพียงนาทีเดียวเท่านั้น!”
นั่นนับเป็นการประเมินที่มองในแง่ดีที่สุด…
หากนักรบอสูรขั้นกลางนับสิบหรือมากกว่านั้นเข้าล้อมพวกเขาพร้อมกัน เมื่อนั้นพวกเขาจะถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ได้ภายในสิบวินาที
“เราจบสิ้นแล้ว!” ชายร่างสูง และผู้ฝึกยุทธอีกเห็นความขมขื่นในดวงตาของกันและกัน
ไม่มีใครคาดคิดว่าภารกิจคุ้มกันระดับต่ำเช่นนี้จะทำให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง
ปุ! ปุ!
บอดี้การ์ดไม่ยอมแพ้ และพยายามต่อต้านอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตามซูหลิง และนักเรียนคนอื่น ๆ ที่หวาดกลัวเวลานี้กลับกลายเป็นภาระ พวกเขาทั้งหมดตัวแข็งทื่อบังคับให้บอดี้การ์ดต้องอยู่ปกป้องจากด้านข้างทำให้ขยับตัวไปไหนไม่ได้
ไม่นานสิบวินาทีก็ผ่านไป ขณะที่ชายร่างสูงคิดว่าหมาป่ายักษ์เล่นมาพอแล้ว และกำลังจะโจมตี เขาก็ตระหนักว่าหมาป่ายักษ์กว่าครึ่งโหลหายไป!!
ผู้ฝึกยุทธคนอื่นที่พบสิ่งนี้ก็ตกตะลึงเช่นกัน
"ดูนั่น!" ผู้ฝึกยุทธหญิงอุทานด้วยตวามประหลาดใจ
ชายร่างสูงและผู้ฝึกยุทธ รวมทั้งบอดี้การ์ดและเหล่านักเรียน มองไปยังกองวัชพืชที่อยู่ไม่ไกล
ซากศพหมาป่าขนาดใหญ่กองทับซ้อนกันจนราวกับเป็นภูเขาลูกย่อม ๆ
“ที่แท้ก็เป็นน้องชายคนนั้น คะ ความแข็งแกร่งของเขา…”
ดวงตาของชายร่างสูงเบิกกว้าง เขาเฝ้าดูขณะที่โจวเฮาต่อยออกไปอย่างสบาย ๆ ทำให้นักรบอสูรขั้นกลางซึ่งพวกเขาต่อสู้กันอย่างยากลำบากล้มลงกับพื้น กระตุก และตกตายไป
“35 38… 40!”
หมัดที่ดูสบาย ๆ ของโจวเฮาต่อยหมาป่ายักษ์ตายไปอีกตัวหนึ่ง ขณะที่เขายังคงนับอย่างช้า ๆ ในปากของเขา
นักรบอสูรขั้นกลางเหล่านี้ไม่มีคุณสมบัติพอให้เขาใช้แก่นโลหิตด้วยซ้ำ
รากฐานแก่นโลหิตอันแข็งแกร่งซึ่งเกิดขึ้นจาก “เคล็ดวิชานาคคชสารปัญญาบารมี 108 ขั้น” นั้นเกินความคาดหมายของเขาไปมาก ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นนั้นแข็งแกร่งกว่าพลังรวมของนาคคชสารหลายสิบตัวรวมกันเสียอีก
เพียงการชกอย่างไม่ใส่ใจจากโจวเฮาก็สามารถทำลายร่างของนักรบอสูรขั้นกลางได้อย่างง่ายดาย
“นักรบอสูรขั้นกลางมอบแต้มโชค 200 แต้ม มันมากกว่านักรบอสูรขั้นต่ำนับ 10 เท่า!”
โจวเฮาคิดกับตัวเองขณะกวาดสายตาไปยังหน้าจอเสมือนจริง
แต้มโชค: 9,722 (ระดับปัจจุบัน: โชควัวรุ่งเรือง)
เป็นอีกครั้งที่โจวเฮาใกล้จะเก็บถึง 10,000 แต้มโชค
ครั้งสุดท้ายที่โรงเรียน เขาต้องใช้เวลากว่าสามถึงสี่ชั่วโมงในการตบแมลง
แต่ตอนนี้เขาใช้เวลาเพียงห้าถึงหกนาทีเท่านั้นในการสังหารนักรบอสูร และได้แต้มมาเกือบจะเท่ากัน
“ดูเหมือนข้าจะต้องฆ่าสัตว์อสูรระดับสูงหากต้องการได้รับแต้มโชคอย่างรวดเร็ว!” เขาปัดมือเบา ๆ และตรวจสอบบริเวณโดยรอบ หลังจากยืนยันแล้วว่าไม่มีหมาป่ายักษ์พุ่งเข้าหาเขาอีก เขาจึงหันหลังกลับเดินตรงไปยังตำแหน่งของชายร่างสูงทันที