606 - คณะทูตเสียขวัญ
1916 - คณะทูตเสียขวัญ
“ไม่มีทางที่เจ้าจะรักษาระดับบ่มเพาะได้จริงๆหรือ? เหลือเวลาอีกแค่ครึ่งเดือน?” เยว่ฉานถาม
ทุกคนมองไปที่สือฮ่าวโดยต้องการคำตอบที่จริงจังไม่ใช่คำพูดไร้สาระเหมือนที่ผ่านมา
“เป็นความจริงเวลาเวลาของข้าเหลือเพียงครึ่งเดือนเท่านั้นในการก้าวเข้าสู่อาณาจักรของผู้สูงสุดให้ได้ไม่เช่นนั้นข้าจะกลายเป็นคนพิการ แต่เรื่องนี้มีความยากลำบากมากเกินไป” สือฮ่าวกล่าว
จากนั้นเขาก็มองไปที่เยว่ฉานและพูดว่า
“สายตาของเจ้ามีความเศร้าสร้อยและอาลัยอาวรณ์ หรือว่าเจ้าต้องการจะอยู่ที่นี่และคลอดลูกลิงให้ข้า”
ในตอนแรกทุกคนยังคงรู้สึกเห็นอกเห็นใจเขาแต่เมื่อได้ยินคำนี้ทุกคนก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างที่ไม่ปกติ
เยว่ฉานเลิกคิ้วดวงตาที่พลุ่งพล่านด้วยเจตนาฆ่าจ้องมาที่เขา อารมณ์ที่เป็นของชิงยี่ถูกระงับไว้และความคิดของเยว่ฉานได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
“ถ้าเจ้าไม่ต้องการก็ลืมมันซะ” สือฮ่าวโบกมือและบอกทุกคนว่าไม่ต้องเป็นห่วง
“พวกเจ้ากลับไปเถอะแล้วข้าจะคิดถึงพวกเจ้าให้มาก ในสักวันหนึ่งที่พวกเจ้าแก่ตัวลงก็ขอให้นึกถึงข้าบ้าง” สือฮ่าวกล่าว
เมื่อทุกคนได้ยินคำนี้พวกเขาก็รู้สึกเศร้าโศกและเดินก้มหน้าไปตามเส้นทางกลับสู่อาณาจักรวิญญาณ
ในขณะที่มองดูคนเหล่านั้นจากไปด้วยการแสดงออกที่หดหู่ ใบหน้าของสือฮ่าวก็มีรอยยิ้มสดใส มังกรแดงที่มองเห็นฉากนี้พอดีได้แสดงสีหน้าดูถูกออกมา
คนอื่นไม่รู้แต่เก๋อกู่จะไม่รู้ด้วยหรือ? ร่างกายของเขาจะอ่อนแอจนคล้ายกับเด็กสาวภายในครึ่งเดือน? ไม่มีทางและไม่มีวันเกิดขึ้นด้วย!
เมื่อทุกคนเดินไปที่แท่นบูชานกกระจอกทองแดงพวกเขาก็หันหน้ากลับมาอีกครั้งด้วยความเศร้าโศก
“เฮ้อช่างน่าเสียดาย วีรบุรุษที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในประวัติศาสตร์จะร่วงหล่นลงเช่นนี้?”
“เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่หากวันหนึ่งข้าแข็งแกร่งขึ้นจะนำยาเซียนกลับมาหาเจ้า!”
...
แต่หลังจากเดินมาได้พอสมควรพวกเขาก็หยุดกะทันหันและหันไปรอบๆ
เป็นเพราะทุกคนได้ยินเสียงจากด้านหลังมีคนกำลังวิ่งมา
เมื่อพวกเขาหันกลับไปพวกเขาก็ตกใจอ้าปากค้าง
ทูตของอาณาจักรเซียนพาเด็กๆเหล่านั้นมาด้วย ในตอนนี้ใบหน้าของพวกเขาตื่นตระหนกและพยายามวิ่งหนีสุดชีวิต
ด้านหลังของพวกเขาสือฮ่าววิ่งตามมาด้วยสีหน้าดุร้ายต้องการจะจับกินทุกคนที่นี่
ในขณะเดียวกันมีผู้อาวุโสสองคนจับแขนซ้ายขวาของเขาไว้ไม่ให้เขาทำรุนแรงมากเกินกว่านี้
"สวรรค์! นั่นคือทูตของอาณาจักรเซียน! เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือไร? การที่เจ้าเอาเด็กพวกนั้นมาย่างเล่นเราไม่ได้ตำหนิ แต่เจ้าคิดจะสร้างภัยพิบัติครั้งใหญ่ให้กับอาณาจักรแห่งความว่างเปล่าอย่างนั้นหรือ!”
“เจ้าสามารถแตะต้องใครก็ได้ แต่เจ้าไม่อาจเอาทูตของอาณาจักรเซียนมาย่างได้สงบสติอารมณ์ลงหน่อย!”
ผู้อาวุโสทั้งสองคือท่านปู่นกและผู้อาวุโสเหรียญเงินพวกเขาใช้กำลังทั้งหมดในการดึงแขนของสือฮ่าวไว้
บนแท่นบูชานกกระจอกแทงแดงทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็รู้สึกปวดหัว ก่อนที่พวกเขาจะจากไปยังได้เห็นความโหดเหี้ยมอำมหิตของฮวงอีกครั้ง!
“เขากำลังไล่ตามทูตอาณาจักรเซียนเขาเป็นบ้าไปแล้ว!” บนแท่นบูชานกกระจอกทองแดงกลุ่มคนจ้องมองอย่างว่างเปล่า
“ผู้อาวุโสสองคนนั้นเป็นผู้ดูแลของอาณาจักรแห่งความว่างเปล่า?” มีคนตระหนักขึ้นได้
แม้แต่ผู้อาวุโสทั้งสองคนของอาณาจักรแห่งความว่างเปล่าปรากฏตัวขึ้นก็ยังถูกฮวงลากขึ้นมาบนเส้นทางโบราณ
ผู้อาวุโสทั้งสองคนปีนไปขึ้นมาบนร่างของสือฮ่าวเหมือนกับลิงสองตัว พวกเขาพยายามสุดชีวิตเพื่อจะลากสือฮ่าวให้กลับลงไปด้านล่าง
“นี่ข้ากำลังฝันไปหรือเปล่า” องค์หญิงเหยาเยว่กล่าวเบาๆนี่เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกินไป แม้แต่ผู้ดูแลอาณาจักรแห่งความว่างเปล่าก็ไม่สามารถหยุดความบ้าคลั่งของฮวงได้
ในขณะเดียวกันความแข็งแกร่งของฮวงกลับมีมากมายถึงขนาดนี้
ด้านบนทูตของอาณาจักรเซียนอยู่ในสภาพเสียขวัญ มงกุฎสีม่วงบนศีรษะของเขาหักออกเป็นสองท่อนเหลือเพียงเศษเสี้ยวของมันที่ติดอยู่ เส้นผมของเขากระเซอะกระเซิงมีเลือดอาบไปทั่วร่างกาย
เขารู้สึกหวาดกลัวและเสียใจอย่างยิ่ง เขาเป็นถึงทูตของอาณาจักรเซียนแต่กลับถูกใครบางคนที่อยู่ในอาณาจักรด้านล่างทำร้ายถึงขนาดนี้!
ฮวงโหดเหี้ยมอย่างน่าเหลือเชื่อ? เขาไล่ตามทูตของอาณาจักรเซียนอย่างดุร้ายทำให้สหายของเขาทุกคนต่างยิ้มออกมา
ร่างของเขาเหมือนสายฟ้าแลบพัดพากระแสลมที่บ้าคลั่งกำลังวิ่งขึ้นสู่ด้านบนด้วยความเร็ว ใบหน้าของทูตซีดเผือดไร้สีเลือดคนผู้นี้บ้าคลั่งเกินไปแล้ว
สำหรับเด็กๆที่มาพร้อมกันกับโทษของอาณาจักรเซียนพวกเขายิ่งหวาดกลัวจนแทบเสียสติ
“คนเถื่อน! ดินแดนแห่งนี้ล้วนเต็มไปด้วยคนเถื่อน!” เด็กหนุ่มคนหนึ่งตะโกนออกมาเสียงสั่นสะท้าน
ฮ่อง!
ในที่สุดทูตก็รีบวิ่งขึ้นไปบนแท่นบูชานกกระจอกทองแดง เมื่อเห็นกลุ่มเด็กๆจ้องมาที่เขาอย่างว่างเปล่าเขาจึงรู้สึกตัวและหยุดลง
แต่หลังจากนั้นใบหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวตะเกียกตะกายวิ่งหนีกลับอาณาจักรวิญญาณเพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง ร่างกายและเสื้อผ้าของเขาล้วนยับเยินเต็มไปด้วยเลือด
เราต้องเข้าใจว่าโดยปกติแล้วทูตคนนี้มักจะแต่งตัวด้วยอาภรณ์ล้ำค่า ใบหน้าของเขาหล่อเหลาเป็นชายวัยกลางคนที่มีเสน่ห์ แต่สภาพของเขาตอนนี้นั้นน่าสังเวชเหลือทนเขาพร้อมที่จะร่วงหล่นได้ทุกเมื่อ
ฮวงไล่จากด้านหลังในขณะที่ทูตวิ่งไปด้านหน้าอย่างตื่นตระหนก
เยว่ฉานและคนอื่นๆจ้องมองด้วยความงงๆ พวกเขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
ปู!
มดเขาสวรรค์ผู้ซึ่งไม่เคยกลัวใครได้ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่ เมื่อไม่นานมานี้มันมีความขัดแย้งกับทูตของอาณาจักรเซียนมันยิ่งไม่รั้งตัวเองไว้
“สมกับเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายมากที่สุดในอาณาจักรที่ต่ำกว่า แม้แต่ทูตของอาณาจักรเซียนก็ยังต้องหลบนี้เหมือนกับหนูกลัวแมว”
แน่นอนว่าหลังจากนั้นเฉาอวี่เซิ่งและมดเขาสวรรค์ต่างพูดจาสอดคล้องกัน คำพูดของทั้งสองเต็มไปด้วยคำหยาบจากนั้นพวกเขาก็หัวเราะออกมาดังๆ
เมื่อทูตเดินผ่านมาและได้ยินเรื่องนี้เขาก็รู้สึกโกรธขึ้นทันที แต่ก็แค่นั้นไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้อีกต่อไป
“ใครมันเป็นคนปิดประตูดินแดนวะ?!”
ในตอนนี้ใบหน้าของทูตอาณาจักรเซียนบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง ไม่ทราบว่าใครที่เป็นคนปิดประตูของอาณาจักรไว้
ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านไม่สามารถวิ่งหนีได้อีกต่อไปเพราะความเหน็ดเหนื่อย เขาเกลียดชังคนจากสามพันแคว้นเหตุไฉนคนพวกนั้นถึงปิดประตูอาณาจักร?
“สุนัขเฒ่าอย่าวิ่งมาให้ข้าจับตัวซะดีๆ!” สือฮ่าวตะโกนจากด้านหลังเปลวไฟที่รุนแรงพุ่งพล่าน
ทุกคนพูดไม่ออกนี่ ... หรือเขาจะจับทูตคนนี้กินจริงๆ?
“สหายเต๋าอย่าวิ่งอีกเลยเจ้าไม่เห็นหรือว่าประตูของอาณาจักรปิดแล้ววันนี้พวกเราจะพักผ่อนอยู่ที่นี่!” เฉาอวี่เซิ่งเตือนเด็กหนุ่มสาวจากอาณาจักรเซียน
บุคคลเหล่านั้นกัดฟันแน่นด้วยความโกรธทุกคนมองไปที่เฉาอวี่เซิ่งด้วยความเกลียดชังจากนั้นพวกเขาก็รีบวิ่งไปด้วยความเร็ว
แต่เมื่อเห็นประตูดินแดนปิดอยู่จริงๆ ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนสีไปทันทีมีใครบางคนที่ไม่สามารถวิ่งได้อีกต่อไปเขาล้มลงกับพื้นและนั่งอย่างหมดสภาพอยู่ตรงนั้น
สาเหตุแรกเป็นเพราะพวกเขากลัวอย่างที่สองเพราะพวกเขาหมดแรง!
ในหมู่พวกเขามีผู้ฝึกตนหญิงสองคนที่ยืนอยู่ได้แต่ใบหน้าของพวกนางซีดเผือดไร้สีสัน ในเวลานี้สิ่งมีชีวิตชั่วร้ายจากอาณาจักรด้านล่างไล่ตามมาทันแล้ว
“สหายเต๋าอย่าไล่ตามเราอีกต่อไปเลยข้าขอร้องล่ะ ข้าเชื่อว่าต้องมีความเข้าใจผิดระหว่างเราอย่างแน่นอน!”
ทูตคนนั้นหันกลับมาเช็ดเหงื่อบนหน้าผากและเผยรอยยิ้มที่ดูขัดตามากกว่าการร้องไห้เสียอีก
อะไรคือหน้าตาอะไรคือความสง่างาม? ตอนนี้ทุกอย่างถูกโยนออกไปนอกหน้าต่าง!
“เข้าใจผิดอะไร! เอาหมัดของข้าไปกิน!” สือฮ่าวกระแทกหมัดไปด้านหน้าความว่างเปล่าถูกฉีกออกจากกันเป็นริ้ว
ความแข็งแกร่งของเขาแม้แต่กฎของอาณาจักรแห่งความว่างเปล่าก็ยังไม่สามารถรองรับได้
แน่นอนว่าในขณะนี้ผู้อาวุโสทั้งสองยังคงเกาะอยู่บนร่างกายของสือฮ่าวราวกับลิงคู่หนึ่ง