ตอนที่6(อ่านฟรี) จื่อหมิง ชายหนุ่มผู้สมบูรณ์แบบ
ตอนที่6 จื่อหมิง ชายหนุ่มผู้สมบูรณ์แบบ
เมื่อฟ่งฟ่ง ลงจากรถประจำทางก็ค่ำและมืดมากแล้ว แต่ฟ่งฟ่ง ก็เดินกลับไปที่บ้านของเธอด้วยความเคยชิน ในขณะที่เดินในซอยเปลี่ยวรู้สึกเหมือนมีคนเดินตามเธอจึงหยุดและหันกลับไปมองปรากฏว่าไม่มีแม้แต่ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาแม้แต่คนเดียว
เธอจึงเร่งฝีเท้าให้เดินเร็วขึ้น แต่ฟุ้งๆไม่กล้าแม้จะหันไปมองและเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่อยู่จากด้านหลังก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เธอจึงวิ่งและใครคนนั้นก็วิ่งตามเธอและวิ่งอ้อมจากด้านหลันมาหยุดต่อหน้าของเธอ ฟ่งฟ่ง จึงกรีดร้องสุดเสียงของเธอ แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าคนที่วิ่งตามเธอมาคือ จื่อหมิง
"เธอวิ่งหนีฉันทำไมกัน ฉันแค่ล้อเล่น"จื่อหมิง พูดด้วยเสียงที่เหนื่อยหอบ
เมื่อเงยหน้าขึ้นฟ่งฟ่ง อดไม่ได้ที่จะตีจื่อหมิง :"จื่อหมิง ทำอะไรของนายน่ะ ฉันเกือบจะหัวใจวายตายแล้วนะรู้ไหม"
"ฉันขอโทษฉันเพียงแค่จะเดินตามมาส่งเธอเท่านั้น"จื่อหมิง กล่าวขอโทษ ฟ่งฟ่ง
"ไม่ฉันจะไม่ยกโทษให้นายเด็ดขาด นายรู้ไหมฉันกลัวแค่ไหน"ฟ่งฟ่ง เดินหนีไป แต่จื่อหมิง ก็ยังคงวิ่งตาม
"ฉันขอโทษ"
"ฉันขอโทษ"
"ฉันขอโทษ
"ฉันขอโทษ"
จื่อหมิง กล่าวขอโทษฟ่งฟ่ง หลายครั้ง เพียงครู่เดียว ฟ่งฟ่ง ก็หายโกรธ
"โอเค ฉันยกโทษให้อันที่จริงแล้วนายคือผู้มีพระคุณของฉัน นายช่วยฉันหลายต่อหลายครั้ง" ฟ่งฟ่ง ไม่สามารถโกรธ จื่อหมิง ได้
เธอยังซาบซึ้งใจเสมอเมื่อครั้งที่ จื่อหมิง เคยช่วยเธอไว้จากเหล่าอันธพาลที่เคยพยายามจะล่วงเกินเธอเมื่อหลายปีที่แล้ว
"ถ้าอย่างนั้นเธอต้องยิ้มก่อน เธอยังทำหน้าบึ้งอยู่เลย" จื่อหมิง บีบที่แก้มทั้งข้างของ ฟ่งฟ่ง เบาๆ
"โอ๊ย!ฉันเจ็บนะ "ฟ่งฟ่ง พูดพร้อมกับไล่ตี จื่อหมิง ราวกับว่าพวกเขายังอยู่ในวัยเด็ก
………
"ถึงบ้านแล้ว เธอเข้าบ้านไปได้แล้ว"จื่อหมิง พูดพร้อมกับหยิบกล่องของขวัญเล็กๆส่งให้ ฟ่งฟ่ง
"ว้าว!นี่อะไรของขวัญวันเกิดของฉันอย่างนั้นหรือแต่มันผ่านมาหลายวันแล้วนะ"ฟ่งฟ่ง ทำตาโตเมื่อเห็นกล่องของขวัญนั้น
"ใช่ฉันลืมวันเกิดของเธอ และเธอโกรธอีกหรือเปล่า" จื่อหมิง พูดเสียงเบาลง
"นายคือเพื่อนที่ดีกับฉันที่สุดและก็ดีกับฉันมาตลอดฉันจะโกรธนายได้ยังไง" ฟ่งฟ่ง กอดแขน จื่อหมิง อย่างสนิทสนมโดยที่เธอไม่ได้คิดอะไรเกินเลย
แต่เมื่อ ฟ่งฟ่ง ทำเช่นนี้จื่อหมิง มีอาการเขินอายเล็กน้อยแต่เขายังคงเก็บอาการไว้ เมื่อมีสาวสวยมาถูกเนื้อต้องตัว ชายหนุ่มอย่าง จื่อหมิง ย่อมหัวใจเต้นแรงเป็นธรรมดา แต่เขาก็ไม่อาจคิดเกินเลยกับ ฟ่งฟ่ง ได้ เพราะกลัวว่าเธอไม่ได้คิดตรงกับเขา
"เข้าบ้านเถอะ"จื่อหมิง พูดอีกครั้ง
ฟ่งฟ่ง จึงโบกมือและค่อยๆเดินถอยหลังเข้าบ้านไป
.……….
ที่บ้านของ จื่อหมิง
ด้าน จื่อหมิง เมื่อเข้ามาในบ้านของเขา เวลาเวลานี้ทุกคนในบ้านอยู่กันอย่างพร้อมหน้าและกำลังดูรายการวาไรตี้
"ดูอะไรกันครับ ทำไมบ้านเราดูแต่ ทีวีช่องนี้ล่ะครับแม่" จื่อหมิง นั่งลงที่โซฟาและถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"ก็สถานีโทรทัศน์นี้เป็นของเพื่อนพ่อ" หลินอิง แม่ของ จื่อหมิง ตอบ
" ที่รัก บ้านนั้นเขาก็ซื้อเพนท์เฮ้าส์ของเราทุกโครงการ คุณอย่าลืมสิ " หลินหยุนกัง พ่อของจื่อหมิง กล่าว
"จื่อหมิง แล้วพรุ่งนี้อย่าลืมว่าลูกก็ต้องเข้าร่วมการประชุมด้วย มันถึงเวลาที่ลูกต้องเรียนรู้งานสำคัญแล้ว"หลินหยุนกัง กล่าว
หลินหยุนกัง ได้วางแผนทุกอย่างสำหรับอนาคตไว้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าลูกชายคนโตของเขาก็ประสบความสำเร็จแล้วเช่นกัน และที่สำคัญเขาไม่เคยบีบบังคับลูกเหมือนครอบครัวที่ร่ำรวยอีกหลายครอบครัว แต่ก็ยังคงมีความเป็นห่วง จื่อหมิง อยู่บ้างตามประสาคนเป็นพ่อ
"ครับ ผมก็เตรียมพร้อมไว้แล้วเหมือนกัน "
"แต่พ่อคิดว่าผู้ถือหุ้นคนอื่นๆจะยอมรับผมอย่างนั้นหรือครับ พวกเขาคงให้เหตุผลว่าผมยังเด็กเกินไปกับตำแหน่งรองประธาน" จื่อหมิง รู้สึกกังวลเล็กน้อย
"ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นและที่สำคัญนี่ก็ปีสุดท้ายที่ลูกก็จะเรียนจบแล้ว " หลินหยุนกัง ตบไหล่ จื่อหมิง เบาๆ
"แต่พอเชื่อมั่นอย่างนั้นผมก็จะทำให้เต็มที่ครับ"จื่อหมิง ยิ้มอย่างสบายใจขึ้น เขาลุกขึ้นและเดินตรงไปที่ห้องนอนของเขา
จื่อหมิง เกิดและเติบโตในครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ตลอดชีวิตของเขาแทบจะไม่เคยพบเจอกับอุปสรรคใดๆเลย
แต่ถึงอย่างนั้นจื่อหมิงก็ยังคงใช้ชีวิตที่เรียบง่ายในวันปกติของเขาเขาจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าธรรมดา เขาไม่นิยมของแบรนด์เนม และเขาจะใช้สินค้าฟุ่มเฟือยเหล่านี้ในบางโอกาสเท่านั้น
ถึงแม้เขาจะเป็นทายาทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เขาก็ยังคงใช้จ่ายประจำวันด้วยเงินจากการทำงานพาร์ทไทม์ ของเขาเอง
จื่อหมิง เป็นสุภาพบุรุษและที่สำคัญเขาเชื่อฟังพ่อแม่ของเขาเขาไม่เคยเกเรหรือทำให้พ่อแม่ต้องหนักใจ ด้วยเหตุผลนี้ครอบครัวของเขาจึงให้อิสระในการใช้ชีวิตแก่เขาเช่นกัน
…..…….
บริษัท ไทม์ทาวน์คอมพานี
ห้องประชุมได้ถูกเตรียมพร้อมไว้สำหรับการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี แล้ววันนี้เป็นครั้งแรกที่จื่อหมิง ต้องเข้าร่วมประชุมในฐานะรองประธานบริษัท
ด้วยวัยเพียง 21 ปีของจื่อหมิง เขายังมีความกังวลว่าอาจจะมีผู้ถือหุ้นบางรายที่ยังขาดความเชื่อมั่นในตัวเขา ดังนั้นวันนี้เขาจึงเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี
เมื่อถึงประตูบริษัท จื่อหมิง เดินเข้าไปพร้อมบอดี้การ์ดอีก 2 คน และเขาแต่งกายด้วยสูทแบรนด์เนม และนาฬิกาหรู ซึ่งพนักคนในบริษัทหลายคนไม่เคยชินกับรูปลักษณ์แบบนี้ของเขา
ก่อนนี้เมื่อเข้ามาเรียนรู้งานที่บริษัท เขามักจะแต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตขาวและกางเกงยีนส์ ส่วนรองเท้าก็เป็นเพียงรองเท้าผ้าใบเท่านั้น
เมื่อจื่อหมิง เดินมาพนักงานหลายคนในบริษัทถึงกับตกตะลึง รูปร่างสูงโปร่งไหล่ที่กว้างใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ได้สะกดสายตาสาวๆพนักงานหลายคน
"ว้าว!นั่นลูกชายคนรองของท่านประธานใช่รึเปล่า"
"เมื่อเขาอยู่ในชุดสูทแบรนด์เนมแล้วดูดีมากว่าไหม"
"แต่เดิมทีเขาก็หล่อมากอยู่แล้ว ฉันเคยเจอเขาบ่อยๆตอนเข้ามาฝึกงานที่แผนกเรา"
"แต่วันนี้ทำไมเขาดูเป็นทางการ หรือว่าในบริษัทเราจะมีการเปลี่ยนแปลง"
"ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เยี่ยมไปเลยฉันจะได้เห็นหน้าเจ้านายที่หล่อเหลาทุกวัน"
"ใช่..ดูรอยยิ้มของเขาสิ เหมือนทั้งโลกมีแต่ความสุขภายใต้รอยยิ้มนั้น
"ดูสิ..เขาสมบูรณ์แบบเกินไปฉันไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขา"
"ถึงแม้เขาจะเป็นทายาทของท่านประธาน แต่พวกคุณรู้ไหมว่า เขายังคงทำงานพาร์ทไทม์มาตลอดอีกด้วย ผมเคยเจอเขาบ่อยๆ
"ช่างดีจริงๆ เขาโชคดีมากที่เกิดมาเป็นลูกของท่านประธานและท่านประธานก็เป็นคนใจดีมากเช่นกัน"
มีเสียงพูดคุยเบา ๆ ของกลุ่มพนักงานตลอดทางที่เขาเดินผ่านตั้งแต่ประตูไปจนถึงลิฟท์
ใจความของการพูดคุยทั้งหมดเต็มไปด้วยคำชื่นชมและทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาสมบูรณ์แบบมากจริงๆ
โดยเฉพาะรอยยิ้มของเขาสะกดสายตาพนักงานสาวหลายคน ให้เคลิบเคลิ้มได้เพียงเสี้ยวนาทีที่เขาหันไปมองพวกเธอก่อนเดินเข้าไปลิฟท์เพื่อไปที่ห้องประชุม