เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 193
ตอนที่ 193
“เจ้าตัวบัดซบ! หอเทพอัคคีของข้าจะต้องตามล้างแค้นและทำลายตระกูลของเจ้าจนย่อยยับ! เจ้าเป็นใครกัน!?” วิญญาณของหัวหยุนคงบาดเจ็บ และความเจ็บปวดที่มันได้รับนั้นมากมายเสียจนอยากตายไปให้พ้นๆ!
“ข้าคือท่านปู่ของเจ้า” หลินซวนหยอกล้ออีกฝ่าย
ในยามที่หัวหยุนคงหลบหนีไป ดวงวิญญาณของมันมีบาดแผลฉกรรจ์ มันเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและบ้าคลั่ง
และสิ่งที่ทำให้มันแค้นเคืองอย่างถึงที่สุดคือป่าไผ่สวรรค์อัสนีม่วงที่เคลื่อนไหวสร้างค่ายกลมาโดยตลอดกลับหยุดทุกอย่างลงเสียดื้อๆ
ส่วนทางด้านเทือกเขาสูงใหญ่ถูกทำลายจนหมดสิ้น ราชวังที่ถูกเก็บซ่อนไว้เบื้องบนจึงเผยโฉมออกมา รวบถึงลักษณะทั้งหมดของท้องฟ้าด้านบนเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
เมฆสายฟ้าดำมืดจางหายไป กลายเป็นเมฆขาวลอยอ้อยอิ่งและปราณม่วงกระจายอยู่เต็มท้องนภา
หลังจากความพยายามอย่างหนัก ผลผลิตที่มันทุ่มเทแรงกายแรงใจลงไปกลับไปตกอยู่ในเงื้อมมือของผู้อื่น
นี่คือสิ่งที่หัวหยุนคงพบเจอ ณ ขณะนี้
สติสัมปชัญญะทั้งหมดใกล้เลือนหาย และชีพจรแห่งเต๋าก็เริ่มเลือนราง แม้ว่ามันจะรู้สึกไม่ยินยอมเพียงใด แต่ทุกสิ่งที่มันพยายามลงไปก็ไร้ค่า ไม่ว่าจะดิ้นรนเท่าไหร่ มันก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นได้ มันทำให้เพียงยอมถูกขนนกเพลิงจากเครื่องรางปกป้องพาดวงวิญญาณที่บอบช้ำของมันลอยหายไป!
ในเวลาเดียวกัน บริเวณทางเข้าของแดนลึกลับที่ผู้คนทั้งหลายโดยรอบกำลังถกเถียงกันอยู่
ในช่วงที่ผ่านมา มีรุ่นเยาว์ไม่มากนักที่ถูกส่งออกมา และเกือบทั้งหมดเป็นคนจากหอเทพอัคคี
นี่ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหมู่ผู้บ่มเพาะ อย่างไรเสีย หอเทพอัคคีก็เป็นกองกำลังชั้นยอดของอาณาเขตสงคราม อำนาจของพวกมันน่าหวั่นเกรงยิ่งนัก
“ในแดนลึกลับเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่? ดูเหมือนว่ายังมีอัจฉริยะชั้นยอดของหอเทพอัคคีอีกสี่คงที่คงอยู่ด้านในใช่หรือไม่? หรือว่าพวกมันจะสามารถเอาชนะยอดคนไร้เทียมทานผู้นั้นลงได้?”
“ก็ไม่แน่ อัจฉริยะไร้ผู้ต้านที่พวกเราไม่เคยพบเจอน่าหวั่นเกรงเกินไป คนผู้นั้นเก็บซ้อนความสามารถของตนเองมาเนิ่นนานเพียงใดกัน? หรือจริงๆ แล้วเขาหวังจะครอบครองสมบัติทั้งหมดของแดนลึกลับไว้เพียงผู้เดียว?”
“หากเป็นเช่นนั้น อัจฉริยะทั้งหลายอาจจะประสบชะตาเดียวกันกับคนของหอเทพอัคคีก็เป็นได้ จากความสามารถของเขา เขาย่อมต้องต่อกรกับรุ่นเยาว์ระดับหัวกะทิของกองกำลังที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างแน่นอน!”
“หอเทพอัคคีช่างโชคร้ายยิ่งนัก ข้าคิดว่าพวกเขาได้รับเหยื่อล่อ ไฉนเลยจึงกลายเป็นการเชื้อเชิญอสูรดุร้ายเข้าไปอาละวาดในพื้นที่ของตนเช่นนี้”
สีหน้าของผู้อาวุโสและผู้พิทักษ์รุ่นเยาว์จากหอเทพอัคคีทั้งหลายต่างอัปลักษณ์ยิ่ง ในอดีตพวกมันเป็นตัวตนยิ่งใหญ่และน่าหวาดผวาในสายตาของกองกำลังอื่นมาเสมอ เหตุใดจึงกลายเป็นเพียงหินรองเท้าให้ผู้อื่นเช่นนี้?
ทว่า ปัจจุบัน สถานการณ์กลับตาลปัตรไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้พวกมันแทบอยากจะเอากระบี่มาแทงตนเองให้ตกตายหนีความอับอายไปเสีย
ตาแก่ของหอเทพอัคคีที่รับหน้าที่ในการดูแลรุ่นเยาว์ซึ่งถูกส่งเข้าไปสำรวจแดนลึกลับถึงขั้นกระอักเลือดและหมดสติไป
เป็นเพราะผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ร้ายแรงจนเกินไป! ต้องรู้ก่อนว่ารุ่นเยาว์ทั้งหลายที่พวกมันส่งเข้าไปในแดนลึกลับเป็นอัจฉริยะซึ่งคือความหวังในอนาคตของหอเทพอัคคีทั้งสิ้น!
แม้ว่าพวกมันบางคนจะได้รับเครื่องรางป้องกันวิญญาณ แต่พลังอำนาจจากนัยน์ตาหยินหยางของหลินซวนนั้นสูงส่งจนทำลายวิญญาณของพวกมันไปบางส่วน และนั่นจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในเส้นทางการบ่มเพาะของรุ่นเยาว์ทั้งหลายในอนาคต
อย่าได้กล่าวถึงการใช้แดนลึกลับแห่งนี้เพื่อเพิ่มระดับความสามารถและพรสวรรค์ กระทั่งจะให้ความเร็วในการบ่มเพาะของพวกมันกลับมาเท่าเทียมกับก่อนหน้านี้ได้ยังเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญเสียด้วยซ้ำ หลังจากนี้พวกมันย่อมถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างแน่นอน
ทันใดนั้นเอง ร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงทางเข้าแดนลึกลับ
เป็นกลุ่มขนนกสีแดงเพลิงที่พุ่งออกมาและกำลังมุ่งหน้าไปยังนาวาศึกของหอเทพอัคคี
บัดนี้ ผู้คนโดยรอบกำลังแตกตื่น ดูเหมือนว่าจะมีอัจฉริยะจากหอเทพอัคคีตกตายลงอีกแล้ว!
จากการคาดการณ์ของผู้บ่มเพาะทั้งหลาย จำนวนวิญญาณที่ถูกส่งออกมาของหอเทพอัคคีมีจำนวนมากเสียจนพวกมันน่าจะเหลือกำลังคนด้านในอีกเพียงแค่สามคนเท่านั้น
ทว่า ไฉนเลยพวกเขาจะรับรู้ความจริงที่อัจฉริยะทั้งหมดของหอเทพอัคคีทั้งหมดถูกสังหารจนหมดสิ้นแล้ว!
“หยุนคง หยุนคง... เหตุใดจึงเป็นเจ้าที่กลับมา? แล้วสหายอีกสามคนเล่า? พวกเขาสังหารศัตรูลงได้แล้วหรือ?” เมื่ออาวุโสของหอเทพอัคคีได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เสียงของมันสั่นเทาในระหว่างที่กำลังเอ่ยถาม
หลังประโยคนั้นถูกกล่าวออกมา ผู้คนทั้งหมดต่างตื่นตะลึงไปทันที
วิญญาณดวงนั้นเป็นของหัวหยุนคง อัจฉริยะอันดับที่สองของหอเทพอัคคีจริงหรือ? ต้องรู้ก่อนว่าอันที่จริงแล้วหัวหยุนคงคืออัจฉริยะที่ติดอยู่ในระดับห้าสิบสุดยอดรุ่นเยาว์ของอาณาเขตสงคราม แต่บัดนี้มันกลับถูกสังหารและส่งกลับมาเพียงดวงวิญญาณที่ถูกปกป้องด้วยเครื่องรางเท่านั้น?
นี่ทำให้เปลือกตาของผู้คนทั้งหมดกระตุกอย่างรุนแรง พวกเขาแทบมิอาจทำใจให้เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นได้!
ต้องรู้ก่อนว่าหัวหยุนคงผู้นั้นเป็นผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานอย่างแท้จริง ในแดนลึกลับแล้ว มันคือยอดฝีมือที่สามารถสยบผู้อื่นจนได้รับพื้นที่ด้านในมาเป็นของตนเองได้
สิ่งนี้ทำให้สีหน้าของกองกำลังโดยรอบต่างแปลกประหลาดยิ่งนัก และดวงวิญญาณทั้งหลายที่ถูกส่งออกมาก่อนหน้านี้จู่ๆ ก็กรีดร้องขึ้นอย่างแตกตื่น
“หยุนคง เหตุใด... เหตุใดดวงวิญญาณของเจ้าจึงไม่สมบูรณ์?”
แม้ว่าเสียงจากวิญญาณเหล่านั้นจะมิได้ดังมากมาย แต่ผู้คนโดยรอบกลับได้ยินอย่างชัดเจน อย่างไรเสีย พวกเขาก็เป็นผู้บ่มเพาะที่มีระดับไม่ธรรมดา ประสาทสัมผัสทั้งหมดย่อมเฉียบคมยิ่งนัก
นี่ทำให้เกิดความปั่นป่วนอย่างรุนแรงขึ้น
ตาแก่ของหอเทพอัคคีได้กางม่านพลังป้องกันการดักฟังออกมาโดยรอบเพื่อมิให้มีผู้ใดแอบได้ยินสิ่งที่พวกมันพูดคุยกันต่อจากนี้
พวกมันเสียหน้าไปมากมายยิ่งนัก หากข่าวนี้แพร่ออกไป พวกมันต้องกลายเป็นตัวตลกให้ตระกูลอื่นเยาะเย้ยถากถาง และหอเทพอัคคีไม่ต้องการจะเสียหน้าไปถึงระดับนั้น
“อ๊าก!”
หากว่าไม่มีผู้ใดเอ่ยถามขึ้นมาสถานการณ์ก็ยังเป็นปกติ แต่เมื่อมีคำถามเกิดขึ้น หัวหยุนคงก็พบว่าความทรงจำของมันโกลาหลยิ่งนัก และที่มากไปกว่านั้นคือมันถึงกับไม่สามารถจดจำเรื่องที่เกิดได้อย่างชัดเจนอีกต่อไป!
มันกระเสือกกระสนดิ้นรนจนหนีออกมาได้โดยหวังจะให้นิกายของคนเป็นผู้ช่วยล้างแค้น แต่มีหรือที่มันจะคาดคิดว่าตนเองลืมเลือนใบหน้าของศัตรูไปเช่นนี้ นี่ทำให้มันแทบจะเสียสติด้วยความโกรธแค้น!
กล่าวตามตรง ไม่มีผู้ใดที่รอคอยรุ่นเยาว์ของตระกูลตนอยู่ด้านนอกเป็นผู้อ่อนแอ แม้ว่าบางส่วนจะมีระดับการบ่มเพาะที่ไม่สูงมากนัก แต่พวกเขาล้วนเป็นคนที่มาจากกองกำลังขนาดใหญ่ และบางคนก็เป็นทายาทสายตรงของตระกูล
ข่าวคราวเรื่องของหอเทพอัคคีนั้นราวกับติดปีกบินได้ มันแพร่กระจายออกไปและก่อให้เกิดความปั่นป่วนมหาศาล
อัจฉริยะที่ไม่เคยถูกค้นพบมาก่อนกลับปรากฏตัวขึ้น ยิ่งกว่านั้น ในตอนที่เขาปรากฏตัวออกมา ก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬาร!
เขาเป็นใคร? ไม่มีตระกูลใดรับรู้ว่าอัจฉริยะผู้นั้นมาจากที่ใดแม้แต่น้อย เขาถึงขั้นสยบคนเกือบทั้งหมดของหอเทพอัคคีและสังหารอัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่ติดอันดับหนึ่งในห้าสิบสุดยอดฝีมือเยาว์วัยของอาณาเขตสงครามลงได้!
“เหตุใดข้าจึงคิดว่าอัจฉริยะคนนั้นย่อมต้องเป็นผู้ที่มาจากสำนักศึกษาของอาณาเขตกลางกัน?” มีบางคนคาดเดา
และเหตุการณ์นั้นทำให้เกิดความแปรปรวนไปทั่วทุกพื้นที่ ผู้คนต่างถกเถียงกันอย่างไม่จบสิ้น
ต้องรู้ก่อนว่าสำนึกศึกษาจากอาณาเขตกลางนั้นรับศิษย์ที่เป็นอัจฉริยะจำนวนมากในทุกปี พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือรุ่นเยาว์จากอาณาเขตทั้งหมด
“เจ้าต้องรู้ก่อนว่าเรื่องเช่นนี้ย่อมมีโอกาสเกิดขึ้นได้... อย่างไรเสียกองกำลังขนาดยักษ์ที่ทรงอำนาจเช่นสำนึกศึกษาย่อมผลิตอัจฉริยะออกมาจำนวนนับไม่ถ้วน หากว่าเขามาจากตระกูลธรรมดาแล้ว ชื่อเสียงย่อมมิอาจเก็บงำมาได้เนิ่นนานถึงเพียงนี้!”