(ฟรี) บทที่ 30 พี่สาวเฉียวได้ไปโรงเรียนมัธยมต้นอันดับหนึ่ง
เฉียวเว่ยหมินเล่าให้เธอเกี่ยวกับเรื่องการย้ายโรงเรียนของเฉียวเนี่ยน ไปยังโรงเรียนมัธยมปลายอันดับหนึ่ง ในตอนท้ายเขาพูดอย่างจริงจังว่า "ผมรู้เกรดของเด็กคนนั้น ตอนที่อยู่โรงเรียนเก่า เกรดของเธอก็อยู่ในระดับปานกลาง ถ้าเธอย้ายไปเรียนมัธยมปลายอันดับหนึ่ง ผมกลัวว่าเธอจะตามไม่ทันจนล่าช้า นอกจากนี้ เชินเชินยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมต้นอันดับหนึ่งอยู่ด้วย สองพี่น้องคงจะกระทบกระทั่งกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..."
เขาไม่ต้องการให้เฉียวเนี่ยนไปเรียนที่โรงเรียนมัธยมปลายอันดับหนึ่ง มันน่าอับอายสำหรับเขา!
แม้ว่าทุกคนในแวดวงจะรู้ว่าเฉียวเนี่ยนไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของเขา แต่เฉียวเนี่ยนก็ยังเป็นคนที่ออกมาจากตระกูลเฉียวเสมอ หากเกิดปัญหา พวกเขาก็ยังคงเกี่ยวข้อง
ระหว่างทางกลับ เชินเชินและเพื่อนร่วมชั้นของเธอก็พูดคุยกันเกี่ยวกับการดําน้ำเพื่อช่วยคนของเฉียวเนี่ยน
เฉียวเชินเกือบลืมไปเลย เฉียวเนี่ยนช่วยต่อลมหายใจเด็กที่จมน้ำ และฝังเข็มให้เด็กที่จมน้ำด้วย!
เฉียวเนี่ยนรู้อะไรเกี่ยวกับการฝังเข็มบ้าง!
ถ้ามีคนตายขึ้นมา เธอจะชดใช้ยังไง!
เมื่อพ่อแม่มีปัญหาที่สถานีตํารวจ พวกเธอจะยิ่งอับอายขายหน้าที่จะตามไปด้วย!
เฉียวเว่ยหมินเม้มริมฝีปาก และพูดอย่างตรงไปตรงมา "อาจารย์เฉิน คุณดูสิ คุณช่วยพูดกับฝ่ายวิชาการได้ไหม?"
## ❤️
"เรื่องการโยกย้ายนักเรียน..." เสียงของเฉินซีที่ปลายสายโทรศัพท์มือถือเจือแววรู้สึกอับอาย
คิ้วของเฉียวเว่ยหมินขยับเล็กน้อย เขาถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า "มีอะไรรึเปล่าอาจารย์เฉิน?"
"คุณเฉียว เรื่องนี้เกรงว่าฉันคงช่วยคุณไม่ได้"
เขาแปลกใจเล็กน้อย "ยังไงครับ?"
"เรื่องการย้ายนักเรียนจะถูกตัดสินโดยอาจารย์ใหญ่ ฉันได้ยินมาว่าสมาชิกในครอบครัวของนักเรียนที่ถูกย้ายมีส่วนร่วมอย่างมากต่อประเทศ และโรงเรียนไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธนักเรียนประเภทนั้น ในฐานะอาจารย์ตัวเล็กๆ ฉันไม่มีคุณสมบัติที่จะบอกว่าเธอไม่ได้รับอนุญาตให้เรียนในโรงเรียนมัธยมปลายอันดับหนึ่ง"
ใบหน้าของเฉียวเว่ยหมินหมองคล้ำเล็กน้อย เมื่อเขานึกถึงสิ่งที่แม่ตัวเองพูดเกี่ยวกับปู่ของเฉียวเนี่ยน ที่ดูเหมือนจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวาดภาพจีน และยังรู้ถังเวยด้วย
เขาอาจมีส่วนช่วยในการศึกษาของเมืองลั่วเหอจริงๆ
เฉียวเว่ยหมินค่อนข้างจะรำคาญ เป็นแค่ครูต่างจังหวัด แต่ไม่คิดว่าจะยุ่งยากขนาดนี้
"อาจารย์เฉิน คุณทำอะไรไม่ได้เลยเหรอ?"
เฉียวเชินได้เกรดดีในชั้นเรียน และได้รับรองโดยมหาวิทยาลัยศิลปะการแสดง เฉินซีรู้สึกเขินอายเล็กน้อย เธอครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "เอาล่ะ คุณเฉียว จะมีการทดสอบวัดระดับสำหรับนักเรียนที่ย้ายมาแน่นอน ถ้าเธอได้รับมอบหมายให้เรียนคลาส B ฉันจะหาวิธีบอกผู้อำนวยการ เพื่อให้เธอไปที่อื่นเป็นสิ่งเดียวที่ฉันจะทำได้ นอกจากนั้นก็ไม่มีแล้ว"
เฉียวเว่ยหมินวางสาย เฉียวเชินและเหออวี้เจวียนต่างก็รออยู่ที่ห้องนั่งเล่น เมื่อเห็นว่าเขาไม่เรียกขาน เฉียวเชินก็ซ่อนความคาดหวังเอาไว้ไม่ได้
"คุณพ่อ อาจารย์ประจําชั้นของหนูพูดอะไรบ้างคะ?"
เฉียวเว่ยหมินถอนหายใจและขมวดคิ้ว "ปู่ของพี่สาวลูกเป็นครูเก่า และเธอก็จได้ไปเรียนโรงเรียนมัธยมปลายอันดับหนึ่ง ลูกแค่ต้องติดต่อกับเธอในโรงเรียนให้น้อยลง และพ่อคิดว่าลูกทำไม่ได้ ในการเข้าสู่ชั้นเรียน มันง่ายมากที่จะเจอ"
คลาส S อยู่ที่ชั้นสาม ในขณะที่คลาส B และ คลาส A อยู่บนชั้นเดียวกัน
เฉียวเชินคิดว่าเธอสามารถใช้เส้นสายจากตระกูลบอกโรงเรียนได้ว่าอย่าปล่อยให้เฉียวเนี่ยนมาเรียนที่โรงเรียนมัธยมปลายอันดับหนึ่ง เมื่อฟังเฉียวเว่ยหมินพูดว่าเฉียวเนี่ยนยังคงไปได้ เฉียวเชินซ่อนความผิดหวังบนใบหน้าไว้ไม่ได้ แต่เธอก็ยังพูดอย่างเสแสร้ง
"สภาพแวดล้อมโรงเรียนมัธยมปลายอันดับหนึ่งมากดี แม้ว่าพี่สาวจะเรียนได้เฉพาะคลาส S แต่ก็ดีกว่าการเรียนในเมืองลั่วเหอ"
ใบหน้าที่ผอมบางของเหออวี้เจวียนดู เหอวี้เจวียนดูใจร้ายเป็นพิเศษ เธอเคาะไม้ค้ำแล้วพูดอย่างเย็นชาฮึ❗️"ยิ่งจน ยิ่งเหนียว จะไม่มีผ้าพันแผลให้หนังสุนัข!"
...
เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าเกิดอะไรชึ้นกับตระกูลเฉียว เธอเล่นโน้คบุ๊กชั้นบนแล้วก็ลงไปกินข้าว
วันถัดมา
เวลาช้าตรู่ เฉียวเนี่ยนเพิ่งลุกขึ้นมา
เธอเช้ามีการทดสอบวัดระดับในตอนเช้า และต้องเข้าร่วมอย่างเป็นทางการ
เธอไม่มีอะไรให้นำมา เธอจึงเก็บทุกอย่างไว้ พกโทรศัพท์มือถือ เทเม็ดลูกอมเม็ดเล็กๆ ออกจากกล่องหมากฝรั่งแล้วออกไป
PS: ขอแจ้งให้เพื่อนักอ่านทราบว่า ทีมแปลเรื่องนี้ เป็นนักเรียนม.ปลายจีน และผู้ตรวจเป็นอ.จีน และที่ปรึกษาเป็นคนจีนนะครับ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็ขอความกรุณาจุนเจือกันด้วยนะครับ ติชมกันได้ไม่มีปัญหาเลย ( -/|\-)( -/|\-)( -/|\-)