Ep.115 - อาชีพมรดกขั้น 1
1/4
Ep.115 - อาชีพมรดกขั้น 1
[หินสกิลสายผลิต : การเล่นแร่แปรธาตุขั้นต่ำ] สีขาวคุณภาพสูง หลังใช้งานจะสามารถทำการเล่นแร่แปรธาตุขั้นต่ำได้ เงื่อนไขการเรียนรู้ : ไม่มี
[เกราะโซ่นักบวชเนโครแมนเซอร์] อุปกรณ์เลเวล 4 สีขาวคุณภาพกลาง พลังป้องกันทางกายภาพ+5 ป้องกันเวทย์+5 เจตจำนง+2 ค่าความทนทาน20 (ต้องใช้หินคริสตัลขาวสิบสองก้อนในการนำกลับสู่โลกมนุษย์)
[หินคริสตัลขาว]×8
[หินคริสตัลเทา]×15
เจียงหนานหยิบไอเท็มในหีบสมบัติออกมาทีละชิ้น สีหน้าเธอแสดงถึงความผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด “คราวนี้ดูเหมือนจะโชคไม่ดี ถึงได้หินสกิลมา แต่ดันเป็นแค่สายการผลิต”
“ไม่หรอก ถึงคุณภาพของมันจะสู้โลงสมบัติในวิหารเนโครแมนเซอร์ไม่ได้ก็ตาม แต่ไอเท็มในหีบสมบัตินี้ถือว่าไม่เลวเลย”
เจียงหนานกลัวว่าจะทำให้พี่มหาเทพผิดหวัง แต่พอได้ยินฮังอวี่พูดแบบนั้น เธอก็โล่งอก
ฮังอวี่จะผิดหวังได้อย่างไร? ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ผิดหวัง ตรงกันข้าม เขาเซอร์ไพรส์มาก! เพราะหินสกิลเล่นแร่แปรธาตุดรอป!
แม้มันจะเป็นเพียงหินสกิลสายการลิตระดับต่ำ แต่ประเด็นที่ควรทราบก็คือ ในบรรดาสกิลสายการผลิตอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสกิลรวบรวมวัตถุดิบระดับต่ำ , สกิลกลั่นยาระดับต่ำ , สกิลหลอมอาวุธระดับต่ำ , สกิลทำฟาร์มระดับต่ำ ฯลฯ
ทั้งหมดล้วนเป็นหินสกิลสีเทา
มีเฉพาะหินสกิลเล่นแร่แปรธาตุระดับต่ำเท่านั้นที่เป็นสีขาว!
จากจุดนี้จะเห็นได้ว่า หินสกิลเล่นแร่แปรธาตุนั้นเป็นอะไรที่หายากมากกว่าชิ้นอื่นๆในระดับเดียวกัน!
คุณค่าของหินสกิลก้อนนี้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าชิ้นส่วนมรดกเลย
ปัจจุบันมีผู้เล่นสายการผลิตเยอะมากในเจียงเฉิง แต่มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่มีสกิลพรสวรรค์เฉพาะทางในการเล่นแร่แปรธาตุ
และสำหรับตัวฮังอวี่ เขากล้าพูดเลยว่า ถ้ามีสกิลกลั่นยากับสกิลเล่นแร่แปรธาตุให้เลือกเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง เขาย่อมเลือกเรียนสกิลเล่นแร่แปรธาตุ
การเล่นแร่แปรธาตุมีความสำคัญต่อเขามาก
ฮังอวี่ไม่พบหินสกิลเล่นแร่แปรธาตุวางขายในแผ่นศิลาเล่นแร่แปรธาตุของเนโครแมนเซอร์ ตอนนั้นบอกตามตรงเขารู้สึกผิดหวังมาก ไม่นึกฝันเลยว่ามันจะดรอปลงที่นี่!
เจ้าสิ่งนี้จะช่วยให้เขาพัฒนาไปได้ไกลและรวดเร็วขึ้นมาก
หีบสมบัติตั้งอยู่ในปลายทางของสวนแห่งความมืด ตอนนี้ไม่เหลืออะไรให้ทำอีกแล้ว
ศึกนี้มีปีศาจเห็ดศพถูกสังหารทั้งสิ้น 11 ตัว แต่พวกมันดรอปคัมภีร์สกิลเพียง 4 ม้วน และหินคริสตัลขาว 12 ก้อนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ฮังอวี่ใช้เทคนิครวบรวมวัตถุดิบ ได้สปอร์ดำและสปอร์พิษจากศพพวกมันมาอีกกว่า 20 หน่อ
ซึ่งสปอร์ดำเหล่านี้น่าจะเพียงพอแล้ว
ฮังอวี่แจกจ่ายสินสงครามที่ริบได้ให้แก่เจียงหนานทันที
เจียงหนานไม่ขออะไรมาก เธอหยิบคัมภีร์สกิลไปเพียงม้วนเดียว หินคริสตัลขาว 5 ก้อน และเกราะโซ่นักบวชที่ได้จากหีบสมบัติ มีแค่นี้ที่เธอต้องการ ส่วนที่เหลือยกให้ ฮังอวี่ทั้งหมด
เจียงหนานรู้สึกได้ว่าระหว่างล่ามอนสเตอร์ ฮังอวี่คอยดูแลเธออย่างดี และศึกนี้สามารถพาเธอทะยานสู่เลเวล 4 ดังนั้นไม่ต้องการส่วนแบ่งอะไรมากมาย
สำหรับเธอแค่เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
ด้านหวังเอ๋อ ครั้งนี้มันมีส่วนร่วมไม่น้อย ฮังอวี่ย่อมไม่พลาดให้รางวัล เขามอบผลไม้พลังจิตที่ยังเหลือจากการล่าจากต้นไม้ผู้พิทักษ์ให้มันกิน
เอฟเฟกต์ของผลไม้พวกนี้สามารถช่วยเพิ่มขีดจำกัดค่าพลังจิตได้ แต่สำหรับหวังเอ๋อ มันไม่ได้ช่วยแค่เพิ่มขีดจำกัดพลังจิตเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มแต้มวิวัฒนาการได้อีกด้วย
ฮังอวี่นำหวังเอ๋อเข้าไปในมิติสัตว์ววิญญาณ
เขากับเจียงหนานกลับมายังวิหารเนโครแมนเซอร์ ซื้อคัมภีร์จากแผ่นศิลา
ฮังอวี่เป็นมหาเศรษฐี เขาซื้อคัมภีร์เทเลพอร์ตทีเดียว 15 ม้วน และมีดบินธาตุไฟอีกชุดหนึ่ง เผื่อไว้เพราะอาจไม่มีโอกาสได้กลับมาที่นี่อีก
“กลับกันเถอะ”
ฮังอวี่และเจียงหนานเปิดใช้งานคัมภีร์เทเลพอร์ต ทั้งสองถูกส่งกลับไปยังค่ายก็อบลิน
การกลับมาของทั้งสอง ดึงดูดความสนใจของผู้คนโดยรอบทันที
ฮังอวี่ปรากฏกายในชุดเซ็ทสุดเท่ ส่วนเจียงหนานตอนนี้เธอเปลี่ยนมาใส่ชุดสีขาวเลเวล 4 และสร้อยคอเลเวล 4 แล้ว
เนื่องจากเกราะโซ่ของนักบวชที่เปิดได้จากหีบสมบัติเป็นชุดเกราะเต็มตัว ใส่แล้วคลุมยาวลงมาถึงต้นขา แม้จะยังเผยให้เห็นน่องขาวๆราวหิมะ แต่ก็เหมือนชุดเดรสทั่วไป สามารถขจัดความกระอักกระอ่วนที่ไม่ได้ใส่กางเกงของเธอได้
ค่าโบนัสคุณสมบัติของชุดเกราะเต็มตัวนี้ แม้เทียบกับการสวมใส่อุปกรณ์สองชิ้น(เกราะ + กางเกง) มันจะไม่ได้สูงอะไร แต่อย่างน้อยมันก็ยังเป็นอุปกรณ์สีขาวอ่อนเลเวล 4 ดีกว่าอุปกรณ์ทั่วไปมาก
โชคดีที่เวลานี้คนในค่ายส่วนใหญ่ออกไปสู้กับมอนสเตอร์ จึงไม่ค่อยมีคนอยู่ มิฉะนั้นคงเป็นที่ฮือฮาไม่น้อย
ฮังอวี่รู้สึกไม่ค่อยดีที่เป็นเป้าสายตาเกินไป ปัญหาใดที่หลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง เขาเดินไปยังแผ่นศิลาขายอุปกรณ์ของค่ายก็อบลิน จ่าย 3 หินคริสตัลเทาเพื่อซื้ออุปกรณ์สีเทาขุ่นเลเวล 1 ‘เสื้อคลุมวัชพืชสภาพชำรุด’ มาสวมใส่
เจ้าสิ่งนี้ไม่ช่วยเพิ่มโบนัสคุณสมบัติ เรียกได้ว่าเป็นแค่ขยะ
อย่างไรก็ตาม เสื้อคลุมสามารถปกปิดอุปกรณ์ที่สวมใส่ได้ ช่วยให้มันสะดุดตาน้อยลง นอกจากนี้สีของเสื้อคลุมยังใกล้เคียงกับสีของป่า จึงช่วยกลบเกลื่อนได้ดีกว่าเดิม
เวลานี้ หวังเอ๋อทราบข่าวแล้วจึงรีบตรงมาหาเขา
“ลูกพี่ ในที่สุดคุณก็กลับมา! รู้ไหมคนที่ต้องข่มใจรอมันทรมานขนาดไหน!”
“หยุดพูดเพ้อเจ้อ ไหนล่ะหินสกิล?”
“นี่ไง เอาไปดู”
ฮังอวี่หยิบหินสกิลเทคนิคความกลัวออกมาแลกเปลี่ยนกับหินสกิลตาเหยี่ยวของหวังฉง ทั้งสองต่างแสดงสีหน้ายิ้มแย้มยินดี และเรียนรู้สกิลทันที
สกิลตาเหยี่ยวไม่มีเงื่อนไขใดๆ ไม่จำเป็นต้องจ่ายแต้มวิญญาณ สามารถเรียนรู้ได้โดยตรง
[เทคนิคตาเหยี่ยว] (ชิ้นส่วนมรดกของนักสอดแนม) เลเวลสกิล1 แต้มวิญญาณ 0/15 จ่ายพลังจิต 1 หน่วยในทุกๆวินาที เพื่อสังเกตการณ์บริเวณโดยรอบผ่านมุมมองเบื้องบ ระยะเวลาใช้งานสูงสุด 5 วินาที ระยะเวลาคูลดาวน์ 30 วินาที
ล่องหน , ขว้างอาวุธ , ตาเหยี่ยว สกิลมรดกทั้งสามในที่สุดก็มาอยู่รวมกันพร้อมหน้า
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆในตัวฮังอวี่ นั่นเพราะเทคนิคตาเหยี่ยวยังเป็นเลเวล 1 อยู่ เขาต้องอัพเลเวลทั้ง 3 สกิลให้เต็มเสียก่อน จึงจะรับมรดกสืบทอดได้
สกิลล่องหนกับสกิลขว้างอาวุธเต็มแล้ว ส่วนการอัพเลเวลตาเหยี่ยวต้องการแต้มวิญญาณที่ต่ำมาก แค่ 15 แต้มเพื่ออัพเลเวล 2 และ 35 แต้มเพื่ออัพไปเลเวล 3 รวมทั้งสิ้ง 60 แต้มเท่านั้น
ขณะที่ฮังอวี่มีแต้มวิญญาณสะสมในตัวมากถึง 150 แต้ม ดังนั้นไม่ใช่ปัญหาเลย
สกิลตาเหยี่ยวถูกอัพเลเวล 3 ภายในวินาทีเดียว
ฮังอวี่สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายเขาทันที
ความสามารถของสกิลทั้งสามค่อยๆผสานเข้ากับร่างกายเขา จนในที่สุดระเบิดเอฟเฟกต์ที่ทรงพลังออกมา มีข้อมูลและพลังใหม่เพิ่มขึ้นในร่างกายเขา
“คุณได้รับมรดกนักสอดแนม”
เสียงที่คุ้นเคยและน่าเกรงขามดังขึ้นในใจเขา
เมื่อเปิดแถบข้อมูลส่วนตัว ปรากฏว่าทั้งสามสกิลหายไปแล้ว
ทั้งหมดถูกหลอมรวมเข้ากับอาชีพมรดก ‘นักสอดแนม’ แล้วอีกอย่างเอฟเฟกต์ของพวกมันได้รับการอัพเกรดไปอีกขั้น
[มรดกนักสอดแนม] ความว่องไวเพิ่มขึ้นถาวร +2 , ค่าพลังชีวิตเพิ่มขึ้นถาวร+2 ค่าพลังจิตเพิ่มขึ้นถาวร+2 , ความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นถาวร+0.5
[ล่องหนเวอร์ชั่นอัพเกรด] สกิลเลเวล 3 , จ่าย 7 หน่วยพลังจิตเพื่อเข้าสู่สถานะล่องหน ความเร็วในการเคลื่อนที่+6 ระยะเวลาร่ายสกิล 0.5 วินาที ระยะเวลาใช้งานสูงสุด 45 วินาที ระยะเวลาคูลดาวน์ 60 วินาที
[ขว้างอาวุธเวอร์ชั่นอัพเกรด] เลเวลสกิล 3 , จ่าย 3 หน่วยพลังจิต เพื่อทำการขว้างปาอาวุธ ดาเมจที่เกิดขึ้นคิดตามสัดส่วนพละกำลัง และการโจมตีทางกายภาพของอาวุธ ระยะสังหาร 35 เมตร ระยะเวลาคูลดาวน์ 0.5 วินาที
[ตาเหยี่ยวเวอร์ชั่นอัพเกรด] เลเวลสกิล 3 , จ่าย 2 หน่วยพลังจิตต่อวินาที เพื่อเปิดใช้งานโหมดสอดแนม หรือตรวจจับศัตรูเลเวลต่ำในมุมมองปกติได้ ระยะเวลาใช้งานสูงสุด 10 ระยะเวลาคูลดาวน์ 30 วินาที
ถึงแม้นี่จะเป็นแค่อาชีพมรดกขั้น 1 แต่เอฟเฟกต์ที่เสริมเข้ามานั้นทรงพลังมาก! แค่เฉพาะโบนัสคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นถาวรจากการสืบทอดมรดก ก็มากพอราวกับว่าฮังอวี่มีอุปกรณ์ชนิดพิเศษสวมใส่เพิ่มเข้ามาอีกชิ้นหนึ่ง
นอกจากนี้สกิลมรมดกอย่างขว้างอาวุธและล่องหนยังได้รับการอัพเกรดให้ใช้งานได้ไวขึ้น นานขึ้น และไกลขึ้น!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสกิลตาเหยี่ยวเลเวล 3 เดิมเวลาใช้งานมันจะต้องเปิดโหมดสอดแนม สามารถตรวจสอบในมุมมองเบื้องบนเพื่อสังเกตพื้นที่เป็นวงกว้างเท่านั้น ทว่าเมื่ออัพเกรด กลับเพิ่มมุมมองในการตรวจสอบขึ้นมาอีกหนึ่ง
มันช่วยให้สายตามองเห็นได้ดีขึ้น เสริมวิสัยทัศน์และเพิ่มความสามารถในการตรวจจับเป้าหมายที่มองไม่เห็นหรือพรางตัวอยู่
ในฐานะสัตว์วิญญาณของฮังอวี่ หวังเอ๋อรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มันร้องตะโกนในมิติสัตว์วิญญาณ “ฮ่ง! เจ้านาย พลังรบของเจ้านายเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว ขอแสดงความยินดีด้วย ขอแสดงความยินดี!”
สรุปโดยรวมแล้ว นี่มันแทบเหมือนกับการอัพเลเวลไปอีกระดับหนึ่งเลย นับเป็นการก้าวกระโดดเชิงคุณภาพอย่างแท้จริง!
และนี่เองคือเหตุผลที่ฮังอวี่ต้องการหินสกิลตาเหยี่ยวเป็นอย่างยิ่ง
ระหว่างเรียนรู้สกิลมรดกจากหลากหลายอาชีพแบบกระจาย กับการตั้งใจเสาะหาสกิล มุ่งเรียนรู้มรดกเดียวกัน อย่างหลังให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเป็นอย่างมาก!
และเมื่อคุณสามารถสืบทอดมรดกได้แล้ว จะได้รับโบนัสค่าคุณสมบัติเพิ่มเติมทันที เสริมพลังรบไปอีกขั้น
เป้าหมายของฮังอวี่ลุล่วงแล้ว ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอยู่ในค่ายอีก
ตอนนี้เขามีเมือกพลังงานอยู่ในมือเพียงพอแล้ว เช่นเดียวกับสปอร์ดำที่พึ่งรวบรวมมา
ฮังอวี่ทุ่มเทพยายามสะสมทั้งสองสิ่งนี้เพื่ออะไรน่ะหรือ?
ก็เพื่อเตรียมรับมือศึกหน้าอันแสนสาหัส แล้วรอรับผลกำไรมหาศาลอย่างไรเล่า!
ตอนนี้ทุกอย่างเตรียมการพร้อมแล้ว!
“ไปเถอะ ไปภูเขามอนสเตอร์หมูป่า รวมตัวกับลุงจ้าว!”