ตอนที่ 897+898 สืบ
ตอนที่ 897 สืบ
หลังจากเจียงเจี๋ยพูดจบเขาก็เดินไปที่ห้องของเจียงเหยา เขาคิดว่าเจียงเหยาดูเหมือนจะร้องไห้ ตอนที่เธอวิ่งออกไป
เมื่อเจียงเหยาและเจียงเล่ยทะเลาะกัน เธอจะร้องไห้โดยไม่อาย เธอจะร้องไห้อยู่ในห้องของเธอครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะหยุดร้องในที่สุด
"อา เธอยังอารมณ์เสียอยู่เลย ฉันคิดว่าอารมณ์ของเธอจะเย็นลงหลังจากที่แต่งงานแล้วเสียอีก ฉันไม่คิดว่าพี่รองของเธอจะยั่วยุเธอแบบนั้น"
เจียงเจี๋ยสังเกตเห็นว่าดวงตาของน้องสาวยังแดงอยู่ เขาถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ "พี่รองของเธอกำลังโกรธ อย่าได้ถือสาเลยน่า"
"เขาไม่ใช่พี่รองของฉันอีกต่อไปแล้ว เขาไม่ให้ฉันเรียกเขาว่าพี่รอง จากนั้นไป พี่เป็นพี่ชายคนเดียวของฉัน" เจียงเหยาโกรธมาก
"ปกติเธอก็ไม่เรียกเขาว่าพี่รองอยู่แล้วนี่ เธอมักจะเรียกเขาว่าเจียงเล่ยอยู่เสมอไม่ใช่เหรอ เหยาเหยาลองคิดในมุมหนึ่งนะ เธอคิดว่าหยางเกาซู่ไม่ดีพอสำหรับพี่รองของเธอใช่ไหม แต่เขาตกหลุมรักผู้หญิงคนนั้น ก็น่าสงสารแล้ว ทำไมเธอยังโกรธเขาอยู่อีกล่ะ"
หวังเซียนไม่รู้จะขัดจังหวะคำพูดปลอบโยนของเจียงเจี๋ยได้อย่างไร เธอไม่รู้จะพูดอะไร โชคดีที่เจียงเล่ยไม่ได้มาได้ยินด้วย ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะระเบิดอีกครั้ง
"ถ้าเจียงเล่ยไม่ขอโทษฉัน ฉันจะเพิกเฉยต่อเขา" เจียงเหยาสูดลมหายใจ เธอโกรธเจียงเล่ยจริง ๆ
"อืม ลืมเขาไปได้เลย" เจียงเจี๋ยยิ้ม เขารู้สึกหมดหนทางเล็กน้อย ราวกับว่าพี่น้องของเขาเกิดมาเป็นศัตรูกัน ทั้งสองคนทะเลาะกันมาตั้งแต่เด็ก และทำให้เขาปวดหัวเสมอ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้พวกเขาจะทะเลาะกัน เจียงเล่ยก็ยังสนใจน้องสาวของเขาตั้งแต่ยังเด็ก พวกเขาไม่เคยทะเลาะกันขนาดนี้
หลังจากที่เจียงเหยาสงบลง เธอก็ปลอบให้เจียงเจี๋ยและหวังเซียนออกไปจากห้องของเธอ ทันทีที่พวกเขาออกไปแล้ว เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาอาลู่ทันที เธอต้องการให้เขาช่วยเธอหานักสืบเอกชน เธอต้องการสืบเองระหว่างหยางเกาซู่กับชายในเมือง บางทีเธออาจจะพาเจียงเล่ยไปที่นั่นเพื่อให้เขาได้เห็นกับตาของเขาเอง ดีกว่าปล่อยให้หยางเกาซู่ทำเรื่องยากสำหรับพวกเขา
เธอจะไม่ให้เกียรติผู้หญิงไร้ยางอายอย่างหยางเกาซู่แต่อย่างใด
เธอไร้ยางอายยิ่งกว่าเฉินหลานอิงเสียอีก
มองไปที่ชาม แต่กลับคิดถึงหม้อ เหลือเกินจริง ๆ!
แต่เจียงเหยาไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะต้องปิดบังอาลู่เมื่อเธอโทรหาเขา เธอยังคงสูดจมูก เห็นได้ชัดว่าเธอเพิ่งจะร้องไห้ หลังจากที่อาลู่ได้รับโทรศัพท์จากเธอ เขาไม่รีบร้อนที่จะหานักสืบเอกชน แต่เขาโทรหาลู่ชิงสีที่กองทัพก่อน
"มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า" ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติ อาลู่จะไม่โทรหาเขา ดังนั้นปฏิกิริยาแรกของลู่ชิงสีคือมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเจียงเหยา
"คุณชายลู่ ประธานเจียงโทรหาผม และขอให้ผมตรวจสอบเรื่องของแฟนพี่รองของเธอ ที่ชื่อหยางเกาซู่ เธอดูเหมือนกำลังร้องไห้ตอนที่โทรหาผมด้วยครับ" ลู่ชิงสีบอกให้เขาใส่ใจกับอารมณ์ของเจียงเหยาอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจโทรหาชายคนนั้น
"เธอร้องไห้เหรอ" ลู่ชิงสีขมวดคิ้ว และหัวใจของเขากระตุก "ตรวจสอบเรื่องนี้ที"
ใครกันที่กล้าทำให้ภรรยาของเขาร้องไห้ พวกเขาคิดจะฆ่าตัวตายหรือ
"รับทราบครับ" อาลู่ตอบรับและรีบวางโทรศัพท์ เขาจะตรวจสอบเรื่องนี้
เขาไม่ได้ติดตามเจียงเหยา เพราะที่นั่นเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่เขายังคงอยู่ในเมือง และรอคำสั่งของเจียงเหยา เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใครทำให้เธอร้องไห้
__
ตอนที่ 898 วิธีสอนลูกของเขา
เจียงเหยาและเจียงเล่ยเพิกเฉยต่อกันระหว่างทานอาหารเย็น นั่นเป็นครั้งแรกที่พวกเขาทะเลาะกันถึงขนาดนี้ พ่อแม่ของพวกเขารู้ว่าการทะเลาะกันจริงจังเมื่อเห็นสัญญาณ
พี่น้องทั้งสองไม่มีความอยากอาหารเพราะทะเลาะกัน เจียงเล่ยกินข้าวเพียงสองคำก่อนที่เขาจะออกจากโต๊ะ เจียงเหยาก็ทำเช่นเดียวกัน เมื่อเธอเห็นพฤติกรรมของพี่ชายเธอ
นางเจียงรู้สึกปวดหัวเมื่อเห็นเช่นนั้น "ฉันไม่รู้ว่าหยางเกาซู่ทำอะไร เพื่อให้ลูกชายฉันหลงใหล เธอเป็นคนที่สร้างปัญหาเสียจริง นี่ยังไม่ได้แต่งงานเข้ามาเสียด้วยซ้ำ แต่ได้สร้างความแตกแยกระหว่างลูก ๆ ของฉันแล้ว"
"แม่ครับ เจียงเล่ยเขารักเจียงเหยา เขาแค่โกรธและไม่อยากจะสนใจเธอในตอนนี้เท่านั้น บางทีพรุ่งนี้ความโกรธของเขาอาจจะลดลง เหยาเหยาจะไปเมืองจินในอีกไม่ช้าแล้ว เพียงแค่รอดูก็พอ เจียงเล่ยจะทำยังไงต่อ" เจียงเจี๋ยไม่กังวล เขารู้จักน้องของเขาดีพอ
ไม่ใช่ว่าพี่น้องสองคนไม่เคยทะเลาะกันเมื่อยังเด็ก มันไม่รุนแรงเท่าครั้งนี้ แต่เจียงเล่ยจะง้อเธอก่อนเสมอ เขาโกรธง่ายแต่หายเร็ว เขาไม่สามารถความระงับโกรธได้นานกว่าสามนาที หลังจากนั้นเขามักจะพาเจียงเหยาไปที่แม่น้ำและตกปลา ปีนต้นไม้ และขุดหาไข่นก
แน่นอน นางเจียงรู้ดีว่าลูกชายขอเธอจะไม่โกรธลูกสาวของเธอนานจนเกินไป แต่เธอก็อารมณ์ไม่ดีเพราะเหตุการณ์ในบ่ายวันนี้ เธอหันไปมองหวังเซียนและความโกรธของเธอก็ลดลงเล็กน้อย เธอยกย่องลูกชายของเธอ "ถ้าน้องชายของลูกเป็นอย่างลูกก็ดีสิ เราจะได้สบายใจ แม่ไม่ได้หวังว่าเขาจะแต่งงานกับใครสักคนที่ดีเท่ากับภรรยาของลูกหรอกนะ แต่เราจะโล่งใจถ้าเธอดีพอ ๆ กับครึ่งหนึ่งของหวังเซียน"
"แม่ อย่ากังวลมากเกินไปเลยครับ" เจียงเจี๋ยยิ้มเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาหันไปมองหวังเซียนซึ่งยังคงกินอยู่เงียบ ๆ นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน และสว่างราวกับแสงจันทร์บนท้องฟ้า
ใบหน้าของหวังเซียนรู้สึกร้อนจากการจ้องมองของเจียงเจี๋ย เธอเตะเจียงเจี๋ยเบา ๆ ใต้โต๊ะ ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ว่าเขาควรหยุดจ้องเธอได้แล้ว เจียงเจี๋ยละสายตาของเขาและคีบอาหารชิ้นหนึ่งให้กับหวังเซียน
ความทุกข์ในใจของพ่อแม่ส่วนใหญ่หายไปเอพวกเขาเห็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าลูกจะร่ำรวยและมีอำนาจ พวกเขาต้องการชีวิตที่สงบสุขเพียงเท่านั้น
"ยังไงก็ตาม หยางเกาซู่ของอะไรจากลูกจริง ๆ เหรอ" นายเจียงหันไปถามหวังเซียน
หวังเซียนพยักหน้า "ใช่ค่ะ เธอขอขวดน้ำหอม ลิปสติก และเสื้อโค้ตของหนูด้วย"
"ชิ หน้าด้านขนาดนี้เลยเหรอ" แม่เจียงเยาะเย้ย "ฉันสงสัยว่าครอบครัวหยางสอนลูกสาวมายังไง"
เมื่อกล่าวถึงพฤติกรรมโลภและใจแคบของหยางเกาซู่ นางเจียงก็นึกถึงลูกสาวของตัวเองและรู้สึกภาคภูมิใจยิ่งขึ้นไปอีก "เหยาเหยาของเราไม่เคยเอาของของคนอื่น แม้แต่ตอนที่เธอยังเด็ก และเธอไม่เคยขอของของคนอื่น ครอบครัวของเราเคยยากจน และเราไม่สามารถซื้อของอร่อย ๆ ให้พวกเขาทั้งสามคนได้ มีคนในหมู่บ้านแกล้งเหยาเหยาด้วยการเอาขนมมาล่อ เห็นได้ชัดว่าเธอชอบกินมัน ถึงกันกลืนน้ำลายของเธอ แต่เธอก็หันหลังกลับและจากไป เธอไม่กินดีกว่าของสิ่งที่ครอบครัวของเธอไม่สามารถซื้อให้ได้"
นางเจียงมีความกระตือรือร้นมากเมื่อเธอพูดถึงเจียงเจี๋ยและเจียงเล่ย
"เช่นเดียวกันกับลูกชายทั้งสองคน ตอนนั้นอายุเพียงไม่กี่ขวบ ฉันพาพวกเขาไปเดือนเล่นในเมือง ลูก ๆ ของคนอื่นร้องไห้และตะโกนอยู่หน้าแผงขายขนม แต่ลูกทั้งสามเดินตามฉันมาอย่างเชื่อฟัง และไม่รบกวนฉันเลย"
นางเจียงรู้สึกภูมิใจเมื่อพูดเกี่ยวกับเรื่องนั้น แต่เธอก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย พวกเขาไม่มีเงินซื้อขนมให้ลูก ๆ แต่พวกเด็ก ๆ กลับมีเหตุผล