MDB ตอนที่ 138 อาณาจักรวิญญาณอัคคีของเซว่เป่าเอ๋อร์
ภายในสมาพันธ์นักบวช สนามประลอง
หลัวเป่ยเหอยืนอยู่ข้างหน้าด้วยท่าทางภาคภูมิใจบนใบหน้าของเธอ ผู้ที่ยืนอยู่ข้างหน้าเธอมีสาวกมากมายภายใต้การดูแลของเธอและตรงแถวหน้าคือเซว่เป่าเอ๋อร์
เซว่เป่าเอ๋อร์ สาวกหมายเลขสองของสมาพันธ์นักบวชของเมืองเมเปิ้ล เธอเป็นศิษย์ของหลัวเป่ยเหอ
นอกจากเซว่เป่าเอ๋อร์แล้ว หลัวเป่ยเหอยังมีศิษย์อีกหลายคนเช่นกัน มีคนมากกว่าร้อยคนที่เข้าแถวอย่างเป็นระเบียบพร้อมกับสัตว์เลี้ยงของพวกเขา
“ศิษย์ของข้าทุกคนจะต้องผ่านการประเมินภายในทุกเดือน ประเพณีนี้มีมาหลายปีแล้วและจุดประสงค์ของมันคือเพื่อให้กำลังใจพวกเจ้า เพื่อให้พวกเจ้าทุกคนเข้าใจว่ามีคนทำงานหนักกว่าพวกเจ้าอยู่เสมอ พวกเจ้าจงใช้โอกาสนี้เพิ่มพูนประสบการณ์ของพวกเจ้า”
แม้จะอายุเกินสามสิบแล้วแต่หลัวเป่ยเหอก็ยังดูเหมือนหญิงสาววัยยี่สิบต้น ๆ ใบหน้าของเธอ โดยแทบไม่แสดงร่องรอยของความชราเลย
หลังจากที่เธอประกาศจบ ก็มีสายลมพัดมาข้างหลังเธอและเงาก็ตกลงมาจากท้องฟ้า
มันคือนกกระเรียนขาว
นกกระเรียนยืนสูงกว่าสองเมตร ดูสง่างามเป็นพิเศษ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือสัตว์เลี้ยงที่ทำพันธสัญญาโลหิตของหลัวเป่ยเหอ
อากาศเย็นจัดล้อมรอบนกกระเรียน ด้วยการกระพือปีกข้างหนึ่ง เกล็ดหิมะเริ่มตกลงมาจนทุกคนประหลาดใจ
“กฎยังคงเป็นเหมือนเดิม พวกเจ้าจะผลัดกันสั่งสัตว์เลี้ยงของพวกเจ้ามาต่อสู้กับนกกระเรียนขาวตัวนี้ พวกเจ้าจงจำไว้ว่าใช้ทักษะที่ดีที่สุดที่พวกเจ้ามี ข้าจะสังเกตและประเมินพัฒนาการของพวกเจ้าในเดือนนี้” หลัวเป่ยเหอสั่งอย่างเข้มงวด
ในฐานะที่เป็นศิษย์ชั้นนำของหลัวเป่ยเหอ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เซว่เป่าเอ๋อร์จะไปก่อน
“เป่าเอ๋อ เริ่มได้เลย!” หลัวเป่ยเหอกล่าว
เซว่เป่าเอ๋อร์ก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางที่จริงจังและคำนับหลัวเป่ยเหอ หลังจากนั้นเธอก็สั่งให้หมาป่าอัคคีกลายพันธุ์โจมตีนกกระเรียนขาว
สำหรับพวกสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกมันต่อสู้กันเอง ดูเหมือนว่านกกระเรียนขาวจะดูเย่อหยิ่งอย่างเห็นได้ชัด ตัวมันไม่เกรงกลัวหมาป่าอัคคีกลายพันธุ์แม้แต่น้อยและทางหลัวเป่ยเหอก็ไม่ได้เสริมพลังให้เจ้านกกระเรียนเช่นกัน
ในฐานะที่ปรึกษา มันเป็นเรื่องปกติสำหรับสัตว์เลี้ยงของเธอที่จะเป็นสัตว์วิเศษที่ทรงพลัง หากเธอใช้คาถา มันจะดูเหมือนว่าเธอกำลังกลั่นแกล้งศิษย์ของเธอแทน
ดังนั้นเธอจึงยอมให้นกกระเรียนขาว 'ทดสอบ' ศิษย์ของเธอเสมอโดยไม่ต้องใช้พรเสริมพลังใด ๆ
“เสี่ยวชิงไม่ต้องกลัว ไปเลย!” เซว่เป่าเอ๋อร์ร่ายคาถาระเบิดสายลมเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับสัตว์เลี้ยงของเธอ ลมกระโชกแรงห้อมล้อมหมาป่าของเธอและความเร็วของเจ้าหมาป่าก็เพิ่มขึ้นอย่างน้อยหนึ่งเท่า
ในระหว่างนั้น หลัวเป่ยเหอก็ขมวดคิ้ว “เป่าเอ๋อร์ พลังวิญญาณของเจ้าอยู่ที่หินวิญญาณ 27 ก้อนเท่านั้นและระเบิดสายลมใช้หินวิญญาณไป 7 ก้อน เจ้าจะไม่สามารถร่ายคาถาได้มากกว่าสามคาถาหลังจากนี้ เจ้าคิดจะทำอะไร?”
เซว่เป่าเอ๋อร์ยิ้มตอบ “อาจารย์ไม่ต้องห่วง ข้าเข้าใจดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ ขอให้อาจารย์ดูต่อเถอะเจ้าค่ะ”
เมื่อเห็นว่าเธอมั่นใจแค่ไหน หลัวเป่ยเหอยิ้มอย่างอ่อนโยนและไม่ถามอีก
เซว่เป่าเอ๋อร์เป็นศิษย์ที่เธอให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ดังนั้นเธอจึงเข้มงวดกับเธอมาก สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เป็นเพราะว่าเซว่เป่าเอ๋อร์มีบุคลิกที่น่ารักน่าชังมากจริง ๆ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะเอ็นดูเธอ
นอกจากนี้ เซว่เป่าเอ๋อร์มีทักษะในการทำความเข้าใจที่น่าทึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงคาถา เธอเก่งที่สุดในบรรดาศิษย์ทั้งหมดที่หลัวเป่ยเหอเคยสอน
หากทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น หลัวเป่ยเหอตั้งใจที่จะอบรมโดยตั้งเป้าให้เซว่เป่าเอ๋อร์เป็นผู้สืบทอดของเธอ
หลังจากการโจมตีครั้งแรก เซว่เป่าเอ๋อร์หาจังหวะร่ายเวทย์เสริมพลังครั้งที่สองกับหมาป่าอัคคีกลายพันธุ์ของเธอ
“อาณาจักรวิญญาณอัคคี!”
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เซว่เป่าเอ๋อร์ร่ายไว้ไม่ใช่ 'แสงอัคคี' แบบดั้งเดิมที่ใช้สำหรับอาณาจักรวิญญาณอัคคี
ในฐานะอาจารย์ หลัวเป่ยเหอรับทราบเรื่องนี้ดี
'ทำไมคาถาอาณาจักรวิญญาณอัคคีของเป่าเอ๋อร์จึงแตกต่างออกไป' หลัวเป่ยเหอขมวดคิ้ว
คาถาเช่นอาณาจักรวิญญาณอัคคี มันเป็นคาถาโจมตีและเสริมประสิทธิภาพสัตว์เลี้ยงไปในตัว มันเป็นของคาถาระดับสูงกว่าและใช้พลังวิญญาณเป็นจำนวนมาก จะต้องใช้พลังวิญญาณไปประมาณ 15 ก้อน พวกสาวกหลายคนไม่สามารถใช้คาถานี้ได้
แม้จะมีหินพลังวิญญาณถึง 27 ก้อนแต่เซว่เป่าเอ๋อร์ก็สามารถใช้ทักษะนี้ได้เพียงครั้งเดียว
ด้วยประโยชน์ที่หลากหลายถือเป็นข้อดีของมัน อย่างไรก็ตาม หลัวเป่ยเหอรู้สึกไม่พอใจเพราะสิ่งที่เซว่เป่าเอ๋อร์เพิ่งแสดงออกมานั้น มันแตกต่างจากสิ่งที่เธอสอนอย่างชัดเจน
ในฐานะอาจารย์ หลัวเป่ยเหอย่อมหวังว่าศิษย์ของเธอจะตั้งใจเรียนและมีความคิดสร้างสรรค์ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องไม่ แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาไม่ควรทำอย่างประมาทเหมือนที่เซว่เป่าเอ๋อร์กำลังทำอยู่ในขณะนี้
คาถาอาณาจักรวิญญาณอัคคีที่เซว่เป่าเอ๋อร์กำลังใช้ มันต้องถูกเซว่เป่าเอ๋อร์ปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่าง ขนาดตัวเธอเองยังไม่กล้าทำหากเธอไม่มั่นใจจริง ๆ แต่เซว่เป่าเอ๋อร์กลับทำมันตั้งแต่อายุยังน้อย ช่างเป็นอะไรที่บ้าบิ่นจริง ๆ!
ดังนั้น หลัวเป่ยเหอจึงตั้งใจจะหยุดการต่อสู้และอบรมเด็กสาวสักเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ด้วยปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็วของเธอ เซว่เป่าเอ๋อร์ได้ทำการร่ายเวทย์เสร็จแล้วและตอนนี้สัตว์เลี้ยงของเธอได้รับพรอาณาจักรวิญญาณอัคคีเรียบร้อยแล้ว
ทันใดนั้น เปลวเพลิงก็ปรากฏขึ้นและคลื่นความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ
ดวงตาของหลัวเป่ยเหอเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ
เปลวไฟบนหมาป่าของเซว่เป่าเอ๋อร์เกือบจะเป็นสีมรกตบริสุทธิ์ การระเบิดของพลังงานทำให้นกกระเรียนขาวของหลัวเป่าเอ๋อร์ถอยกลับโดยไม่รู้ตัว มันควบคุมออร่าของมันเพื่อต่อสู้กับความร้อน
'เป็นไปไม่ได้.'
แม้ว่าอาณาจักรวิญญาณอัคคีจะเป็นคาถาที่ทรงพลัง แต่ก็ไม่ควรทำให้ระดับสูงขึ้น ถ้าหลัวเป่ยเหอไม่ได้ค้นคว้าทักษะนี้ในระดับที่ลึกซึ้ง เธอคงไม่สามารถรับรู้ถึงผลกระทบนี้ว่าเป็นผลมาจากอาณาจักรวิญญาณอัคคี เธออาจจะคิดว่ามันเป็นทักษะระดับที่สูงกว่ามาก
แม้จะอยากรู้อยากเห็นแต่หลัวเป่ยเหอก็ไม่ได้เร่งรัดเอาคำตอบตอนนี้ เธอเลือกที่ชมอย่างเงียบ ๆ ไปก่อน
เซว่เป่าเอ๋อร์รู้สึกตื่นเต้น คาถาที่เธอใช้เป็นสิ่งที่พี่ชายลึกลับได้สอนเธอเมื่อวานนี้ ด้วยสมองที่ปราดเปรื่องและทักษะความเข้าใจอันน่าทึ่งของเธอ หลังจากทั้งคืนแห่งการศึกษาและฝึกฝนอย่างไม่หยุดยั้ง เซว่เป่าเอ๋อร์ก็สามารถใช้มันในการต่อสู้ในวันนี้ได้
“จัดการมันเลย เสี่ยวชิง!” เซว่เป่าเอ๋อร์สั่ง
เมื่อได้รับพรจากระเบิดสายลมและอาณาจักรวิญญาณอัคคี หมาป่าอัคคีกลายพันธุ์ก็พุ่งเข้าหานกกระเรียนขาวของหลัวเป่ยเหอรวดเร็วราวกับพายุ
คุณสมบัติของนกกระเรียนขาวคือน้ำแข็ง
เมื่อเผชิญหน้ากับหมาป่าของเซว่เป่อเหอก็เกิดการปะทะกันของสองธาตุที่ขัดแย้งกัน
ก่อนหน้านี้ เจ้านกกระเรียนไม่เคยต้องใช้ความพยายามใด ๆ เลยเมื่อต้องต่อสู้กับเสี่ยวชิง มันเป็นชัยชนะที่ง่ายดายเสมอมา
ในแง่ของระดับ เมื่ออยู่ที่จุดสูงสุดของระดับสาม นกกระเรียนก็แสดงสัญญาณวิวัฒนาการแล้ว ดังนั้นแค่ออกแรงเบา ๆ มันก็สามารถเอาชนะเจ้าหมาป่าได้อย่างง่ายดาย
แต่คราวนี้สิ่งต่าง ๆ กลับไม่เป็นเช่นเดิม
ทันทีที่เสี่ยวชิงพุ่งออกไป นกกระเรียนขาวก็ถอยห่าง ฝ่ายหลังถึงกับกางปีกออกโดยเริ่มโจมตี
หลังจากการระเบิดอันหนาวเหน็บ หิมะเริ่มโปรยปราย
อุณหภูมิโดยรอบลดลงและสระน้ำด้านหลังนกกระเรียนขาวเริ่มแข็งตัว
อย่างไรก็ตาม นั่นยังห่างไกลจากการหยุดเสี่ยวชิง
เช่นเดียวกับลูกไฟที่ร่วงหล่นผ่านพายุหิมะ เสี่ยวชิงไม่กลัวความหนาวเย็น มันกวัดแกว่งกรงเล็บของมัน ด้วยการกวาดเพียงครั้งเดียว คลื่นไฟสีเขียวพุ่งไปข้างหน้า
เจ้านกกระเรียนไม่สามารถตั้งรับการโจมตีนี้ได้ มันจึงตัดสินใจบินขึ้นไปหลบการโจมตีนี้
ในการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว เสี่ยวชิงได้เปรียบในการต่อสู้อย่างน่าประหลาดใจ
"หยุด!" หลัวเป่ยเหอสั่งยุติการต่อสู้
เซว่เป่าเอร์ดูไม่อิ่มเอมใจแต่เธอไม่กล้าขัดคำสั่งของหลัวเป่ยเหอ
“เป่าเอ๋อร์ เจ้าเรียนรู้อาณาจักรวิญญาณอัคคีจากใคร” ในฐานะที่ปรึกษาของเธอ หลัวเป่ยเหอสามารถบอกได้ชัดเจนว่าคาถาได้รับการดัดแปลงนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เด็กสาวคิดขึ้นมาเอง
แม้ว่าระดับความเข้าใจของเธอจะน่าเหลือเชื่อแต่อาณาจักรวิญญาณอัคคีก็อยู่ในระดับที่สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด มันจึงไม่ใช่สิ่งที่เซว่เป่าอ๋อร์สามารถคิดค้นได้ด้วยตัวเอง ดังนั้น หลัวเป่ยเหอจึงอนุมานว่าเธอต้องได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
เซว่เป่ยเอ๋อร์ดูประหลาดใจและถามว่า “อาจารย์ ท่านทราบได้อย่างไรเจ้าคะ?”
หลัวเป่ยเหอยิ้ม “ข้าจะเรียกตัวเองว่าอาจารย์ของเจ้าได้อย่างไร หากข้าไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเช่นนี้ เอาล่ะ บอกมาได้แล้ว เป็นท่านหยู่โจวหรือท่านหวงฟู?”
ในสมาพันธ์นักบวชของเมืองเมเปิ้ลทั้งหมด มีสองคนที่ที่อยู่เหนือกว่าเธอคือเย่หยู่โจวกับหวงฟูหมิง ตัวเธอนั้นเหนือกว่าที่ปรึกษาคนอื่น ๆ ไม่มากก็น้อย
ดังนั้น หลัวเป่ยเหอจึงค่อนข้างมั่นใจในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม เธอกับต้องประหลาดใจ เมื่อเซว่เป่าเอ๋อร์กลับส่ายหัวออกมา