Ep.109 - มีข้อแม้
2/4
Ep.109 - มีข้อแม้
ต้นกล้าสองต้นถูกปลูกมาเป็นเวลากว่าครึ่งเดือนแล้ว
ตอนนี้ทั้งคู่มีพลังรบอยู่ในเลเวล 4 ชั้นยอดขั้นบรอนซ์
ฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงกลุ่มผู้รุกรานเบื้องหน้า ต่อให้เป็นฮังอวี่เอง หากคิดจัดการมันเพียงลำพังก็ยังเป็นเรื่องยาก
และหากวัดกันในเรื่องพลังรบ เอาจริงๆต้นไม้วิญญาณสองต้นนี้อาจแข็งแกร่งกว่าหวังเอ๋อซะอีก!
ไม่ต้องกล่าวถึงแก๊งของเฟิงกัง กระทั่งโล้นซ่ายังรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย
“หยุด!” เฟิงกังตะโกน
สายตาของฮังอวี่เบนไปทางเขา “โอ้ ในที่สุดหัวหน้าก็ยอมปริปากแล้ว?”
“ฉันรู้ว่าพวกนายแข็งแกร่ง แต่ฉันยังทำใจยอมรับไม่ได้!” เฟิงกังกล่าวเสียงแข็ง
ขณะที่ลูกน้องของเขาต่างกลัวแทบฉี่ราด แต่เฟิงกังกลับกล้าเผชิญหน้าฮังอวี่และเอ่ยท้าทายว่า “ถ้ามีความสามารถจริงพวกเรามาดวลกันตัวต่อตัว ถ้าฉันแพ้ฉันจะยอมรับ!”
ฮังอวี่เอนตัวจากเก้าอี้หวาย สิบนิ้วไขว้กัน ลดคางวางลง “ฉันจะยอมทำตามคำขอก็ได้ แต่มีข้อแม้”
“ข้อแม้อะไร”
“ถ้านายแพ้ ขอให้แก๊งของนายห้ามเข้ามาในชุมชนมังกรฟ้าอีกแม้แต่ก้าวเดียว ไม่อย่างงั้นอย่าหวังว่าจะรอดชีวิตไปได้” ฮังอวี่หยุดพักหนึ่งก่อนเอ่ยต่อว่า “ส่วนนาย นับจากนี้ไปให้ร่วมงานกับโล้นซ่า คอยทำงานให้ฉัน”
ฮังอวี่รู้ข้อมูลของเฟิงกังแล้ว บุคคลผู้นี้แม้มีประวัติอาชญากรรม แต่เป็นคนซื่อสัตย์และน่าเชื่อถือ
อีกฝ่ายแม้ไม่ใช่เจ้านายที่ดี แต่เป็นนักสู้ที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ตอนนี้ ที่พรสวรรค์ในการต่อสู้เป็นสิ่งหายาก
ถึงโล้นซ่าจะไม่เลว แต่ตอนนี้ยังต้องขัดเกลาอีกเยอะ
เฟิงกังตอบอย่างไม่ลังเล “ตกลง!”
ฮังอวี่พยักหน้าให้โล้นซ่า
โล้นซ่าปลดเชือกให้เฟิงกัง แล้วมอบโพชั่นฟื้นพลังชีวิตให้ดื่มทันที อาการบาดเจ็บของเขาหายไปอย่างรวดเร็ว กลับสู่สภาพปกติอีกครั้ง
“มาสู้กัน!”
เฟิงกังปลดปล่อยสกิลพรสวรรค์ ทั้งตัวเขาถูกปกคลุมไปด้วยชั้นแสง
สองวินาทีต่อมา เมื่อแสงจางลง ทุกตารางนิ้วบนผิวหนังของเฟิงกังตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งหมดเปล่งประกายเย็นยะเยือกราวกับโลหะ กระทั่งเส้นผมยังกลายเป็นเข็มเหล็ก ทั้งคนทั้งร่างเปลี่ยนเป็นมนุษย์โลหะ
สกิลพรสวรรค์ ‘กายาเหล็ก’ นี้เป็นสกิลประเภทแปลงร่าง มันไม่เพียงช่วยเพิ่มพูนพลังป้องกันทางกายภาพสูงขึ้นมากเท่านั้น แต่ขณะเดียวกันยังมอบโบนัสเอฟเฟกต์ค่าพละกำลังและร่างกายตามเลเวลที่เพิ่มขึ้น
ซึ่งตอนนี้เฟิงกังไปถึงเลเวล 3 แล้ว!
เอฟเฟกต์สกิลไม่อ่อนอย่างแน่นอน!
ส่วนสาเหตุที่หมาหวังเอ๋อสามารถโค่นเฟิงกังได้อย่างง่ายดาย หลักๆเป็นเพราะลอบโจมตี ไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสเปิดใช้งานสกิลของตัวเอง
ฮังอวี่กำมีดบินในมือ “อืม เป็นสกิลที่ไม่เลว”
“เชิญใช้สกิลขว้างอาวุธมาได้เลย!” เฟิงกังมั่นใจขึ้นมาทันทีหลังจากเปลี่ยนร่าง “เทคนิคนั่นถึงเอาชนะเจ้าเสือดาวได้ แต่ดาเมจน้อยๆจากการขว้างอาวุธ ไม่มีทางทำลายการป้องกันของฉัน เพราะงั้น ...”
ฉึก!
ยังพูดไม่ทันจบ มีดบินพุ่งเข้าใส่หน้าอกเขา ใบมีดแหลมครึ่งหนึ่งจมหายเข้าไปในร่างกาย เลือดไหลออกมาทันที ย้อยไปตามผิวโลหะ บังคับให้เฟิงกังกลืนคำพูดประโยคหลังกลับลงคอไป
ชั่วขณะนี้ เขารู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง!
ขณะเดียวกันคนอื่นๆต่างตกตะลึง!
นี่จะร้ายกาจเกินไปไหม? มีดบินเดียวสามารถทะลุการป้องกันของลูกพี่เฟิงได้!
อย่าลืมสิว่าตอนนี้เทคนิคขว้างอาวุธของฮังอวี่เลเวลเต็ม และตัวเขาเองก็มีเลเวล 4 แล้ว!
เอฟเฟกต์ของมีดบินในตอนใช้กับเสือดาว กับตอนนี้มันคนละเรื่องกัน!
‘เจ้าหมอนี่แข็งแกร่งจริงๆ!’
‘ฉันจะเสียเวลาไม่ได้’
‘ต้องรีบตัดสินแพ้ชนะให้เร็วที่สุด!’
หลังจากเฟิงกังหายจากอาการถูกตบหน้า เขาตระหนักได้ทันทีว่าอีกฝ่ายแก่กล้ากว่าที่ตนคิด
แม้จะเป็นแค่การขว้างมีดบิน แต่ถ้าเล็งดีๆอาจสามารถทำให้ตนถึงตายได้ รู้อย่างงี้แล้วเหล่าแหยจะอยู่เฉยให้ถูกฆ่าได้อย่างไร?
เฟิงกังคำราม ย่อตัวงอเข่า
สมรรถภาพร่างกายของนักรบเลเวล 3 เทียบได้เลยกับกัปตันอเมริกา ตัวเขาพุ่งฉิวราวกับถูกยิงด้วยหนังสติ๊กที่มองไม่เห็น พริบตาเดียวเข้าถึงเบื้องหน้าฮังอวี่ ซัดกำปั้นออกไปอย่างรวดเร็ว
บังเกิดแรงเสียดทานของอากาศ ส่งเสียงแหลมดังหวีดหวิว
กำปั้นของเฟิงกังถูกปกคลุมไปด้วยแสงระยิบระยับ ฮังอวี่สามารถระบุสกิลนี้ได้ในทันที นี่คือหนึ่งในสกิลมรดกของนักสู้ หมัดความไวเสียง!
เป็นสกิลโจมตีที่รวดเร็วมาก แม้พลังโจมตีจะอยู่ในระดับปานกลาง แต่มันไม่มีระยะเวลาคูลดาวน์
ซึ่งหมายความว่าตราบใดที่พลังจิตของเฟิงกังยังไม่หมดสิ้น เขาสามารถรัวการโจมตีต่อเนื่องได้ราวกับพายุฝน เมื่อสกิลนี้คอมโบกับกายาเหล็ก ผลลัพธ์จึงน่าทึ่งมาก
ในขั้นตอนนี้ คงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถยืนหยัดรับมือกับเฟิงกังได้!
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าหมอนี่จึงกล้าส่งหนังสือท้ารบให้เขา ปรากฏว่าพอมีฝีมือจริงๆ!
ฮังอวี่เปิดใช้งานสกิลล่องหน หายวับไปในชั่วพริบตาเดียว
หมัดอันเฉียบคมและดุดันของเฟิงกังจั่วลม สีหน้าเขาแปรเปลี่ยนไป หันมองรอบตัว ค้นหาร่างฮังอวี่
มีรอยเท้าอยู่ตรงนั้น!
เฟิงกังต่อยหมัดอักครั้ง แต่ฮังอวี่ก็ยังหลบได้
เฟิงกังยากจะสงบสติอารมณ์ เริ่มชกไปรอบตัวอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง
เร็วมาก! มองตามแทบไม่ทัน! เวลานี้เหล่าคนที่มองตามเห็นแค่เงาหมัดเท่านั้น!
ความเร็วในการชกของเฟิงกัง ว่องไวไม่ต่างจากหมัดของปรมาจารย์ในหนัง Ip Man!
มันได้มาถึงจุดที่คนธรรมดาไม่สามารถมองเห็นชัดๆด้วยตาเปล่าแล้ว
แต่อย่าเห็นว่าหมัดของเฟิงกังเร็วเพียงอย่างเดียวเชียว พละกำลังหมัดแต่ละครั้งที่ชกของเขา มันเทียบได้เลยกับค้อนปอนด์ขนาดใหญ่ที่ฟาดลงเต็มแรง
ภายใต้การโจมตีที่รวดเร็วและดุดันเช่นนี้ ไม่ต้องกล่าวถึงคนที่มีเลือดเนื้อ ต่อให้เป็นรถยนต์ทั้งคัน ภายในสิบวินาทีคงถูกทุบกลายเป็นเศษเหล็ก
เฟิงกังชกออกไปสิบหมัดติดต่อกัน
แต่เขาไม่สามารถสัมผัสได้กระทั่งชายเสื้อของฮังอวี่ จิตใจที่ฮึกเหิมไม่มั่นคงเฉกเช่นตอนแรกอีกต่อไป
เขาหยุดการโจมตีชั่วคราว แต่ช่องว่างที่เผยนั้น ฮังอวี่สามารถคว้ามันและจู่โจมกลับทันที
ยกเลิกสถานะล่องหน! เปิดใช้งานสกิลปะทะเดือด!
ฮังอวี่ตวัดดาบสั้นที่แฝงไปด้วยแรงกดดันมหาศาล
ภายใต้อำนาจอันน่าสะพรึง เฟิงกังถูกฟันตัวปลิว
เกิดเสียงดังตุ้บ
เฟิงกังกระเด็นไกลถึงสามเมตร
พูดถึงเรื่องนี้ อันที่จริงการต่อสู้พึ่งผ่านไปเพียงครู่เดียวเท่านั้น ตลอดกระบวนการทั้งสองสู้กันเพียง 3-4 วินาที
เวลานี้เกราะอกของเฟิงกังถูกผ่าออก เนื้อเหล็กบนหน้าอกเปิดเป็นแผลใหญ่ ลากยาวจากไหล่ซ้ายไปถึงหน้าท้องขวา เลือดทะลักอย่างบ้าคลั่ง ไม่สามารถลุกยืนได้อีกต่อไป
เพียงดาบเดียว!
การป้องกันอันแสนภาคภูมิใจของเฟิงกังถูกทำลาย!
ถูดฟันเพียงครั้งเดียวเท่านั้น!
เฟิงกังพ่ายแพ้แก่ฮังอวี่อย่างไม่ต้องสงสัย!
“ฉันแพ้แล้ว”
“ฉันขอยอมรับ”
ดาบนี้ของฮังอวี่ไม่เพียงโค่นเฟิงกังเท่านั้น แต่มันยังช่วยประกาศพลังรบของเขา สร้างชื่อเสียงสลักลงในใจของทุกคนในที่เกิดเหตุ
โล้นซ่าและคนของกลุ่มมังกรฟ้ารู้มานานแล้ว ว่าฮังอวี่แข็งแกร่ง แต่จนถึงวันนี้พวกเขาไม่ทราบมาก่อนเลยว่าเจ้านายของตนแก่กล้าถึงเพียงนี้!
เอาจริงๆพลังรบของเฟิงกัง ในแง่ประสิทธิภาพการต่อสู้แล้ว เขาเหนือกว่าหัวหน้าทีมของสกายเน็ตซะอีก
อย่างไรก็ตาม เมื่อต้องเผชิญหน้ากับฮังอวี่ สุดท้ายก็เปราะบาง พ่ายแพ้อย่างหมดจด
พลังรบของฮังอวี่แก่กล้ามาก มันเปรียบดั่งตราประทับเหล็กที่ตอกตรึงในใจของทุกคน
ยุคต่อไปเป็นยุคของผู้แข็งแกร่ง หากติดตามเขาผลประโยชน์ที่ตามาคงมหาศาลเกินกว่าจะจินตนาการ
อาศัยพลังรบที่ฮังอวี่แสดงให้ทุกคนเห็น มากพอแล้วที่จะรักษาตำแหน่งหัวหน้าได้อย่างไม่มีปัญหา ไม่ถูกสั่นคลอน นอกจากนี้ยังได้รับความเชื่อถือจากเฟิงกัง
หมาหวังเอ๋อส่ายหางทันที “ขอแสดงความยินดีกับเจ้านายที่ได้รับยอดฝีมือเพิ่มอีกคนหนึ่ง!”
ส่วนพวกเสือดาวน่ะหรือ?
เฟิงกังพยายามอ้อนวอนขอความเมตตาแทนพวกเขา แต่ฮังอวี่ไม่ตั้งใจจะใช้งานอีกฝ่าย
ท่ามกลางยุคสมัยใหม่นี้ การจ้างคนไม่ใช่เรื่องเล็ก
ท่ามกลางยุคสมัยใหม่นี้ คุณจะเป็นพวก Loser ก็ได้ เป็นนักเลงก็ได้ เป็นคนแก่หรือเป็นนักเรียนก็ได้ แต่เมื่อถึงคราวต้องใช้งาน ย่อมมีเงื่อนไขในตัวมันเอง
สมุนของเฟิงกังเหล่านี้เป็นพวกนักเลงหัวไม้ คุณภาพต่ำเกินไป เก็บไว้ก็ยากที่จะบรรลุในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ คงดีกว่าหากปล่อยให้อยู่ข้างนอก ไม่อาจรับเข้าทีมหลัก
ด้วยการเข้าร่วมของเฟิงกัง
พลังรบโดยรมของกลุ่มฮังอวี่แข็งแกร่งขึ้นมาก
เฟิงกังและโล้นซ่าเป็นยอดฝีมือที่มีศักยภาพที่ดี ในบรรดายอดฝีมือของเจียงเฉิง เฟิงกังถือเป็นชั้นหนึ่ง