อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 39 เอาไปให้หมด
ตอนที่ 39 เอามาให้หมด
บนยอดเขาในถิ่นทุรกันดารนอกตัวเมืองลอสแองเจลิส
รถบรรทุกสองคันจอดอยู่ที่ขอบหน้าผาซึ่งมีศพหลายศพอยู่ที่ท้ายรถบรรทุก แน่นอนว่าด้านบนสุดของกองศพมีแครนสตันที่ตายแล้วอยู่ด้วย
นีลใส่ระเบิดลูกใหญ่เข้าไปในรถบรรทุกทั้งสองคัน
พวกเขาปล่อยให้รถบรรทุกไหลตกหน้าผา ไม่นานหลังจากนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นที่ด้านล่าง
ตูม!
รถบรรทุกทั้งสองคันเต็มไปด้วยเปลวไฟที่ลุกท่วม
ส่วนเรื่องแก๊งชาวสเปนจะรู้ว่าแครนสตันตายตอนไหนนั้นคาดว่าคงจะอีกนาน แครนสตันบอกกับฮาร์ดี้ว่าเขาเก็บเรื่องการตรวจสอบฮาร์ดี้ไว้เป็นความลับจากคนอื่นในแก๊ง เพราะกลัวคนอื่นแย่งส่วนแบ่งดังนั้นกว่าคนอื่นจะสังเกตว่า แครนสตันหายตัวไปน่าจะต้องใช้เวลา
ทุกคนกลับมาที่โรงงานร้างอีกครั้ง รวมทั้งฌอน ไรเดอร์ นีล และริชาร์ดด้วย
ฮาร์ดี้มองไปรอบๆ โรงงานแล้วพูดว่า “เราต้องหาที่อยู่ใหม่! โกดังที่นี่ตกเป็นเป้าหมายแล้ว และเราคงต้องระมัดระวังตัวกันให้มากขึ้นในอนาคต”
เฮนรี่และคนอื่นๆ พยักหน้า
ทุกคนแบ่งหน้าที่กันอย่างรวดเร็ว แบ่งคนไปทําความสะอาดเลือดในโรงงาน หรือขนย้ายข้าวของและออกไปหาที่อยู่ใหม่
ช่วงเวลาบ่ายพวกเขาพบที่อยู่ใหม่ด้านนอกเขตตัวเมืองลอสแองเจลิส เป็นโรงแรมสไตล์แนวตะวันตก ที่มีห้องนั่งเล่น ห้องนอน และลานกว้างสําหรับจอดรถ
เหมาะจะเป็นฐานใหม่มาก
วันถัดมา
ฮาร์ดี้นํากลุ่มคนของเขาไปท่าเทียบเรือที่แครนสตันได้บอกเอาไว้
ท่าเทียบเรือไม่ได้ใหญ่มากนัก
มันเป็นแค่ท่าเทียบเรือประมง ที่สามารถเข้าออกได้เฉพาะเรือหาปลาและเรือหากุ้งหลายสิบตันเท่านั้น ในตอนที่พวกเขาสังเกตการณ์ มีเรือประมงหลายลำจอดอยู่ที่ท่าเทียบเรือ ผู้คนต่างกําลังบรรทุกปลาชนิดต่างๆ และกุ้งจากเรือขึ้นรถบรรทุก
ริชาร์ดเห็นอาคารสามชั้นข้างๆ เขาบอกเรื่องนี้กับฮาร์ดี้และแอบขึ้นไปชั้นบนของอาคารเพื่อตรวจสอบ
ตําแหน่งนี้เป็นจุดที่มองเห็นท่าเทียบเรือทั้งหมดสามารถมองเห็นได้ทุกทิศทาง มันเป็นจุดซุ่มยิงที่ยอดเยี่ยม
ทุกคนกลับมาที่โรงแรมอีกครั้งเพื่อร่วมกันคิดแผนการ
“หัวหน้า ถ้าพวกนั้นซื้อขายยาที่นี่จะต้องมีการส่งคนไปดูลาดเลาก่อนแน่ๆ ในตอนกลางวันเราสามารถปลอมตัวเป็น พ่อค้าไปซื้อปลาแล้วเอารถบรรทุกสองคันไปสังเกตการณ์ได้”
“แล้วในเวลาตอนกลางคืน เราสามารถซุ่มยิงจากชั้นบนของอาคารได้ล่วงหน้า เราจะฆ่าพวกมันระหว่างทำการซื้อขาย”
ฮาร์ดีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
จากนั้นเริ่มมอบหมายงานให้กับทุกคน
ในวันรุ่งขึ้น เฮนรี่ แมทธิว ลีโอ เคอรี่ ริชาร์ด และนีลปลอมตัวเป็นพ่อค้าปลา พวกเขาขับรถบรรทุกสองคันเพื่อไปหลอกซื้อปลาที่ท่าเทียบเรือ
ในระหว่างนี้ ริชาร์ดแอบขึ้นไปชั้นบนของอาคารหลายครั้ง เขาเอากระเป๋าขนาดใหญ่ไปซ่อนใต้หลังคาอย่างเงียบๆ
ไม่รู้ว่าที่นี่จะเป็นที่ซื้อขายยาของจริงหรือเปล่า ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าสิ่งที่แครนสตันพูดมาจะเป็นความจริง ตอนนี้พวกเขาสามารถมั่นใจได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น แต่ถ้าพวกเขาขัดขวางการซื้อขายได้สําเร็จพวกเขาจะได้ผลประโยชน์เต็มๆ ดังนั้น ฮาร์ดี้จึงเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่
ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับโชคแล้ว
สองวันผ่านไป
ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายแล้วโดยปกติเรือหาปลาจะจอดเทียบท่าตั้งแต่ช่วงเช้า ตอนนี้จึงเหลือแค่ไม่กี่คนที่ยังคงซื้อขายปลาอยู่ที่ท่าเทียบเรือ
ทันใดนั้นรถสองคันก็ขับมาจากระยะไกล ชายในชุดสูทสามคนลงจากรถและเดินเข้าไปในตลาดปลา ทําท่าทางเหมือนจะมาซื้อปลา แต่ตาของพวกเขามองไปรอบข้างตลอดเวลา คนเหล่านี้เดินไปรอบๆ เป็นเวลาไม่นานก่อนจะขึ้นจากไปโดยไม่ได้ซื้อปลาเลยแม้แต่ตัวเดียว
เฮนรี่ที่สวมชุดเอี้ยมรองเท้ายางและถุงมือมองไปที่แมทธิวซึ่งอยู่ข้างๆ เขากระซิบกับแมทธิว “ฉันคิดว่าพวกชุดสูทที่ พึ่งขึ้นรถไปเหมือนสมาชิกแก๊งชาวสเปน”
“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน”
ไม่นานข่าวก็มาถึงฮาร์ดี้ เขารู้ทันทีว่าอาจจะมีการซื้อขายยาในคืนนี้
เขาเรียกทุกคนมารวมตัวกันในช่วงเย็นทันที
“เอาล่ะทุกคน เตรียมตัวทํางานได้แล้ว”
เมื่อพวกเขาได้ยินว่าจะได้ทํางานแล้ว พวกเขาเริ่มตื่นเต้นแต่ละคนเริ่มเตรียมของที่จำเป็นและอาวุธของตัวเองไป
ตกกลางคืน
ช่วงเวลาห้าทุ่ม
ท่าเทียบเรือมืดสนิทไร้แสงสว่าง ทะเลอันไกลโพ้นเหมือนสัตว์ประหลาดที่พร้อมจะกลืนกินคนได้ทุกเมื่อ มันทําให้คนที่มองไปที่นั้นล้วนหวาดกลัว
รถสี่คันขับผ่านถนนลูกรังเข้าไปในท่าเทียบเรือ
รถจอดข้างกันที่ท่าเทียบเรือจากนั้นผู้คนนับสิบก็ลงมาและมองไปรอบๆ พวกเขามองไม่เห็นสิ่งใดในความมืดรอบข้าง
สักพักคนที่ลงมาแล้ว ส่งสัญญาณให้คนขับรถทำอะไรบ้างอย่าง
รถทั้งสี่คันเปิดไฟไปที่ทะเล
แวบ แวบ
ไฟกะพริบสองครั้ง
ไฟกะพริบไปทั้งหมดสี่ครั้ง
หลังจากนั้นไม่นานมีแสงสว่างจากทะเลในระยะไกล มีการกะพริบไฟสี่ครั้งมายังท่าเรือ
ผ่านไปครู่หนึ่งเรือประมงขนาดใหญ่ที่แล่นมาจากทะเลและค่อยๆ หยุดที่ท่าเทียบเรือซึ่ง แก๊งชาวสเปนรออยู่ที่ฝั่งอยู่แล้วและคนดูแลการซื้อขายครั้งนี้คือ เบอร์สไตน์
ชายคนหนึ่งลงจากเรือหาปลาแล้วกระโดดขึ้นฝั่ง
เบอร์สไตน์ยิ้มและจับมืออย่างสุภาพเขาพูดภาษาสเปนออกมา “การ์เซีย เราพบกันอีกแล้ว”
“สวัสดี! เบอร์สไตน์เตรียมเงินมาพร้อมแล้วใช่ไหม”
"แน่นอน!"
เบอร์สไตน์พูดพลางโบกมือไปด้านหลัง ลูกน้องของเขานํากระเป๋าเดินทางออกมาเบอร์สไตน์เปิดกระเป๋าเดินทาง ภายใต้แสงไฟจากรถอีกฝ่ายมองเห็นเงินดอลลาร์ที่บรรจุไว้อย่างเรียบร้อยในกระเป๋าเดินทาง
“300,000 ดอลลาร์ ไม่ขาดไปแม้แต่เซนต์เดียว” เบอร์สไตน์กล่าว
“เยี่ยมมาก ผมจะขนของลงมาให้พวกคุณเดี๋ยวนี้”
การ์เซียโบกมือไปด้านหลัง ชายผิวคล้ำาหลายคนแบกหีบออกมาจากเรือ
ไม่นานหลังจากนั้นสินค้าทั้งหมดถูกย้ายไปยังท่าเรือ ความสูงเท่ากับเด็กตัวเล็กๆ เลยทีเดียว
“นี่คือสิ่งที่คุณต้องการรวมทั้งหมด 500 กิโลกรัม รอบนี้คุณต้องการของเยอะมากเลยนะในครั้งนี้มันเกือบจะเท่าผลผลิตที่ได้ในเวลาสามเดือนเลยทีเดียว ดูเหมือนว่าธุรกิจของคุณจะไปได้ดีนะ” การ์เซียกล่าว
“แน่นอน! มันไปได้ดีมาก” เบอร์สไตน์พูดด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นลูกน้องของเบอร์สไตน์ออกมาตรวจสอบสินค้า
เบอร์สไตน์หยิบซิการ์ออกมาแล้วส่งให้การ์เซีย
พรึ่บ!
ไฟแช็กซิปโป้สีเงินในมือของเขาจุดไฟแล้วยืนให้การ์เซีย
การ์เซียก้มศีรษะลงแล้วจุดซิการ์
แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น
เปรี้ยง!
วินาทีถัดมา
มีรูโผล่ขึ้นที่หัวของการ์เซีย เขาล้มลงกับพื้นพร้อมกับซิการ์ที่คาบอยู่
เลือดกระเซ็นไปที่ใบหน้าของเบอร์สไตน์ ทําให้เขาทําอะไรไม่ถูกในขณะนั้น
“พวกมันฆ่าการ์เซีย!”
ลูกน้องของการ์เซียตะโกนออกมาเสียงดัง
มีคนสามคนรีบออกจากห้องโดยสารบนเรืออย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างถือปืนกลในมือพวกเขาซ่อนตัวอยู่ในห้องโดยสาร เพื่อความปลอดภัยเพราะอย่างไรก็ตามนี่คือการซื้อขายยาเสพติด ทุกคนล้วนระวังตัวกันอยู่แล้ว
เปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยง!
ชาวโคลอมเบียเปิดฉากยิงใส่ชายฝั่งอย่างโจ่งแจ้ง ยิงใส่แก๊งชาวสเปนอย่างบ้าคลั่ง
ลูกน้องของแก๊งชาวสเปนรีบดึงตัวเบอร์สไตน์ที่ตกใจมากออกมา ซึ่งช่วยให้เขารอดจากการถูกยิงโดยอีกฝ่าย
เมื่อถูกโจมตีโดยชาวโคลอมเบีย แก๊งชาวสเปนก็ชักปืนออกมายิงสวนกลับเช่นเดียวกัน ชาวโคลอมเบียสามคนที่ขนสินค้าขึ้นมาบนฝั่งถูกแก๊งชาวสเปนยิงตายในทันที
ทั้งสองฝ่ายยิงกันอย่างวุ่นวาย
ในที่สุดเบอร์สไตน์ก็ตั้งสติได้เขารู้แล้วว่าต้องมีความเข้าใจผิดอะไรบางอย่างจึงตะโกนภาษาสเปนออกมา “หยุดๆ หยุดให้หมด สิ่งนี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด!”
ก่อนที่เบอร์สไตน์จะตะโกนต่อ มีกระสุนพุ่งมาจากระยะไกล
รูเลือดปรากฏขึ้นที่หัวของเบอร์สไตน์ทันที
เบอร์สไตน์เบิกตากว้างและทรุดตัวลงบนพื้น
เมื่อแก๊งชาวสเปนเห็นว่าหัวหน้าของพวกเขาถูกสังหาร การยิงของพวกเขาก็รุนแรงขึ้น พวกเขายิงอย่างดุเดือด ไปยังชาวโคลอมเบียบนเรือ
แต่พวกเขามีเพียงปืนพกอยู่ในมือเท่านั้น จึงทําอะไรชาวโคลอมเบียที่ถือปืนกลไม่ได้มากนัก
ทันใดนั้น
มีกลุ่มคนวิ่งออกมาจากข้างหลังพวกเขา
แก๊งชาวสเปนต่างผงะแล้วถามกันว่านี่เป็นคนของเราหรือเปล่า แต่ก่อนที่จะได้ทําอะไร ปืนกลในมือของคนเหล่านั้นก็
เปิดฉากยิงใส่พวกเขา
เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง!
แก๊งชาวสเปนที่เหลือเพียงไม่กี่คนถูกฆ่าในการเผชิญหน้าเพียงครั้งเดียว
หลังจากสังหารแก๊งชาวสเปนจนหมด ปืนของพวกเขาก็มุ่งเป้าไปที่เรือของชาวโคลอมเบีย ปืนกลมือทอมป์สันยิงอย่าง เมามันใส่เรือประมง
เคอรี่ที่สูงเกือบสองเมตรเขาถือปืนกลหนัก M42 อยู่ในมือโซ่กระสุนยาวถูกลากไปกับพื้น เขาพุ่งไปที่เรือประมงอย่างดุเดือด เปลวไฟจากปากกระบอกปืนระเบิดออกมาไม่หยุด
นีลหยิบระเบิดออกมาแล้วขว้างไปที่เรือประมง
ตูม!
ระเบิดมือที่ถูกขว้างเข้าไปในห้องโดยสารอย่างแม่นยําระเบิดขึ้นชาวโคลอมเบียในห้องโดยสารหยุดนิ่งอย่างฉับพลัน
เมื่อเห็นว่าไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ ชาวโคลอมเบียจึงขับเรือแล่นออกไปทันที เฮนรี่ แมทธิว และคนอื่นๆ ต้องการไล่ตามแต่ฮาร์ดี้หยุดพวกเขาเอาไว้
“ไม่ต้องไล่ตาม ตอนนี้พวกเราคุ้มแล้วรีบขนของกันเถอะ”
พวกเขารีบไปที่ศพแก๊งขาวสเปนทันที และพบกล่องใส่เงินในรถซึ่งมีเงินที่จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ
“หัวหน้า เจอเงินแล้ว!” เฮนรี่ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น
“แล้วผงโคเคนพวกนี้ล่ะ โยนทิ้งลงทะเลเลยไหม” ลีโอถาม
ฮาร์ดี้คิดอยู่ครู่หนึ่ง
พวกเขาไม่ได้เสพยาและต่อต้านการซื้อขายยาอีกด้วย แต่ทั้งหมดนี้มีมูลค่ามหาศาล แม้ว่าจะมีราคาเพียง 300,000 ดอลลาร์ในการซื้อจากชาวโคลอมเบีย แต่มันก็จะมีราคาสูงขึ้นสี่หรือห้าเท่าในตลาดมืด
“เอาทั้งหมดขึ้นรถกลับไปที่ฐาน จะจัดการกับมันยังไงค่อยว่ากันทีหลัง”