ตอนที่ 106 ข้าจะฆ่าใครก็ตามที่เจ้าอยากฆ่า
กู่ฉางเกอไม่รีบถามถึงการเกิดสมบัติในส่วนลึกของวังเต๋าหลังเขากลับมา เขาเชื่อว่าผู้อาวุโสใหญ่กับคนอื่นจะริเริ่มบอกเขาเอง
ทุกวันนี้ มีหลายขุมอำนาจมารวมตัวกันในเมืองโบราณมากขึ้น และนั่นก็เพิ่มแรงกดดันที่มีต่อผู้อาวุโสไม่หยุด ต่อให้พวกเขาจะปรารถนาปิดตายส่วนลึกของวัง พวกเขาก็ไม่สามารถกันหมาป่าออกไปได้
ในสามวัน แรงกดดันที่มีต่อวังก็พุ่งสูงจนพวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเปิดส่วนลึกของวังให้คนนอก
ตอนนั้น อัจฉริยะนับไม่ถ้วนจากตระกูลและสำนักต่างๆรีบเข้าไปและวังก็จะต้องการคนมาระงับ
พวกเขาจะพึ่งพาศิษย์แท้จริงได้ไหม?เห็นได้ชัดว่าไม่
ตอนนี้ศิษย์แท้จริงแทบทั้งหมดได้ปิดด่านบ่มเพาะไปแล้ว และต่อให้ไม่ปิดด่าน พวกเขาก็จะไม่สามารถกันท่าอัจฉริยะจากหลายขุมอำนาจได้
ดังนั้น ต่อให้ผู้อาวุโสจะไม่อยาก พวกเขาก็ต้องบากหน้าไปขอให้กู่ฉางเกอช่วย
สำหรับความรู้สึกที่ควรกระทำในฐานะศิษย์ของวัง?
นั่นไร้สาระ และยิ่งไร้สาระสำหรับกู่ฉางเกอ
ทุกคน แม้แต่ผู้อาวุโสเข้าใจเรื่องนี้ดี ตอนนี้ กู่ฉางเกอจะสามารถเปิดปากขออะไรเป็นการตอบแทนได้ ไม่สิ..มันได้เวลาที่เขาจะต่อรอง!
[ครื่น!]
ตอนกู่ฉางเกอกำลังคิดเรื่องพวกนี้ รถม้าสีทองดำที่นำโดยฟีนิกส์เก้าตัวก็บินผ่านทางเข้าวังเต๋า การมาถึงของรถม้าหรูหราทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
ศิษย์ที่เฝ้าประตูวังหน้าเปลี่ยนสีขณะกำลังจะก้าวไปหยุดการมาของรถม้า แต่ก็ได้ยินเสียงหวานละลายหัวใจที่มาจากรถม้าซะก่อน
“ไปบอกกู่ฉางเกอให้รู้ว่าเจ้าหญิงมาแล้ว!”
ผู้ที่นั่งข้างในไม่ใช่ใครนอกจากเยวี่ยหมิงคงผู้สวมชุดเรียบง่าย นางมีเรือนร่างประดุจเทพธิดา ผมสีฟ้าที่มัดเป็นก้อน ทำให้นางดูงามจนแทบลืมหายใจ
คิ้วของนางโค้งได้รูปเหมือนกิ่งไม้ และสามารถเห็นความสงบกับไม่แยแสในดวงตาประดุจหงษ์
นางมองไปโลกภายนอกผ่านรูระหว่างม่าน
เยวี่ยหมิงคงเหมือนจักรพรรดินีที่แผ่อำนาจบารมีซึ่งขู่ให้ศิษย์ตรงทางเข้าวังเต๋ากลัว
“เจ้าเป็นใคร?กล้าดียังไงถึงเรียกชื่อของศิษย์แท้จริงกู่เช่นนั้น?!”
“ฟีนิกส์เก้าตัวที่ลากรถม้า?นี่ไม่ต่างจากตอนมังกรเก้าตัวของศิษย์พี่กู่ลากรถม้าเลย.
เหล่าศิษย์ตกใจ และอยากรู้ว่าใครกันที่กล้าพูดเช่นนั้น
แต่ไม่ช้า หนึ่งในนั้นก็คิดอะไรได้และพึมพำ“คนข้างในต้องเป็นคู่หมั้นของศิษย์แท้จริงกู่ เยวี่ยหมิงคง เจ้าหญิงสี่แห่งราชวงศ์เซียนสูงสุดและเป็นเจ้าหญิงรัชทายาท!ในอนาคต นางจะเป็นจักรพรรดินีของราชวงศ์เซียนสูงสุด ผู้ยืนบนจุดสูงสุดของอาณาจักรเบื้องบน!”
[เฮือก!]
คำพูดเหล่านี้ทำให้ทุกคนหยุดหายใจ
เยวี่ยหมิงคงเองก็เป็นธิดาสวรรค์ในอาณาจักรเบื้องบน!ไม่น่าแปลกที่นางจะกล้าเรียกชื่อศิษย์แท้จริงกู่เช่นนั้น
‘ตอนเจ้าหญิงเยวี่ยหมิงคงมายังวังเต๋าอมตะสวรรค์ครั้งก่อนเพื่อพบศิษย์แท้จริงกู่ นางไม่ได้มาแบบนี้นี่?เกิดอะไรขึ้น?’
‘ข้าได้ยินข่าวลือว่าศิษย์แท้จริงกู่กับเจ้าหญิงรัชทายาทเข้ากันได้ไม่ดีนัก...ตอนนี้ที่ข้าได้ยินน้ำเสียงนาง มันดูเหมือนข่าวลือจะไม่ผิด!’
ศิษย์หลายคนมีความคิดเช่นนั้นในหัว แต่ไม่มีใครกล้าหยุดรถม้า
การมาถึงอย่างฉับพลันของเยวี่ยหมิงคงทำให้ทั้งวังเต๋าตกใจ มากจนผู้อาวุโสบางคนยังเผยตัว
นับประสาอะไรกับศิษย์ธรรมดา แม้แต่ศิษย์แท้จริงยังนั่งเฉยไม่ได้
ทีละคน รังสีแสงปรากฏในท้องฟ้าขณะที่พวกเขามองรถม้านาง
ตอนนี้ที่เหตุการณ์ใหญ่เกิดขึ้นในวังเต๋า เจ้าหญิงรัชทายาทของราชวงศ์เซียนสูงสุดดันเผยตัว ผู้คนย่อมตกใจและสับสนอยู่แล้ว
หลายคนเดาว่าการมาของนางเกี่ยวข้องกับกู่ฉางเกอ
แต่แม้กระทั่งคนจำนวนมากก็ยังเดาว่าเยวี่ยหมิงคงมาที่นี่เพื่อแบ่งเค้กด้วย
กู่เซียนเอ๋อร์กำลังบ่มเพาะอยู่บนยอดเขาของผู้อาวุโสใหญ่ แสงพร่ามัวที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของเต๋าปรากฏด้านหลังนาง และอักขระสว่างก็ลอยขึ้นและตกลงเพื่อสร้างฉากน่าอัศจรรย์
นางเองก็รับรู้ถึงความผันผวนในระยะไกลและอดมองไปทางนั้นไม่ได้
‘คู่หมั้นของกู่ฉางเกอ?’
‘นางมาทำอะไรที่นี่?’
แม้นางจะรู้สึกว่ามีหลายเรื่องเกี่ยวกับอดีตที่ปิดบังจากนาง ความปรารถนาของนางที่จะแก้แค้นกู่ฉางเกอก็ไม่สลาย
ตอนนี้ การมาถึงของเจ้าหญิงสี่แห่งราชวงศ์เซียนสูงสุดได้เพิ่มความไม่สบายใจของนาง นางเชื่อว่าเยวี่ยหมิงคงยืนอยู่ข้างกู่ฉางเกอ
...
[ภายในวังของยอดเขาสูงสุด]
กู่ฉางเกอลืมตาขึ้น กลิ่นอายที่พุ่งจากประตูวังเต๋าได้มาถึงตัวเขาแล้ว
รถม้าสีทองดำวิ่งบนฟ้าอย่างยิ่งใหญ่ เตือนคนบนเขาและเกาะลอยฟ้า แต่ไม่มีผู้อาวุโสคนใดกล้าหยุดมัน
กู่ฉางเกอลุกขึ้นและออกวังเขาไป
เขาอดเลิกคิ้วไม่ได้ขณะมองเงาดำในระยะไกลที่มุ่งตรงมายอดเขาสูงสุดของเขา
ตอนนี้ เยวี่ยหมิงคงแผ่จิตสังหารรุนแรง หรือนางจะอับอายและโกรธเพราะเขารู้ที่อยู่นางและบังคับให้นางมาหา?
อืม มันไม่แปลก เหนือสิ่งอื่นใด นางคือผู้ย้อนเวลา แต่นางล้มเหลวที่จะตามเขาทัน
ขณะที่กู่ฉางเกอเดาไปต่างๆนาๆ รถม้าของเยวี่ยหมิงคงก็หยุดและจอดตรงหน้าเขา เยวี่ยหมิงคงก้าวออกมาด้วยสีหน้าเย็นชาและรีบเดินมาหาเขา
ในเวลาเดียวกัน มิติรอบกู่ฉางเกอก็บิดเบือน และหยานจีก็ปรากฏ นางติดตามเยวี่ยหมิงคงมาตลอด
“เกิดอะไรขึ้น?”
กู่ฉางเกอถามนาง
“นายน้อย เจ้าหญิงเยวี่ยหมิงคงได้วางค่ายกลผนึกเพื่อฆ่าชายหนุ่ในอาณาจักรราชาตอนข้าพบนาง แต่สุดท้าย ชายคนนั้นก็หลบหนีไปได้ ข้าไม่สามารถหาตัวเขาเจอ”
หยานจีพยักหน้าให้เขา หลังจากนั้น นางก็สรุปเหตุการณ์ให้ฟัง
“ชายหนุ่ในอาณาจักรราชาที่หลบหนีเจ้าไปได้?”
กู่ฉางเกอหรี่ตา
“ถูกต้อง”
หยานจีอธิบายเพิ่ม“ชายหนุ่มคนนั้นมีหินหยกดำที่มีพลังระเบิดของอาณาจักรจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ และเขายังมีวิธีอื่นด้วย เจ้าหญิงเยวี่ยหมิงคงได้ส่งยอดฝีมืออาณาจักรเทพศักดิ์สิทธิ์สี่คนไปล้อมจับเขาวันนั้น แต่..”
‘ข้าเข้าใจแล้ว”
กู่ฉางเกอพยักหน้า
เขาอดส่ายหัวไม่ได้พอตระหนักว่าเรื่องนี้อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเยวี่ยหมิงคงถึงอารมณ์เสีย
ในเวลาเดียวกัน กู่ฉางเกอก็สามารถเดาได้แล้วว่าชายหหนุ่มคนนั้นไม่ใช่ใครนอกจากบุตรฟ้าประทานเกิดใหม่
บุตรฟ้าประทานคือแมลงสาบที่ไม่สามารถบดขยี้ได้ง่ายเพราะโชคมากล้น
โลกคงวุ่นวายถ้านางทำสำเร็จได้ง่ายๆ
มันแค่ว่าความจริงที่เยวี่ยหมิงคงวางแผนเล่นงานบุตรฟ้าประทานนั้น..และถึงขั้นอยากฆ่า!นางทำให้เขาอึ้ง
ธิดาสวรรค์ที่พยายามจะฆ่าบุตรสวรรค์ แต่ก็ล้มเหลว
เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับนาง นางจะแก้แค้นให้กับตัวนางในอดีตได้ไงด้วยความสามารถที่ยังขาดเช่นนี้?
กู่ฉางเกอส่ายหัวและอยากหัวเราะตอนเห็นดวงตาเย็นชาของนางที่ดูเหมือนจะโทษเขาไปหมด
นางโยนความรู้สึกเกลียดมาให้เขาหลังฆ่าเย่หลิงไม่สำเร็จ?
ไม่ช้า ความผันผวนก็เกิดอีกครั้งและร่างของหยานจีก็หายไป
โดยปกติ นางจะไม่เผยตัวเว้นแต่จะจำเป็น
“หมิงคง ข้าไม่ได้เจอเจ้านานเลย เจ้าไม่คิดถึงสามีบ้างหรือ?”
กู่ฉางเกอพูดพร้อมหัวเราะเบาๆ
“กู่ฉางเกอ หยุดเล่นลิ้นต่อหน้าข้า!แค่บอกมาว่าเจ้าต้องการอะไร ทำไมถึงต้องอ้อมค้อม?”
เยวี่ยหมิงคงยืนนิ่ง และมองเขาอย่างเย็นชา
ความขมขื่นในใจนางยิ่งรุนแรงหลังเห็นหยานจีหายไป ความเย็นชาบนหน้านางจึงเย็นขึ้นไปอีก
กู่ฉางเกอส่ายหัวและโอบกอดเอวนางราวกับมันเป็นเรื่องธรรมชาติ โดยไม่สนใจท่าทีดิ้นรนของนาง“เจ้ายังไม่ตอบคำถามสามีเลยนะ”
“ใครจะไปคิดถึงคนใจหินอย่างเจ้า?ฝันไปเถอะ!”
เยวี่ยหมิงคงตวาด
เหนือสิ่งอื่นใด นางได้ฉีกหน้ากากของกู่ฉางเกอไปแล้วที่ตระกูลกู่ นางจึงไม่คิดเสแสร้งอีกต่อไป
นางเชื่อว่ากู่ฉางเกอจะไม่มีวันทำอะไรโดยไร้แรงจูงใจ!
ไม่ว่าเขาจะพูดหรือทำอะไร มันไม่มีความจริงใจสักนิด
ใครจะไปรุ้ว่าตอนนี้เขากำลังวางแผนอะไร?
“คำพูดเจ้าทำให้ข้าเจ็บหัวใจมาก เจ้ารู้ไหม ทำไมเจ้าไม่มาเจอข้าตอนเจ้ามาถึงสวรรค์ไร้ขอบเขต?หรือเจ้าไม่อยากเจอหน้าข้าอีกแล้ว?”
กู่ฉางเกอส่ายหัวและพูดด้วยน้ำเสียงเสียใจ
“ข้าไม่อยากเจอหน้าเจ้าสักนิด!”
เยวี่ยหมิงคงพูดอย่างไร้อารมณ์
‘แต่ข้าอยากเจอเจ้า!ทันทีที่ข้าได้ยินว่าเจ้ามายังสวรรค์ไร้ขอบเขต ข้าก็อดใจรอไม่ไหวที่จะเจอหน้าเจ้า”
กู่ฉางเกอยิ้ม
เยวี่ยหมิงคงกลอกตาใส่เขา
การกระทำของนางดูไร้เดียงสาเล็กน้อย แต่มันกลับมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาดพอรวมกับใบหน้าเย็นชา
นางคงดีใจถ้ากู่ฉางเกอพูดความจริง แต่นางรู้ว่าเขาไม่มีความจริงใจสักนิด
เขาไม่สามารถสั่นคลอนหัวใจของเยวี่ยหมิงคงได้
“งั้นทำไมเจ้าถึงขอให้ผู้หญิงคนนั้นใช้กำลังพาข้ากลับมาละ?”
เยวี่ยหมิงคงถามเสียงเย็น
ตอนนางพูดถึงหยานจี นางก็รู้สึกขมขื่นใจ แม้นางจะรู้ว่ากู่ฉางเกอไม่ได้ชอบนาง นางก็ยังขมขื่นตอนเห็นหญิงอื่นข้างกู่ฉางเกอ
ในเวลาเดียวกัน การดำรงอยู่ของผู้หญิงคนนั้นก็ทำให้เยวี่ยหมิงคงสับสน
กู่ฉางเกอไม่เคยเก็บผู้หญิงคนไหนไว้ข้างตัว ชีวิตนี้มันอะไร?มีหลายเรื่องเกิดขึ้นนอกเหนือความคาดหมายของนาง
“หมายความว่าไงที่ใช้กำลังพากลับมา?หมิงคง ภรรยาข้า เจ้าดูเหมือนจะเข้าใจผิดนะ”
“นอกจากนี้ ทำไมจู่ๆถึงมีกลิ่นขมเช่นนี้ในอากาศเล่า?”
กู่ฉางเกอพูดด้วยรอยยิ้มสงบ
ในเวลาเดียวกัน เขาก็เริ่มอธิบายเกี่ยวกับหยานจีให้ฟัง“หยานจีคือคนที่ข้าพาขึ้นมาจากอาณาจักรเบื้องล่าง เจ้าจะพูดได้ว่านางเป็นหนึ่งในผู้ติดตามของข้า ทำไมเจ้าถึงอิจฉานาง?”
สีหน้าของเยวี่ยหมิงคงอ่อนลง แต่ก็ยังดูไม่ดีหลังฟังคำอธิบาย“กู่ฉางเกอ อย่ามั่นใจในตัวเองนักเลย!”
กู่ฉางเกอเป็นฝ่ายริเริ่มให้คำอธิบาย และเยวี่ยหมิงคงก็อดแปลกใจไม่ได้
“บอกข้ามา เจ้าต้องการอะไร?”
หลังจากนั้น นางก็ถามเขา
เยวี่ยหมิงคงไม่เต็มใจเชื่อว่ากู่ฉางเกอจะตามหานางแบบไร้เหตุผล
กู่ฉางเกอตอบ“ข้าบอกแล้วไงว่าข้าคิดถึงเจ้า ไม่ได้หรือ?ข้าต้องทำอย่างไร้เจ้าถึงจะเชื่อ?”
“ไม่ว่าเจ้าจะพยายามแค่ไหน ข้าก็ไม่มีวันเชื่อ”
เยวี่ยหมิงคงอยากมองบน
นางจะไม่รู้ได้ไงว่ากู่ฉางเกอหน้าด้านแค่ไหน?
จากนั้น กู่ฉางเกอก็ตัดสินใจไม่หยอกล้อนางอีกและถาม“ข้าได้ยินหยานจีบอกว่าเจ้าฆ่าชายหนุ่มคนหนึ่งไม่สำเร็จ ช่วยบอกข้าได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?”
“เจ้าหมอนั่นไปทำให้เจ้าไม่พอใจ?บอกสามีมา และสามีจะฆ่าเขาให้เจ้าและช่วยเจ้าระบายความโกรธเอง”
แน่นอน เขารู้อยู่แล้วว่าเยวี่ยหมิงคงต้องวางแผนขโมยโชคของบุตรฟ้าประทาน
กู่ฉางเกอสนใจในเรื่องเดียวกัน เขาจึงพยายามได้ข้อมูลจากนาง
ในทางกลับกัน เยวี่ยหมิงตกตะลึงกับคำพูดของกู่ฉางเกอ นางเชื่อว่ากู่ฉางเกอไม่รู้เรื่องเย่หลิง หรอเขาจะคิดจริงๆว่าเย่หลิงทำให้นางไม่พอใจตอนเขาบอกว่าจะช่วยนางฆ่าเขา?
ด้วยเหตุผลบางอย่าง คำพูดเขาทำให้นางประทับใจ
นางไม่เคยคิดว่าคนเห็นแก่ตัวอย่างกู่ฉางเกอจะใส่ใจนางขนาดนี้!
“เจ้าจะไม่ถามเหตุผล?เจ้าจะฆ่าเขาแม้ข้าจะเป็นฝ่ายผิด?”
นางถาม
“จะถามไปเพื่อ?ถ้าเจ้าอยากฆ่าเขา ข้าก็จะฆ่าเขาให้เจ้า”
กู่ฉางเกอตอบด้วยรอยยิ้ม
เยวี่ยหมิงคงอดสูดหายใจลึกไม่ได้
สมกับที่เป็นกู่ฉางเกอ!เขาพูดเรื่องฆ่าคนมาได้หน้าตาเฉย
สำหรับเขา มันไม่สำคัญว่าใครจะผิดใครจะถูก ตราบเท่าที่เขาอยากฆ่าเขา เขาก็จะฆ่า
นี่คือตัวเขา
ดวงตาของเยวี่ยหมิงคงจ้องไปในดวงตาของกู่ฉางเกอและระเบิดอารมณ์ที่พูดไม่ได้ออกมา
มันกลายเป็นว่าเขาไม่ได้สนใจนางเลย เขาแค่อยากฆ่าใครสักคนเพื่อระบายอารมณ์...