599 - สิ่งมีชีวิตชั่วร้ายจากอาณาจักรด้านล่าง
1909 - สิ่งมีชีวิตชั่วร้ายจากอาณาจักรด้านล่าง
“นั่นใคร?”
แขนของสือฮ่าวปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์ออกไปได้เพียงหนึ่งจ้าง
ต้องบอกว่าการปราบปรามระดับบ่มเพาะของที่นี่รุนแรงเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่คนที่แข็งแกร่งอย่างเขาที่เกินขีดจำกัดของอาณาจักรแห่งความว่างเปล่าก็ยังเคลื่อนไหวอย่างยากลำบาก
อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นเช่นนี้ แต่หากมีอีกคนพบเห็นเข้าก็ต้องอ้าปากค้างเพราะว่าคนอื่นแทบจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
ระดับบ่มเพาะของคนอื่นแทบจะถูกปิดผนึกจนกลายเป็นคนธรรมดา ความแข็งแกร่งของเขานั้นผู้อื่นไม่สามารถเทียบได้เลย
“เจ้าคนชั่วเจ้ามาจากไหน” เยว่ฉานถอยหลัง ชายเสื้อของนางตอนนี้เป็นสีแดงเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลนเลือด
ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนหลังจากอยู่ที่นี่มานานก็ไม่มีทางที่เท้าของพวกเขาจะไม่แตะพื้น พวกเขาต้องเดินบนโคลนที่เปื้อนเลือดไม่สามารถทนต่อความเหนื่อยล้าได้
กลิ่นของฝ่ายตรงข้ามบินเข้าสู่จมูกของนางเล็กน้อยความเคลื่อนไหวของเขาทำให้นางเกร็งไปหมด
แขนสีขาวราวกับหิมะของนางเอื้อมออกไปทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อต่อต้านการจับกุมของคนชั่วร้ายนี้!
“เราอยู่ใกล้กันมาก แต่นางก็ยังไม่ได้ยินเสียงของข้า ดูเหมือนว่าหมอกนี้จะแปลกไปหน่อย” สือฮ่าวพูดกับตัวเอง
เขาครุ่นคิดว่าจะมุ่งหน้าลึกเข้าไปข้างในดีหรือไม่ แม้ว่าเขาจะสามารถเอาชนะใครก็ได้ แต่เขาก็กลัวที่จะกลายเป็นคนตาบอดเช่นกัน การคลำไปรอบๆเพื่อหาทางออกนั้นไม่ใช่เรื่องสนุกสักนิด
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆมันก็จะไม่เป็นเรื่องที่น่าหัวเราะมาก ผู้อาวุโสทั้งสองอาจเฝ้าดูจากด้านข้างและมีความสุขกับความทุกข์ทรมานของเขา
“ท่านปู่นกผู้อาวุโสเหรียญเงินทั้งสองคนอยู่ที่ไหน? รีบแสดงตัวมาเดี๋ยวนี้!” สือฮ่าวร้องออกมาอย่างไรก็ตามไม่มีใครตอบสนองเขา
สือฮ่าวขมวดคิ้ว หลังจากขบคิดสักนิดเขาก็ตรงเข้าไปในบึงนั้น เขาเป็นเสือที่ดุร้ายที่นี่คนที่อยู่ในอาณาจักรสูงกว่าไม่สามารถเทียบเขาได้ยังมีอะไรที่เขาต้องกลัวอีก?
ถ้าเขาเจอฝ่ายตรงข้ามจริงๆต่อให้มันเป็นราชาของอาณาจักรสวรรค์รวมไปถึงผู้สูงสุดของตำหนักเซียนก็ยิ่งจะทำให้สือฮ่าวเบิกบานใจ!
แน่นอนว่าเป้าหมายของเขาคือการช่วยเหลือเหล่าสหายที่ติดในอยู่สถานที่แห่งนี้คนแรกย่อมเป็นเยว่ฉานนั่นเอง
สือฮ่าววิ่งไปข้างหน้าจนเกิดเสียงดังกึกก้องสวรรค์และปฐพีคล้ายจะแตกออกไม่สามารถส่งพลังลงมากดดันร่างกายของเขาได้
แต่เมื่อเขาวิ่งมาอยู่ใกล้ๆนาง นางกลับถอยห่างไกลเขาออกไปโดยไม่ทราบสาเหตุ
นี่เป็นภาพลวงตา! สือฮ่าวรู้สึกว่าเขาต้องละทิ้งประสาทสัมผัสทั้งห้าพร้อมกับก้าวไปตามสัญชาตญาณตัวเอง
ดังนั้นความเร็วของเขาจึงไม่เปลี่ยนแปลงท้ายที่สุดแล้วการตัดสินใจของเขาก็ไม่ผิด
ราวกับว่าเขาข้ามระยะทางร้อยลี้ไปในทันที
ด้วยเสียงดังเป้งสือฮ่าวจึงร่อนลงบนพื้นจนทำให้น้ำสีเลือดปลิวว่อนไปทุกหนทุกแห่ง อย่างไรก็ตามร่างกายของเขาไม่ได้รับผลกระทบ
แสงสีทองจางๆพุ่งออกมาปกป้องพื้นผิวของร่างกายเขาไว้ หากมีใครบางคนจากสายเลือดพุทธะโบราณมาที่นี่พวกเขาจะต้องตื่นตระหนกอย่างมาก
นี่คือร่างกายสีทองที่ไม่แตกหักซึ่งเป็นระดับการฝึกฝนร่างกายขั้นสูงสุด
ทันทีที่เท้าของสือฮ่าวหยุดลงเสียงของลมและสายฟ้าก็หายไป ความกระจ่างใสที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเขาก็หายไปด้วย
เหลือเพียงหมอกและร่างที่อยู่ในหมอกใกล้ๆ
"เจ้าเป็นใคร?" เยว่ฉานถอยหลังและหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขาจริงๆ
สือฮ่าวลูบใบหน้าของตัวเอง เขาอ้าปากกว้างและแยกเขี้ยว ในตอนนี้เขาใช้ญาณวิเศษลับในการเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวเอง
“นายท่านคนนี้คือผู้ยิ่งใหญ่ของดินแดนรกร้างซึ่งชอบสตรีมากที่สุด เจ้าคือหนึ่งในผู้โชคดีที่ถูกเลือก!” หลังจากพูดจบเขาก็อุ้มนางเข้ามาอยู่ในอ้อมอกทันที
เยว่ฉานโกรธแค้นเป็นอย่างมากต้องการที่จะตบเขา บุคคลผู้นี้เป็นใคร? เหตุไฉนถึงได้ไร้ยางอายจนกระทั่งลักพาตัวนาง
แต่เขาบอกว่าเขาต้องการมากกว่าหนึ่ง นางเป็นแค่หนึ่งในนั้น นี่เป็นเรื่องที่ทนไม่ได้อย่างสิ้นเชิง!
เปง!
อย่างไรก็ตามในทันทีที่พวกเขาแลกเปลี่ยนการโจมตีใบหน้าของเยว่ฉานก็เปลี่ยนไป แม้แต่รัศมีอันศักดิ์สิทธิ์ที่เปล่งออกมาจากปลายนิ้วของนางก็ไม่สามารถทำอะไรกับคนๆนี้ได้
สือฮ่าวก็ตกใจ หลังจากที่เยว่ฉานและชิงยี่รวมเข้าด้วยกันความแข็งแรงของนางก็เพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนมากราวก็เป็นคนละคน
อย่างไรก็ตามหลังจากต่อสู้กันได้ระยะหนึ่งเยว่ฉานก็รู้ตัวดีว่าไม่สามารถเทียบกับอีกฝ่ายได้
ใบหน้าของนางเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง ครั้งนี้นางตกอยู่ในเงื้อมมือของปีศาจร้ายจากดินแดนรกร้างตนนี้โดยที่ไม่สามารถหลบหนีไปได้
“เหอเหอสาวน้อยเจ้าถูกข้าปราบแล้วไปกันเถอะ” สือฮ่าวอุ้มนางขึ้นมาแล้วจากไป
ใบหน้าของเยว่ฉานมืดคล้ำ หลังจากที่เข้าสู่อาณาจักรที่ต่ำกว่านางกลับถูกปีศาจร้ายลักพาตัว?
ทักษะอันศักดิ์สิทธิ์ที่นางฝึกฝนมานานไม่สามารถทำอะไรตรงข้ามได้แม้แต่น้อย
สิ่งที่ยากจะยอมรับที่สุดก็คือตอนนี้นางกำลังจะตกเป็นภรรยาของปีศาจตนนี้ซึ่งทำให้นางรู้สึกโกรธเกรี้ยวอย่างแท้จริง!
“มีบางอย่างไม่ถูกต้องเจ้าคือ…สือฮ่าว!” ทันใดนั้นนางก็สั่นสะท้านและส่งเสียงกรีดร้องออกมา เมื่อถูกอุ้มขึ้นบนไหล่ของเขานางก็ตระหนักได้ว่าเขาคือใคร
"เจ้ามันเลว!" นางเริ่มตีเขาเมื่อตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ก่อนหน้านี้นางสูญเสียความเยือกเย็นไปเพราะความวู่วาม
แต่เมื่อนางกลับมาสงบอีกครั้งและขบคิดให้มากกว่าเดิมนางจึงคิดได้ว่ามีเพียงสือฮ่าวเท่านั้นที่จะแข็งแกร่งมากถึงขนาดนี้
“เรารู้จักกันเหรอ! ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้เรียกว่าราชาปีศาจทำลายบุปผาที่โหดเหี้ยมที่สุด!” สือฮ่าวขู่
“ยังคิดจะหลอกข้าอีก” เยว่ฉานพยายามดึงหูของเขา
ปา!
เป็นผลให้ก้นที่กลมกลึงของนางถูกตีเบาๆ
ใบหน้าขาวนวลเป็นประกายของเยว่ฉานกลายเป็นสีแดงก่ำทันทีราวกับท้องฟ้ายามอาทิตย์ใกล้จะตกดิน!
“เจ้าคนแซ่สือข้าขอสู้ตายกับเจ้า!” นางตะโกนออกมาด้วยความอับอายพร้อมกับกัดแขนของเขาอย่างรุนแรง! นางไม่คิดเลยว่าจะหลงกลเจ้าคนพาลนี้จริงๆ
ตอนนี้อารมณ์ของนางขัดแย้งกันอย่างรุนแรง เมื่อทั้งสองเริ่มผสานเข้าด้วยกันในส่วนที่เป็นของชิงยี่นั้นนางคิดถึงสือฮ่าวอยู่ตลอดเวลา
แต่ของเยว่ฉานนั้นไม่ใช่นางมีความเครียดแค้นเขาเป็นอย่างมาก
“ฮิฮิเราเป็นสามีภรรยากันแล้วอย่าทำเสียงดังเดี๋ยวคนจะแห่มาดู” สือฮ่าวอุ้มนางไว้พร้อมกับใช้มือลูบต้นขาของนางเบาๆ
“เจ้าคนแซ่สือรีบปล่อยนางลงไม่เช่นนั้นข้าจะลงโทษเจ้าจริงๆ!”
มีเสียงดังมาจากท้องฟ้า
“ผู้อาวุโสเหรียญเงินจะมากไปแล้วท่านถึงกับกล้ายุ่งเกี่ยวเรื่องของข้าเชียวหรือ”
หลังจากนั้นไม่มีเสียงใครตอบกลับมา
“ปล่อยข้าลง!” เยว่ฉานดิ้นรน
สือฮ่าวหัวเราะและปล่อยนางลงมา
ใบหน้าของเยว่ฉานดูซับซ้อนนางมองเขาครั้งแล้วครั้งเล่าแล้วจึงกล่าวว่า
“ระดับบ่มเพาะของเจ้ายังไม่ได้หายไป นั่นแสดงว่าอี้ไห่ถูกเจ้าทุบตีจริงๆ?”
“ข้ากำลังจะพิการในไม่ช้าข้าเหลือเวลาอีกไม่ถึงครึ่งเดือน ชีวิตของข้าค่อนข้างยากลำบาก แม้แต่ข้าก็ยังไม่สามารถต้านทานสวรรค์ได้…ข้าเพียงสามารถชะลอมันได้สองสามสัปดาห์เท่านั้น” สือฮ่าวกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
เยว่ฉานเงียบแล้วถามว่า“จริงเหรอ”
“เอ๊ะ? พวกนั้นไม่ใช่ผู้ฝึกฝนของโลกใต้พิภพเหรอ? ไปดูกันเถอะ” สือฮ่าวกล่าว เพราะเขาเห็นว่าโครงกระดูกสีทองได้บินผ่านหน้าเขาไป
“เฮ้! เจ้าโครงกระดูกตัวนั้นเจ้าต้องจ่ายค่าผ่านทางในสถานที่แห่งนี้!” เขาตะโกนออกมากลัวว่าโครงกระดูกนั้นจะรีบหนี
"เจ้าเป็นใคร?" เห็นได้ชัดว่าดวงตาของโครงกระดูกสีทองนี้เต็มไปด้วยความโหดร้ายและเย็นชา
ในสถานที่แห่งนี้ไม่มีใครสามารถจดจำสือฮ่าวได้ใบหน้าของเขาในปัจจุบันนั้นชั่วร้ายเป็นอย่างมาก
“ข้าคือสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรด้านล่างถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว!”
สือฮ่าวดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อผู้คนของโลกใต้พิภพอาณาจักรสวรรค์และตำหนักเซียนเขาจะลงมือด้วยความอำมหิตให้มากที่สุด
ในอดีตทั้งสามนิกายนี้ได้ลงมือต่อเขาอย่างต่อเนื่องและไม่นานมานี้เมื่อผู้อมตะคนนั้นได้จัดการเขา คนพวกนี้ก็คอยสนับสนุนอย่างเต็มที่