ตอนที่แล้วตอนที่ 101 ขมขื่น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 103 หมวกเขียว

ตอนที่ 102 งานเลี้ยงหมื่นเต๋า


[วังเต๋าอมตะสวรรค์ ยอดเขาสูงสุด]

กู่ฉางเกอสังเกตเห็นแสงที่ระเบิดจากส่วนลึกของวังเต๋า แต่เขาเข้าใจว่าถนนอมตะยังไม่ปรากฏ

เมื่อถนนอมตะสำแดง ปรากฏการณ์กับนิมิตที่มาจากมันจะยิ่งใหญ่กว่านี้ ฉากในตอนนั้นจะไม่ใช่อะไรที่ผู้อาวุโสจะระงับได้ รังสีแสงตอนนี้แค่เป็นลางบอกเหตุ

ด้วยเหตุนี้ การกำเนิดของบางสิ่งที่พิเศษในส่วนลึกของวังเต๋าจึงเป็นที่สังเกตโดยขุมอำนาจใหญ่ของอาณาจักรเบื้องบน และไม่ช้า วังเต๋าก็จะตกอยู่ในพายุ

ไม่ว่าผู้อาวุโสใหญ่จะยิ่งใหญ่แค่ไหน คนเดียวก็ไม่มีทางหยุดทั้งอาณาจักรเบื้องบนได้

ต่อให้เมินตระกูลเซียนโบราณ ราชวงศ์กับเผ่าที่จ้องวังเต๋าเหมือนหมาป่าโหยได้ แต่ก็ยังมีสำนักใหญ่อีกนับไม่ถ้วนในอาณาจักรเบื้องบน

ใครจะยอมพลาดโอกาสเช่นนี้?ทุกคนต่างยากแบ่งเค้กก้อนนี้

เช่นเดียวกับตระกูลกู่

สุดท้าย ผู้อาวุโสใหญ่จะต้องประนอม และส่วนลึกของวังเต๋าก็จะต้องเปิดให้ทุกคนในไม่ช้า

แน่นอน นี่คือข่าวดีสำหรับกู่ฉางเกอ!เขากำลังพิจารณาว่าจะลอบเข้าไปยังไงให้ไม่เป็นที่สังเกต และตอนนี้ สวรรค์ก็ประทานโอกาสให้

ต่อให้ผู้อาวุโสใหญ่จะเกลียดเขา และอยากสกัดเขาไว้ มันก็ไม่มีทางหยุดเขาได้ ตรงกันข้าม กู่ฉางเกอประเมินว่าผู้อาวุโสใหญ่จะต้องมาขอความช่วยเหลือเขาต่างหากถ้าถึงเวลา

‘ตอนนั้น วังเต๋าอมตะสวรรค์จะเจอกับศิษย์จากทุกขุมอำนาจ และพวกเขาจะต้องการข้าเพื่อระงับคนนอก’

รอยยิ้มขี้เล่นปรากฏบนหน้ากู่ฉางเกอพอเขาคิดถึง

ตอนนี้ ไม่มีใครท่ามกลางศิษย์วังเต๋าที่กล้าต่อต้านเขา!

ไม่ว่าจะเป็นศิษย์แท้จริงที่แข็งแกร่งสุดทั้งสี่หรือห้า หรือศิษย์แท้จริงธรรมดาคนอื่น ไม่มีใครสามารถยืนเทียบเขาได้  แม้ศิษย์แท้จริงคนอื่นจะมีวิธีการกับไพ่ตายนับไม่ถ้วน พวกเขาก็ด้อยกว่าทั้งห้า

เว้นแต่บางคนจะปกปิดพลังแท้จริงไว้อย่างหยินเม่ย

แต่น่าละอาย!ไม่มีใครรู้ว่าเขากุมหยินเม่ยไว้ในฝ่ามือเหมือนหุ่นเชิด

‘จินโจวปิดด่านบ่มเพาะไปแล้ว และอีกสอง เทียนหยางกับจงเทียนหยวน ตอนนี้ที่ข้าคิด ข้าถือว่ากุมท้องฟ้าของวังเต๋าไว้ด้วยฝ่ามือเดียวแล้ว’

‘มันคงอีกไม่นานก่อนข้าจะสามารถให้คนของข้าแทรกซึมเข้าสู่ระดับผู้อาวุโสได้’

กู่ฉางเกอออกที่พักเขาหลังพิจารณาเรื่องเหล่านี้

กลุ่มผู้ติดตามเขา รวมถึงหยินเม่ยกับศิษย์แท้จริงคนอื่นได้ตามตูดกู่ฉางเกอไปทางเมืองโบราณเต๋าสวรรค์

กู่เซียนเอ๋อร์ถือเป็น’ตัวประกัน’ที่ยอดเขาผู้อาวุโสใหญ่ ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยนางออกมาก่อนนางจะถึงอาณาจักรราชา

โดยธรรมชาติ กู่ฉางเกอก็ไม่คิดไปตอนนี้

เขาประเมินว่าผู้อาวุโสใหญ่จะไม่อนุญาตให้เขาเหยียบเข้าภูเขาอีกแล้ว และต่อให้เขาไป ตาแก่นั่นก็อาจตบเขาลงมา

จะมีตอนที่กู่เซียนเอ๋อร์ไม่สามารถระงับความสงสัยและความอยากรู้ได้อีก ตอนนั้น นางจะวิ่งมาหาเขาเอง

ทุกอย่างต้องทำอย่างพอดี เพราะส่วนเกินมีแต่จะทำให้เกิดผลลัพธ์ไม่น่าพึงใจ

เมืองโบราณเต๋าสวรรค์ค่อนข้างมีชีวิตชีวา คนจากสำนักต่างๆของอาณาจักรเบื้องบนมาด้วยความตื่นเต้น เขาจึงสามารถใช้โอกาสนี้ไปพบ’เพื่อนเก่า’ได้

ในเวลาเดียวกัน เขาสามารถหาข่าวเกี่ยวกับบุตรฟ้าประทานที่ระบบแจ้งเตือนเขาเร็วๆนี้ได้

ตอนนี้ที่บุตรฟ้าประทานอยู่ในระยะของระบบ เขาต้องอยู่ไม่ไกลจากเขาเกินไป

...

ศิษย์หลายคนที่ประตูวังเต๋าอมตะสวรรค์สังเกตเห็นกู่ฉางเกอกับผู้ติดตามเขาตอนเขาออกเดินทางไปยังเมืองโบราณ

ผู้ชมอดไม่ได้ที่จะมองกู่ฉางเกอด้วยสายตาอิจฉาและชื่นชม เหนือสิ่งอื่นใด เขาทำให้ผู้อาวุโสใหญ่ขุ่นเคือง แต่ก็ยังกล้าเดินไปทั่ววังเต๋าเหมือนสวนหลังบ้าน และแม้แต่ผู้อาวุโสของวังก็ยังทำอะไรเขาไม่ได้

มีแค่กู่ฉางเกอเท่านั้นถึงทำอะไรแบบนี้ได้!

ไม่นาน ข่าวเกี่ยวกับศิษย์แท้จริงออกจากวังเต๋าก็กระจายไป และหลายคนก็จับตาดูการเคลื่อนไหวของเขา

..

[หอคอยประชันสวรรค์]

หอคอยประชันสวรรค์คือสิ่งก่อสร้างใหญ่โตในเมืองโบราณเต๋าสวรรค์ มันเป็นของพันธมิตรการค้าหมื่นเต๋า ซึ่งหนุนหลังโดยสำนักเซียนนับไม่ถ้วน

ในวันปกติ มีแค่พวกคนใหญ่คนโตกับอัจฉริยะถึงได้รับเกียรติให้ก้าวเข้าหอคอย

ทั้งสถานที่เต็มไปด้วยแสงสว่างที่ทำให้มันดูเหมือนแดนสวรรค์ ดอกไม้เซียนเบ่งบานและปล่อยกลิ่นหอมไปทุกทิศทาง มีนกกับอสูรหายากอยู่ทั่ว ช่วยเสริมความงามของที่แห่งนี้

หอคอยประชันสวรรค์ยังมีภูเขาที่ปกคลุมด้วยหมอก น้ำค้างแข็งกับปราณหนาแน่นที่มาจากสมบัติวิญญาณซึ่งกระจัดกระจายทั่วภูเขา

ตอนนี้ อัจฉริยะรุ่นเยาว์นับไม่ถ้วนจากสำนักต่างๆของอาณาจักรเบื้องบนได้มารวมกันในหอคอย ด้วยผู้ติดตามที่มีพลังบ่มเพาะสูง อัจฉริยะเหล่านี้เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

บ้างมีเขาบนหัว บ้างมีหน้าตาประหลาด บ้างมีกลิ่นอายยิ่งใหญ่แผ่ออกมา

มีคนหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาและสาวงามเหมือนเทพธิดาทั่ว

การกำเนิดของสมบัติศักดิ์สิทธิ์ในส่วนลึกของวังเต๋าทำให้หลายขุมอำนาจตกใจ แต่เพราะต้องพิจารณาถึงหน้าตาและด้านอื่น สัตว์ประหลาดเฒ่าที่ซ่อนตัวในขุมอำนาจเหล่านี้จึงยังไม่ออกมา พวกเขาส่งอัจฉริยะตัวเองมาฉวยโอกาสแทน

ทุกคนในนี้อย่างน้อยก็ต้องเป็นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงในดินแดนตนเองบ้าง บางคนยังเห็นอัจฉริยะสูงสุดบางคนเผยตัวสักพักก่อนหายไปในส่วนลึกของหอคอย และนั่นก็ทำให้เกิดความวุ่นวายแล้ว

วังเต๋าอมตะสวรรค์ถือได้ว่าดึงดูดคนทั้งโลก!

มันสามารถเห็นรังสีแสงนับไม่ถ้วน เรือรบบินได้ สัตว์ขี่ และสมบัติบินเหนือเมืองโบราณเต๋าสวรรค์ ซึ่งบดบังแสงแดดและปกคลุมท้องฟ้า

หอคอยประชันสวรรค์หนุนหลังโดยพันธมิตรการค้าหมื่นเต๋า ไม่เพียงมันจะให้บริการในฐานะโรงประมูลใหญ่สุดของเมือง แต่มันยังเป็นตึกการค้าที่ใหญ่สุดของเมือง มันมียาวิเศษนับไม่ถ้วน วิชายุทธ์ลี้ลับ อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์และวัตถุดิบล้ำค่า

นอกจากนี้ หอคอยประชันสวรรค์ยังจัดงานเลี้ยงหมื่นเต๋าที่จะรวมอัจฉริยะรุ่นเยาว์ทั้งหมดให้มาแข่งขันกัน

งานเลี้ยงหมื่นเต๋าทุกครั้งจะมีของดีเป็นจุดเด่น!มันสามารถเป็นได้ทั้งวิชายุทธ์ลี้ลับ อาวุธเทพ หรือบางสิ่งที่มีค่ามาก

ถ้านั่นยังไม่พอ งั้นงานเลี้ยงหมื่นเต๋ายังมอบโอกาสให้คนได้กระจายชื่อไปทั่วโลกผ่านการแสดงฝีมือแค่ครั้งเดียว

ตอนนี้ อัจฉริยะรุ่นเยาว์มากหน้าหลายตากำลังคุยกันไม่หยุดปาก

“โอกาสครั้งใหญ่ได้สำแดงในส่วนลึกของวังเต๋าอมตะสวรรค์ สำนักของข้าจึงส่งข้ามาที่นี่เพื่อแบ่งมัน”

สิ่งมีชีวิตหนุ่มที่มีปีกเงินบนหลังพูด

“ถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งนี้ การเข้าไปข้างในโดยไม่ได้เป็นศิษย์ของวังเต๋าอมตะสวรรค์จะถือว่าเป็นไปไม่ได้”

คนข้างเขาพูด

“เรื่องไม่มีทางง่ายอย่างที่พวกเจ้าคิด”

“ถูกต้อง!ข้าได้ยินว่ามีทวีปเซียนโบราณลึกลับในส่วนลึกของวังเต๋าอมตะสวรรค์ ที่นั่นต้องมีสมบัติซ่อนอยู่มากแค่ไหนกัน?เจ้าจะประเมินไดหรือ?ถ้ามันเป็นข้า ข้าต้องอยากผูกขาดทุกอย่างไว้กับตัว ข้าได้ยินว่ามีแค่ผู้อาวุโสกับผู้สืบทอดของวังเต๋าถึงมีสิทธิ์ก้าวเข้าทวีปนั่น และทุกคน แม้กระทั่งศิษย์แท้จริงก็ไม่สิทธิ์จะเหยียบเข้าไป”

จากนั้น ชายหนุ่มข้างคนเหล่านี้ก็ตอบอัจฉริยะข้างเขาด้วยความดูถูก ไฟสีม่วงห้อมล้อมคนที่พูด และใยบหน้าน่ากลวัของเขาก็ทำให้เขาดูเหมือนคนที่มาจากโลกแห่งคนตาย

หลายคนเปลี่ยนสีหน้าพอจำคนตรงหน้าตัวเองได้

เขาคืออัจฉริยะแห่งยมโลก!

เขาควบคุมไฟแห่งยมโลกได้ ว่ากันว่าเขาเผาคู่ต่อสู้มานับไม่ถ้วน มันไม่สามารถประเมินจำนวนดวงวิญญาณที่โดนเขาเผาจนสลายไปได้

ยังมีข่าวลือว่าเขาไม่ได้อ่อนไปกว่าอัจฉริยะสูงสุด!

แต่ทว่า คำพูดของเขาก็สะท้อนในหัวพวกเขา วังเต๋าอมตะสวรรค์มีสถานะพิเศษในอาณาจักรเบื้องบนเพราะผู้ยิ่งใหญ่หลายคนล้วนเคยเป็นศิษย์ของวังและมีความรู้สึกผูกพันธ์กับวัง

คนรุ่นก่อนจะไม่บากหน้ามาขอแบ่งเค้ก พวกเขาจึงส่งผู้เยาว์ของตัวเองมาขอผลประโยชน์บ้าง

“ในเมื่อเรากำลังพูดถึงวังเต๋าอมตะสวรรค์ เราจะลืมเรื่องนายน้อยกู่ได้ไง?ข้าเกรงว่าต่อให้อัจฉริยะทั้งหมดจากขุมอำนาจต่างๆผนึกกำลังกัน พวกเขาก็คงไม่สามารถได้อะไรจากวังเต๋าถ้าเขายังอยู่”

ชายหนุ่มผมยาว ตาฟ้าส่ายหัว เกล็ดสามารถเห็นได้บนหน้าเขา และแสงสว่างก็เบ่งบานรอบตัวเขา เขามาจากตระกูลทะเลโบราณ

คำพูดของเขาทำให้คนส่วนใหญ่เงียบ

กู่ฉางเกอ!

อัจฉริยะสูงสุดหนึ่งเดียวที่อยู่ในอาณาจักรจักรพรรดิขั้นกลาง!

เขาบดขยี้อัจฉริยะสูงสุด เจ้าชายฉู่อู่จื่อได้ง่ายๆ พลังของเขาไม่อาจจินตนาการได้ เขาคือฝันร้ายสำหรับพวกเขา

การเรียกเขาว่าขุนเขาหาใดเปรียบไม่ใช่การพูดเกินจริง!

“รอก่อนเถอะ!ข้าได้ยินว่านายน้อยกู่มีเรื่องบาดหมางกับผู้อาวุโสใหญ่ ไม่กี่วันก่อน เขาทำให้ผู้อาวุโสใหญ่โกรธจนสภาพแวดล้อมเปลี่ยนสี”

บางคนพูดด้วยรอยยิ้ม“ใครจะไปรู้?นายน้อยกู่อาจไม่เลือกยืนข้างวังเต๋าก็ได้พอถึงเวลา”

พอคำพูดของผู้พูดสิ้นสุด คนในสภาพแวดล้อมก็รู้สึกถึงความปั่นป่วนจากด้านนอกหอคอย สาวงามในชุดม่วงก้าวออกจากความว่างเปล่า ดอกบัวแสงที่เกิดจากอักขระเต๋าเบ่งบานตามทุกย่างก้าวของนาง ทำให้นางดูงดงามมาก

กลิ่นอายลี้ลับปกคลุมตัวนราง แขนเสื้อนางพริ้วไหวในสายลม และใบหน้างามสดใสของนางก็ไร้ซึ่งข้อบกพร่องใดๆ

ดวงตาคู่งามของนางใสกระจ่างประดุจอัญมณีล้ำค่า

“นางเป็นใคร?”

การปรากฏตัวของนางทำให้หอคอยประชันสวรรค์ปั่นป่วน และทำให้อัจฉริยะหลายคนตกใจ พวกเขาไม่เคยเห็นสาวงามในชุดม่วงมาก่อน

“,มันเป็นเขา!เยาหลางเทียน นายน้อยตระกูลเซียนเย่!”

จากนั้น บางคนก็อุทานตอนเห็นชายหนุ่มด้านหลังสาวงามชุดม่วง

ชายหนุ่มสวมชุดเกราะทองแสบตา เขาเดินตามหลังสาวงามครึ่งก้าว แสงสีทองสว่างห้อมล้อมตัวเขา และแม้กระทั่งผมของเขาก็ยังเปล่งแสง ผู้ชมสามารถเห็นภาพนิมิตของมังกร วิหคเพลิง และสัตว์ศักดิ์สิทธิ์อื่นๆบินรอบตัวเขาได้

“มันคือเย่หลางเทียน!เขาคือการกลับชาติมาเกิดของจักรพรรดิโบราณ!”

“พระเจ้า!ไม่คิดเลยว่าเขาเองก็มาด้วย!เขากำลังจะเปิดตัวให้โลกรู้จากสวรรค์ไร้ขอบเขตแห่งนี้เหรอ?”

“ดูเหมือนตระกูลเซียนเย่ก็อยากมีเอี่ยว เย่หลางเทียนถูกยอมรับว่าเป็นการกลับชาติมาเกิดของจักรพรรดิโบราณ และตอนนนี้ เขาเองก็ปรากฏตัว!”

หลายคนในหอคอยไม่สามารถระงับความตกใจได้

เหนือสิ่งอื่นใด เย่หลางเทียนคืออัจฉริยะสูงสุดที่ควรเทียบเคียงได้กับกู่ฉางเกอ ผู้มีพรสวรรค์ของเซียนแท้จริง ไม่ว่าจะมองยังไง เขาก็ดูยิ่งใหญ่

มีน้อยคนที่จะได้เห็นเย่หลางเทียนสู้ และก็มีบันทึกการกระทำของเขาไม่มากเช่นกัน

เขาเหมือนกับกู่ฉางเกอ ผู้สามารถเอาชนะคนที่แข็งแกร่งกว่าได้แม้จะมีฐานบ่มเพาะต่ำกว่า ไม่ว่าจะเป็นอัจฉริยะสูงสุดหรือคนอื่น ทั้งคู่สามารถประชันกับพวกที่มีฐานบ่มเพาะเหนือกว่าได้

เย่หลางเทียนแทบไม่เปิดเผยตัว แต่ตอนนี้ เขากลับปรากฏตัว หลายคนเชื่อมโยงการปรากฏของเขากับเหตุการณ์ปัจจุบัน

“น้อมพบนายน้อยเย่!”

หลายคนก้มหัวให้เย่หลางเทียนและประสานมือเพื่อทำความเคารพ

เย่หลางเทียนพยักหน้าตอบ

“พี่ใหญ่ พี่คิดว่ากู่ฉางเกอจะมาที่นี่ไหม?”

สาวงามในชุดม่วงข้าวเย่หลางเทียนนั้นไม่ใช่ใครนอกจากเย่หลิวลี่

นางมองรอบตัว แต่ก็ไม่เจอคนที่นางหา นางอดรู้สึกผิดหวังไม่ได้

เย่หลางเทียนยิ้ม“น้องกู่จะไม่มาได้ไง?เขาคือหน้าตาของทั้งวังเต๋า เขาย่อมมาเป็นเจ้าภาพ”

หลังจากนั้น เขาก็แนะนำเย่หลิวลี่ให้อัจฉริยะคนอื่นรู้จัก

หลายคนคิดว่าเย่หลิวลี่เป็นญาติเขา ไม่มีใครคิดว่านางคือน้องสาวเขาที่ถูกเลี้ยงในอาณาจักรเบื้องล่าง

ความคิดของหลายคนเผาไหมหลังได้ยินว่านางเป็นใคร

องค์หญิงน้อยแห่งตระกูลเย่ แค่ตำแหน่งนี้อย่างเดียวก็ทำให้พวกเขาน้ำลายไหลแล้ว นับประสาอะไรกับอย่างอื่น พวกเขาจะไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตได้อย่างง่ายดายถ้ากลายเป็นบุตรเขยของตระกูลเย่

ความคิดต่างๆแวบผ่านหัวพวกเขา จากนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“เย่หลางเทียน ข้าได้ยินว่าเจ้าเสียท่าให้คนในตระกูลตัวเองอย่างยับเยิน?สุดท้าย การประมือก็ถึงทางตัน และเจ้าก็ทำได้แค่สูสีกับคู่ต่อสู้ของเจ้าเท่านั้น ข่าวนี้เป็นจริงหรือไม่?”

ชายกำยำที่มีเส้นสีขาวบนหน้าผากและหนังสัตว์เดินเข้ามา

ตัวของเขาแผ่จิตสังหารรุนแรง และกลิ่นอายกดขี่ มันราวกับเขาคือหม้อเดือดที่พร้อมระเบิด

“ไป่เล่ย!เขาคือนายน้อยแห่งตระกูลพยัคฆ์ขาว!ทำไมเขาถึงมาที่นี่ด้วย?”

“พระเจ้า!อัจฉริยะสูงสุดอีกคน!”

หลายคนตกใจกับการปรากฏตัวและกลั้นหายใจ วันนี้ มีอัจฉริยะสูงสุดมากมายเผยตัว

ตระกูลพยัคฆ์ขาวเองก็เป็นตระกูลเซียนโบราณ และพรสวรรค์โดยกำเนิดของพวกเขาก็คือ[พลังทำลายล้างทองคำ] ซึ่งพูดได้ว่ามีพลังจะทำลายทุกอย่าง

ลือกันว่าพลังทำลายล้างของวิชานี้ของตระกูลพยัคฆ์ขาวสามารถติดสามอันดับแรกในอาณาจักรเบื้องบน

ไป่เล่ยคืออัจฉริยะที่แข็งแกร่งสุดในตระกูลพยัคฆ์ขาวแล้ว และเขาก็ใกล้ชิดกับบรรพชนมากสุด

เทียบกับอัจฉริยะสูงสุดคนอื่น รากฐานกับอำนาจเขาเหนือกว่า!

เกิดความวุ่นวายทั่วหอคอยพอคนได้ยินชื่อไป่เล่ย

ข่าวนี้ทำให้ทุกคนตกใจ

เย่หลางเทียนคืออัจฉริยะสูงสุดที่ว่ากันว่าเทียบได้กับกู่ฉางเกอ และถูกเรียกว่าจักรพรรดิโบราณ

ข่าวที่มาจากปากของไป่เล่ยถือว่าน่าตกใจมาก

อัจฉริยะหลายคนจากหอคอยมีความตกใจเติมเต็มดวงตา

ในทางกลับกัน เย่หลางเทียนกลับเงียบสงบ ความขุ่นมัวแวบผ่านตาเขา.“ไม่คิดเลยว่าเรื่องนี้จะกระจายไปไวขนาดนี้ แต่ทว่า วิธีการของหมอนั่นแปลกไปหน่อย ข้าสะกดฐานบ่มเพาะตัวเองและไม่ได้ทุ่มสุดตัว ไม่งั้นเขาจะมีโอกาสอาละวาดต่อหน้าข้าได้ไง?”

คำพูดของเขาได้ยืนยันคำพูดของไป่เล่ย ซึ่งทำให้หอคอยเงียบ

คนเดียวที่พูดก็คือไป่เล่ย“ข้ารู้รายละเอียด เหนือสิ่งอื่นใด น้องชายเย่หลิงมีความสัมพันธ์อันดีกับข้า แน่นอน เจ้าสามารถวางใจได้เพราะข้าไม่ได้เบื่อจนมาที่นี่แค่เพื่อถากถางเจ้า”

เย่หลางเทียนได้ยินคำพูดเขาและถาม“แล้วเจ้ามาทำไม?”

“ข้าย่อมมาพบหน้าคู่หมั้นข้านะสิ”

ไป่เล่ยแสยะยิ้มและก็สามารถเห็นความภาคภูมิใจบนหน้าเขาได้

หลายคนตกตะลึง และอดอิจฉาเขาไม่ได้

ว่ากันว่าหยินเม่ย สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางได้หมั้นหมายกับไป่เล่ยไม่นานมานี้

จากนั้น คำประกาศก็มาจากด้านหน้าหอคอย“นายน้อยแห่งตระกูลกู่มาถึงแล้ว!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด