ย้อนเวลากลับสู่วันโลกาวินาศ ตอนที่ 38 พี่เป่าสุดยอดนักแสดง
ตอนที่ 38 พี่เป่าสุดยอดนักแสดง
หนิงซิวเย่ จางต๋าหมิงและทหารอีก 7 คน ลงจากรถฮัมวี่อย่างรวดเร็ว ทหารที่เดินทางมาครั้งนี้มีทั้งหมด 10 คน บวกกับหนิงซิวเย่ด้วยก็มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 11 คน
2 คน ได้รับหน้าที่เฝ้ารถเอาไว้
รวมแล้วทีมช่วยเหลือมีทั้งหมด 9 คน
ทหารที่ออกมาจากรถทุกคนต่างก็มีอาวุธครบมือ ปืน มีด ชุดเกราะ ทหารทุกคนมีพร้อมทุกอย่าง ส่วนหนิงซิวเย่ก็ใส่เพียงชุดเกราะอย่างเดียวเท่านั้น เธอใช้ปืนไม่เป็น แถมถ้าจะใช้มีดฆ่าซอมบี้สู้ใช้ดาบน้ำแข็งจากทักษะฆ่าพวกมันก็มีประโยชน์มากกว่า เพราะแบบนี้ เธอจึงใส่แค่ชุดเกราะเพียงอย่างเดียว
“พอระบุตำแหน่งคร่าวๆ ให้ได้ไหมครับ?”
จางต๋าหมิงถามหนิงซิวเย่
หนิงซิเย่พยายามใช้ความคิดของเธอ พูดตามตรง แค่จำได้ว่าน้องสาวของเธอเรียนอยู่ตึกตรงไหนมันก็สุดยอดมากแล้ว เพราะเธอมาที่นี่ก็แค่วันเปิดเทอมของน้องสาว หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลย
หนิงซิวเย่ใช้ความคิดอยู่สักพัก เธอพยายามเค้นจากความทรงจำให้มากที่สุดจากนั้นตอบว่า
“น่าจะชั้น 4 หรือไม่ก็ 5 ฉันเองก็จำได้ไม่แม่น”
“ครับ!!”
จางต๋าหมิงตอบรับ
ถึงจะไม่พอใจที่ตำแหน่งระบุแน่นอนไม่ได้ แต่ทำอะไรได้ เขาไม่อยากทำให้หนิงซิวเย่ไม่พอใจ เมื่อได้รับตำแหน่งชั้นจากหนิงซิวเย่ จางต๋าหมิงก็เริ่มจัดตำแหน่งการเดิน จางต๋าหมิงจัดให้ตัวเองและทหาร 3 คน อยู่ด้านหน้า ส่วนทหารอีก 4 คน ก็อยู่ด้านหลัง
ส่วนหนิงซิวเย่ เธอได้รับตำแหน่งให้อยู่ตรงกลาง
หนิงซิวเย่ไม่ได้ไม่พอใจอะไร เธอมาที่นี่เพื่อช่วยน้องสาว เธอไม่ได้มาเพื่อฆ่าซอมบี้เพื่อเพิ่มเลเวลของตัวเอง และหากต้องการเพิ่มเลเวลจริงๆ เอาไว้ทำหลังช่วยน้องสาวของเธอมันก็ยังไม่สาย
หน่วยทหารเริ่มออกเดินอย่างช้าๆ ระหว่างทางก็มีซอมบี้วิ่งเข้ามาบ้าง แต่ซอมบี้ก็ไม่เยอะเท่าไหร่ พวกทหารจึงสามารถฆ่าพวกมันได้อย่างรวดเร็ว
ไม่นานพวกเขาก็เดินมาถึงชั้นที่ 3
“ทหาร!! นั่นมันทหาร!!”
“ทหารมาช่วยพวกเราแล้ว!!”
“จริงด้วย!! พวกเรารอดแล้ว!!”
เมื่อพวกเขามาถึงชั้น 3 เสียงตะโกนของกลุ่มผู้ชายก็ดังขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจ
พวกที่ตะโกนเป็นกลุ่มของผู้ชายประมาณสิบกว่าคน แถมในหมู่พวกนั้นยังมีคนที่ตัวใหญ่กว่าคนอื่นๆ มันก็คือพี่เป่า พี่เป่าและพวกลูกน้องของมันลงมาชั้น 3 เพื่อมาแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
จางต๋าหมิงอดถอนหายใจไม่ได้หลังจากเห็นภาพด้านหน้า ก่อนมาที่นี่ จางหยานพ่อของเขาได้ย้ำเตือนแล้วย้ำเตือนอีกว่าคนที่ต้องช่วยมีเพียงน้องสาวของหนิงซิวเย่ คนอื่นๆ ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องช่วย
แต่พอมาเจอประชาชนที่ดีใจที่พวกเขาเจอทหาร จางต๋าหมิงก็รู้สึกอดสงสารไม่ได้ ทว่า เมื่อดูจากร่างกายของคนกลุ่มนี้บวกกับอาวุธประเภทท่อนไม้และท่อนเหล็กในมือ คนพวกนี้ก็ไม่น่าจะต้องการความช่วยเหลือแบบเร่งด่วน
จางต๋าหมิงถามขึ้นว่า
“พวกคุณเป็นใคร? แล้วมาอยู่ในโรงเรียนได้ยังไง?”
พี่เป่าเดินมาอยู่หน้ากลุ่มคน จากนั้นก็ตอบว่า
“ พวกเราทำงานอยู่ที่โรงงานใกล้ๆ โรงเรียนมัธยมปลายนกน้อง พอเกิดเรื่องขึ้นพวกเราก็หนีซอมบี้จนมาที่ถึงที่นี่ พวกเรารู้ว่ากองทัพต้องมาช่วยแน่ๆ พวกเรารู้ว่ากองทัพของประเทศเราแข็งแกร่ง พวกเราเลยพยายามไม่ออกไปไหนและพยายามสร้างที่ปลอดภัย
“ตอนนี้เมื่อพวกคุณขึ้นมาที่นี่ ชั้นล่างก็คงไม่มีซอมบี้แล้วสินะ ส่วนชั้นบนหลังจากนี้มันมีซอมบี้จำนวนมาก พวกเรามีเพียงแค่ท่อนไม้และท่อนเหล็ก พวกเราไม่กล้าขึ้นไปชั้นบน ชั้นบนมันมีจำนวนซอมบี้มากเกินไป”
พี่เป่าเริ่มปั้นน้ำเป็นตัว
เมื่อครู่ เมื่อรู้ว่าพวกทหารมาถึงพี่เป่าก็คิดแผนอย่างรวดเร็ว มันเรียกลูกน้องตัวเองที่กำลังสนุกกับพวกผู้หญิงกลับมาในห้องและเริ่มวางแผน แผนของมันก็คือ ไม่ต้องให้พวกทหารเจอกับพวกนักเรียน
เพียงแค่พวกทหารไม่เจอกับพวกนักเรียน พวกทหารก็จะไม่รู้ว่ามันและพวกพ้องทำเรื่องเลวๆ อะไรเอาไว้ เมื่อทหารไม่รู้พวกมันก็ไม่โดนลงโทษ และการใช้ข้ออ้างอย่างมีซอมบี้จำนวนมากเพื่อไม่ให้พวกทหารขึ้นไปยังชั้นที่ 5 ชั้นที่ขังพวกนักเรียนเอาไว้ ข้ออ้างนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
จางต๋าหมิงมองหนิงซิวเย่ เขาไม่ได้กลัวซอมบี้แต่เขามองเธอเพราะต้องการให้เธอตัดสินใจ หากด้านบนเต็มไปด้วยซอมบี้จริงๆ น้องเธอคงไม่รอดแล้วแน่ๆ หากคิดตามหลักการปกติก็ควรหยุดและถอนกำลัง
“อย่างน้อยฉันก็ต้องการเห็นศพน้องสาวตัวเอง!!”
หนิงซิวเย่พูดด้วยน้ำเสียงตั้งมั่น
ได้ยินดังนั้น จางต๋าหมิงก็ไม่มีทางเลือกเขาเริ่มออกคำสั่งกับพวกทหารว่า
“พวกเราจะขึ้นไปด้านบน ครั้งนี้พวกนายสามารถใช้ปืนได้เพราะความปลอดภัยต้องมาก่อน หากพวกเราสามารถยืนยันตัวตนเป้าหมายของพวกเราได้แล้ว พวกเราก็จะกลับทันที”
“ครับ!!”
ทหารทุกคนตอบรับคำสั่งพร้อมกัน
ทางด้านของพี่เป่าและคนอื่นๆ ตอนนี้พวกมันทำหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก บางคนก็ทำหน้าซีดขาวออกมา คนพวกนี้มันบ้าหรือไง!? ก็บอกไปแล้วว่าด้านบนมันมีซอมบี้เยอะพวกมันยังจะขึ้นไปกันอีก!?
พี่เป่าและคนอื่นๆ รู้ตัวดีว่าตัวเองต้องหยุดเอาไว้ เพราะหากพวกทหารไปเจอกับพวกนักเรียนพวกมันไม่รอดกันแน่ๆ กฎหมายประเทศจีนไม่ได้อ่อนเหมือนประเทศบางประเทศ การข่มขืนผู้อื่นก็มีแต่ความตายเท่านั้นที่รออยู่ พวกสวะสังคมแบบนี้ ประเทศจีนจะตราหน้าว่าพวกมันไม่สมควรมีชีวิตอยู่เป็นภัยต่อสังคมอีก
ระหว่างกำลังมองพวกทหารเตรียมตัวจากไป พี่เป่าก็คิดอะไรขึ้นมาได้ รถฮัมวี่! ใช่แล้ว! พวกทหารมาที่นี่ด้วยรถฮัมวี่!! พี่เป่าได้แผนใหม่ทันที
พวกทหารด้านหน้าต่างก็มีอาวุธครบมือ ปืน มีด และเกราะป้องกันร่างกาย คนธรรมดาแบบพวกมันถึงจะมีเยอะกว่าเกือบเท่าตัวแต่ก็คงไม่ใช่คู่มือ เพราะงั้นเมื่อไม่สามารถหยุดเอาไว้ได้ ทางออกก็คือไปขโมยรถพวกทหารและหนีไป
รถฮัมวี่คันหนึ่งอัดคนได้ประมาณ 5 – 6 คน พวกที่อยู่นี่ก็ปาเข้าไป 9 คน เข้าไปแล้ว พวกที่เฝ้ารถอยู่ก็คงมีไม่เกิน 3 คน แทนที่จะสู้กับทหารพร้อมรบตรงหน้า พี่เป่ามันเลยเลือกไปเสี่ยงดวงขโมยรถฮัมวี่ดีกว่า
พี่เป่าปั้นหน้ายิ้ม จากนั้นก็พูดขึ้นว่า
“คุณทหารระวังตัวกันด้วยนะครับ ด้านบนมันมีพวกซอมบี้เยอะจริงๆ แถมพวกซอมบี้ยังไวต่อเสียงด้วย ถ้างั้นพวกผะ-”
“หัวหน้า!! มีผู้หญิงกระโดดลงมาจากตึกครับ!! ซ่า…”
ก่อนที่พี่เป่าจะพูดจบ วิทยุในมือของจางต๋าหมิงก็ดังขึ้นมาก่อน คนที่ติดต่อกับจางต๋าหมิงตอนนี้ก็คือทหารที่ให้เฝ้ารถฮัมวี่เอาไว้
เมื่อได้ยินรายงานจากทหาร จางต๋าหมิงก็ชี้ปืนในมือของเขาไปที่พวกพี่เป่าและนักเลงคนอื่นๆ ก่อนจะตะโกนออกคำสั่งว่า
“คุกเข่าแล้วยกมือขึ้น!!!”
ทหารคนอื่นๆ เมื่อเห็นจางต๋าหมิงทำ พวกเขาก็ชี้ปืนตามไปเช่นกัน
พี่เป่าและพวกนักเลงหน้าซีด ใคร??? ใครมันกระโดดลงจากตึกตอนนี้???
พี่เป่าและพวกนักเลงต่างก็อยากฉีกร่างของคนที่กระโดดลงจากตึกออกเป็นชิ้นๆ พวกมันจะรอดแล้วแท้ๆ ดันมาทำให้พวกมันซวยซะได้
พวกนักเลงไม่มีทางเลือก ถึงจะไม่กลัวทหารแต่พวกมันก็กลัวปืน พวกมันทุกคนเริ่มทำตามคำสั่งของจางต๋าหมิงทันที พี่เป่าก็ทำด้วยเหมือนกัน
เหตุผลที่จางต๋าหมิงตัดสินใจแบบนี้ก็เพราะเขาไม่ใช่คนโง่ พวกนี้บอกว่าชั้นบนมีซอมบี้จำนวนมากแล้วมันจะไปมีคนกระโดดลงมาได้ยังไง จะว่าโดดจากชั้น 1 – 2 ก็ไม่น่าใช่เพราะพวกเขาผ่านมาแล้วและไม่เจอคน จะว่าโดดจากชั้น 3 ก็ไม่น่าใช่ เพราะหากมีคนอยู่ชั้นนี้ คนคนนั้นก็ต้องมารวมตัวกับคนพวกนี้
จางต๋าหมิงยังไม่มั่นใจอะไรสักอย่างว่าเรื่องมันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่ตั้งแต่ที่เห็นคนพวกนี้ เขาก็บอกได้ทันทีว่าทำงานโรงงานเป็นเรื่องโกหกแน่นอน ร่างกายแบบพวกมันมีหรือทำงานโรงงาน บางคนก็มีแผลบนใบหน้า บางคนก็มีแผลที่ตา นี่มันไม่ใช่สภาพของคนที่ทำงานโรงงานเลยสักนิด
เมื่อครู่ จางต๋าหมิงไม่จำเป็นต้องสงสัยหรือถามให้มากความ เพราะพวกนี้จะโกหกไปมันก็ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรต่อเขาและทีม
แต่เมื่อมีคนกระโดดลงมาจากตึกแบบนี้ จางต๋าหมิงคงไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้ การที่มีคนกระโดดลงมาจากตึกก็หมายถึงยังมีคนอื่นๆ อยู่ชั้นบน และคนที่อยู่ชั้นบนอาจมีน้องสาวของหนิงซิวเย่อยู่ที่นั่นด้วย
จางต๋าหมิงเลยไม่สามารถปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านไปได้
จางต๋าหมิงกดวิทยุและถามคำถามว่า
“คนที่กระโดดลงไปตายหรือยัง? หน้าตาเป็นยังไง?”
“ไม่รอดครับ!! ใบหน้าของเธอไม่เหมือนคุณหนิงไม่น่าจะใช่น้องสาวของเธอ ดูจากใบหน้าของเธอ เธอน่าจะเป็นเด็กนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้ ด้วยสภาพร่างกายที่เห็นเธอคงกระโดดลงมาจากชั้น 4 เป็นอย่างน้อย แถมบนร่างกายของเธอยังมีน้ำอสุจิของผู้ชายติดอยู่ด้วยครับ ซ่า…”
ทหารรายงานตามที่เห็น
คนที่กระโดดลงจากตึกก็คือหญิงสาวโชคร้ายที่โดนพี่เป่าขมขื่นคนแรก เธอคิดว่าชีวิตตัวเองจบสิ้นแล้ว เธอเลยเลือกตายดีกว่ามีชีวิตอยู่ต่ออย่างอัปยศ
เมื่อได้ยินรายงานจากทหาร จางต๋าหมิงก็พอปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมดได้ ผู้ชายพวกนี้คงขมขื่นเธอและขังเธอเอาไว้ และเมื่อพวกมันไม่มีคนเฝ้าเธอ เธอก็เลยเลือกฆ่าตัวตายเพราะทนความอัปยศไม่ไหว
จางต๋าหมิงมองพวกที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าด้วยแววตาเย็นชา จากนั้นก็ถามขึ้นว่า
“ได้ยินคนของฉันรายงานมากันแล้วใช่ไหม ไอ้สารเลวตัวไหนที่มันขมขื่นเธอ!”