ย้อนเวลากลับสู่วันโลกาวินาศ ตอนที่ 33 เข้ายึดโรงอาหารแต่กลับเจอเรื่องประหลาด
ตอนที่ 33 เข้ายึดโรงอาหารแต่กลับเจอเรื่องประหลาด
ฉวบ!!!
ฉับ!!!
“หยากกก!!!”
“ทางนี้!!! มาเสริมทางนี้หน่อย!!!”
ฉวบ!!!
ฉับ!!!
การต่อสู้ระหว่างทหารและซอมบี้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และผลที่ออกมาก็เป็นผลที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก ถึงจะมีทหารหวาดกลัวอยู่บ้างแต่ก็มีหลายคนที่ฆ่าซอมบี้ได้ง่ายๆ
หลินฟานมองพวกทหารด้วยใบหน้าพึงพอใจ หลินฟานเองก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน ตอนนี้เขาฆ่าซอมบี้ไปแล้ว 6 ตัว และอันเดดหมายเลข 1 ก็ฆ่าไปแล้วประมาณ 10 ตัว ทำให้ตอนนี้มีข้อความปรากฏต่อหน้าหลินฟานว่า
[ ประกาศจากระบบ ยินดีด้วย คุณเลเวลอัพเป็นเลเวล 2 คุณได้รับค่าพลังจุดเพื่อเพิ่มความสามารถให้กับร่างกายจำนวน 3 จุด ]
นี่คือข้อความที่หลินฟานคุ้นเคยเป็นอย่างดี
สิ่งนี้คือข้อความที่จะปรากฏขึ้นเมื่อมนุษย์เลเวลอัพ หลินฟานไม่ลังเลเมื่อข้อความปรากฏขึ้น เขารีบส่งจุดทั้งหมดไปยัง MP ของเขาทันที ถึงตอนนี้ร่างกายของเขาจะอ่อนแรงลงเพราะเหนื่อย แต่หลินฟานก็ยังไม่สนใจเพิ่ม HP ในตอนนี้
HP ตามชื่อคือพลังชีวิต แต่ตามระบบนับมันคือค่าพลังต่างๆ ของร่างกาย ซึ่ง HP ของหลินฟานตอนนี้เหลืออยู่เพียง 10/15 หลินฟานไม่คิดเลยว่าการฆ่าซอมบี้ระดับ 1 ไม่กี่ตัวจะกินแรงของเขาไปขนาดนี้
แต่ถึงแบบนั้น หลินฟานก็ยังไม่สนใจที่จะเพิ่ม HP ตอนนี้เขาสนใจเพิ่มจำนวนอันเดดมากกว่า ตอนนี้เขาเลเวล 2 แล้ว เขาสามารถอัญเชิญอันเดดระดับต่ำออกมาได้ 2 ตัวแต่พลัง MP ของเขาเหลือเพียง 4/15 เหตุผลที่มันลดลงก็เพราะหลินฟานใช้พลัง MP เพื่อซ่อมแซมอันเดดหมายเลข 001 ในระหว่างการต่อสู้
อันเดดไม่มีวันตายหากไม่โดนโจมตีหนักๆ ในครั้งเดียว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะบาดเจ็บไม่เป็น และหากมันบาดเจ็บจากการต่อสู้สิ่งที่หลินฟานต้องใช้ซ่อมแซมก็คือ MP ของเขา
แล้วอีกอย่าง การอัพเลเวลก็ไม่เหมือนในเกม ในเกมเวลาเลเวลอัพพลังของคุณจะรีเซตเป็นพลังเต็มทั้งหมด ทว่า ในวันโลกาวินาศไม่ใช่แบบนั้น เมื่อเลเวลอัพค่าพลังของคุณจะไม่เพิ่มขึ้นไปที่จุดสูงสุด ที่จะเพิ่มขึ้นก็คือความจุของค่าพลังที่คุณอัพเพิ่มเท่านั้น
แล้วถ้าหากอยากให้ค่าพลังค่าต่างๆ ฟื้นคืนกลับมาก็ไม่ใช่เรื่องยาก หนึ่งพักผ่อน สองกิน แค่ทำสองอย่างที่บอกไปค่าพลังต่างๆ ก็จะฟื้นกลับมาเอง
หลังจากการกวาดล้างไม่นาน ซอมบี้ 500 กว่าตัวก็โดนทหารและหลินฟานจัดการไปจนหมด พวกมันนอนเป็นศพอยู่กับพื้นโดยมีแผลจากมีดเจาะที่หัว ไม่ก็หัวขาดจากการโดนฟัง
เมื่อตรวจสอบดูหลินฟานก็พบว่า การต่อสู้ครั้งนี้ไม่มีใครตายหรือติดเชื้อ แต่ก็ไม่มีใครที่เลเวลอัพเช่นกัน
ปกติแล้ว หากต้องการเลเวลอัพจากเลเวล 1 ไปเลเวล 2 คนคนนั้นจะต้องฆ่าพวกซอมบี้เลเวล 1 ประมาณ 15 – 20 ตัว ซึ่งทหารส่วนมากฆ่าได้แค่คนละไม่กี่ตัว ทั้งนี้ก็เป็นเพราะซอมบี้มันมีไม่มากเท่าไหร่ด้วย ทหารที่ฆ่าได้มากที่สุดก็คือจำนวน 5 ตัว ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกทหารจะไม่เลเวลอัพแบบหลินฟาน
หลินฟานมองไปทางอันเดดหมายเลข 001 เขาพบว่าแขนซ้ายของมันกำลังหลุดอยู่ หลินฟานถอนหายใจเบาๆ แล้วคิดในใจว่า
‘ การต่อสู้ครั้งนี้แกกิน MP ไปตั้ง 4 จุดแล้วนะ เฮ้อ~ ‘
ถึงจะไม่พอใจแต่หลินฟานก็ไม่มีทางเลือก และถึงจะด่าหรือบ่นไปอันเดดระดับต่ำแบบมันก็คงไม่รู้เรื่อง มันรู้แค่สั่งให้ทำอะไรก็ทำเท่านั้น บ่นไปก็เหมือนเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา และผลงานที่มันทำได้ก็ถือว่าดีมาก
ระหว่างหลินฟานกำลังรักษาแขนซ้ายอันเดดหมายเลข 001 เสียงวิทยุที่ติดอยู่ข้างแขนก็ดังขึ้นว่า
“คุณหลิน! ประตูโรงอาหารล็อกเอาไว้ครับ ให้พวกเราใช้ระเบิดทำลายเข้าไปเลยไหม ถ้าหากไม่ทำลายพวกเราสามารถให้ช่างทหารมาเปิดได้ แต่คงใช้เวลาประมาณ 10 นาที ซ่า…”
เสียงที่รายงานเรื่องประตูเป็นเสียงของเจียงเป่า
เมื่อรู้ว่าเส้นทางโดนเปิด เจียงเป่าและจางหยานก็พาทหารตรงยังโรงอาหารกันทันที พวกเขาเป็นพวกที่มีประสบการณ์ พวกเขาไม่ต้องให้หลินฟานสั่งให้ทำทุกอย่าง
หลินฟานกดปุ่มวิทยุแล้วตอบว่า
“ลองตะโกนบอกให้คนข้างในเปิดหรือยัง? ซ่า…”
“ลองแล้วครับแต่ไร้การตอบรับ พวกเราบอกว่าเป็นทหารก็แล้ว บอกว่าจะมาช่วยก็แล้ว บางทีพวกที่อยู่ด้านในอาจกลายเป็นซอมบี้ไปหมดแล้วก็ได้ ซ่า…”
เจียงเป่าคาดเดา
หลินฟานคิดว่าสิ่งที่เจียงเป่าพูดออกมามีเหตุผล ตอนนี้คิดได้อยู่สองกรณี กรณีแรกเป็นแบบที่เจียงเป่าพูดออกมา ระหว่างปิดประตูโรงอาหารคนที่อยู่ในนั้นอาจมีใครติดเชื้อ พอหลังจากเวลาผ่านไปคนที่ติดเชื้อก็กัดพวกที่อยู่ด้านใน ส่งผลให้ด้านในเต็มไปด้วยซอมบี้เลยไร้การตอบรับ
ส่วนอีกกรณี ก็คือพวกที่อยู่ในนั้นเป็นพวกคนมีสมอง เหตุผลที่หลินฟานคิดว่าพวกนั้นมีสมองก็เป็นเพราะว่า พวกนั้นไม่หวังความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ หรือทหาร แต่ระวังตัวเองและพยายามรักษาสถานที่ปลอดภัยของตัวเองเอาไว้ หลินฟานชอบพวกมีสมองแบบนี้เพราะเวลาคุยจะได้คุยง่ายๆ
แต่ไม่ว่าจะกรณีไหนในกรณีทั้งสอง พวกที่อยู่ด้านในก็ไม่เป็นปัญหาต่อหลินฟาน
หลินฟานออกคำสั่งว่า
“ทำลายเข้าไปเลย ประตูไม่จำเป็นสำหรับพวกเราเดี๋ยวเอารถIFV ขวางไว้แทนประตูก็ได้ ซ่า…”
หลินฟานรู้ว่าการระเบิดจะทำให้ซอมบี้รอบๆ มารวมตัว แต่ตอนนี้เขามีพร้อมทั้งคนและอาวุธ อย่าว่าแต่ซอมบี้หลักพันตัวหรือหมื่นตัว ต่อให้ซอมบี้หลักแสนหลินฟานก็มั่นใจว่าเขาสามารถเอาชนะพวกมันได้
“รับทราบ!! ซ่า…”
เจียงเป่าตอบรับคำสั่ง
เมื่อจบการสนทนากับหลินฟานและได้ไฟเขียวให้ทำลาย เจียงเป่าก็หันไปหาจางหยางที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงของผู้ชนะว่า
“ฉันบอกแล้วว่าต้องได้รับคำสั่งทำลายแน่”
“เออๆ รีบๆ ทำตามคำสั่งเถอะ”
จางหยางไม่อยากเถียงต่อ ถึงเขาจะบอกให้ถามหลินฟานก่อนแต่จางหยานก็พอเดาได้ว่าต้องเป็นแบบนี้
คำสั่งทำลายโดนส่งออกไปอย่างรวดเร็ว ทหารเริ่มกระจายตัวออกจากประตูและมีทหารหนึ่งคนวิ่งเอาระเบิด C4 ไปวางเอาไวที่ประตู ปริมาณของระเบิดถูกคำนวณอย่างดีจากผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพในกองทัพ พวกเขาคำนวณมาแล้วว่าจะไม่ทำให้อาคารเสียหายมาก แต่ประตูเหล็กขนาดใหญ่ที่ปิดอยู่พังแน่นอน 100%
“ระเบิด!!!”
เจียงเป่าตะโกนออกคำสั่ง
ปัง!!!
แรงระเบิดทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อย และซอมบี้รอบๆ ที่ได้ยินเสียงก็พากันเดินมาที่โรงอาหาร พวกทหารรอบๆ และทหารบนรถหุ้มเกราะรอบโรงอาหารก็ไม่รอช้า พวกเขาเห็นว่าพวกมันมีจำนวนมากพอสมควร พวกทหารจึงหยิบปืนขึ้นมาแล้วสาดกระสุนไปที่พวกมัน
ซอมบี้ล้มลงราวกับหญ้าที่โดนเครื่องตัดหญ้าตัด ไม่นานพวกมันก็หมด
ทางด้านของการระเบิด เมื่อระเบิดระเบิดขึ้น ประตูเหล็กก็โดนทำลายแบบที่คิดเอาไว้ หน่วยทหารที่ฝึกมาอย่างดีต่างก็วิ่งเข้าไปในโรงอาหารพร้อมกับปืนในมือ หากมีซอมบี้อยู่พวกมันก็จะโดนยิงทันทีเมื่อปรากฏตัวให้เห็น
ทว่า เมื่อทหารเข้าไปเห็นด้านในโรงอาหารพวกเขากลับไม่ได้เห็นซอมบี้แบบที่คาดการณ์เอาไว้ พวกเขาเจอกับกลุ่มผู้รอดชีวิตประมาณ 100 คน กำลังถือของทุกอย่างที่สามารถใช้เป็นอาวุธได้ ไม้หน้าสาม ทอนเหล็ก มีดทำอาหาร ขาโต๊ะ มีของหลายอย่างอยู่ในมือของคนเหล่านั้น
กลุ่มผู้รอดชีวิตเมื่อเห็นทหาร พวกเขาต่างก็แสดงความหวาดกลัวบนใบหน้า ทหารที่เห็นต่างก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับกลุ่มผู้รอดชีวิตพวกนี้ ปกติเวลาเห็นทหารหรือตำรวจต้องขอความช่วยเหลือกันสิ ทำไมถึงได้ทำท่าทางเหมือนกำลังหวาดกลัว?
เมื่อยืนยันว่าด้านในไม่มีซอมบี้ และไม่มีอะไรน่าสงสัย หัวหน้าทหารของทีมที่เข้ามาในโรงอาหารก็กดวิทยุของเขา จากนั้นก็รายงานว่า
“รายงานพลเอกอาวุโสเจียง ด้านในเคลียร์เรียบร้อยครับ ด้านในไม่มีซอมบี้แต่มีกลุ่มผู้รอดชีวิตประมาณ 100 คน มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ซ่า…”
ได้ยินรายงานเจียงเป่าก็ขมวดคิ้วสงสัย คนพวกนี้เป็นบ้าอะไรกัน? ทำไมเมื่อกี้ไม่ยอมเปิดประตูให้ทหารแบบพวกเราเข้าไปดีๆ?
“เข้าไปดูกันเถอะ”
จางหยางพูดแล้วเริ่มเดินไปที่โรงอาหาร
เจียงเป่าเองก็เดินตามเข้าไปด้วยเช่นกัน
เมื่อเจียงเป่าและจางหยางเข้ามาที่ด้านในโรงอาหาร พวกเขาก็แปลกใจเล็กน้อยที่เห็นกลุ่มผู้รอดชีวิตกำลังแสดงท่าทางหวาดกลัวออกมา เจียงเป่าและจางหยางได้ยินความเลวร้ายของวันโลกาวินาศจากหลินฟานมาบ้าง ที่ว่าจะมีกลุ่มก่อตั้งขึ้นมาจำนวนมากและทำเรื่องผิดกฎหมาย ผิดจริยธรรม และผิดศีลธรรม
แต่ตอนนี้มันพึ่งเกิดวันโลกาวินาศไม่กี่ชั่วโมงเอง คนเหล่านี้ก็เคยโดนกลุ่มเลวๆ เล่นงานมาแล้วงั้นเหรอ ไม่! เรื่องนั้นเป็นไม่ได้ไม่!! มันไม่ถูกต้อง!!!
โลกพึ่งเข้าสู่วันโลกาวินาศได้ไม่กี่ชั่วโมงแบบนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีกลุ่มคนเลวๆ เกิดขึ้น และดูจากอาวุธในมือที่พวกกลุ่มผู้รอดชีวิตมีอยู่ พวกเขาก็น่าจะปกป้องตัวเองได้ในระดับหนึ่ง
แต่เจียงเป่าและจางหยางคิดเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจ พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมคนเล่านี้ไม่วิ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือเมื่อเห็นทหาร แต่กลับกำลังแสดงออกว่ากำลังกลัวทหารออกมาแทน
ระหว่างที่เจียงเป่าและจางหยางกำลังสงสัย เสียงตะโกนของผู้ชายคนหนึ่งจากกลุ่มผู้รอดชีวิตก็ดังขึ้นว่า
“คุณหัวหน้าทหาร!!!! คุณหัวหน้าทหารช่วยนายน้อยหมิงด้วยค่ะ!!!”