ย้อนเวลากลับสู่วันโลกาวินาศ ตอนที่ 30 ความโหดร้ายของวันโลกาวินาศค่อยๆ เริ่มเปิดฉากขึ้นแล้ว
ตอนที่ 30 ความโหดร้ายของวันโลกาวินาศค่อยๆ เริ่มเปิดฉากขึ้นแล้ว
ภายในรถฮัมวี่
“พลเอกอาวุโสหม่า พวกเราใกล้ถึงซูเปอร์มาร์เก็ตจุดที่ 3 แล้วครับ ด้านหน้าของซูเปอร์มาร์เก็ตโดนชั้นวางของและของมากมายขวางทางเอาไว้ คิดว่าน่าจะมีคนแอบอยู่ในนั้นครับ ซ่า…”
วิทยุที่อยู่ในมือของหม่าจือฉินดังขึ้น
หม่าจือฉินก็เป็นอีกคนที่ได้รับหน้าที่สร้างรากฐานให้ค่าย แถมเขายังมีอีกหน้าที่ที่สำคัญมากๆ นั่นคือการทำให้ศัตรูในอนาคตอ่อนแรงลง
เมื่อหม่าจือฉินออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน หม่าจือฉินก็สั่งให้ทหารในหน่วยของตัวเองรวมตัวกัน และพยายามค้นหาจุดที่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตก่อนเป็นอันดับแรก เหตุผลที่หม่าจือฉินเลือกค้นหาในซูเปอร์มาร์เก็ตก็เพราะเขารู้ว่า เขามั่นใจว่าต้องมีคนอยู่ในนั้น
หากคนไหนฉลาดและเห็นว่าโลกกำลังวุ่นวาย คนคนนั้นก็ต้องมาตุนอาหารกันก่อนอยู่แล้ว อีกอย่าง ก่อนวันโลกาวินาศเมืองหลวงของมณฑลหลินหนานก็วุ่นวายอยู่พอตัว เพราะงั้นหม่าจือฉินจึงคาดการณ์ว่า ต้องมีคนจำนวนมากอยู่ภายในซูเปอร์มาร์เก็ตแน่นอน
ซูเปอร์มาร์เก็ตมีทั้งอาหาร และความปลอดภัยเพราะถูกสร้างมาอย่างดี หากใครฉลาดก็ต้องนึกถึงซูเปอร์มาร์เก็ตก่อนอยู่แล้วหากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
แล้วก็เป็นแบบที่หม่าจือฉินคาดการณ์เอาไว้จริงๆ ซูเปอร์มาร์เก็ต 2 แห่งก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยซอมบี้จำนวนมาก เพียงมองผ่านๆ ก็รู้ว่าไม่น่าจะมีคนอยู่ด้านใน แต่การมีซอมบี้จำนวนมากก็แปลว่าเคยมีคนจำนวนมากอยู่ในนั้นมาก่อน เพียงแต่คนพวกนั้นโชคร้ายที่ตั้งตัวไม่ทันเลยโดนกัดจนเปลี่ยนเป็นซอมบี้ทั้งหมด
หากต้องการกวาดล้างซอมบี้ที่อยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตทั้ง 2 แห่ง หม่าจือฉินสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยกำลังทหารที่มี แต่หม่าจือฉินไม่สนใจทำมัน หน้าที่ของเขาคือการหาตำแหน่งรูเล็ตและยุยงผู้คนให้ฆ่าซอมบี้ ไม่ใช่การกู้คือเมืองหรือการหาอาหาร
คิดได้แบบนั้น หม่าจือฉินเลยไม่สนใจแล้วหาผู้คนต่อเรื่อยๆ และในที่สุด เมื่อมาถึงจุดซูเปอร์มาร์เก็ตจุดที่ 3 พวกเขาก็พบเป้าหมายแล้ว
หม่าจือฉินกดปุ่มวิทยุแล้วตอบว่า
“ดีมาก พวกเราจะเริ่มที่นี่เป็นที่แรก สั่งให้ทหารเคลียร์พื้นที่แล้วเปิดทางเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตเอาไว้ ซ่า…”
“ครับท่าน! ซ่า…”
ทหารตอบรับคำสั่งผ่านวิทยุ จากนั้นก็จบการติดต่อ
เมื่อได้รับคำสั่ง รถฮัมวี่ 5 คัน ก็ตรงไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตเป้าหมาย ปืนขนาดลำกล้อง 12.5 มม. สาดกระสุนใส่เหล่าซ่อมบี้รอบๆ ซูเปอร์มาร์เก็ตราวกับว่าเป็นห่าฝน อีกทั้งรอบๆ ยังมีทหารถือปืนไรเฟิลยิงซ่อมบี้รอบๆ อย่างเป็นระเบียบ ภายในเวลาไม่กี่นาทีหลังเปิดฉากการโจมตี ซอมบี้หลายร้อยตัวก็นอนเป็นศพอยู่บนพื้น
“นั่นมันทหาร!! ทหารมาช่วยพวกเราแล้ว!!”
“จริงด้วย!! พวกเขามาช่วยเราแล้ว ฉันบอกไปแล้วว่าประเทศของเราต้องแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ กองทัพประเทศของเรายิ่งใหญ่ที่สุด”
“รอดแล้ว พวกเรารอดแล้ว”
“ฆ่าพวกมัน ฆ่าพวกปีศาจให้หมด”
กลุ่มผู้รอดชีวิตที่อยู่ภายในซูเปอร์มาร์เก็ตกำลังเต็มด้วยอารมณ์ดีใจ บางคนก็ตะโกนเชียร์ให้ทหารฆ่าซอมบี้ด้านนอกให้หมด
เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ คนเหล่านี้ยังเต็มไปด้วยความสิ้นหวังแต่เมื่อเห็นกองทัพ เห็นพลังทำลายล้างของอาวุธปืน พวกเขาก็เต็มไปด้วยความหวัง พวกเขารู้สึกเหมือนว่าชีวิตได้พบกับแสงสว่างอีกครั้ง
“เอาชั้นวางของออกแล้วเร็ว เปิดประตูออก”
ชายคนหนึ่งตะโกนด้วยความเร่งรีบ
เมื่อทุกคนได้ยินเสียงของชายที่ตะโกนขึ้น พวกเขาต่างก็วิ่งไปที่ประตูแล้วเอาของออกอย่างรวดเร็ว ทุกคนร่วมมือกันอย่างขยันขันแข็ง
หม่าจือฉินลงมาลงหุ้มเกราะ จากนั้นก็มองไปยังกลุ่มคนที่กำลังพากันขนของออกจากประตูอย่างขยันขันแข็ง หม่าจือฉินรู้สึกผิดนิดหน่อยที่ตัวเองต้องทำลายความหวังของคนพวกนี้ แถมยังต้องยุยงให้คนพวกนี้ไปตายอีก
“เฮ้อ~”
หม่าจือฉินถอนหายใจคนเดียวเงียบๆ
หลังจากนั้นไม่นาน ประตูซูเปอร์มาร์เก็ตก็เปิดออก คนหลายสิบคนต่างก็วิ่งตรงเข้ามาหาหม่าจือฉินที่ยืนอยู่ด้านหน้าของเหล่าทหาร จากนั้นคำถามก็ดังขึ้น
“สถานการณ์ในประเทศตอนนี้เป็นยังไงบ้าง???”
“เกิดอะไรขึ้น!? ทำไมถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้!?”
“ทั้งโลกเป็นแบบนี้ไหม ฉันมีญาติอยู่ประเทศญี่ปุ่นฉันต้องการโทรหาเขา”
“ช่วยส่งทหารไปช่วยเมียผมได้ไหม? ตอนนี้เธออยู่ที่บ้านคนเดี๋ยว”
“สามีฉันด้วย ช่วยส่งทหารไปช่วยสามีฉันด้วย”
“ครอบครัวผมด้วย”
“ครอบครัวฉันด้วย”
ทั้งคำถามและคำขอร้องต่างก็กระหน่ำใส่หม่าจือฉินราวกับเขื่อนแตก หม่าจือฉินขมวดคิ้วมองกลุ่มผู้รอดชีวิตที่อยู่ด้านหน้า เขาคิดไม่ออกว่าจะต้องเริ่มอะไรก่อนกับคนพวกนี้ คนพวกนี้กำลังขอข้อมูลที่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ แถมยังต้องการทหารให้ไปช่วยครอบครัวตัวเองอีก
หม่าจือฉินยกมือขึ้นเพื่อหยุดทุกคน จากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า
“ทุกคนใจเย็นก่อน ก่อนอื่นผมอยากรู้ว่าในซูเปอร์มาร์เก็ตมีรูเล็ตปรากฏออกมาไหม หรือใครเคยเห็นรูเล็ตที่ไหนบ้างไหมนอกจากรูเล็ตขนาดเล็กที่พวกคุณหมุนไป?”
“…”
“…”
“…”
เมื่อหม่าจือฉินเริ่มถามคำถาม ทุกคนก็เงียบไป หลายคนอยากถามว่าทำไมต้องถามถึงเรื่องของรูเล็ตในเวลาแบบนี้ แต่พวกเขาก็เลือกที่จะเงียบ มีคำโบราณเคยกล่าวเอาไว้ว่า ยิ่งคุณรู้น้อยเท่าไหร่ คุณก็จะมีโอกาสรอดสูงมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อไม่เห็นการตอบรับจากฝูงคนด้านหน้า หม่าจือฉินก็พอเดาว่าที่นี่คงไม่มีรูเล็ตแน่ๆ แต่เขาก็ไม่ได้เสียใจเพราะหน้าที่ของเขาไม่ใช่เพียงแค่หารูเล็ต เพียงเจอกับกลุ่มคนที่ยังมีชีวิต หน้าที่ของเขาก็สำเร็จไปเกือบครึ่งแล้ว
หม่าจือฉินพูดต่อ
“เอาล่ะ! ในเมื่อไม่มีใครเห็นก็ไม่เป็นไร ถ้างั้นผมจะบอกอะไรเอาไว้อย่าง พวกเราไม่ได้มาที่นี่เพื่อช่วยเหลือพวกคุณ”
…วูบ…
ใบหน้าของผู้คนที่ยืนอยู่แข็งค้างไปอย่างฉับพลัน ความหวังของพวกเขาโดนทำลายแล้ว หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทหารที่มีปืนพวกเขาจะรอดไปได้ยังไง
บางคนที่อยู่ตรงนี้เคยเห็นซอมบี้ฉีกกินร่างของมนุษย์กับตาของตัวเองมาแล้ว พวกเขารู้ดีว่า พวกมันน่ากลัวขนาดไหน
เสียงไม่พอใจเริ่มระเบิดขึ้น
“แกกำลังพูดเรื่องอะไร!!! แกเป็นทหารก็ต้องช่วยเหลือประชาชนสิ!!!”
“ใช่!!! ไอ้คนไม่มีความรับผิดชอบ!!!”
“พากูออกไปเดี๋ยวนี้!!! ไม่งั้นกูจะฟ้องพวกมึงให้หมดทุกคน!!!”
“ไอคนไม่มีความรับผิดชอบ!!! ไอ้เลว!!!”
กลุ่มผู้รอดชีวิตเริ่มก่นด่าต่างๆ นาๆ พวกเขาพ่นทุกอย่างที่คิดได้ออกมา
หม่าจือฉินยังคงนิ่งสงบ เขาเป็นชายที่ผ่านชีวิตมาแล้วเกือบๆ 50 ปี ความสามารถในการระงับอารมณ์ของเขาจึงอยู่ในระดับสูง กลับกัน พวกทหารที่อยู่รอบๆ ต่างก็ชักสีหน้าไม่พอใจ แล้วพากันเล็งปืนไปยังกลุ่มผู้รอดชีวิตที่กำลังด่าหัวหน้าตัวเองอยู่
เห็นดังนั้น กลุ่มผู้รอดชีวิตก็เหมือนโดนน้ำจากรถดับเพลิงฉีดใส่ พวกเขาจากอารมณ์ร้อนเป็นไฟก็เย็นลงราวกับเป็นน้ำแข็ง ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าหากทหารยิ่งปืนออกมาจะหมายถึงอะไร ด้วยปืนจำนวนมากในมือของทหารที่อยู่ที่นี่ ต่อให้พวกเขามีหลายสิบคนก็ยากที่จะรอดได้
เมื่อทุกอย่างสงบลง หม่าจือฉินก็พูดขึ้น
“เอาปืนลงกันก่อน”
ทหารทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว
ส่วนกลุ่มผู้รอดชีวิตที่โดนปืนเล็งปืนใส่ เมื่อเห็นปืนโดนเก็บไปพวกเขาก็รู้สึกโล่งใจ ตอนนี้พวกเขาต่างก็ตระหนักได้แล้วว่าตัวเองอยู่ในสถานะแบบไหน พวกเขาเลยไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก หลายคนอยากวิ่งกลับเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ต แต่บรรยากาศโดยรอบไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาทำแบบนั้น
พวกเขาไม่รู้ว่า หากเคลื่อนไหวในเวลานี้ตัวเองจะโดนอะไรบ้าง กระสุนปืนและความเร็วในการวิ่งของมนุษย์ หากคนคนนั้นไม่ใช่เด็กน้อยหรือคนที่อยู่แต่ในป่าในเขา คนที่โดนถามก็จะตอบได้ในทันทีว่าอะไรที่เร็วกว่ากัน
เมื่อทุกอย่างสงบลง หม่าจือฉินก็กวาดตามองกลุ่มผู้รอดชีวิตด้านหน้าแล้วพูดขึ้นว่า
“ พวกคุณอย่าได้กลัวไป ผมไม่มีทางปล่อยให้พวกคุณอยู่แบบไม่มีของป้องกันตัวกันอยู่แล้ว ใจจริงผมก็อยากให้ปืนกับพวกคุณ แต่ด้วยกฎของกองทัพผมคงทำแบบนั้นไม่ได้
“ แต่ว่า ผมสามารถให้มีดจำนวนมากกลับพวกคุณได้ มีดทางทหารเป็นมีดที่ออกแบบมาเพื่อต่อสู้และฆ่าโดยเฉพาะ ขอแค่คุณมีความกล้าและฟันลงไปที่หัวของซอมบี้ ซอมบี้ก็จะตายทันทีในการฟันครั้งเดียว
“ อีกอย่าง พวกคุณน่าจะรู้เรื่องของระบบกันแล้วใช่ไหม ตรงค่าสถานะของพวกคุณมันมีข้อความที่เขียวว่า 0/100 ในการเพิ่มเป็นเลเวลต่อไป เขียนเอาไว้อยู่
“ สิ่งนั้นหมายถึงจะทำให้ตัวพวกคุณแข็งแกร่งขึ้น หลายคนคงพอสังเกตได้แล้วว่าตัวเองมีแรงมากขึ้น นั่นก็เป็นเพราะระบบที่มนุษย์แบบที่พวกเราได้รับมา หากคุณมีเลเวลสูงขึ้น พวกคุณก็จะแข็งแกร่งขึ้น
“ อีกเรื่อง การจะแข็งแกร่งขึ้นพวกคุณต้องใช้อาวุธที่ได้รับจากรูเล็ต พวกมันมีชื่อว่าอาวุธวิญญาณ หากใช้อาวุธอื่นพวกคุณจะไม่ได้ความแข็งแกร่ง แถมรูเล็ตยังมีสิ่งที่เรียกว่าน้ำยาป้องกันการติดเชื้อ หากคุณกินน้ำยาป้องกันการติดเชื้อเข้าไป พวกคุณก็จะไม่มีวันติดเชื้อซอมบี้
“แต่ปัญหามันอยู่ที่ผลึก การจะได้ของจากรูเล็ตพวกเราต้องใช้ผลึกเพื่อหมุนพวกมัน…”
หม่าจือฉินหันมองไปทางศพของซอมบี้ จากนั้นก็ดึงเอาผลึกบนหน้าผากของซอมบี้ที่นอนอยู่ออกมา หม่าจือฉินชูผลึกขึ้นแล้วพูดต่อ
“ ผลึกได้จากไหนผมคงไม่ต้องอธิบาย หากพวกคุณอยากแข็งแกร่งขึ้น หากพวกคุณอยากมีชีวิตรอด พวกคุณก็ต้องฆ่าพวกมันเพื่อเอาผลึกและเอาผลึกไปหมุนเพื่อรับของจากรูเล็ต
“แต่ผมขอเตือนเอาไว้ก่อนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นเรื่องจริง มันไม่ใช่เกมส์ หากพวกคุณตายพวกคุณก็จะตายจริงๆ ระวังเรื่องนี้เอาไว้ด้วย …แล้วก็ไม่ต้องหวังพึ่งรัฐบาล ตอนนี้รัฐบาลกลางได้ล่มสลายไปแล้ว”
หม่าจือฉินเริ่มทำตามแผนที่วางเอาไว้
ส่วนพวกคนที่ได้ยินข้อมูล บางคนก็แสดงใบหน้าตื่นเต้น บางคนก็แสดงใบหน้าไม่สนใจ บางคนก็แสดงใบหน้าหวาดกลัวออกมา หม่าจือฉินไม่อาจรู้ได้ว่ากลุ่มผู้รอดชีวิตพวกนี้กำลังคิดอะไรกันอยู่ และเขาก็ไม่สนใจด้วยว่าคนพวกนี้กำลังคิดอะไร
“เอามีดมาแจกพวกเขา”
หม่าจือฉินสั่งทหารข้างๆ
ทหารตอบรับทันทีว่า
“ครับ!!”
หลังจากการแจกมีด หม่าจือฉินก็นำขบวนรถหุ้มเกราะจากไปจากซูเปอร์มาเก็ตทันที และทันทีที่หม่าจือฉินจากไป ชายร่างกายกำยำก็พุ่งเข้าหาหญิงสาวที่อายุประมาณ 20 ปี เธอเป็นคนที่สวยแบบใสๆ ชายร่างกายกำยำรัดตัวเธอเอาไว้แน่นพร้อมกับชี้คมมีดไปที่ปลายคอของเธอ
“ปล่อย!!! ปล่อยฉัน!!!”
หญิงสาวดิ้นรนสุดชีวิต แต่แรงผู้หญิงตัวน้อยๆ มีหรือจะสู้กับชายร่างกายกำยำได้
ชายร่างกายกำยำพูดขึ้นว่า
“ เงียบ!! ถ้าเธอยอมให้ฉันดีๆ ฉันสัญญาว่าจะปกป้องเธอ ถ้าเธอมีสมองพอก็น่าจะรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้มันเป็นยังไง
“ตอนนี้รัฐบาลล่มสลายไปแล้ว ตอนนี้ประเทศเราวุ่นวายไปแล้ว ขนาดทหารยังไม่สนใจช่วยเหลือประชาชน เธออยากให้ฉันสนุกกับเธอจนพอใจแล้วโยนเธอให้ซอมบี้กิน หรือเธออยากสนุกไปกับฉันและมีฉันค่อยปกป้อง”
“ไม่!!! ปล่อย!!! ใครก็ได้ช่วยด้วย!!!”
หญิงสาวยังคงดิ้นรนต่อไป
แต่ไม่ว่าเธอจะร้องเท่าไหร่ก็ไม่มีใครช่วย อย่าว่าแต่ช่วย ตอนนี้ผู้ชายหลายคนเริ่มมีแววตาแปลกๆ กันบ้างแล้ว แววตาของแต่ละคนต่างก็เป็นแววตาเหมือนนักล่ากำลังมองหาเหยื่อของตัวเอง
ใบหน้าของชายร่างกำยำตอนนี้เริ่มบิดเบี้ยวเพราะความโมโห เขาไม่พูดอะไรอีก เขายกหญิงสาวขึ้นและเดินเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ต คนอื่นๆ ไม่มีใครเข้าไปห้าม ถึงจะมีมีดเหมือนกันทุกคน แต่ใครมันจะบ้าเอาชีวิตไปเสี่ยงกับเรื่องของคนอื่น
หญิงสาวที่ถูกยกตัวไปร้องโหยหวนขอความช่วยเหลือสุดเสียงของเธอ ทว่า เธอก็ต้องพบกับความสิ้นหวังเพราะคนที่ยืนอยู่ต่างก็หันหน้าหนี ไม่ก็ทำเป็นไม่สนใจ
ความโหดร้ายแห่งวันโลกาวินาศค่อยๆ เริ่มเปิดฉากขึ้นแล้ว