ย้อนเวลากลับสู่วันโลกาวินาศ ตอนที่ 20 จงรู้สถานะของตัวเองซะ!!!
ตอนที่ 20 จงรู้สถานะของตัวเองซะ!!!
“เป็นยังไงบ้างผู้นำตระกูลเจียง ซ่า…”
วิทยุสื่อสารที่ติดอยู่บนเสื้อของเจียงเป่าดังขึ้น เสียงที่ถามออกมาเป็นเสียงของผู้นำตระกูลโอหยาง โอหยางห่าว
เจียงเป่ากดปุ่มแล้วตอบว่า
“ตอนนี้ทุกอย่างสามารถควบคุมเอาไว้ได้แล้ว ทหารกว่า 90% อยู่ที่นี่ ตอนนี้ฉันให้คนไปตามหาพวกสมาชิกตระกูลทรยศในฐานทัพแล้ว แต่ผลที่ได้ออกมาไม่ดีเท่าไหร่ พวกนั้นส่วนมากมันเข้าบังเกอร์หลบภัยกันไปเรียบร้อย ซ่า…”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น หน้าที่ของพวกเราคือขนอาวุธกลับไปยังคฤหาสน์ตระกูลหลินไม่ใช่ฆ่าพวกมัน อีกอย่างเมื่อไม่มีอาวุธพวกมันก็ไม่ต่างอะไรจากเสือที่ไร้เขี้ยวเล็บ ตอนนี้พวกเราให้ความสำคัญตามแผนเดิมก่อนดีกว่า ซ่า…”
ผู้นำตระกูลโอหยางตอบ
เจียงเป่ากดปุ่มแล้วตอบว่า
“ตกลง! ทางพวกคุณพร้อมตอนไหน? ซ่า…”
“อีกประมาณ 10 นาที รถบรรทุกก็พร้อมออก เตรียมเปิดทางเอาไว้ได้เลยพวกเราจะแวะไปรับโอหยางซินและวิศวกรในงานที่จัดขึ้นในเมือง จากนั้นก็จะตรงไปยังคฤหาสน์ตระกูลหลินทันที ซ่า…”
โอหยางห่าวทวนแผนการอีกครั้ง
เจียงเป่ยตอบรับแผนการที่โอหยางห่าวบอก จากนั้นทั้งสองคนก็เลิกติดต่อ
ไม่นานหลังจากนั้น รถบรรทุก รถหุ้มเกราะ รถถังและเฮลิคอปเตอร์โจมตีก็ออกจากฐานทัพมณฑลหลินหนาน ทหารของตระกูลโอหยาง ตระกูลเจียง ตระกูลจางและตระกูลหม่าทั้งหมดก็ออกไปพร้อมกับขบวนรถที่ออกไป
ส่วนพวกทหารที่เหลืออยู่ในฐานก็ได้แต่มองไปตากันไปมาด้วยความสงสัย พวกเขาทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ทัน ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆ ตระกูลทั้ง 4 ถึงได้เคลื่อนไหวแบบนี้
…
ตึกSS ชั้นที่ 99
สถานที่จัดงานรวมตัวเหล่าวิศวกร
โอหยางซินได้ใช้ชื่อเสียงและเส้นสายของเธอทั้งหมดเชิญเหล่าวิศวกรมางานในครั้งนี้ และงานครั้งนี้เธอก็ใช้เงินไปจำนวนมากเช่นกัน ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหารและค่าใช้จ่ายอื่นๆ โอหยางซินดูแลให้ทั้งหมด
ทั้งยังเชิญคนในครอบครัวทั้งหมดของวิศวกรมาด้วย และเธอก็ออกค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้กับคนในครอบครัวด้วยเช่นกัน ด้วยการออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดของโอหยางซิน มันจึงดึงดูวิศวกรเก่งๆ จำนวนมากมาที่งานแห่งนี้
โอหยางซินตอนนี้กำลังยืนมองวิศวกรในงานด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ ในมือของเธอกำลังแก้วไวน์อยู่ ครั้งนี้ถือว่าแผนของเธอสำเร็จไปได้ด้วยดี ถึงจะไม่ได้ตัววิศวกรระดับโลกมาทั้งหมดแต่วิศวกรที่มีชื่อเสียงระดับโลกกว่า 70% ก็อยู่ในงานนี้
ด้วยจำนวนขนาดนี้พวกเขาจะเป็นรากฐานที่ดีในวันโลกาวินาศแน่นอน อีกอย่าง การเอาครอบครัวมากด้วยก็จะทำให้เกิดประโยชน์หลายอย่าง อย่างแรกคือพวกวิศวกรจะไม่จำเป็นต้องห่วงความปลอดภัยของครอบครัวตัวเอง และสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่
อย่างที่สองคือเหล่าวิศวกรจะไม่สามารถทรยศต่อตระกูลหลินได้ หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ครอบครัวของพวกวิศวกรก็คือพวกตัวประกัน หากวิศวกรคนไหนทรยศหรือพยายามสร้างความเสียหายต่อตระกูลหลิน ครอบครัวของคนคนเหล่านั้นก็จะโดนสังหารทันที
ติ่ง! ติ่ง! ติ่ง!
ระหว่างที่โอหยางซินกำลังมองผู้คนในงานเสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้น หลังจากฟังเสียงจากอีกฝั่งได้ไม่กี่ประโยค โอหยางซินก็พูดขึ้นว่า
“เข้ามาได้เลย”
สิ้นเสียงของโอหยางซิน ประตูขนาดใหญ่ของห้องจัดงานก็ถูกเปิดออก ทุกคนต่างก็หันความสนใจไปทางประตูที่เปิดออก แล้วสิ่งที่พวกเขาเห็นหลังจากหันไปมองก็คือ เหล่าทหารอาวุธครบมือจำนวนมากกำลังวิ่งเข้ามาในห้องจัดงาน ทันทีที่เห็นกลุ่มทหารติดอาวุธครบมือกำลังวิ่งเข้ามาในห้อง ใบหน้าผู้คนในงานก็แสดงออกถึงความกลัว
อยู่ๆ ก็มีทหารเข้ามาในห้องเป็นใครก็ต้องกลัวกันอยู่แล้ว อีกอย่าง คนเหล่านี้ไม่ใช่พวกถนัดในด้านการต่อสู้แต่เป็นการสร้าง หากมีการต่อสู้เกิดขึ้น พวกเขามั่นใจอย่างแน่นอนว่าพวกเขาคงโดนกวาดล้างหมดภายในไม่กี่นาที
เมื่อเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เหล่าวิศวกรในงานต่างก็พากันกวาดสายตามองหาตัวของโอหยางซิน โอหยางซินเป็นคนจัดงานครั้งนี้เพราะงั้นเธอต้องรับผิดชอบเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น แต่ก่อนที่ทุกคนจะเจอโอหยางซิน โอหยางซินที่ยืนอยู่หน้าห้องจัดงานพร้อมกับไมค์ในมือก็พูดขึ้นว่า
“ ฉันรู้ว่าตอนนี้ทุกคนกำลังสงสัยว่ากำลังเกิดเรื่องอะไร สงสัยว่าทำไมถึงได้มีทหารติดอาวุธเข้ามาในห้องจัดงานได้ แต่ฉันอยากให้พวกคุณใจเย็นๆ กันก่อน
“ ก่อนอื่นฉันต้องบอกก่อนว่าที่ทำทั้งหมดก็เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับพวกคุณทุกๆ คน ทางเราได้รับรายงานมาว่าจะมีสงครามเกิดขึ้น เพราะงั้นพวกเราเลยเรียกทหารมาเพื่อพาพวกคุณทุกคนไปยังที่ปลอดภัย
“ทุกคนอย่าได้เป็นกังวลไป พวกคุณทุกคนต่างก็เป็นคนที่มีค่า พวกคุณทุกคนต่างก็มีความสามารถกันทั้งนั้น พวกคุณจะปลอดภัยแน่นอนไม่ว่าพวกคุณจะอยู่ที่ไหน เพราะงั้นยอมไปกับพวกเราเถอะค่ะ”
โอหยางซินเริ่มแสดงความสามารถของเธอในการโน้มน้าวผู้คน
สิ่งที่โอหยางซินใช้โน้มน้าวครั้งนี้ก็คือเรื่องความสามารถของคนเหล่านี้ คนเหล่านี้เป็นพวกที่มีคุณค่าในตัวเองเพราะสามารถสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นมาได้ และโอหยางซินก็กำลังทำให้ทุกคนรู้ว่าตัวเองมีจุดแข็งคืออะไร เธอพยายามทำให้ทุกคนมั่นใจว่าจะไม่โดนฆ่าและยอมไปด้วยกันแต่โดยดี
เมื่อได้ยินโอหยางซินพูดขึ้น เหล่าวิศวกรในห้องต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เหตุผลที่พวกเขาโล่งอกก็เป็นเพราะรู้ว่าพวกทหารติดอาวุธที่เข้ามาเป็นคนของโอหยางซิน เพียงแค่นี้พวกเขาก็สบายใจขึ้นเยอะ
“ฉันต้องการกลับประเทศ ฉันไม่สนเรื่องสงครามในประเทศของพวกเธอ”
ชายผมทองคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เขาเป็นคนจากประเทศอังกฤษ ทำไมเขาต้องมาสนใจเรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศจีนด้วย
ทันทีที่มีคนพูดออกมา คนอื่นๆ ก็เริ่มพูดต่อ
“ถูกต้องแล้ว! พวกเราไม่ใช่คนจีนพวกเราต้องการใช้กฎหมายสากลให้ส่งตัวพวกเรากลับประเทศ หากพวกคุณไม่ยอมทำตามกฎหมายสากล นั่นก็หมายถึงกำลังจะมีปัญหากับประเทศของพวกเรา กำลังจะมีปัญหากับประเทศทั่วโลก”
“ใช่ๆ ฉันต้องการกลับประเทศเดี๋ยวนี้”
“ปล่อยพวกเราออกไป!!!”
“เตรียมเครื่องบินส่งให้พวกเรากลับประเทศเดี๋ยวนี้!!!”
เมื่อมีคนที่หนึ่งกล้าเป็นคนพูดก่อน คนอื่นๆ ก็พากันพูดออกมาแบบไม่เกรงกลัว ตอนนี้พวกเขายืนยันได้แล้วว่าพวกทหารติดอาวุธเป็นคนของโอหยางซิน ซึ่งโอหยางซินก็เป็นคนของรัฐบาล และรัฐบาลก็ต้องทำตามกฎหมายสากลของโลก
รู้แบบนี้แล้วพวกเขาจะกลัวอะไรกันอีก อีกอย่าง เมื่อรู้ว่ากำลังจะเกิดสงครามใครมันจะไปอยากอยู่ในประเทศแบบนี้ ทุกคนเคยลืมความโหดร้ายของสงครามไปบ้างในช่วงเวลาหนึ่ง แต่เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างรัสเซียกับยูเครน ผู้คนก็ตระหนักดีว่าสงครามมันเป็นสิ่งที่โหดร้ายขนาดไหน
โอหยางซินหรี่ตาของเธอลงเล็กน้อย เธอเคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อนและก็รู้ว่าคนเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะคุยกันดีๆ ได้อีกแล้ว กลับประเทศงั้นเหรอ? กฎหมายสากลงั้นเหรอ? วันโลกาวินาศจะมาถึงอยู่แล้วยังมาอ้างเรื่องไร้สาระพวกนั้นออกมากันอีก
โอหยางซินสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ตะโกนขึ้นว่า
“เงียบ!!!”
การตะโกนสุดเสียงของโอหยางซินทำให้ผู้คนในห้องประชุมเงียบลงอย่างฉับพลัน โอหยางซินกวาดตามองพวกวิศวกรด้านหน้าอยู่หลายวินาที จากนั้นเธอก็พูดขึ้นว่า
“ พวกคุณไม่เข้าใจสถานการณ์ของตัวเองหรือไง ฉันกำลังช่วยพวกคุณอยู่แท้ๆ เมื่อครู่ฉันบอกไปตอนไหนว่าสงครามเกิดขึ้นแค่ภายในประเทศจีนเท่านั้น
“ อีกไม่นานสงคราม… ไม่สิ! สิ่งที่เลวร้ายกว่าสงครามมันจะเกิดขึ้นกับโลกของเรา หากพวกคุณไม่ใช่คนมีความสามารถที่จำเป็นต่อพวกเรา คิดหรือไงว่าตัวคุณและครอบครัวของคุณจะได้รับการปกป้องจากพวกเรา
“ แต่ฉันก็ไม่ได้บังคับพวกคุณทำงานให้ หากใครอยากไปก็ออกไปได้ แต่ถ้าออกไปคนที่มากับคุณพวกเราจะฆ่าทั้งหมดทันที เด็ก ผู้หญิงหรือคนแก ไม่ว่าใครที่มากับพวกคุณในวันนี้ พวกเขาจะต้องตายทั้งหมด
“ ฉันไม่ได้บังคับให้พวกคุณทำงานให้ อยากทำหรือไม่อยากทำก็ตัดสินใจกันเอาเอง ประตูอยู่ทางนั้น อยากออกก็เชิญออกไปได้เลย
“ แต่หากใครยินยอมที่จะทำงานให้ตระกูลหลิน ตระกูลหลินก็สัญญาว่าจะดูแลพวกคุณเป็นอย่างดี ฉันเชื่อว่าพวกคุณทุกคนคงได้ยินเรื่องตระกูลหลินกว้านซื้ออาวุธและอาหารจำนวนมากมาบ้างแล้ว
“ลองคิดดูให้ดีๆ ว่านอกจากตระกูลหลินแล้วมันจะมีใครในโลกเตรียมพร้อมแบบนี้อีก? ทำงานให้ตระกูลหลินมันไม่ดีตรงไหน? ”
โอหยางซินกวาดตามองเหล่าวิศวกรในห้องหลังพูดจบ และเมื่อมองดู เธอก็รู้ว่าสิ่งที่เธอพูดไปได้ผลเป็นอย่างมาก อารมณ์ของทุกคนเริ่มสงบลงเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม คนพวกนี้ต่างก็ได้ชื่อว่าเป็นวิศวกรแถมส่วนมากยังเป็นวิศวกรแนวหน้าของโลก พวกเขาทั้งหมดย่อมไม่ใช่คนโง่ ถึงตอนนี้สิ่งที่โอหยางซินพูดจะไม่มีอะไรมายืนยันว่าเป็นเรื่องจริง แต่เมื่อโอหยางซินกล้าลงมือทำแบบนี้ ทุกๆ คนก็คิดว่าสงครามอาจจะเป็นเรื่องจริง เพราะหากไม่ใช่เรื่องจริงการทำแบบนี้อาจเป็นปัญหาระหว่างประเทศได้เลย
ภายในเวลาไม่นาน ทุกคนต่างก็ยอมรับและทำตามคำสั่งของโอหยางซินแบบไม่ปริปากบ่น จากนั้นขบวนรถบรรทุก รถหุ้มเกราะ รถถังและเฮลิคอปเตอร์โจมตีก็เริ่มเคลื่อนตัวเองครั้ง ทุกอย่างต่างก็พุ่งตรงไปยังคฤหาสน์ตระกูลหลิน
และด้วยการเคลื่อนทัพของทหารเข้าเมืองแบบไม่มีการแจ้งเตือน ไม่มีการประกาศล่วงหน้า ผู้ในเมืองหลวงของมณฑลหลินหนานต่างก็พากันคิดไปต่างๆ นาๆ และส่วนมากทุกคนก็คิดว่ากำลังจะเกิดสงครามขึ้น
ด้วยความคิดที่ตีความไปต่างๆ นาๆ ของผู้คนที่เห็นกองทัพ ภายในเมืองหลวงของมณฑลหลินหนานต่างก็เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ร้านขายอาหารหลายแห่งโดนทุบทำลาย ผู้หญิงหลายคนกำลังโดนผู้ชายไล่ล่าเพื่อที่จะสนองความต้องการ
แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่เกิดวันโลกาวินาศขึ้น แต่กฎระเบียบที่เคยมีอยู่ในเมืองหลวงของมณฑลหลินหนาน ตอนนี้มันก็ได้พังทลายไปแล้ว มนุษย์ต่างก็กำลังแสดงความต้องการออกมาแบบไม่สนใจกฎหมาย จริยธรรม หรือศีลธรรม