ย้อนเวลากลับสู่วันโลกาวินาศ ตอนที่ 14 ราชากุหลาบ
ตอนที่ 14 ราชากุหลาบ
เมื่อหยิบมือถือขึ้นมา หลินฟานก็พบกับหมายเลขที่ไม่ขึ้นชื่อคนที่โทรเข้ามา
สิ่งนี้เป็นเรื่องที่แปลกมาก ตามหลักการแล้วสิ่งนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ หลินฟานเป็นบุคคลระดับสูงที่รัฐบาลของประเทศจีนดูแลเป็นพิเศษ เบอร์มือถือของเขาถูกล็อกเอาไว้ มีแต่เบอร์ที่มีรายชื่อเท่านั้นที่สามารถโทรเข้าได้
เป็นไม่ได้ที่จะโทรผิดด้วยเช่นกันเพราะหากไม่ใช่เบอร์ที่ล็อกเอาไว้ หากคนอื่นโทรผิดมันก็จะแจ้งเตือนว่า ไม่มีหมายเลขที่ท่านเรียกและไม่มีอะไรปรากฏในมือถือของหลินฟาน แต่หลินฟานก็ไม่ได้แสดงใบหน้าแปลกใจนานนัก เพราะหลังจากมองดูหมายเลขที่โทรเข้ามาสักพัก หลินฟานก็คิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้
หลินฟานกดรับสายจากอีกฝ่าย แล้วพูดขึ้นว่า
“ทำงานเร็วกันจริงๆ ไม่คิดเลยว่าจะติดต่อมาเร็วขนาดนี้”
“ฮาฮาฮา คุณหลินเป็นลูกค้ารายใหญ่ขนาดนี้องค์กรนักฆ่าของเราจะละเลยคุณหลินไปได้ยังไงครับ ตามจริงผมจะโทรหาตั้งแต่กุหลาบแดงรายงานมาแล้ว แต่ผมกำลังติดธุระเลยยังไม่ได้โทรหากคุณหลิน ให้อภัยในความล่าช้าของผมด้วย”
เสียงจากปลายสายเป็นเสียงผู้ชาย เพียงได้ฟังเสียงหลินฟานก็คิดถึงใบหน้าของคนที่กำลังคุยอยู่ว่าน่าจะเป็นคนที่หล่อมาก เพราะเสียงที่ดังขึ้นเป็นเสียงที่ฟังสบายหูและทำให้คิดแบบนั้น
สายที่โทรเข้ามาเป็นสายที่หลินฟานคาดการณ์เอาไว้จริงๆ ตามการณ์คาดเดาของเขา เมื่อเช้าหลังจากฟังรายงานจากกุหลาบแดงพวกองค์กรนักฆ่าน่าจะไม่สนใจกันเท่าไหร่ พวกนั้นอาจจะคิดว่าเขากำลังล้อเล่นกับตัวเอง
แต่พอเทขายหุ้นของหลินกรุ๊ปทุกอย่างก็คงเปลี่ยนไป หลินฟานรู้ดีว่า ตอนนี้องค์กรนักฆ่าคงมองตัวเองเหมือนหมูตัวใหญ่ที่พวกมันจะดูดและสูบเงินจำนวนมาก
เสียงปลายสายดังขึ้นอีก
“ จริงสิ! ต้องขอโทษด้วยที่ผมเสียมารยาท ผมมีชื่อว่าราชากุหลาบ ผมดูแลองค์กรนักฆ่าสาขาเอเชียและทำงานหลายๆ อย่างให้กับองค์กรนักฆ่า เรื่องซื้อขายอาวุธและพลังงานก็เช่นกัน พวกเรามีดีลใหญ่มากมายทั้งจากยุโรปและเอเชีย
“เพราะงั้นขอเพียงคุณหลินบอกมาว่าต้องการเท่าไหร่ ต้องการตอนไหน ผมขอเอาชื่อของผม ราชากุหลาบเป็นเดิมพันว่าของที่คุณหลินต้องการจะส่งถึงมือของคุณแน่นอน”
หลินฟานรู้สึกตงิดใจกับเซนในการตั้งชื่อขององค์กรนักฆ่าอยู่เล็กน้อย กุหลาบแดง ราชากุหลาบ พวกนี้มันเป็นอะไรกับกุหลาบมากไหม?
หลินฟานตอบว่า
“ก่อนจะเอาชื่อมาเดิมพัน นายควรเอาคนของตัวเองออกจากตระกูลของฉันก่อนไม่ใช่หรือไง พอผู้นำตระกูลโอหยางออกไปนายก็โทรมาทันที นี่มันไม่เหมาะเจาะไปหน่อยงั้นเหรอ นายกำลังจะขู่ฉันว่าองค์กรนักฆ่าจะฆ่าฉันตอนไหนก็ได้อยู่ใช่ไหม”
“ฮาฮาฮา คุณหลินเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว คนของเราผมสามารถให้ออกมาได้ทันทีแต่ผมไม่มีเจตนาข่มขู่อะไรแบบนั้น คุณหลินเป็นถึงผู้นำของตระกูลหลินอันทรงเกียรติแห่งประเทศจีน ผมจะมีความสามารถไปข่มขู่คุณได้ยังไง”
ราชากุหลาบตอบ
หลินฟานสวนกลับมา
“แต่ที่ทำอยู่มันใช่!! แต่ก็เอาเถอะ ในเมื่อนายบอกว่าจะเอาคนออกไปฉันก็จะพยายามเชื่อว่าจะทำจริงๆ ตอนนี้เรามาคุยเรื่องธุรกิจของพวกเราดีกว่า ด้วยราคา 10,000 ล้านดอลลาร์ ฉันจะได้อะไรจากนายบ้าง?”
ราชากุหลาบเงียบไปสักพัก จากนั้นก็พูดขึ้นว่า
“ กระสุน 100,000,000 นัด ปืนไรเฟิลจำนวน 10,000 กระบอก ส่วนเรื่องพลังงานผมสามารถหาน้ำมันให้ 30,000,000 ล้านลิตร แก๊สบรรจุถังสามารถหาให้ได้จำนวน 10,000,000 ล้านถัง ว่าแต่ว่า สงครามมันก็ต้องการอาหารด้วยสินะครับ คุณไม่ได้สั่งมาผมก็ลิสต์ลงไปให้ซะเลย
“ผมเตรียมเนื้อตากแห้งกับเนื้อแช่แข็งเอาไว้ให้อีก 10 ล้านกิโลกรัม และชาวเอเชียแบบเราข้าวก็จำเป็นมากในการดำรงชีวิต ผมเลยเตรียมข้าวจากประเทศไทยจำนวน 100,000 ตัน เอาไว้ให้เรียบร้อย รวมค่าขนส่ง รวมค่าติดสินบนให้ได้ของเร็ว รวมค่าเร่งเวลาพนักงานทำงาน ยอดเงินทั้งหมดที่คุณหลินต้องจ่ายไม่ถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ แต่เป็นจำนวนทั้งสิ้น 9,999 ล้านดอลลาร์ ครับ!”
หลินฟานฟังแล้วก็สงสัยว่ามันจะเหลืออีก 1 ล้านเอาไว้เพื่ออะไร แต่เมื่อเหลือให้หลินฟานก็ไม่ว่าอะไรเพราะสิ่งที่ทางนั้นเสนอมาอยู่ในเกณฑ์ที่หลินฟานคาดหวังเอาไว้ ด้วยจำนวนอาหารขนาดนี้คงเลี้ยงคนหลักแสนคนได้ไปเป็นปีๆ
แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลินฟานแปลกใจ สิ่งที่หลินฟานแปลกใจก็คือข้าวจากประเทศไทยจำนวน 100,000 ตัน ประเทศไทยเป็นประเทศที่โอชาปกครองอยู่ ว่ากันว่า หากทำให้โอชาไม่พอใจคนผู้นั้นต้องโดนเอาเข้าไปล้างสมองในค่ายทหาร เพราะงั้นประเทศไทยจึงเป็นประเทศที่แปลกที่สุดในโลก
ปากบอกปกครองระบบประชาธิปไตย
เอื้อประโยชน์ให้นายทุนแบบคอมมิวนิสต์
มีนายกของประเทศเป็นทหารเผด็จการ
หลินฟานจำได้ว่า ถึงแม้ว่าหลายประเทศจะล่มสลายเพราะซอมบี้ในวันโลกาวินาศ แต่ก็มีเพียงประเทศไทยเท่านั้นที่รัฐบาลยังไม่ล่มสลาย ว่ากันว่า คนไทยเป็นคนที่ยอมตายเพื่อบ้านเมืองเป็นอย่างมากหากใครรู้ว่าตัวเองติดเชื้อก็จะฆ่าตัวตายทันที นี่จึงเป็นเหตุผลที่รัฐบาลประเทศไทยไม่ล่มสลายในวันโลกาวินาศ
หลินฟานถามขึ้นว่า
“องค์กรนักฆ่ารู้จักกับโอชาด้วยเหรอ?”
“คุณหลินถามอะไรออกมาครับ โอชาใช้บริการพวกเราบ่อยมากต่างหาก แต่ใช้ทำอะไรนั้นผมคงบอกไม่ได้ แล้วคุณหลินก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องข้าวและคุณภาพของอาหารจากไทย คุณก็น่าจะได้ยินคำว่า ครัวของโลก ประเทศไทยผลิตอาหารส่งออกจำนวนมาก เนื้อส่วนมากที่ผมจะส่งให้คุณก็มาจากที่ประเทศไทยเหมือนกัน ด้วยประสบการณ์การขนส่งของประเทศไทย ของทั้งหมดคงถึงหลินหนานในเวลาไม่กี่วัน”
ราชากุหลาบตอบ
เมื่อได้ยินดังนั้น หลินฟานก็พยักหน้าอย่างพอใจ หากเป็นอาหารที่มาจากไทยเรื่องคุณภาพก็ไม่จำเป็นต้องกังวล ถึงประเทศจะมีการเมืองแปลกๆ ไปบ้าง แต่เรื่องอาหารสามารถเชื่อใจประเทศไทยได้แบบ 100%
“ราคาเป็นที่น่าพอใจจริงๆ นายรู้แล้วใช่ไหมว่าต้องส่งมาก่อนเวลาไหน หากช้ากว่านั้นฉันจะยกเลิกของของนายทั้งหมด”
หลินฟานยืนยันเรื่องเวลาอีกครั้ง
ปลายสายตอบทันทีว่า
“ เรื่องนั้นคุณหลินไม่ต้องเป็นห่วง อาวุธจากยุโรปผมจะส่งโดยเครื่องบิน และอาหารจะส่งโดยรถที่ทำหน้าที่ขนส่งมานาน ของจะส่งถึงมือคุณหลินทั้งหมดภายในระยะเวลาไม่เกิน 30 วันแน่นอนครับ แต่! ไหนๆ พวกเราก็ทำธุรกิจกันแล้ว พวกเรามาคุยเรื่องอนาคตกันหน่อยไหมครับ
“ หากกองทัพตระกูลหลินสามารถปกครองประเทศจีนได้จากการก่อสงครามครั้งนี้ องค์กรของพวกเราอยากขอมณฑลเล็กๆ ของประเทศจีนอันยิ่งใหญ่มาสักมณฑล พวกเราอยากจะเอามาสร้างเขตปกครองพิเศษ คุณหลินต้องการคุยเรื่องนี้ไหม
“หากคุณหลินยอมตกลงกับทางองค์กรของเรา ทางเรายินดีมอบกระสุนปืนให้อีก 50,000,000 ล้านนัด สิ่งนี้น่าจะช่วยคุณหลินได้มากในอนาคต พวกเราก็แค่ต้องการพื้นที่เล็กๆ น้อยๆ มันจะไม่กระทบกับการปกครองของคุณหลินแน่นอน”
“ตกลง!”
หลินฟานตอบตกลงแทบจะทันที เรื่องนี้มันมีอะไรต้องคิดด้วยหรือไงที่อยู่ๆ ก็ได้รับกระสุนมาฟรีมากมายขนาดนี้ หลินฟานรู้สึกซาบซึ้งมากที่องค์กรนักฆ่าเสนออะไรแบบนี้ออกมา
อย่างที่บอกไป หลินฟานอยู่ในวันโลกาวินาศมานานนิสัยแย่ๆ มันซึมลึกเข้าไปในจิตวิญญาณของเขาแล้ว ตอนแรกหลินฟานจงใจไม่บอกกุหลาบแดงว่าจะเอากระสุนมาทำอะไร เขาทำแบบนั้นเพื่อให้เกิดความสงสัย จากนั้นก็ทำท่าทางเหมือนกับกำลังมีปัญหากับรัฐบาลกลาง
ไม่ว่าใครเห็นสิ่งที่หลินฟานกำลังทำ คนคนนั้นก็ต้องคิดได้อย่างเดียวว่ากำลังจะทำสงครามกับรัฐบาลกลาง ซึ่งองค์กรนักฆ่าก็ไม่เว้นที่จะมองแบบนั้น ในตอนนี้ องค์กรนักฆ่าได้ตกหลุมพรางก่อนชาวบ้านชาวช่องซะแล้ว
หลินฟานเชื่อว่า หลังจากนี้คงต้องมีหลายองค์กรในโลกหรือตระกูลใหญ่ในจีนหลายตระกูลที่ไม่พอใจกับการบริหารรัฐบาลกลาง ปรากฏตัวออกมาอีกแน่ พวกนั้นจะเสนอส่งของให้ตระกูลหลินจำนวนมากแน่นอน
มีแต่ได้กับได้! ยังไงก็ไม่ขาดทุน!
ส่วนเรื่องคำสัญญานะเหรอ พวกนั้นขออะไรหลินฟานก็จะตกลงด้วยแน่นอน เพราะยังไงซะเมื่อวันโลกาวินาศมาถึงโลกก็จะจมลงสู้ความวุ่นวาย สัญญาที่สัญญาเอาไว้ก็เป็นเพียงแค่คำพูดปากเปล่า หากอยากทำก็ทำ แต่หากไม่อยากทำตามสัญญาก็แค่ไม่ต้องทำ ใครก็บังคับไม่ได้ทั้งนั้น
หลินฟานรู้ดีว่าการทำแบบนี้จะทำให้หลายคนมองว่าตัวเองหน้าด้าน ไม่รู้จักละอาย แต่! ผู้ชนะคือผู้ตั้งกฎและเขียนประวัติศาสตร์ขึ้นมาเอง หลินฟานไม่สนใจว่าคนอื่นๆ จะด่าตัวเองว่าอะไร แต่เมื่อเขามีอำนาจและพลังมากพอ หลินฟานก็จะไม่ลืมที่จะตามคิดบัญชีกับคนที่เคยด่าตัวเองเอาไว้
“คุณไม่คิดหน่อยเหรอครับ???”
ราชากุหลาบถามด้วยน้ำเสียงสงสัย เขาไม่คิดว่าหลินฟานจะยอมตกลงง่ายๆ แบบนี้ หากรู้ว่าจะเป็นแบบนี้เขาน่าจะขอสัก 2 มณฑล
หลินฟานตอบ
“มีอะไรให้คิดมาก ประเทศจีนมีพื้นที่ขนาดใหญ่แค่ฉันคนเดียวคงปกครองไม่หมดอยู่แล้ว หากได้คนมาช่วยก็เบาแรงไปได้เยอะ”
“ฮาฮาฮา คุณหลินช่างเป็นคนใจกว้างจริงๆ พวกเราคงได้ทำธุรกิจกันอีกยาว เช่นนั้นผมไม่รบกวนเวลาคุณหลินแล้ว ผมขอตัวก่อน”
“เชิญ!”
สายถูกตัดไปหลักหลินฟานอนุญาต
เมื่อสายตัดไปแล้วหลินฟานก็แสยะยิ้มพร้อมกับคิดในใจว่า
‘ พวกเราคงได้ทำธุรกิจกันอีกยาวงั้นเหรอ เรื่องแบบนั้นมันคงไม่เกิดขึ้นหรอก เพราะถ้าวันโลกาวินาศมาถึงนายคงได้เกลียดฉันเข้ากระดูกดำแน่ๆ หึหึ! ‘