ย้อนเวลากลับสู่วันโลกาวินาศ ตอนที่ 11 ความเกรี้ยวโกรธของหลินฟาน
ตอนที่ 11 ความเกรี้ยวโกรธของหลินฟาน
“คุณหลินใจเย็นๆ ก่อนค่ะ”
ระหว่างที่หลินฟานกำลังมองจีเป่ยด้วยความรู้สึกซับซ้อน ซับซ้อนที่หมายถึงคือจะฆ่าให้ตายตอนนี้หรือปล่อยให้ทรมานเพราะวันโลกาวินาศดี อยู่ๆ ก็มีเสียงผู้หญิงอ่อนนุ่มดังขึ้นมาขัดความคิดของเขา
เสียงที่ดังขึ้นเป็นเสียงของ ซูหลินหลิน เธอไม่สามารถยอมให้เกิดเรื่องกับจีเป่ยได้เธอต้องทำให้เรื่องพวกนี้จบให้เร็วที่สุด หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับจีเป่ยแล้ววิลล่าราคา 100 ล้านของเธอจะทำยังไง? เธอยอมนอนกับจีเป่ยก็เพราะเรื่องนี้ หากไม่ใช่เพราะวิลล่าราคา 100 ล้าน ซูหลินหลินก็คงไม่มีวันยอมนอนกับจีเป่ยเด็ดขาด
เพราะเป็นห่วงเรื่องของวิลล่าราคา 100 ล้าน ซูหลินหลินจึงเข้ามาหยุดหลินฟานเอาไว้ด้วยสีหน้าเป็นกังวล
เหตุผลที่เธอทำสีหน้าเป็นกังวลก็เพราะความรู้สึกที่ออกมาจากตัวหลินฟาน ซูหลินหลินให้คนสืบเรื่องของหลินฟานมาก่อนแล้ว และเธอก็ได้ยินจากปากของจีเป่ยว่าหลินฟานก็เป็นเพียงลูกแกะให้หลอกกิน
แต่พอเธอมาเห็นด้วยตาตัวเองมันไม่ใช่เลย ซูหลินหลินเข้าใจได้ทันทีว่าหลินฟานไม่ได้ง่ายแบบที่เธอคิด
หลินฟานหันมองผู้หญิงที่พูดขึ้นมา เขามองเธอด้วยแววตาสงสัย
ใคร?
เมียของจีเป่ยงั้นเหรอ? ไม่น่าใช่เธอคนนี้อายุราวรุ่นลูกไม่มีทางเป็นเมียของจีเป่ยแน่นอน เมียน้อย? กิ๊ก?
เมื่อมองจากอายุของซูหลินหลิน หลินฟานก็พอเดาได้ว่าเธอต้องเป็นตัวเลือกหลังแน่ๆ แต่หลินฟานไม่เข้าใจว่าอะไรที่ทำให้เธอมั่นใจจนกล้าเสนอหน้ามาหยุดเขาแบบนี้ ขนาดพวกผู้นำตระกูลข้ารับใช้ทั้ง 4 ยังไม่กล้ากันเลย
หลินฟานแสดงความสงสัยบนใบหน้า ระหว่างที่กำลังมองซูหลินหลินที่กำลังยิ้มอ่อนโยนให้กับตัวเองอยู่ ในหัวของเขาตอนนี้จำไม่ได้แล้วว่าคนที่อยู่ต่อหน้าตัวเองคือซูหลินหลิน ดาราที่เขาเคยชอบเธอมาก่อน เหตุผลที่จำไม่ได้นะหรือ เรื่องนั้นมันก็แน่นอนอยู่แล้วขนาดผู้หญิงที่นอนด้วยยังไม่อยากจำชื่อหรือจำหน้า ใครมันจะไปบ้าจำชื่อดาราที่ชื่นชอบกัน
ในช่วงวันโลกาวินาศ หลินฟานไม่เหลือสมองมากพอมาให้จำเรื่องพวกนี้ สมองของเขาจำแค่ซอมบี้กลายพันธุ์ตัวไหนทำอะไรได้บ้าง เขตไหนเมืองตั้งอยู่บ้าง แล้วก็หน้าของศัตรูที่ตัวเองต้องตามแก้แค้น จำแค่นี้ก็แทบไม่เหลือที่ว่างในสมองแล้ว
หลินฟานเปิดปากถามขึ้นว่า
“เธอเป็นใคร ใช่หนึ่งในคนของตระกูลข้ารับใช้ไหม”
เมื่อคำถามออกมาจากปากของหลินฟาน ผู้คนที่อยู่ในห้องก็รู้สึกเสียวสันหลัง เมื่อได้ยินคำถามนี้ภาพโหดร้ายที่เกิดกับดาราสาวคนก่อนหน้าก็เข้ามาในหัวของทุกคน หลายคนอยากเข้าไปบอกซูหลินหลินว่า ตอบว่าใช่! ตอบว่าใช่ซะ!
แต่ด้วยความหวาดกลัวที่หลินฟานทำกับคนตระกูลเว่ย พวกคนในตระกูลข้ารับใช้เข้าใจดีว่าหลินฟานไม่สนใจใครทั้งนั้น ต่อให้พวกเขาเป็นคนของตระกูลข้ารับใช้แต่หากเข้าไปแทรกแซงก็คงโดนลงโทษไม่ต่างกัน
ซูหลินหลินสงสัยเล็กน้อยเมื่อโดนถาม แต่เธอก็ไม่ใส่ใจอะไรมากแล้วตอบตามความจริงว่า
“ไม่ใช่ค่ะ ฉันชื่อว่าซูหลินหลินฉันมาที่นี่ตามคำเชิญของคุณจี คุณจีบอกว่าคุณหลินชื่นชอบผลงานของฉันและอยากทานข้าวกับฉันสักมื้อ แล้วตอนนี้ฉันก็มีปัญหาเล็กน้อยด้วย หากคุณหลินสามารถช่วยได้ฉันจะรู้สึกขอบคุณมาก”
“…ซูหลินหลิน …ซูหลินหลินวิลล่าหรู 100 ล้าน!”
หลินฟานพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“ค่ะ! 100 ล้านอะไรนะคะ”
ซูหลินหลินถามกลับด้วยใบหน้าแปลกใจ เสียงพึมพำของหลินฟานเบามากเธอเลยไม่แน่ใจว่าเธอได้ยินอะไร แต่ที่แน่ๆ ก็คือ เธอได้ยินคำว่าวิลล่ากับคำว่า 100 ล้าน
ในตอนนี้ หลินฟานจำผู้หญิงที่ยืนอยู่ต่อหน้าได้แล้ว ในชาติก่อนหลินฟานมีคนที่ต้องตามแก้แค้นเยอะมาก เพราะมีจำนวนเยอะเกินไปเขาเลยตั้งภาษาสำหรับตัวเองเอาไว้ อย่างเช่นคนที่หลอกเขาไปฆ่าเพื่อแย่งสมบัติชื่อฉวนหมิง หลินฟานก็จะจำแค่ฉวนหมิงหลอกฆ่า
เนื่องจากมีคนที่ทำให้ไม่พอใจเยอะมาก หลินฟานจึงต้องหาทางจำสั้นๆ และได้ใจความมากที่สุด ส่วนซูหลินหลิน เมื่อชาติก่อนเธอก็เคยมาหาหลินฟานเช่นกันแต่มาหาในสถานการณ์ที่ต่างออกไป เธอมาหาแล้วขอเงินซื้อคฤหาสน์โดยบอกว่าจะเอาไปให้พ่อแม่อยู่ และเธอก็บอกว่าจะยอมนอนกับหลินฟาน 1 คืน
ทว่า เมื่อได้เงินไปซูหลินหลินก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลย แถมยังไปบอกนักข่าวว่าตัวเองโดนหลินฟานพยายามขืนใจอีก ด้วยเหตุการณ์นั้นหลินฟานจึงจำชื่อของเธอเอาไว้ว่า ซูหลินหลินวิลล่า 100 ล้าน
หลินฟานคิดในใจ
‘ สวรรค์ต้องเข้าข้างเราอยู่แน่ๆ
‘ วันนี้ไม่ได้ส่งเพียงแค่จีเป่ยมาให้เท่านั้น แต่สวรรค์ยังส่งยัยงูพิษซูหลินหลินมาให้เราด้วย ตอนแรกก็ว่าจะทำอะไรให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยตามคิดบัญชี ไม่คิดเลยว่าจะใจร้อนมาให้คิดบัญชีด้วยตัวเองแบบนี้ ซูหลินหลินวิลล่า 100 ล้าน ‘
หลินฟานยิ้มบางๆ ระหว่างมองหน้าซูหลินหลินด้วยใบหน้าพอใจ
หลินฟานพูดขึ้น
“หลี่หมิง”
“ครับ”
หลี่หมิงตอบรับ
เมื่อหลี่หมิงตอบรับหลินฟานก็ชี้นิ้วไปทางจีเป่ย จากนั้นก็ออกคำสั่ง
“หักนิ้วของมันให้หมดแล้วส่งตัวกลับไปยังตระกูลจี”
“ครับ”
หลี่หมิงตอบรับคำสั่งจากนั้นก็เริ่มเดินไปด้านหน้า
หลี่หมิงถึงตัวจีเป่ยอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของหลี่หมิงแสดงออกถึงความชั่วร้ายออกมาอย่างเห็นได้ชัด ใจจริงหลี่หมิงอยากฆ่าจีเป่ยมานานแล้ว จีเป่ยชอบทำตัวเหมือนเป็นผู้นำตระกูลหลินสะเองมานาน ในฐานะที่เป็นข้ารับใช้ของตระกูลหลิน หลี่หมิงก็รู้สึกหมั่นไส้จีเป่ยอย่างถึงที่สุดๆ
แต่เมื่อก่อนหลี่หมิงไม่สามารถทำอะไรจีเป่ยได้ เพราะจีเป่ยควบคุมหลินฟานเอาไว้ แต่ตอนนี้สถานการณ์มันต่างออกไปแล้ว เมื่อได้รับไฟเขียวมาจากหลินฟาน หลี่หมิงก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ถึงจะเสียดายนิดหน่อยที่ไม่ให้ฆ่าทิ้ง แต่เมื่อมันเป็นคำสั่งของหลินฟาน หลี่หมิงก็ต้องทำแค่ที่โดนสั่ง
“กะ แกจะทำอะไรหลี่หมิง?!?!?!”
จีเป่ยที่เห็นหลี่หมิงอยู่ตรงหน้าถามด้วยความสงสัย เมื่อครู่จีเป่ยกำลังจุกเลยไม่ได้ยินคำสั่งของหลินฟาน แต่เมื่อเห็นหลี่หมิงกำลังมองตัวเองด้วยใบหน้าชั่วร้ายจีเป่ยก็พอเดาได้ว่าคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
และก่อนที่จีเป่ยจะได้พูดอะไรอีกครั้ง หลี่หมิงก็เหยียบลงไปที่นิ้วโป้งข้างขวาของจีเป่ยด้วยแรงเต็มที่ของเขา และด้วยแรงเหยียบเต็มที่ของผู้ชายรูปร่างกำยำที่มีน้ำหนักตัวร้อยกว่ากิโลกรัม กระดูกนิ้วโป้งของจีเป่ยก็แทบจะแหลกในทันที
“อากกกกก!!!!”
ตุ๊บ!
“อากกกกก!!!!”
ตุ๊บ!
“อากกกก!!!”
โป้ง ชี้ กลาง นาง และก้อย ด้วยเวลาเพียงไม่นานนิ้วทั้งสองข้างของจีเป่ยก็หักตามคำสั่งของหลินฟาน เมื่อหักนิ้วเสร็จเรียบร้อย หลี่หมิงก็ออกคำสั่งให้บอดี้การ์ดมาลากจีเป่ยที่หมดสติเพราะความเจ็บปวดออกไปจากห้องโถง
ในเวลานี้ ซูหลินหลินก็กำลังยืนด้วยขาที่สั่นเทา เธอไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำยังไงในสถานการณ์แบบนี้ เรื่องทั้งหมดมันไม่สมควรเป็นแบบนี้ เรื่องที่ควรจะเป็นคือจีเป่ยได้สิ่งที่ต้องคือเธอได้สิ่งที่ต้องการ แต่นี่มันไม่มีแววเป็นแบบนั้นเลยสักนิด
ไม่ใช่แค่ไม่ได้สิ่งที่ต้องการเท่านั้น แต่จีเป่ยกลับโดนหักนิ้วทั้งสิบจนหมดสติไปเพราะความเจ็บปวด ถึงเธอจะแสดงละครมามาก แต่เมื่อได้เจอกับสถานการณ์แบบนี้เธอก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน
และในตอนนี้ ซูหลินหลินก็เข้าใจแล้วว่าในห้องโถงแห่งนี้มันมีอะไรแปลกๆ ตั้งแต่เธอเข้ามาเธอยังไม่ได้ยินเสียงใครในห้องคุยกันเลย เสียงที่เธอได้ยินก็มีเพียงเสียงตัวเอง เสียงจีเป่ย เสียงหลินฟาน และเสียงของบอดี้การ์ดที่หักนิ้วของจีเป่ยเท่านั้น
อีกอย่าง หลักจากสั่งให้หักนิ้วของจีเป่ย หลินฟานก็นั่งหลับตาแล้วเอามือเท้าคางตัวเองเหมือนกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง สิ่งนี้ยิ่งทำให้ซูหลินหลินกลัวมากกว่าเดิม เธออยากจะเดินออกจากห้องแต่สัญชาตณาญของเธอบอกว่าไม่ควรทำแบบนั้น
ตอนนี้ซูหลินหลินไม่มีทางเลือก เธอเลยเลือกยืนอยู่เงียบๆ ข้างหลินฟาน
หลินฟานตอนนี้กำลังหลับตาแล้วคิดอะไรบ้างเรื่องอยู่ เขากำลังชั่งใจว่าควรลงโทษซูหลินหลินไปเลยดีไหม หรือว่าควรปล่อยเธอไปเจอกับวันโลกาวินาศ และเมื่อคิดได้สักพักหลินฟานก็ได้คำตอบ นั่นคือการลงโทษเธอไปซะ!
ซูหลินหลินเป็นตัวแปรที่ควบคุมยากเกินไป ตระกูลจีอยู่ในมณฑลหลินหนานและอยู่ในกำมือของหลินฟานเรียบร้อย แต่ซูหลินหลินนั้นไม่ใช่ แถมเธอยังเป็นผู้หญิงสาวที่น่าจะหาผู้ชายปกป้องตัวเองได้
ในวันโลกาวินาศ หากผู้หญิงสวยๆ คนไหนสามารถหาผู้ชายที่แข็งแกร่งปกป้องตัวเองได้ ผู้หญิงคนนั้นก็จะสามารถมีชีวิตที่ดีโดยไม่ต้องเดือดร้อน และด้วยหน้าตาและชื่อเสียงของซูหลินหลิน หลินฟานคิดว่าเธอคงหาผู้ชายปกป้องตัวเองได้ไม่ยาก เพราะงั้น หลินฟานจึงเลือกลงโทษเธอซะตั้งแต่ตอนนี้ ส่วนเรื่องการลงโทษซูหลินหลินวิลล่า 100 ล้าน
หลินฟานได้คิดเอาไว้ตั้งแต่เมื่อชาติก่อนแล้ว เพียงแต่ว่า เมื่อชาติก่อนหลินฟานไม่ได้เจอกับเธอเลยหลังวันโลกาวินาศ เขาก็เลยไม่ได้แก้แค้นตามวิธีที่คิดเอาไว้ หลินฟานค่อยๆ ลืมตาขึ้น จากนั้นก็มองไปทางผู้นำทั้ง 4
“ผู้นำตระกูลจาง”
หลินฟานพูดเบาๆ ขณะที่มองไปทางจางหยาน
จางหยานตอบรับในทันทีว่า
“ครับ!”
“ผมจำได้ว่าตระกูลจางเปิดคลับระดับสูงแล้วมีบริการพิเศษด้วยใช่ไหม บริการที่จะให้ผู้หญิงให้ความสุขต่อลูกค้าผู้ชายแบบไม่มีข้อห้าม สามารถทำร้ายร่างกายให้เจ็บหนักหรือถึงตายได้ หรือสามารถสั่งให้ทำอะไรก็ได้”
“…ครับ”
ผู้นำตระกูลจางไม่ค่อยอยากตอบเท่าไหร่ แต่เขาก็ต้องตอบ บริการที่หลินฟานพูดถึงมันควรเป็นความลับเพราะนี่เป็นสิ่งที่โหดร้ายเกินไป การบริการพิเศษนี้ตระกูลจางจะเอาพวกที่ขายตัวเพื่อครอบครัว หรือพวกที่ไม่มีเงินจ่ายหนี้มาทำงาน
ส่วนการบริการหลักๆ ก็ไม่ใช่บริการทางเพศ แต่เป็นบริการที่ทำให้ลูกค้าพอใจในด้านต่างๆ เรื่องเพศก็มีอยู่บ้างแต่ส่วนมากจะเป็นบริการอย่างอื่นมากกว่า เช่น ให้เล่นบทเป็นหมา ให้เล่นบทเป็นนักโทษ ให้เล่นบทเป็นตัวละครต่างๆ แถมลูกค้าจะทำอะไรก็ได้ต่อให้ตายลูกค้าก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ
ธุรกิจนี้ฟังแล้วอาจจะเป็นเรื่องโหดร้าย แต่พวกระดับสูงของมณฑลหลินหนานก็รู้จักที่นี่กันหมด พวกคนรวยทุกคนต่างก็เป็นสมาชิก VIP หรือ VVIP กันทั้งนั้น สิ่งนี้แสดงให้เห็นแล้วว่ามนุษย์เลวร้ายกันขนาดไหน ตระกูลจางก็แค่เปิดทางให้ แต่พวกที่ทำร้ายมนุษย์ด้วยกันจริงๆ ไม่ใช่ตระกูลจาง
อีกอย่าง เหตุผลที่ตระกูลจางเข้ามายุ่งกับธุรกิจนี้ก็เพราะโดนบังคับ เมื่อหลายปีก่อนก่อนที่ตระกูลจางจะเข้ามาในธุรกิจนี้ ตระกูลระดับต่ำและระดับกลางต่างก็เปิดบริการแบบนี้กันมากมาย เมื่อมีมากมายสิ่งที่ขาดก็คือคน พอไม่มีคนทำงานพวกตระกูลต่างๆ ต่างก็จับตัว ลักพาตัว และทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้พนักงานมาทำงานในคลับของตัวเอง
เมื่อผู้นำตระกูลจางเห็นว่าเรื่องนี้ทำให้มณฑลหลินหนานตกอยู่ในอันตราย ผู้นำตระกูลจางจึงเข้าควบคุม เขาปิดกิจการของพวกตระกูลระดับต่ำและตระกูลระดับกลางในมณฑลหลินหนานทั้งหมด แต่พอปิดไปแล้วก็มีแอบเปิดเรื่อยๆ
พอปิด ก็เปิด พอปิด ก็เปิด ผู้นำตระกูลจางเล็งเห็นว่าพวกลูกค้าติดนิสัยไปแล้ว คนพวกนี้ชอบทรมานคนต่อให้ปิดเท่าไหร่ก็มีพวกแอบเปิดเรื่อยๆ พอรู้ถึงปัญหาต้นต่อผู้นำตระกูลจางเลยแก้ปัญหาโดยการเปิดเอง และควบคุมเองเพียงตระกูลเดียว ถึงจะเป็นเรื่องโหดร้ายแต่มันก็จำเป็นต้องทำ
เมื่อได้รับคำตอบยืนยันจากจางหยาง หลินฟานก็พยักหน้าจากนั้นก็ชี้นิ้วไปทางซูหลินหลินผู้ที่เคยโกงเงินตัวเองไป 100 ล้าน แล้วก็พูดขึ้น
“ให้ดาราแสนสวยคนนี้รับแขก 100 คน จัดให้ทำงานมาตรฐานเดียวกับพวกผู้หญิงคนอื่นๆ ในที่ทำงานของคุณ ให้รับแขกติดต่อกันจนกว่าจะครบ 100 คน ไม่ถึงไม่จำเป็นต้องให้เธอได้พัก”
“ถ้าทำแบบนั้น…”
“ไม่ต้องห่วงฉันไม่หวังให้เธอรอดอยู่แล้ว แค่ให้ทรมานให้มากที่สุดก็พอ”
หลินฟานพูดตัดก่อนที่จางหยานจะพูดจบ
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินฟาน จางหยานก็พยักหน้าแล้วตอบรับว่า
“ครับ”
“ไม่ได้! ฉันไม่ยอมไปเด็ดขาด!!”
ซูหลินหลินไม่ยอมรับ
เธอไม่รู้ว่าตระกูลจางทำธุรกิจอะไรแต่จากที่ฟังที่ผู้นำตระกูลจางพูดออกมา บวกกับมีคำว่าไม่หวังให้รอดดังออกมาจากปากหลินฟาน ซูหลินหลินก็เข้าใจได้ทันทีว่าหากเธอยอมไปกับผู้นำตระกูลจาง เธอก็คงไม่รอดแน่ๆ
ซูหลินหลินเริ่มอ้อนวอนต่อหลินฟาน
“คุณหลิน ฉันสามารถให้บริการกับคุณได้เพียงแค่คุณปะ-”
“เธอสามารถห้ามให้แดดออกได้ไหม?”
หลินฟานขัดขึ้นก่อน
“ไม่ได้ค่ะ เรื่องแบบนั้นมนุษย์คนไหนบนโลกก็ไม่สามารถทำได้ แต่ฉันสามารถบริการคุณได้หากคุณต้องการ ฉันสามารถทะ-”
“พอ! คำสั่งของฉันก็เหมือนแดด หากเธอไม่สามารถห้ามแดดออกได้เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธคำสั่งของฉันได้ ตอนนี้ถือว่าฉันให้โอกาสเธอมากพอแล้ว หากเธอโชคดีมากๆ เธออาจจะรอดจากการรับแขก 100 คน ก็ได้ เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะตัวเธอเองทั้งนั้น เธอต้องยอมรับโทษไปซะ”
หลินฟานพูดด้วยน้ำเสียงรำคาญ
ซูหลินหลินเริ่มสงสัย เธอไม่เข้าใจว่าเธอไปทำอะไรให้ชายตรงหน้าไม่พอใจขนาดนั้น ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เจอกัน และเธอแค่พูดช่วยจีเป่ยไปนิดหน่อยเมื่อครู่เท่านั้น แค่พูดช่วยจีเป่ยนิดๆ หน่อยๆ มันถึงกับต้องฆ่าต้องแกงกันเลยงั้นเหรอ?
ซูหลินหลินต้องการจะพูดอีก แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรฝ่ามือขนาดใหญ่ก็สับลงที่ท้ายทอยของเธอซะก่อน เธอสงบลงทันทีหลังจากโดนฝ่ามือสับเข้าที่ท้ายทอย ส่วนเจ้าของฝ่ามือขนาดใหญ่ก็คือหลี่หมิง
“ส่งตัวเธอไปให้ตระกูลจาง”
หลินฟานออกคำสั่ง
หลี่หมิงพยักหน้ารับ
“ครับ”
เมื่อซูหลินหลินโดนเอาตัวออกไป หลินฟานก็นั่งลงอีกครั้งแล้วพูดขึ้นว่า
“ใครมีปัญหาอะไรค้างคาใจหรือไม่พอใจอีกไหม ถ้ามีก็พูดออกมาซะตั้งแต่ตอนนี้จะได้ทำให้มันจบๆ และถ้าหลังจากนี้มีใครพูดขัดออกมาอีก ฉันก็จะฆ่าทิ้งทันทีโดยไม่ถามหาเหตุผลอะไรทั้งนั้น มีใครอยากพูดอะไรไหม!! ถ้ามีก็พูดซะตั้งแต่ตอนนี้!?”
พูดจบ หลินฟานก็กวาดสายตามองรอบห้องโถง จากนั้นก็มองไปที่ประตูทางเข้า
และเมื่อไม่มีการตอบสนองอะไร หลินฟานก็เค้นเสียงตัวเองแล้วตะโกนขึ้นว่า
“ตระกูลหนิง! ตระกูลเว่ย! ตระกูลหวัง! ตระกูลหยาง! ตระกูลโจ! และตระกูลซิน!! ไส้หัวออกไปจากคฤหาสน์ตระกูลหลินให้หมด ตระกูลหลินไม่ต้อนรับพวกเนรคุณ!!!”