ย้อนเวลากลับสู่วันโลกาวินาศ ตอนที่ 6 ระเบิดลูกใหญ่ที่เกิดขึ้นในจีน
ตอนที่ 6 ระเบิดลูกใหญ่ที่เกิดขึ้นในจีน
“ฮาฮาฮา ตระกูลหลินช่างโง่เง่าจริงๆ ที่เล่นเทขายหุ้นของหลินกรุ๊ปแบบนี้ แบบนี้ต้องซื้อเอาไว้ให้เยอะๆ หลินกรุ๊ปเป็นกลุ่มธุรกิจที่แข็งแกร่งที่สุดในมณฑลหลินหนาน แถมยังติด 1 ใน 10 ของกลุ่มที่มีอำนาจที่สุดในจีน ยังไงในอนาคตก็มีแต่ขึ้นกับขึ้น ”
“ฉันได้ยินมาว่า ผู้นำตระกูลคนปัจจุบันเป็นพวกไม่เอางานเอาการ หมอนั่นคงไปสร้างเรื่องอะไรเอาไว้แน่ๆ ตระกูลหลินถึงได้ต้องการเงินมากมายขนาดนี้ คงต้องการเงินเอาไปปิดเรื่องที่หัวหน้าตระกูลหลินคนปัจจุบันก่อเอาไว้”
“เห็นด้วยๆ โอกาสเป็นของพวกเราแล้ว”
“ใช่! ฉันเอาบ้านกับรถไปจำนำเอาไว้แล้ว ฉันจะเอาเงินทั้งหมดที่ได้มาซื้อหุ้นของหลินกรุ๊ปทั้งหมด ตอนนี้ราคากำลังตกแต่อีกไม่นานยังไงก็ขึ้น”
ภายในโลกออนไลน์บนแพลตฟอร์มข่าวซื้อขายหุ้นของประเทศจีน หัวข้อการคุยเกี่ยวกับหุ้นของหลินกรุ๊ปกำลังเป็นเรื่องร้อนแรงอย่างมากในขณะนี้ วันนี้เวลา 10.00 น. ได้เกิดเรื่องที่แปลกประหลาดขึ้นในตลาดหุ้น
ซึ่งเรื่องแปลกประหลาดที่ว่าก็คือ ราคาหุ้นของหลินกรุ๊ปลดลงอย่างต่อเนื่องแบบไม่มีสัญญาการแจ้งเตือนมาก่อน ต้องรู้ก่อนว่าหลินกรุ๊ปเป็นกลุ่มทุนขนาดใหญ่มาก มากจนสามารถสั่นคลอนประเทศได้เลย แถมยังลงทุนกับธุรกิจหลากหลายธุรกิจ
รากฐานของหลินกรุ๊ปอยู่ภายในมณฑลหลินหนานก็จริง ทว่า หลินกรุ๊ปก็ได้กระจายการลงทุนไปทั่วประเทศ ทั้งธุรกิจแบบออนไลน์และธุรกิจแบบที่สามารถจับต้องได้ ว่ากันตามเหตุผลแล้ว หลินกรุ๊ปไม่มีทางที่หุ้นจะร่วงระนาวขนาดนี้เพราะนักลงทุนส่วนมากจะเน้นซื้อมากกว่าเน้นขาย หลินกรุ๊ปมีอนาคตและเติบโตได้เรื่อยๆ รู้แบบนี้แล้วใครมันจะบ้าขายหุ้นกัน
แต่อยู่ๆ เช้าวันนี้ก็เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น เรื่องนี้เป็นเหมือนกับระเบิดที่ตกลงมาจากฟ้าแบบไม่ให้ซุ้มให้เสียง และทำให้ตลาดหุ้นในประเทศจีนปั่นป่วนเป็นอย่างมาก ช่วงแรกๆ ทุกคนก็พากันสงสัยว่าใครเป็นคนเทขายหุ้นขนาดนี้! ใครที่ต้องการทำลายตระกูลหลิน!
ทว่า คนเทขายหุ้นจำนวนมหาศาลกลับกลายเป็นตระกูลหลินซะเอง สิ่งนี้ได้สร้างความสงสัยให้กับนักลงทุนจำนวนมาก ตอนแรกก็ไม่มีใครกล้าซื้อเพราะคิดว่าตระกูลหลินต้องการจะทำอะไรบางอย่าง
มดไม่ควรเข้าไปในการต่อสู้ของเสือกับช้าง! คนที่ผ่านโลกมามากจะเข้าใจความหมายของคำพวกนี้เป็นอย่างดี ด้วยแนวคิดนี้จึงมีนักลงทุนหลายคนที่ไม่กล้าเข้าซื้อหุ้นของหลินกรุ๊ป แต่เมื่อมีข่าวออกมาว่าตระกูลหลินไม่ได้ต้องการจะทำอะไร ตระกูลหลินแค่ขายเพราะต้องการเงินแถมยังประกาศขายทรัพย์สินจำนวนมากที่ครอบครองเอาไว้อยู่อีก เมื่อรู้เรื่องนี้ก็เกิดระเบิดขึ้นอีกครั้ง
ผู้คน! กลุ่มทุน! และองค์กรทางการเงินต่างๆ ต่างก็เข้าซื้อหุ้นของหลินกรุ๊ปกันอย่างบ้าคลั่ง จากราคาที่ตกจาก 5 หยวน ต่อหุ้นเหลือเพียง 3 หยวน เพราะการเทขายของตระกูลหลิน แต่เมื่อผู้คนและกลุ่มทุนจำนวนมากเข้าซื้ออย่างบ้าคลั่ง ราคาหุ้นก็กลับขึ้นมาที่ 5 หยวน เหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว
ทุกคนที่ซื้อหุ้นหลินกรุ๊ปในราคาที่ต่ำกว่า 5 หยวน ต่างก็คิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายชนะ คิดว่าตัวเองโชคดีที่ได้หุ้นของหลินกรุ๊ปในราคาถูกๆ
…
ณ ห้องนอนแห่งหนึ่ง
ในห้องนอนมีชายรูปร่างอ้วนผิวสีขาวกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง ด้านข้างของเขามีหญิงสาวผิวสีขาวรูปร่างดีนอนหลับอยู่ข้างๆ อายุของชายอ้วนดูแล้วน่าจะเป็นชายวัยกลางคนที่อายุไม่น่าจะต่ำกว่า 40 ปี
กลับกัน หญิงสาวที่นอนข้างๆ กับชายอ้วนกลับดูแล้วอายุไม่น่าจะเกิน 20 ปี ด้วยซ้ำ แถมเธอยังเป็นคนที่สวยและรูปร่างดีมากๆ ดูยังไงทั้งสองคนก็ไม่มีจุดที่เหมาะสมกันเลยสักนิด
แต่โลกใบนี้ก็เป็นแบบนี้ ความรัก รูปร่าง หน้าตา ของพวกนี้จะแพ้ทันทีเมื่อมาเจอกับคำว่า [ เงิน ] หากชายอ้วนไม่มีเงินมีหรือที่เขาจะได้นอนกับผู้หญิงที่สวยรูปร่างดีแบบนี้ ไม่มีทางแน่นอน
ส่วนชายอ้วนผิวขาวที่นอนอยู่บนเตียงตอนนี้เขาก็มีชื่อว่า จีเป่ย ถูกต้องแล้ว! ชายคนนี้ก็คือจีเป่ยที่โดนหลินฟานหมายหัวเอาไว้นั่นเอง
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกับตระกูลจีก่อน ตระกูลจีเป็นเพียงตระกูลระดับกลางในหลินหนาน แต่พอตระกูลจีได้เป็นดองกับตระกูลหลินสถานะของตระกูลจีก็เหมือนกับเสือติดปีก
ไม่ใช่เพียงเท่านั้น จีเป่ยคนนี้ยังเป็นคนที่จัดการเรื่องธุรกิจภายในหลินกรุ๊ปแทนหลินฟาน สิ่งนี้ทำให้จีเป่ยและตระกูลจีมีอำนาจเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม แทนที่จะเรียกว่าเสือติดปีก เรียกว่าเสือติดไอพ้นน่าจะเหมาะสมมากกว่า
และด้วยตำแหน่งตัวแทนประธานหลินกรุ๊ป การจะหาดาราสาวมานอนด้วย การจะหาผู้หญิงสาวๆ หรือนางแบบมานอนด้วย เรื่องนี้ก็ไม่เป็นปัญหาอะไรกับจีเป่ยเลยแม้แต่น้อย นี่แหละคือความเป็นจริงของโลกในยุคสมัยสงบสุข เมื่อคุณมีอำนาจและเงินจำนวนมาก ทุกๆ อย่างในชีวิตจะง่ายขึ้นเยอะ
ติ่ง! ติ่ง! ติ่ง!
เสียงมือถือที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียงนอนดังขึ้น เมื่อมีเสียงดังขึ้นจีเป่ยก็เปิดเปลือกตาของเขาพร้อมกับใช้มือเอื้อมไปหยิบมือถือที่กำลังดังอยู่ หากนี่เป็นสายจากลูกน้องหรือเลขาของตัวเอง จีเป่ยคงตะโกนด่าเพราะมารบกวนเวลานอนของเขา แต่คำที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอเขียนเอาไว้ว่า [ พ่อ ]
เมื่อเห็นชื่อคนที่โทรมาหา จีเป่ยก็กดรับสายด้วยท่าทางไม่เต็มใจนัก
“ไอลูกเวร!!! ตอนนี้แกมุดหัวอยู่ที่ไหน!!! ไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นกับหลินกรุ๊ปแล้ว!!!”
เสียงชายแก่ตะโกนด่าด้วยอารมณ์โมโห ดังออกจากมาลำโพงของมือถือที่จีเป่ยกำลังถืออยู่
จีเป่ยแปลกใจเล็กน้อยที่อยู่ๆ ตัวเองก็เจอด่าแบบนี้ แต่เมื่อคิดว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับหลินกรุ๊ปเขาก็เริ่มทำใบหน้าจริงจัง สีหน้าของจีเป่ยดูตื่นตัวกว่าเมื่อครู่มาก
จีเป่ยรีบพูดขึ้นว่า
“พ่อกำลังพูดเรื่องอะไรเมื่อวานยังไม่มีเรื่องอะไรเลย อีกอย่างพวกระดับสูงในหลินกรุ๊ปตอนนี้ก็เป็นคนของเราแทบทั้งหมด ต่อให้พวกตระกูลข้ารับใช้ทั้ง 10 เข้ามาแทรกแซง พวกนั้นก็ทำอะไรอำนาจของพวกเราไม่ได้หรอก”
“ไอ…! แกรีบเปิดแพลตฟอร์มข่าวซื้อขายหุ้นดูเดี๋ยวนี้ มองให้เต็มสองลูกตาว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น อย่าเอาแต่พ้นเรื่องไร้สาระออกมา”
เสียงในมือถือพูดด้วยน้ำเสียงอดกลั้น
จีเป่ยไม่ได้ตอบอะไรกลับ เขารีบเปิดแพลตฟอร์มข่าวซื้อขายหุ้นตามที่ได้ยิน ก่อนจะเปิดเข้าดู จีเป่ยคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะมีอะไรน่าเป็นห่วงเพราะเรื่องหุ้นตกหรือมีคนโจมตีหลินกรุ๊ปด้วยข่าวเสียๆ หายๆ เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปกติ จีเป่ยคิดว่าเรื่องที่พ่อของเขาอยากให้ดูก็คงไม่พ้นเรื่องพวกนี้
แต่เมื่อเข้าดูเท่านั้น
ฉิบหาย!
ฉิบหายแล้วไหมล่ะ!
สิ่งที่จีเป่ยเห็นประโยคแรกเมื่อเข้ามาในแพลตฟอร์มก็คือ [ ตระกูลหลินเทขายหุ้นทั้งหมด โอกาสของนักลงทุนมาถึงแล้ว ซื้อหุ้นหลินกรุ๊ปตอนนี้ในอนาคตมีแต่ได้กับได้ ]
จีเป่ยรีบพูดกับพ่อตัวเองว่า
“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นพ่อ พวกตระกูลข้ารับใช้มันไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับหลินกรุ๊ปไม่ใช่หรือไง ทำไมถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้”
เมื่อได้รับคำถามจากจีเป่ย เสียงตะโกนด่าจากปลายสายดังขึ้นทันทีว่า
“ ไอโง่!!! ฉันบอกแกกี่ครั้งแล้วว่าเรื่องผู้หญิงให้เบาๆ ลงบ้าง เอาเวลาไปอยู่ใกล้ๆ กับไอหลินฟานและล้างสมองให้มันทำตามคำสั่งของเรา แกยังมีหน้ามาถามอีกเหรอว่าเกิดอะไรขึ้น
“ พวกสิบตระกูลข้ารับใช้มันไม่มีอำนาจมายุ่งเรื่องหลินกรุ๊ปอยู่แล้ว เหตุผลที่ตระกูลหลินขายหุ้นก็เป็นเพราะไอหลินฟานไง แล้วก็ไม่ต้องมาถามฉันว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะฉันเองก็ไม่รู้ ฉันอยากรู้เหตุผลเลยโทรมาหาแกนี่ไง
“ไป!!! รีบไสหัวไปหามาว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง ตอนนี้พวกเราแก้อะไรไม่ได้แล้วเพราะหุ้นของหลินกรุ๊ปที่ตระกูลหลินครอบครองอยู่โดนขายไปหมดแล้ว ตอนนี้แกต้องไปเอาเงินที่ขายหุ้นได้เข้าบัญชีตระกูลจีของเรา ไปหลอกให้ไอหลินฟานโอนเงินมาเก็บเอาไว้ในบัญชีตระกูลของเราซะ”
ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้วจริงๆ หุ้นของหลินกรุ๊ปที่ตระกูลหลินครอบครองอยู่โดนขายไปหมดแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้อีกต่อไปแล้ว สิ่งที่ตระกูลจีสามารถทำได้ตอนนี้ก็คือการเอาเงินที่ขายหุ้นได้เข้าตระกูลตัวเองให้มากที่สุด
จีเป่ยก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้เช่นกัน เมื่อได้รับคำสั่ง จีเป่ยจึงตอบรับคำสั่งของพ่อตัวเองอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็รีบลุกขึ้นด้วยท่าทางเร่งรีบ ท่าทางของเขาเหมือนกับคนของขาดมาเป็นเวลานาน ใบหน้าอ้วนๆ เริ่มมีเหงื่อไหลออกมาจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
ระหว่างที่จีเป่ยกำลังแต่งตัว ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงก็ตื่นขึ้นแล้วถามขึ้นว่า
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมต้องรีบขนาดนั้น?”
“ซูหลินหลินเธอเองก็ต้องแต่ตัวเหมือนกัน วันนี้เธอต้องแสดงละครบีบน้ำตาให้หลินฟานมันสงสารเธอให้ได้ หลินฟานมันเป็นแฟนคลับของเธอ ฉันบอกกับมันไปว่าจะเชิญเธอไปกินข้าวกับมันหนึ่งมือ ระหว่างกินข้าวพวกเราต้องทำให้มันโอนเงินมาให้ตระกูลจีให้ได้ รีบแต่งตัวซะ วันนี้พวกเรามีงานใหญ่ต้องไปทำ”
จีเป่ยออกคำสั่ง
ซูหลินหลินยิ้มอย่างมีเลศนัย จากนั้นเธอก็พูดขึ้นว่า
“เรื่องการแสดงไม่ใช่ปัญหาเพราะฉันเป็นถึงผู้ท้าชิงตำแหน่งราชินีแห่งวงกลางหนัง แต่เมื่อวานฉันเห็นโปสเตอร์ประกาศขายวิลล่าหรูราคา 100 ล้านหยวน ฉันต้องการมันสักหลังเอาไว้พักผ่อน”
“ไม่ต้องห่วง ถ้าเรื่องครั้งนี้สำเร็จจะให้ฉันซื้อให้สักสิบหลังก็ได้ รีบแต่งตัวซะ!!”
จีเป่ยตอบด้วยน้ำเสียงเร่งรับ
“ขอบคุณมากคุณจี คุณไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ คุณไม่ต้องห่วงเรื่องการแสดงละครบีบน้ำตา ยิ่งหลินฟานเป็นแฟนคลับของฉันด้วยเรื่องนี้ก็ง่ายขึ้นเยอะ ถ้าฉันลงมือจริงๆ ถ้าคุณต้องการให้หลินฟานหันขวาหมอนั่นก็จะหันขวา ถ้าคุณต้องการให้หันซ้ายหมอนั่นก็จะหันซ้าย”
ซูหลินหลินพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ จากนั้นเธอก็รีบลุกขึ้นแต่งตัว
จากนักเขียน. หมั่นไส้ซูหลินหลินจัง แต่งเองหมั่นไส้เอง ผมเองก็งงเหมือนกัน 5555