Ep.103 - รวบรวมดอกบัวทอง
1/3
Ep.103 - รวบรวมดอกบัวทอง
เมื่อรู้สึกว่าไอเย็นเริ่มลดลง ฮังอวี่ชะโงกหน้าออกไป
สกิลระเบิดตัวเองของสไลม์น้ำแข็งทรงพลังมาก เกินพอที่จะครอบคลุมรัศมีหลายสิบเมตร
สไลม์ธรรมดาและสุนัขป่าที่พามาถูกสะเก็ดน้ำแข็งฆ่าตายในวินาทีเดียว มอนสเตอร์จระเข้เองก็ได้รับบาดเจ็บหนัก และเชื่องช้าลงจากเอฟเฟกต์แช่แข็ง
พลังรบโดยรวมของสไลม์น้ำแข็งถือว่าอยู่ในจุดต่ำสุดของบรรดามอนสเตอร์ชั้นยอด
ทว่ายามมันปลดปล่อยสกิลระเบิดตัวเอง อำนาจทำลายล้างจะเทียบได้เลยกับขั้นซิลเวอร์
ต้องขอบคุณที่ระยะเวลาร่ายสกิลระเบิดตัวเองค่อนข้างนาน เลยมีเวลาพอให้เขาและหวังเอ๋อตั้งหลักหนีได้ทัน
ฮังอวี่ใช้ประโยชน์จากตอนที่เอฟเฟกต์น้ำแข็งยังไม่หายไป เข้าโจมตีพวกจระเข้ที่ยังไม่ตายอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากฮังอวี่ไม่สามารถหยุดสไลม์น้ำแข็งจากการระเบิดตัวเอง ดังนั้นสไลม์น้ำแข็งจึงไม่เหลือศพทิ้งไว้ เมื่อปราศจากศพ ก็ไม่สามารถใช้สกิลรวบรวมวัตถุดิบ
อย่างไรก็ตาม สถานที่ซึ่งสไลม์น้ำแข็งทำการระเบิดตัวเอง ฮังอวี่ได้พบวัตถุบางอย่าง
[ผลึกน้ำแข็งสไลม์] คุณภาพวัถดุดิบเกรด 3
ผลึกน้ำแข็งนี้คือผลึกพลังงานที่บรรจุธาตุน้ำแข็งเอาไว้ มันเปราะบางมาก และเมื่อแตกออก จะปลดปล่อยพลังงานไอเย็นจัด บางครั้งก็ใช้เป็นอาวุธลับได้ ไม่ว่าจะในการต่อสู้ระหว่างคนกันเองหรือกับมอนสเตอร์ ก็ล้วนให้ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง!
คราวนี้ก็ถึงเวลาเก็บสินสงคราม ตัวฮังอวี่อยากเก็บวัตถุดิบทุกชิ้นใจจะขาด แต่ไร้กำลังจะทำได้
มิติเก็บของใกล้เต็มแล้ว เขาไม่สามารถยัดทุกอย่างลงไปได้อีก
อย่างไรก็ตาม ถ้าให้ยอมแพ้เจ้าตัวคงรู้สึกเสียดายเกินรับไหว
ฮังอวี่หันไปมองฮัสกี้ที่กำลังวิ่งตามหลังมา ทันใดนั้นสองตาทอประกายวาบ จู่ๆก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้น
สิบนาทีต่อมา
หมาหวังเอ๋อเดินโซซัดโซเซด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
ห่อใบใหญ่ที่เก็บเนื้อและหนังจระเข้หลายชิ้นถูกแบกไว้บนหลังมัน
“ฮ่ง! เห็นขนสีขาวดำแบบนี้ แต่เปิ่นหวังเป็นฮัสกี้นะไม่ใช่วัว! เจ้านายจะปล่อยให้สุนัขแบกของเยอะขนาดนี้จริงๆน่ะหรอ?”
“อย่าบ่น วัสดุพวกนี้เป็นของดีทั้งนั้น ฉันจะส่งไปที่ร้านเจ้าอ้วน แล้วบอกให้เขาใช้มันทำอาหารให้นายกิน”
“ฮ่ง! เจ้านายใจกว้างจริงๆ!” หวังเอ๋อกระดิกหางร่าเริงขึ้นมาทันที “ไม่ต้องเกรงใจ มีเนื้ออีกเท่าไหร่ขอให้จัดมา พี่ชายฮัสกี้ตัวนี้ยังแบกไหว!”
ฮังอวี่เก็บวัตถุดิบที่เหลือใส่กระเป๋าเป้ พาฮัสกี้ที่กำลังแบกของมุ่งหน้าไปยังปากถ้ำที่น้ำแทบล้นปิดทางเข้าเอาไว้
หมาหวังเอ๋อเห่าสองครั้ง ซักพักได้ยินเสียงสะท้อนกลับมาจากข้างใน สมองอันชาญฉลาดของมันเริ่มวิเคราะห์ทันที
“เสียงสะท้อนกลับมาใช้เวลาประมาณ 2.5 วินาที ความไวเสียงเท่ากับ 340 เมตรต่อวินาที เปิ่นหวังลองคำนวณคร่าวๆ คิดว่าถ้ำนี้น่าจะลึกประมาณ 500 เมตร แถมลึกเข้าไปข้างในน่าจะกว้างมาก”
ถ้ำเกือบทั้งหมดถูกน้ำท่วม เหลือช่องอากาศแคบๆไม่ถึงหนึ่งในสี่ มองจากรูปทรงสมควรเป็นถ้ำตื้นที่น่าจะพอคลำทางได้ แต่ไม่นึกเลยว่ามันจะลึกขนาดนี้ แถมข้างในยังเป็นพื้นที่เปิดโล่งอีก
“มีสมบัติอยู่ข้างในนั้นแน่ๆ แต่เปิ่นหวังได้กลิ่นสาบของพวกจระเข้เหมือนกัน แปลว่ามีจระเข้อยู่ข้างในไม่น้อย อีกอย่างปากทางเข้าถ้ำถูกปิดด้วยน้ำ ถ้าจะเข้าไปเปิ่นหวังคิดว่ามันเสี่ยงเกินไป”
นั่นก็จริง
ข้างในถ้ำเต็มไปด้วยน้ำ มันยากที่จะบอกว่าข้างในเป็นอะไร
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าหวังเอ๋อได้กลิ่นจระเข้ หากต้องสู้กับจระเข้ลายดำในน้ำ ต่อให้เป็นฮังอวี่ก็ไม่มีทางที่จะจัดการกับมอนสเตอร์ดุร้ายพวกนี้ได้!
“ฉันจะลองเข้าไปดูก่อน”
“ถ้าได้สมบัติมาจริงๆ ความดีความชอบนี้ฉันยกให้นาย”
ฮังอวี่ลูบหัวฮัสกี้ หลังจากนั้นเตรียมลงไปในน้ำ
“ฮ่ง! เปิ่นหวังเป็นสุนัขซื่อสัตย์ เพราะงั้นขอเตือนเจ้านายอีกครั้ง มันเสี่ยงเกินไปที่จะบุกเข้าไป”
“เจ้านายของแกรู้ขีดความสามารถของตัวเองดี แค่รออยู่ตรงนี้ก็พอ”
ฮังอวี่ดื่มโพชั่นลมหายใจเต่าก่อนเป็นอันดับแรก
โพชั่นชนิดนี้ทำมาจากสมุนไพรลมหายใจต่ำ ช่วยให้สามารถกลั้นหายใจได้เป็นเวลาสามสิบนาที สำหรับการดำน้ำสั้นๆนี้ นับว่าเพียงพอแล้ว
ฮังอวี่ไม่รอให้ฮัสกี้พูดต่อ เขากระโดดลงธารน้ำใต้ดินอันหนาวเหน็บ กลั้นหายใจแล้วจมหายลงไป
ระหว่างดำน้ำ เขาค่อยๆว่ายลึกเข้าไปในถ้ำอย่างช้าๆ
หวังเอ๋ออาจไม่น่าเชื่อถือในหลายๆด้าน อย่างไรก็ตาม ในฐานะเรดาร์ล่าสมบัติ มันถือเป็นมือหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย
เนื่องจากฮัสกี้บอกว่ามีขุมสมบัติอยู่ข้างใน ฮังอวี่เชื่อว่าต้องมีของล้ำค่าเฝ้ารอเขาอยู่แน่นอน
เมื่อไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการพักหายใจ ฮังอวี่จึงสามารถค่อยๆลอดผ่านทางน้ำแคบๆได้อย่างไม่ต้องรีบร้อน
สิบนาทีต่อมา
เมื่อฮังอวี่โผล่หน้าขึ้นผิวน้ำอีกครั้ง เขาก็พบกับพื้นที่โล่งกว้าง รัศมีน่าจะประมาณ 300 เมตร มีหินงอกหินย้อยตามธรรมชาติกระจายอยู่เต็มไปหมด โดยเฉพาะตรงกลางมันใหญ่มากจนเหมือนแท่นหิน
แท่นหินดังกล่าวจมอยู่ใต้น้ำครึ่งหนึ่ง และบริเวณใกล้เคียง บนผิวน้ำเหมือนจะมีกลุ่มขอนไม้ผุจำนวนมากลอยอยู่ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านั่นคือแผ่นหลังของจระเข้ลายดำ และกะด้วยสายตา น่าจะมีมากถึง 30-40 ตัว หากถูกพวกมันปิดล้อมคงไม่มีทางหลบหนี
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดึงดูดสายตาของฮังอวี่จริงๆไม่ใช่จระเข้ แต่เป็นแท่นหินธรรมชาติที่อยู่ตรงกลาง
เหนือแท่นหิน มีต้นบัวไม่ทราบชนิดงอกเงยอยู่
ต้นบัวต้นนี้มีสีทอง มีก้านบัวหลายก้าน บางก้านมีดอกบัวบาน เปล่งแสงจางๆออกมา
ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเดา นั่นต้องเป็นพืชวิญญาณที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
แวบแรกที่เห็นมัน สีหน้าของฮังอวี่ตกตะลึง แต่ซักพักก็แสดงออกถึงความปิติยินดี
หวังเอ๋อไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ เจ้าสิ่งนี้สำหรับฮังอวี่แล้ว นับเป็นสมบัติอันยอดเยี่ยม!
ดอกบัวทองต้นนี้แม้ไม่ดีเท่าผลไม้ห้าสีแห่งปัญญาที่หวังเอ๋อเคยกิน ทว่ามันเป็นของที่แม้แต่ในโลกวิญญาณยังถือว่าหายากอย่างไม่ต้องสงสัย
ดอกบัวทองนี้แม้ไม่เท่าระดับมหากาพย์ของผลไม้ห้าสีแห่งปัญญา แต่เมื่อโตเต็มวัยสามารถไปได้ถึงระดับราชันย์ และมันมีประโยชน์มากในการพัฒนาช่วงต้น!
ฮังอวี่เปิดใช้งานสกิลล่องหน ปีนไปตามผนังของถ้ำ ตัวเขาเหมือนแมงมุมไต่จากกำแพงขึ้นไปเหนือเพดานถ้ำ ค่อยๆขยับจนถึงเหนือแท่นหินดอกบัวทอง
จระเข้มีประสาทรับกลิ่นที่ดี บางตัวตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
อย่างไรก็ตาม มันไม่พบร่างของฮังอวี่
ฮังอวี่สูดหายใจลึก ก้มลงมองฝูงตระเข้ที่อยู่เบื้องล่าง ก่อนเบนมองไปทางดอกบัวทองอันเย้ายวนใจที่อยู่ตรงกลางอีกครั้ง
หากพลาดแม้แต่ก้าวเดียว จุดจบคือถูกจระเข้รุมฉีกเป็นชิ้นๆ
ฮังอวี่สงบสติอารมณ์ ปรับสมาธิให้คงที่ ดึงคัมภีร์สกิลออกจากมิติเก็บของ จากนั้นปล่อยมือปล่อยเท้า ร่วงลงมาจากเบื้องบน หย่อนตัวลงเหนือแท่นหินโดยตรง ผิวน้ำที่อยู่รอบๆกระเซ็นทันที บางสิ่งบางอย่างที่อยู่เบื้องล่างเผยร่างที่แท้จริงออกมา
แต่ในตอนนั้นเอง ก่อนที่พวกมันจะได้ทำอะไร
เปิดใช้งานเสียงหอนแห่งความหวาดกลัว!
ในพริบตาที่ฮังอวี่หย่อนตัวลง เขาจ่ายพลังจิตออกไป เปิดใช้งานสกิลเสียงหอนแห่งความหวาดกลัว
นี่คือคัมภีร์สีขาวเลเวล 4 เอฟเฟกต์อันทรงพลังระเบิดในชั่วพริบตา กระจายเข้ากลืนจระเข้ทั้งฝูงไปพร้อมๆกัน
มอนสเตอร์ประเภทสัตว์เลื้อยคลานพวกนี้มีสติปัญญาต่ำ แล้วมันจะต้านทานการโจมตีทางจิตที่รุนแรงเช่นนี้ได้อย่างไร?
เมื่อถูกกระตุ้นด้วยคลื่นความหวาดกลัวอันแข็งกร้าว พวกมันราวกับเห็นผี แตกกระเจิงหลบหนีอย่างไม่อาจควบคุม หนีไปจากบริเวณนี้ไม่เหลือแม้สักตัวเดียว
“เอฟเฟกต์ของสกิลนี้มีจำกัด ฉันต้องรีบลงมือ!”
ฮังอวี่ตระหนักดีว่าอีกไม่นานจระเข้กลุ่มใหม่จะเข้ามา เขาต้องรีบทำภารกิจให้เสร็จสิ้นก่อนถึงตอนนั้น
การขุดต้นบัวออกไปทั้งต้นไม่มีทางได้สมบัติดีๆอย่างครบถ้วน แถมเจ้าสิ่งนี้ยังค่อนข้างเปราะบาง หากมันเกิดเสียหายเพียงเล็กน้อย ดอกบัวจะเหี่ยวเฉาทันที
ฮังอวี่ในปัจจุบัน เห็นได้ชัดว่าไม่มีความสามารถถึงขั้นรักษามันโดยไม่บอบช้ำ ดังนั้นทำได้เพียงใช้สกิลรวบรวมวัตถุดิบเพื่อจะได้ไม่กระทบต่อมัน
“การรวบรวมล้มเหลว!”
“การรวบรวมล้มเหลว!”
“การรวบรวมล้มเหลว!”
“คุณได้รับเมล็ดบัวปราณวิญญาณ”
หลังจากล้มเหลวในการรวบรวมวัตถุดิบสามครั้งติดต่อกัน ทันใดนั้นฮังอวี่ก็ได้รับบางสิ่งมา