ตอนที่แล้ว595 - วิชาโบราณของจูเหยียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป597 - โอกาสล้ำค่าที่จะก้าวเข้าสู่อาณาจักรผู้สูงสุด 

596 - นักบุญหงส์


1906 - นักบุญหงส์

“ระดับบ่มเพาะของเจ้าลึกซึ้งมากแค่ไหน?” มันถาม นี่คือสิ่งที่โลกภายนอกต้องการรู้ หลายคนสงสัยว่าเขาอยู่ในอาณาจักรเทพที่แท้จริงซึ่งอาจจะไปถึงขอบเขตของระดับเทพสวรรค์

ตอนนี้ดูเหมือนทุกคนประเมินเขาต่ำไป เขาสูงกว่าระดับนั้นมาก

“ปลดปล่อยตนเอง” สือฮ่าวตอบ

จูเหยียนรู้สึกมึนงงหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก

ในท้ายที่สุดมันก็เผยให้เห็นการแสดงออกที่แปลกประหลาด เด็กน้อยคนนั้นมาถึงระดับนี้แล้ว? มันช่างน่ากลัวจริงๆ

แม้ว่าเขาจะเกิดในอาณาจักรที่ต่ำกว่าซึ่งกฎแห่งสวรรค์ที่นี่บกพร่องเป็นอย่างมากมีผลต่อระดับบ่มเพาะของเขา แต่กระนั้นมันก็ไม่สามารถหยุดยั้งการก้าวเดินของเขาได้?

“เจ้ากลายเป็นตำนานที่ไม่มีใครเทียบได้แล้ว” จูเหยียนถอนหายใจ

มันรู้ว่าเส้นทางในอนาคตของสือฮ่าวจะไม่มีใครคาดคำนวณได้ คนผู้นี้ถูกกำหนดให้กลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุดในสวรรค์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ในขณะเดียวกันเขาจะเดินไปในเส้นทางที่ยากลำบากไม่มีวันสงบสุขจนกว่าเขาจะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิตหรือไม่ก็ตายไป

“นั่นมันนกปีศาจตัวนั้นจริงๆ” จูเหยียนตกใจ

สือฮ่าวยังเผยให้เห็นถึงความประหลาดใจ ผู้อาวุโสคนนั้นเริ่มชัดเจนมากขึ้นผมสีขาวเบาบางแก่ชราอย่างไม่น่าเชื่อ ในที่สุดร่างของเขาก็กลายเป็นหงส์!

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตถูกสร้างขึ้นใหม่ปรากฏเป็นรูปโฉมของเขา

“เป็นไปไม่ได้!” การแสดงออกของลูกขนเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง

"มันคือใคร? เจ้าจำได้ไหม” สือฮ่าวตกใจ

“นี่คือนักบุญหงส์!” ลูกขนตอบกลับ

สือฮ่าวตกตะลึงและจากนั้นก็จำได้ นี่ไม่ใช่อาจารย์ของนกกระจอกกลืนสวรรค์ตัวนั้นหรอกหรือ?

มีข่าวลือว่านกกระจอกกลืนสวรรค์ได้รับการสั่งสอนจากนักบุญหงส์ซึ่งเป็นสาเหตุที่การบ่มเพาะของมันค่อยๆดีขึ้น

อย่างไรก็ตามในช่วงปีต่อมานกกระจอกกลืนสวรรค์กับกลืนกินนักบุญหงส์ลงไปในท้อง

อาจกล่าวได้ว่าชื่อเสียงของนกกระจอกกลืนสวรรค์ในแดนร้างนั้นโด่งดังมาก หลายคนเกลียดมันเพราะมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้ศีลธรรม

แต่มันแข็งแกร่งมากไม่มีใครสามารถรับมือกับมันได้

“น่าสนใจจริงๆแม้แต่คนตายก็ยังกล้าฮุบเอาสมบัติสวรรค์ไป” สือฮ่าวเห็นว่าบุคคลนี้มีชิ้นส่วนกระดูกรูปสี่เหลี่ยมที่มีสีขาวสะอาดราวกับหยก

จูเหยียนยืนยันว่านี่คือสมบัติสวรรค์ในตอนนั้น มันได้รับมาแล้วแต่ก็สูญเสียไปในภายหลัง

“ระดับบ่มเพาะของคนผู้นี้ไม่ได้อ่อนแอ” สือฮ่าวกล่าว

“สายเก่าคนนี้แข็งแกร่งและน่ากลัวจริงๆ ทุกคนต่างก็บอกว่านกกระจอกกลืนสวรรค์กินเขาลงไปในท้องแล้วแต่แท้ที่จริงมันกลับเป็นอุบายของเขาเอง” จูเหยียนสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนาวเหน็บ

อย่างไรก็ตามผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรปลดปล่อยตนเองอย่างสือฮ่าวมาที่นี่แล้วไม่มีสิ่งอะไรที่มันต้องกลัว

“เราจะไปค้นสถานที่บ่มเพาะในอดีตของนักบุญหงส์คนนี้ ต่อให้เขาไม่อยู่ที่นั่นเราก็ต้องได้เบาะแสบางอย่างข้าไม่เชื่อว่าเขาจะหนีเราพ้น” สือฮ่าวกล่าว

"ข้าเห็นด้วย ไม่ว่าเขาจะแข็งแรงแค่ไหนก็ไม่อาจหนีรอดพ้นมือเจ้าไปได้!” ลูกขนกล่าว

อาณาจักรหินตอนล่างเฟื่องฟูด้วยความเจริญรุ่งเรือง ตอนนี้เมื่ออำนาจของอาณาจักรถูกใช้เพื่อตรวจสอบนักบุญหงส์ เรื่องราวของเขาก็ถูกเปิดเผยอย่างง่ายดาย

แน่นอนว่าเรื่องนี้ยังคงดำเนินไปด้วยความลับที่สุดมิฉะนั้นจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น

นักบุญหงส์ยังมีชีวิตอยู่นี่เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือการคาดการณ์ของสือฮ่าว

กล่าวในความเป็นจริงสถานะของคนผู้นี้นั้นยิ่งใหญ่เป็นอย่างมากในแปดอาณาจักรด้านล่าง การที่เขาจะถูกลูกศิษย์ของตัวเองกินนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลจริงๆ

“ท่านอาจารย์ประตูดินแดนอาณาจักรแห่งความว่างเปล่าคึกคักเป็นอย่างมาก มีผู้คนมากมายต่างตะโกนเรียกชื่อของท่านอยู่ที่นั่น” มังกรแดงกล่าว

ประตูของอาณาจักรแห่งความว่างเปล่าถูกปิดผนึก

ท่านปู่นกและผู้อาวุโสเหรียญเงินไม่ต้องการความวุ่นวายดังนั้นเขาจึงปิดประตูอย่างแน่นหนาไม่อนุญาตให้สิ่งมีชีวิตเข้ามา

สือฮ่าวครุ่นคิดเล็กน้อยและกล่าวว่า

“เจ้าไปที่นั่นแล้วบอกพวกเขาว่าข้าพิการไปแล้วไม่สามารถเข้าสู่อาณาจักรแห่งความว่างเปล่าได้ ดังนั้นจึงไม่มีโอกาสได้พบเพื่อนเก่าอีกต่อไป”

เมื่อมังกรแดงได้ยินดังนั้นมันก็อ้าปากค้างแสดงสีหน้าแปลกใจ

อาจารย์ราคาถูกของมันคนนี้กำลังโกหกหลอกลวงอยู่ เห็นได้ชัดว่าเขามีแผนการชั่วร้ายอยู่ในใจ?

“พวกเขาจะไม่สงสัยเหรอ? ยิ่งไปกว่านั้นถ้าพวกเขาเข้าสู่อาณาจักรแห่งความว่างเปล่าความจริงก็จะถูกเปิดไว้ในทันที?” เก๋อกู่พึมพำ

“หยุดพูดเรื่องไร้สาระข้าบอกให้เจ้าไปเจ้าก็ไปไม่ใช่ว่าอาณาจักรแห่งความว่างเปล่าจะเข้ามาได้ง่ายๆ” สือฮ่าวตะคอกมัน

ในท้ายที่สุดมังกรแดงก็นำข่าวเหล่านี้ไปยังประตูอาณาจักรโดยและพูดผ่านประตูหินเพื่อแจ้งให้ผู้ที่อยู่ในอาณาจักรที่สูงกว่าทราบว่าฮวงนั้นพิการไปแล้วเขาไม่สามารถเข้าสู่โลกแห่งจิตวิญญาณได้อีกต่อไป

“เป็นไปไม่ได้? ฮวงจะพิการได้อย่างไร!” มีบางคนที่ไม่เชื่อเรื่องนี้พวกเขากรีดร้องด้วยอารมณ์พุ่งพล่าน

คนเหล่านี้เป็นสหายของสือฮ่าว โดยหวังว่าเขาจะสามารถสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นอีกครั้ง พวกเขาไม่เต็มใจที่จะยอมรับว่าสือฮ่าวจะตกต่ำลงจริงๆ

“น้องชายของข้าจะพิการได้อย่างไร? คำสาปสังหารอมตะไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถสังหารเขาได้!” เฉาอวี่เซิ่งส่งเสียงคำรามในขณะที่มดเขาสวรรค์โกรธมากมันทุบตีประตูอาณาจักรไม่หยุด

เพื่อนเก่าของสือฮ่าวต่างก็ถอนหายใจ ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้ สือฮ่าวจบลงด้วยความทุกข์ทรมานในที่สุดพิการเช่นนั้น

“เฮ้ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…” มีบางคนที่หัวเราะรวมถึงคนที่มาจากตระกูลจินในอาณาจักรที่สูงกว่า ยังมีคนของตระกูลหวังและคนอื่นๆ

ปรมาจารย์นิกายต่างๆของสามพันแคว้นก็อยู่ในคนกลุ่มนี้ด้วย

“พวกเจ้าหัวเราะอะไรกัน? ระวังชายชราคนนี้จะสังหารพวกเจ้าทั้งหมด!” มดเขาสวรรค์ตัวน้อยจ้องมองออกไปอย่างเย็นชาสายตาจับจ้องไปยังทุกคนราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

“เจ้าหนูอย่าทำผลีผลาม เราแค่คิดถึงเรื่องอื่น” มีคนกล่าว

“พอเถอะ” เฉาอวี่เซิ่งกล่าวเบาๆ

เป็นเพราะทูตของอาณาจักรเซียนก็อยู่ที่นี่จึงมีบางคนอยู่เคียงข้างเขา ใบหน้าของคนเหล่านี้มืดครึ้มพวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง

เมื่อเด็กหนุ่มสาวสามคนของอาณาจักรเซียนเข้าสู่อาณาจักรแห่งความว่างเปล่าพวกเขาก็หายตัวไปแบบนั้น

เรื่องนี้ทำให้พวกเขาอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก พวกเขาคือคนของอาณาจักรเซียนแต่พวกเขาก็ถูกขัดขวางโดยดินแดนที่ต่ำกว่าทำให้พวกเขารู้สึกไม่พอใจ

อย่างไรก็ตามการที่พวกเขาทั้งสามเคลื่อนไหวด้วยตัวเองออกจากกองกำลังของทูต และเข้าสู่อาณาจักรแห่งความว่างเปล่าอย่างเร่งรีบสิ่งนี้ทำให้พวกเขาเดือดร้อนไปด้วย

พวกเขาทั้งหมดมาจากอาณาจักรเซียนดังนั้นไม่ว่าเด็กทั้งสามจะทำผิดพลาดแบบไหนในสายตาของทูตก็เป็นความรับผิดชอบของเขา

“ผู้ดูแลอาณาจักรแห่งความว่างเปล่าได้โปรดออกมาพบเรา” ในเวลานี้ทูตกล่าวขึ้น สถานะของเขาแตกต่างจากคนอื่นๆที่นี่

อย่างไรก็ตามเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้อาวุโสเหรียญเงินและท่านปู่นกเขายังคงสิ้นปัญญา เพราะผู้เฒ่าทั้งสองไม่ได้ให้ความสนใจกับเขาเลย

พวกเขาเพียงแค่เม้มปากและคุยกันสองคน

“คนผู้นั้นสามารถสั่งการเราได้?”

"เขาไม่สามารถ."

“ถ้าอย่างนั้นก็ไล่มันไปซะ”

“ไอ้สาระเลวน้อยไปบอกพวกมันว่าอาณาจักรแห่งความว่างเปล่าไม่ใช่สถานที่ที่พวกมันจะเข้ามาเที่ยวเล่นได้ หากพวกมันต้องการเข้ามาก็ให้พวกมันทำลายประตูเข้ามาด้วยตัวเอง!”

มังกรแดงพูดไม่ออก ผู้อาวุโสทั้งสองเรียกมันว่าเจ้าสาระเลวน้อยซึ่งมันคิดว่าเป็นคำหยาบคายเกินกว่าที่อาจารย์ของมันเคยเรียกเสียอีก?

“แค่พูดตรงๆแบบนั้น?” มังกรน้อยถาม

“ถูกต้องตรงไปตรงมา”

เก๋อกู่มาถึงประตูดินแดนแล้วกระแทกเสียงออกไปว่า

“หุบปาก! เจ้าอาณาจักรและผู้ดูแลของอาณาจักรแห่งความว่างเปล่า บอกให้ข้ามาบอกทุกคนว่าอยากจะเข้ามาก็ต้องทำลายประตูด้วยตัวเอง!”

ทุกคนที่อยู่ข้างนอกพูดไม่ออก

อาณาจักรแห่งความว่างเปล่านี้มีปีศาจจริงๆหรือ? ต้องให้พวกเขาทำลายประตูถึงจะเข้าไปได้ไม่เว้นแม้แต่ทูตของอาณาจักรเซียน

“บังอาจเจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังพูดอยู่กับใคร? ทุกสิ่งภายใต้สวรรค์ถูกปกครองโดยอาณาจักรเซียนพวกเจ้ากล้าต่อต้านอย่างนั้นหรือ?” ใครบางคนตะโกน

ดวงตาของทูตนั้นเย็นชามาก วันนี้ใบหน้าของเขาถูกฉีกอย่างยับเยิน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจออะไรแบบนี้หลังจากเข้าสู่เก้าสวรรค์สิบพิภพ

“ผู้อาวุโสจะให้ข้าด่าพวกมันยังไงดี?” มังกรแดงกลับเข้ามาเพื่อขอคำชี้แนะมันไม่ได้บอกว่าจะตอบกลับอย่างไรแต่กลับถามถึงวิธีการด่า

“เด็กคนนี้ควรค่าแก่การสอน!” ท่านปู่นกชมเชย

“แน่นอนว่าข้าคุ้มค่ากับการสอน” มังกรแดงสาปแช่งอย่างเงียบๆด้วยความไม่พอใจ

เมื่อมันคบหากับสองผู้เฒ่าคนนี้ในไม่ช้านิสัยของมันก็เปลี่ยนไปกลายเป็นเลวทรามมากยิ่งขึ้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด