ตอนที่แล้วตอนที่ 98 ผลของความพยายาม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 100 แผนของเยวี่ยหมิงคง

ตอนที่ 99 สร้างโลก


กู่ฉางเกอตกอยู่ในห้วงความคิดขณะมองหน้าต่างสถานะ

เจ้าของ : กู่ฉางเกอ

รัศมี : วายร้ายสวรรค์ลิขิต

อาวุธ : ง้าวมารแปดทิศ

ตัวตน : ศิษย์แท้จริงวังเต๋าเซียนสวรรค์ นายน้อยของตระกูลเซียนกู่

เส้นชีพจร : ใจมาร กระดูกเต๋า

ฐานบ่มเพาะ : จักรพรรดิ(ขั้นกลาง)

ความสามารถลี้ลับ : เคล็ดเต๋าเซียนสวรรค์(ขั้นแปด) วิหารจิตเทพบรรพกาล(พรสวรรค์) กายหมื่นปีศาจจำแลง(พรสวรรค์) เคล็ดเซียนปีศาจกลืนกิน ภูมิปัญญาไร้สิ้นสุด

ค่าโชคชะตา : 10000

ค่าโชคลาภ : 2000(มืด)

ร้านค้าระบบ : เปิด

คลัง : หนึ่งในสามชิ้นส่วนเมล็ดพันธุ์โลกx3(ผสาน) การ์ดปล้นโชคx3

ตลอดมา ค่าโชคชะตาของเขาได้เพิ่มเป็นหมื่น ส่วนโชคลาภเขาพุ่งไปสองพันแต้ม ตอนนี้เขารวยมาก แต่เขาก็ไม่รีบเพิ่มฐานบ่มเพาะ

เขามองร้านค่าระบบ และสุดท้ายก็พบสิ่งที่เขาปรารถนา’[เครื่องรางปกปิดกลิ่นอายระดับเทพ]’

มันมีราคาแปดพันค่าโชคชะตา

[รายละเอยีดของ : ปกปิดกลิ่นอายของผู้ใช้อย่างสมบูรณ์เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง]

แม้จะไม่ได้ฟังดูวิเศษ แต่สีหน้าของกู่ฉางเกอก็ดูพึงพอใจมาก ในเมื่อมันเป็นของจากระบบ งั้นความสามารถมันต้องไม่เป็นที่กังขา มันจะสามารถปกปิดกลิ่นอายเขาได้อย่างสมบูรณ์ แล้วเขาจะไปที่ไหนไม่ได้บ้างด้วยความสามารถมิติของเขา?

กู่ฉางเกอรีบแลกมัน โดยปราศจากความรู้สึกเสียใจที่เสียค่าโชคชะตาไปเยอะ เหนือสิ่งอื่นใด เขากำลังจะมีโอกาสสูงสุดที่ว่ากันว่าวิเศษจนแม้แต่เทพสูงสุดยังต้องออกมาแย่งชิง

หลังจากนั้น เขาก็แลกพันโชคลาภเป็นอีกหมื่นค่าโชคชะตาและแลก[เครื่องรางทำลายเขตแดน] กับ[เครื่องรางทำลายค่ายกล]

[เครื่องรางทำลายค่ายกล]เป็นตามชื่อ ‘มันสามารถทำลายค่ายกลและพันธนาการอื่นได้’

สำหรับเครื่องรางทำลายเขตแดน?มันช่วยให้เขาหนีได้

นี่คือมาตรการที่เขาเตรียมไว้

หลังจากนั้น กู่ฉางเกอก็เริ่มผสานชิ้นส่วนเมล็ดพันธ์โลก ทันทีทันใด วิสัยทัศน์เขาเลือนราง และเมล็ดพันธุ์ทั้งสามรูปร่างก็ปรากฏต่อหน้าเขา แสดงฉากยิ่งใหญ่

อักขระซับซ้อนนับไม่ถ้วนกระจาย และโลกภายในมันก็เปิดต่อหน้ากู่ฉางเกอ ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูง ดวงจันทร์หมุนวนรอบโลก ภูเขากับแม่น้ำปรากฏ และทะเลโบรารก็หลั่งไหล โลกตรงหน้าเขาขยายตัวอย่างน่าทึ่ง

[บูซ!]

แสงพร่ามัวส่องสว่างพื้นที่โดยรอบขณะที่สามเมล็ดพันธุ์ผสานกันอย่างสมบูรณ์ และเปลี่ยนเป็นแสงเรืองรอง

กู่ฉางเกอรู้สึกถึงกลิ่นอายกดดันของทั้งโลกที่กดทับหน้าอกเขา มันเป็นกลิ่นอายโกลาหล

ไม่นาน พลังโกลาหลก็จางหายและฉากก็ใส

สวรรค์และโลกไดก้เปิดในตัวเขา โลกกว้างใหญ่และลึกลับถือกำเนิดในตัวเขา!

โลกถือกำเนิดจริงๆ!

ภายในตัวเขา ดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ลอยสูง ดวงดาวปกคลุมท้องฟ้า และเมฆก็ลอยเหนือพื้น ก่อตัวเป็นวัฏจักรชีวิต แม้โลกจะไม่ใหญ่เกินไป มันก็คือการถือกำเนิดโลกใบหนึ่ง

‘ไม่เพียงข้าจะผสานชิ้นส่วนเมล็ดพันธุ์โลกได้สำเร็จ แต่ข้ายังสร้างโลกภายนอกในตัวทีเดียว’

‘ความรู้สึกของการมีโลกในฝ่ามือช่างดีจริงๆ ข้าสามารถขว้างอะไรก็ได้ตามใจชอบ’

‘ถ้าข้าเจอศัตรูที่แข็งแกร่ง ข้ายังหลบหนีเข้าโลกในตัวได้ ตราบเท่าที่ข้าไม่เจอผู้ยิ่งใหญ่ที่เก่งการสร้างและท่องมิติ ข้าจะไม่เป็นอะไร’

กู่ฉางเกอมองค่าโชคชะตาที่ลดไปพันในคราเดียว แต่ก็ไม่สนใจ

เขาครุ่นคิดสักพักและจากนั้น

[บูซ!]

มิติรอบตัวเขาผันผวน และวินาทีต่อมา ทั้งตัวเขาก็หายไปจากจุดที่ยืนโดยไม่ทิ้งความผันผวนไว้

ถ้ามีใครเห็นเขาตอนนี้ พวกเขาจะตกใจ

กู่ฉางเกอหายไปในอากาศธาตุ

วิธีการของเขาประหลาดเกินไป

แต่ทว่า ถ้าคนที่มีความสามารถสรรค์สร้างมาเห็นการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อม พวกเขาจะพบความผันผวนประหลาดบางอย่าง กู่ฉางเกอไม่ได้หายไปในอากาศ เขากลับเปิดอุโมงค์มิติและเข้าไปในอีกโลก

ร่างของกู่ฉางเกอปรากฏบนยอดเขาในโลกที่เขาสร้าง

ขณะมองสภาพแวดล้อมและกระจายสัมผัสไปทั่ว เขาก็ตระหนักว่าโลกมีรัศมีแค่ไม่กี่พันลี้ แม้จะมีภูเขา แม่น้ำ ต้นไม้โบราณกับสิ่งมีชีวิตทั่วไป แต่ก็ไม่มีพลังปราณ

เหนือโลกที่พัฒนาการแล้วคือความโกลาหลที่ยังไม่ได้พัฒนา กู่ฉางเกอจึงอดจมลงในความคิดไม่ได้

เมล็ดพันธุ์โลกที่ระบบมอบให้คือของดีสุด ความโกลาหลไร้สิ้นสุดที่วิวัฒนาการได้ตเนือเขาว่าโลกสร้างขึ้นได้ยังไง เขาสามารถใช้ข้ออ้างอิงนี้ที่ว่าโลกปัจจุบันในตัวเขาอยู่ในช่วงทารกเท่านั้น เขาต้องขยายมันเพิ่มในอนาคต

ตอนนี้ที่เขาอยู่นี่ เขายังสามารถใช้มันเป็นฐานสำหรับแผนการทั้งหมดในอนาคต

กู่ฉางเกอประเมินว่าโลกสามารถวิวัฒนาการได้เพิ่มจนถึงจุดสูงสุดในอนาคต มันไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ที่จะเติบโตจนมีขนาดเท่าทั้งจักรวาล

แน่นอน โลกสามารถใช้งานได้หลายจุดประสงค์เช่น ‘ขังศัตรู ให้โลกของเราปรากฏในโลกภายนอกเอง หรือยังกลืนกินโลกเดิมที่อยู่นอกตัวเขา..’

กู่ฉางเกอนึกถึงตำนานมากมายขณะที่เขาคิดถึงว่าเขาจะใช้โลกเกิดใหม่นี้ยังไง

ตอนแรก มันไม่มีอะไร แต่จากนั้นความโกลาหลก็เข้ามา ความโกลาหลให้กำเนิดเทพมารโกลาหลสามพันตน ท่ามกลางนั้นก็คือผานกู่ จากนั้นผานกู่ก็แบ่งแยกสวรรค์กับโลก

หงจุนได้เทศนาและสามผู้บริสุทธิ์ก็ปรากฏ หนี่วาได้สร้างมนุษย์ ซุยเรนได้สอนมนุษย์ให้สร้างไฟจากฟืน

มันไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ที่สิ่งคล้ายกันนี้จะปรากฏในโลกภายในตัวเขา

กู่ฉางเกอตกอยู่ในห้วงความคิด จากนั้นก็ถามระบบ’ระบบ ข้าสามารถพัฒนาโลกภายในด้วยค่าโชคชะตาได้ไหม?’

[ค่าโชคชะตาใช้ได้กับทุกสิ่ง ตราบเท่าที่ท่านมีค่าโชคชะตาพอ ท่านจะสามารถพัฒนาได้ทุกสิ่งตามปรารถนา]

ระบบตอบ

กู่ฉางเกอพยักหน้า และจากนั้นก็ทุ่มค่าโชคชะตาเพื่อพัฒนาโลกภายใน

[บูม!]

ไม่ช้า กลุ่มวังโอ่อ่าก็ผุดจากพื้นด้านหลังเขา เหมือนตำหนักสวรรค์ที่ตั้งสูงระหว่างสวรรค์และโลก เสาสูงวัดไม่ได้ของพวกมันอย่างเดียวก็ค้ำจุนท้องฟ้าได้แล้ว เหมือนวังสวรรค์ในตำนานโบราณ

ร่างของกู่ฉางเกอหายไปจากจุดและปรากฏภายในวังที่ใหญ่สุด และเขาก็คล้ายกับเทพที่ปกครองสวรรค์และทุกสิ่ง

เขาอดพยักหน้าพอใจไม่ได้

‘มันมีความสามารถมาก จะดีกว่าไหมถ้าข้าจะรออยู่ในนี้จนกว่าโลกนี้จะก้าวข้ามโลกดั้งเดิมได้?’

การก่อสร้างวังสวรรค์ส่วนตัวของเขาไม่ได้เสียแรงนัก เหนือสิ่งอื่นใด โลกในนี้เป็นของเขา มันไม่ยากที่เขาจะเปลี่ยนแปลง

หลังจากนั้น กู่ฉางเกอก็กลับโลกเดิมและขังตัวเองภายในที่พักเขา ตอนนี้ เขาสามารถเมินเรื่องโลกภายในไปได้ก่อน เขาต้องจดจ่อกับถนนอมตะที่อาจปรากฏ

เขาได้เตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว และตอนนี้ เขาแค่ต้องรอโอกาสที่เหมาะสม มันแค่ว่าเขาไม่รู้ว่าถนนอมตะจะปรากฏตอนไหนกันแน่

แต่ในไม่ช้า กู่ฉางเกอก็นึกถึงใครบางคน ภรรยาเขา..ไม่สิ ว่าที่ภรรยา

เยวี่ยหมิงคง!

ในเมื่อนางคือผู้ย้อนเวลา นางก็ต้องรู้ว่าถนนอมตะจะปรากฏตอนไหน มันแค่ว่ามันไม่ง่ายที่จะคุยกับนาง

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ากู่ฉางเกอเดาไม่ผิด งั้นเยวี่ยหมิงคงก็ต้องกำลังเดินทางมาแน่ เหนือสิ่งอื่นใด เขาคือศัตรูตัวฉกาจสุดของนางในเส้นเวลาก่อน ถ้านางปรารถนาจะแก้แค้นเขา นางก็ต้องฉวยโอกาสนี้

สำหรับที่ว่าเขาจะขโมยโอกาสของภรรยา?กู่ฉางเกอไม่รู้สึกผิดเลย

นางเป็นของเขา โอกาสนั้นจึงเป็นของเขาไปโดยปริยาย

แถม การขโมยโอกาสของภรรยาจะยังเรียกว่าขโมยได้อีกเหรอ?

กู่ฉางเกอรู้ดีว่าเขาไม่สามารถล้างความเกลียดชังที่นางมีต่อเขาได้ในวันหรือสองวัน บางทีนางคงชินกับเขาและยอมแพ้ไปเองหลังโดนเขารังแกไปสักพัก

เขาปฏิบัติต่อนางอย่างดีโดยไม่ฆ่านาง เหนือสิ่งอื่นใด แม้เขาจะชั่วร้าย แต่ก็ไม่ใช่ปีศาจคลั่งที่ชอบนองเลือด

ไม่ว่าจะเป็นกู่เซียนเอ๋อร์หรือเยวี่ยหมิงคง กู่ฉางเกอไม่เลือกฆ่า มันไม่ใช่ว่าเขาทำไม่ได้ แต่เขารู้สึกว่ามันน่าเบื่อเกินไป ถ้าเขาทำเช่นนั้น งั้นอะไรคือความต่างระหว่างเขากับตัวเขาคนเดิมที่โดนมารครอบงำ?

“หยานจี..”

ไม่ช้า สีหน้าของกู่ฉางเกอก็สงบลงและเขาก็เรียกหยานจีผ่านหินสื่อสาร

หยานจีติดตามเขามาตลอด มันแค่ว่านางซ่อนตัวในที่ม ดและไม่เผยตัว เพราะเหตุนี้ จึงมีน้อยคนในนี้ที่รู้ว่าเขามีลูกน้องอาณาจักรจอมเทพศักดิ์สิทธิ์คอยตาม

ต้องรู้ว่าแม้กระทั่งผู้อาวุโสบางคนของวังเต๋าก็ยังไม่ถึงระดับนี้!

ไม่ช้า มิติด้านหน้าเขาก็ผันผวน และหยานจีก็เดินออกมา ทักทายเขาด้วยความเคารพ”นายน้อย’

นับตั้งแต่นางกลับจากแดนเซียนต้องห้าม นางก็พักฟื้นบาดแผลที่นางได้รับ

ถ้านางไม่รีบใช้เครื่องรางทำลายเขตแดน นางคงถูกส่งลงโลงไปแล้ว

กู่ฉางเกอเหลือบมองนาง และจากนั้นก็ถามด้วยการพยักหน้า“บาดแผลเจ้าเป็นอย่างไร?”

“ขอบคุณนายน้อยที่เป็นห่วง เม็ดยาที่ท่านมอบให้ข้าแทบเยียวยาแผลข้าจนหมดแล้ว”

หยานจีตอบ

กู่ฉางเกอใจดีกับนางมาก หลังนางบาดเจ็บ เขาก็คอยมอบยาคุณภาพดีให้นางและยังไม่มอบหมายงานอื่นให้นาง

ตอนนี้ที่เขาเรียกนาง สิ่งแรกที่เขาถามนางยังเป็นสภาพบาดแผล หยานจีจึงอดรู้สึกหวั่นไหวไม่ได้ แม้นางจะไม่แสดงอะไรบนหน้า แต่ในใจนางกลับอบอุ่นมาก

“เยี่ยม ข้ามีงานให้เจ้า”

กู่ฉาเงกอพยักหน้า

“นายน้อย เชิญสั่งข้าได้เลย’

หยานจีพูด

“ช่วยข้าหาที่อยู่ของเจ้าหญิงสี่แห่งราชวงศ์เซียนสูงสุดในสวรรค์ไร้ขอบเขตนี้ นอกจากนี้ อย่าให้นางสังเกตเห็นเจ้าด้วย”

กู่ฉางเกอพูด

ไม่มีทางที่เยวี่ยหมิงคงจะไม่มา มันแค่ว่าเขามั่นใจว่านางจะมาเงียบๆ หาที่ซ่อนตัว

หลังเขา’จัดการ’กับนางในตระกูลกู่ นางก็หลบซ่อนตัวจากเขา

กู่ฉางเกอมองเห็นผ่านกลอุบายนาง แต่เขาต้องให้นางปรากฏต่อหน้าเขาตอนนี้ ในเมื่อนางมายังสวรรค์ไร้ขอบเขต งั้นก็ไม่มีเหตุผลที่นางจะไม่มาเจอหน้าสามีนาง

เขาจะไม่รู้ได้ไงว่าเยวี่ยหมิงคงวางแผนอะไร?

“ถ้าเจ้าถูกนางสังเกต งั้นก็แค่เผยตัวและบอกนางว่าข้าจะไปจับนางเองถ้านางไม่มาเจอข้า”

กู่ฉางเกอพูดเสริม

“เข้าใจแล้ว นายน้อย”

ไม่ช้าหยานจีก็จากไป

นางรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหญิงสี่กับกู่ฉางเกอ

เจ้าหญิงสี่แห่งราชวงศ์เซียนสูงสุดคือธิดาสวรรค์ที่มีชื่อเสียงมาก และนางยังเป็นเจ้าหญิงรัชทายาทของราชวงศ์เซียนสูงสุด ถึงแม้นางจะหมั้นแล้ว แต่ก็ยังมีอัจฉริยะนับไม่ถ้วนที่หมายครองนาง

เรื่องสำคัญสุดคือนางได้ยินข่าวลือในตระกูลกู่ว่าเจ้าหญิงสี่เกาะติดกู่ฉางเกอมาก แต่นายน้อยกู่มักปฏิบัติต่อนางด้วยความไม่แยแสและไม่เคยสนใจ

แต่ตอนนี้ เจ้าหญิงสี่ดูเหมือนจะหลบเลี่ยงกู่ฉางเกอ?ทำไม?

หยานจีสับสน จากสิ่งที่นางเคยเห็นในตัวกู่ฉางเกอ เขาไม่ใช่คนที่จะปฏิบัติกับคนอื่นแบบนั้น

หรือเขาจะไม่ชอบเจ้าหญิงสี่?

เห้อ มันเปล่าประโยชน์ที่นางจะคิดเรื่องนี้ เหนือสิ่งอื่นใด มันไม่ใช่สิ่งที่นางจะคาดเดาได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด