ตอนที่แล้วตอนที่ 99 สร้างโลก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 101 ขมขื่น

ตอนที่ 100 แผนของเยวี่ยหมิงคง


หลายวันผ่านในพริบตา

ดวงอาทิตย์ยามบ่ายเหมือนบอลไฟยักษ์เหนือโลก

ทันใดนั้น การระเบิดของแสงศักดิ์สิทธิ์พุ่งขึ้นฟ้าจากส่วนลึกของวังเต๋าอมตะสวรรค์ เกิดเสียงดังกึกก้องไปทั่ว และมันก็ราวกับเมืองโบราณกำลังถล่ม

เสียงสั่นสะเทือนน่ากลัวสั่นคลอนทั่ววัง ส่งทุกคนให้คลุ้มคลั่ง

[หวืด!]

[หวืด!]

สายรุ้งหลากสีพุ่งขึ้นฟ้าจากยอดเขาและเกาะต่างๆ ในเวลาเดียวกัน บางคนยังสังเกตเห็นหมอกเซียนหลากสีพุ่งจากที่ที่แสงระเบิด

แต่ไม่ช้า ผู้อาวุโสวังเต๋าก็เคลื่อนไหวและบดบังสายตาสอดรู้ของพวกเขา

ฉากเช่นนี้ทำให้เกิดความวุ่นวายไปทั่ววังเต๋า มันทำให้ศิษย์หลายคนตกใจ และไม่ช้าพวกเขาก็กระจายข่าว

ในเวลาเดียวกัน คลื่นลูกใหย่ก็พุ่งผ่านโลกภายนอกของวังเต๋าขณะที่ผู้ส่งข้อมูลของราชวงศ์ เผ่า และนิกายอื่นต่างส่งข่าวกลับไป

ด้วยทุกวันที่ผ่านไป สถานการณ์ในเขตชั้นในของอาณาจักรเบื้องบนก็ยิ่งวุ่นวาย หลายคนเดาว่ามีบางอย่างเกิดในส่วนลึกของวังเต๋าอมตะสวรรค์ และนั่นคือสาเหตุของปรากฏการณ์

มีข่าวลือต่างๆทั่วอาณาจักรเบื้องบนที่ว่าส่วนลึกของวังเต๋ามีทวีปโบราณที่รากสามารถสืบย้อลกับไปยุคโบราณของเหล่าเซียน ว่ากันว่าทวีปนั้นถูกย้ายไปส่วนลึกของวังเต๋า

ทวีปนั้นเต็มไปด้วยสมบัติสูงสุดอย่างตำราเซียน ตำราเทพ และอื่นๆที่ดูเหมือนจะมีแค่เหล่าผู้อาวุโสของวังเต๋าถึงรู้

ในวันปกติ วังเต๋าอมตะสวรรค์จะป้องกันพื้นที่นั้นสุดความสามารถ และมันเป็นไปไม่ได้ที่คนนอกจะเข้าใกล้ แต่เมื่อแสงศักดิ์สิทธิ์พุ่งขึ้นฟ้า วังเต๋าก็พบว่าตัวเองไม่มีทางเลือก

ในวันปกติ สมบัติทั้งมหดจะเป็นของวังเต๋า แต่ตอนนี้สมบัติได้เผยตัวต่อโลก วังเต๋าจึงไม่มีทางผูกขาได้

ผู้ยิ่งใหญ่หลายคนของตระกูลและเผ่าต่างๆเคยศึกษาในวังเต๋า พวกเขาจึงไม่นำพวกตัวเองมาพูดต่อหน้าวัง พวกเขาวางแผนส่งศิษย์กับสมาชิกตระกูลตัวเองมาแทน

สวรรค์ไร้ขอบเขตเปลี่ยนเป็นมีชีวิตชีวาพอรถม้า เรือบิน และอื่นๆมาจากทุกสารทิศ

..

[ในเมืองชนบทของสวรรค์ไร้ขอบเขต]

[บูม!]

รถม้าสีทองดำที่ลากโดยฟีนิกส์เก้าตัวซึ่งวิ่งผ่านท้องฟ้าได้ลงจอดในเมืองหนึ่ง และลากความสนใจของหลายคน

พวกเขารู้ว่าคนในรถม้าไม่ใช่คนธรรมดาที่พวกเขาจะกล้าไปยุ่ง

หลายคนเริ่มคาดเดาตัวตน

สวรรค์ไร้ขอบเขตคึกคักมากตลอดหลายวันนี้ พวกเขาเห็นผู้บ่มเพาะกลุ่มใหญ่จากขุมอำนาต่างๆเร่งมาเมืองโบราณเต๋าสวรรค์ พวกเขาจึงอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมรถม้าหรูหราเช่นนี้ถึงลงในสถานที่ชนบทแบบนี้?

ชายชุดดำหน้าตาธรรมดา รูปร่างสูงโปร่งและใบหน้าเจ้าความคิดเงยหน้าและมองด้านนอกห้องของเขาหลังสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวด้านนอก

“ทำไมรถม้าหรูหราเช่นนี้ถึงมาปรากฏในที่แบบนี้?จากอักขระกับลวดลาย มันคงเป็นคนจากราชวงศ์เซียนสูงสุด?”

“คนด้านในต้องมีตัวตนพิเศษถึงได้มีฟีนิกส์ลากจูงถึงเก้าตัว หรือจะเป็นเจ้าชาย เจ้าหญิง?”

ชายสวมชุดดำพึมพำ

ถ้ามองใกล้ๆ พวกเขาจะเห็นจี้สีดำที่ห้อยอยู่ตรงหน้าอกเขา บางครั้ง อักขระลึกลับจะเปล่งแสงรอบจี้

“พูดก็พูด สถานที่นี้ก็ไม่ได้ไกลจากเมืองโบราณเต๋าสวรรค์นัก มันใช้เวลาไม่นานที่จะไปถึงถ้าเร่งรีบ”

“ข้าได้ยินว่าสาวงามอันดับหนึ่งแห่งราชวงศ์เซียนสูงสุด เจ้าหญิงเยวี่ยหมิงคงมีรูปโฉมของจักรพรรดินี!หรือนางจะเป็นคนในรถม้า?”

รอยยิ้มประหลาดปรากฏบนหน้าเขา ในเวลาเดียวกัน เขาก็เผยสีหน้าครุ่นคิด

จากนั้น เสียงก็ดังจากภายในจี้ดำบนหน้าอกเขา

“เจ้าหนู อย่าลืมว่าเรามาที่นี่เพื่ออะไร!มีโอกาสสำหรับเจ้าอยู่ในวังเต๋าอมตะสวรรค์”

“ทำไมเจ้าถึงต้องไปสนใจผู้หญิงที่ไม่เคยเจอด้วย?!เจ้าหญิงราชวงศ์เซียนสูงสุดไม่ใช่คนที่เจ้าจะเข้าถึงได้ตอนนี้”

ชายหนุ่มชุดดำเผยสีหน้าไม่พอใจ“มันจะเป็นปัญหาสักแค่ไหนถ้าข้าจะไปดูหน้าผู้มาใหม่?ใครจะไปรู้ คนด้านในอาจไม่ใช่เจ้าหญิง แล้วทำไมเจ้าหญิงจากราชวงศ์เซียนสูงสุดต้องมายังที่แบบนี้ด้วย?”

พอพูด ชายหนุ่มก็ลุกและเดินตรงไปรถม้าโดยไม่สนใจเสียงภายในจี้

“องค์หญิง เรามาถึงเมืองโบราณหินดำแล้วเจ้าค่ะ”

เสียงของหญิงชราในชุดขาวดังจากด้านนอกรถม้า และเตือนผู้เป็นนายข้างใน

คนในรถม้าไม่ใช่ใครนอกจากเยวี่ยหมิงคงที่ยังนั่งเหม่อ

คำพูดของหญิงชราทำให้นางได้สติ นางหรี่ตาและมองทิวทัศน์ด้านนอก

‘เมืองโบราณหินดำ จากความทรงจำของข้า เย่หลิง ผู้สืบทอดของจักรพรรดิโบราณแห่งการเกิดใหม่ได้สร้างชื่อตัวเองในเมืองโบราณหินดำแป็นครั้งแรก’

‘ชายคนนั้นได้รับชื่อเสียงมหาศาลภายในไม่กี่วัน และแม้กระทั่งเย่หลางเทียน นายน้อยตระกูลเย่ก็ยังแพ้ในมือเขาอย่างย่ำแย่ ถ้านั่นไม่พอ งั้นเย่หลิงยังเอาชนะเขาได้อีกในการต่อสู้ต่อๆมา’

‘เย่หลิงผงาดอย่างรวดเร็วและกลายเป็นดาวที่ส่องแสงในเขตชั้นใน ชื่อเสียงของเขาบดบังแม้แต่สามีของข้าไปสักพัก แถมเขายังมีมิตรกับสหายมากมายรอบตัวเขา!นายน้อยแห่งตระกูลพยัคฆ์ขาว นายน้อยแห่งตระกูลมังกรปีกม่วง และอื่นๆ’

เยวี่ยหมิงคงคิดในใจ

นางมาที่นี่เพื่อ[เครื่องรางเกิดใหม่] ซึ่งอยู่ในการครอบครองของผู้สืบทอดจักรพรรดิโบราณแห่งการเกิดใหม่

เครื่องรางเกิดใหม่มีเต๋าแห่งการเกิดใหม่ ซึ่งมีพลังยิ่งใหญ่ที่สามารถประชัดกับความสามารถของกู่ฉางเกอได้

นางไม่เข้าใจอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ในตอนแรก แต่นางก็พบข้อมูลนี้หลังค้นผ่านบันทึกโบราณนับไม่ถ้วน

ไม่ว่ายังไง นางก็ต้องชิงมันมาให้ได้

แต่นางก็รู้ดีว่าชายที่ชื่อเย่หลิงไม่ใช่คนธรรมดา เย่หลางเทียนถูกยอมรับโดยโลกภายนอกว่าเป็นอัจฉริยะสูงสุดที่ยืนเทียบเคียงกู่ฉางเกอ มันจึงไม่ต้องพูดถึงความเก่งกาจ

แต่ แม้กระทั่งอัจฉริยะสูงสุดและนายน้อยตระกูลเย่ก็ยังโดนเย่หลิงกระทืบ

ในชาติก่อนของนาง เย่หลิงคือหนึ่งในคนหนุ่มที่เจิดจรัสสุดที่โดนกู่ฉางเกอเล่นงาน นางไม่มัน่ใจว่าเขาตายหรืออะไร แต่มันคือความจริงที่เขาหายตัวไปนาน

‘ในชาติก่อน เย่หลิงยังเกือบโดนสามีของข้าฆ่าตายแม้จะมีเครื่องรางเกิดใหม่ในมือ ข้าต้องระมัดระวังแม้จะได้มันมา’

ไม่ช้า สีหน้าของเยวี่ยหมิงคงก็สงบ และดวงตาไม่แยแสก็กวาดมองด้านนอก นางได้กระจาย[ค่ายกลผนึกฟ้าดิน]ไปแล้วและตอนนี้กำลังรอการมาถึงของเย่หลิง

สำหรับว่าทำไมนางถึงมั่นใจว่าเย่หลิงจะปรากฏ?

จากความทรงจำนาง เยวี่ยหมิงคงรู้อยู่แล้วว่าเย่หลิงดูเหมือนจะชื่นชมในตัวนางมากด้วยเหตุผลบางอย่าง หลังกลายเป็นนายน้อยตระกูลเย่ เขาก็ประกาศต่อหน้านางว่าเขาจะชิงตัวนางมาจากกู่ฉางเกอให้ได้

นางหัวเราะเยาะ และเพราะเรื่องนี้ เขาจึงเกือบโดนกู่ฉางเกอฆ่าตายและหายตัวไป

ตอนแรก นางคิดว่ากู่ฉางเกอถูกยั่วโมโหโดยเย่หลิง แต่ตอนนี้ที่นางคิด นางตระหนักว่ามีดอกาสสูงที่กู่ฉางเกอจะฉวยโอกาสโจมตีเขาเพื่อเครื่องรางเกิดใหม่เช่นกัน

กู่ฉางเกอวางแผนไว้มากมาย ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยเครื่องรางเกิดใหม่ไป

ด้วยการพิจารณาเหล่านี้ เยวี่ยหมิงคงจึงมายังเมืองโบราณหินดำ

นางเชื่อว่าเย่หลิงจะต้องแสดงตัวหลังสังเกตเห็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์เซียนสูงสุดบนรถม้าถ้าเขาอยู่ในเมือง

มีผู้หญิงนับไม่ถ้วนรอบตัวเย่หลิงในชาติก่อนของนาง นางจึงเดานิสัยเขาได้

‘ฐานบ่มเพาะของเย่หลิงควรอยู่ที่อาณาจักรราชาขั้นต้น ข้าจะต้องรีบฝังเขาในวันนี้’

เยวี่ยหมิงคงคิดอย่างเย็นชา นางเหมือนจักรพรรดินีที่สามารถชี้เป็นชี้ตายได้

นางไม่สนใจกับแค่เย่หลิง สำหรับนาง เขาไม่ต่างจากมด แน่นอน นางเตรียมการมามากเพื่อให้มั่นใจว่านางจะเหยียบเขาได้

มันใช้เวลาไม่นานก่อนเยวี่ยหมิงคงจะรับรู้ถึงการมาของบางคน ผู้มาใหม่คือคนหนุ่มที่มีฐานบ่มเพาะแข็งแกร่ง มันชัดเจนว่าเขาคือผู้บ่มเพาะกายา

นางหรี่ตาและโบกมือคล้ายหยก

[บูซ!]

แรงสั่นสะเทือนส่งผ่านความว่างเปล่าโดยรอบ ในเวลาเดียวกัน กลิ่นอายน่าตกใจที่ซ่อนในที่มืดก็เผยตัว ปิดผนึกสภาพแวดล้อม

“นี่คือตำหนักที่รถม้าเพิ่งลงจอดใช่ไหม?ทำไมจู่ๆข้าถึงรู้สึกไม่สบายใจ?’

เย่หลิงหยุดที่ด้านหน้าตำหนักด้วยคิ้วที่ขมวด แม้เขาจะชอบสาวงาม แต่เขาก็ไม่ได้โง่ เขาเลี่ยงอันตรายมามากเพราะสัมผัสที่หกได้เตือนเขาล่วงหน้า

ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกไม่สบายใจกับแค่ยืนด้านหน้าตำหนัก

“พี่เต่า ข้าควรเข้าไปดีหรือไม่?”

ใบหน้าของเย่หลิงแสดงความสับสนขณะขอคำแนะนำจากจี้รอบคอเขา

ย้อนกลับไปตอนเขายังเด็ก เขาเคยขึ้นเขาเพื่อค้นหาสมุนไพรวิเศษ มันเป็นการผจยภัยนั้นที่เขาพบว่าตัวเองได้ตกไปในถ้ำใต้ดินที่บังเอิญพบจี้ดำและกลายเป็นผู้สืบทอดจักรพรรดิโบราณแห่งการเกิดใหม่

มีวิญญาณของเต่าโบราณสิงสถิตอยู่ภายในจี้ดำ

เต่าโบราณคือคนที่เขาเรียกว่า’พี่เต่า’ พี่เต่าอ้างว่าเคยเป็นสัตว์ขี่ของจักรพรรดิโบราณแห่งการเกิดใหม่ ผู้กำลังค้นหาผู้สืบทอดให้นายตัวเอง

เย่หลิงไม่เชื่อมันในตอนแรก แต่จากนั้นก็ตระหนักว่ามันดูเหมือนจะพูดความจริง

มันแค่ว่าเต่าชราไม่มีความสามารถอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อเขา มากสุด มันก็ได้แค่สอนเรื่องปกติเกี่ยวกับโลกรอบตัว

มันเป็นเต่าธรรมดาที่ไม่คล้ายสัตว์ขี่ของจักรพรรดิโบราณเลย

เต่าชราอดกลอกตาใส่เขาไม่ได้“มันก็แค่ตำหนัก มีอะไรให้กลัว?ความกล้าของเจ้าไปไหนตอนเจ้าเลือกสาวงามเหล่านั้น?”

เย่หลิงรู้สึกว่ามันไม่ผิด เขาไม่เคยเจอกับอีกฝ่าย ทำไมอีกฝ่ายต้องทำร้ายเขา?

เขาสงสัยเกินไป

ความกล้าของเขาพุ่งทะยานพอคิดได้แบบนี้ เขาได้ยินข่าวลือนับไม่ถ้วนเกี่ยวกับเจ้าหญิงเยวี่ยหมิงคง และโหยหานางทุกวัน ถ้าเขาได้เจอนางวันนี้ งั้นการพบปะระหว่างพวกเขาก็จะไม่ใช่แค่ยบังเอิญ แต่เป็นชะตาลิขิต?

สำหรับเจ้าหญิงที่เป็นคู่หมั้นกับนายน้อยตระกูลกู่ กู่ฉางเกอ?เขาไม่สนใจ เหนือสิ่งอื่นใด แม้กระทั่งเย่หลางเทียนก็ไม่นับเป็นอะไรต่อหน้าเขา แล้วกู่ฉางเกอ ผู้แข็งแกร่งพอๆกับเย่หลางเทียนจะมาสู้เขาได้ไง?

[บูม!]

แต่ทว่า ในวินาทีต่อมาหลังเย่หลิงมาถึงด้านนอกตำหนัก เสียงไม่แยแสก็ดังจากด้านใน

“ฆ่าเขา!”

“ไม่ดีแล้ว!”

สีหน้าเย่หลิงเปลี่ยนไปพอได้ยินเสียง เขาไม่คิดว่าจะมีคนอยากฆ่าเขาจริงๆ

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด