Ep.99 - พิชิตสุนัขป่าโลกวิญญาณ
2/3
Ep.99 - พิชิตสุนัขป่าโลกวิญญาณ
ถึงซักที!
ฮังอวี่กำเบรก หมาหวังเอ๋อกระโดดลงจากจักรยานอย่างว่องไว
“ฮ่ง! เจ้านาย เห็นเมื่อกี้ไหม?” หวังเอ๋อยืดตัว ยกอุ้งเท้าปัดๆฝุ่นตรงอก ทำหน้าตาหล่อเหลา “เปิ่นหวังทำสาวๆกรี๊ดกร๊าดตลอดทางเลย ดูเหมือนว่าต่อไปถึงเจ้านายจะตกอับ แต่เปิ่นหวังก็ยังช่วยหาเงินโดยใช้หน้าตาของตัวเองได้”
“เหอ เหอ ถ้าฉันตกอับ นายไม่ต้องใช้หน้าตาตัวเองหรอก แค่ควักเครื่องในตัวเองออกแล้วกระโดดลงหม้อก็พอ น่าจะประทังชีวิตได้อีกหลายมื้อ”
“ฮ่ง! เจ้านายนี่มีอารมณ์ขันนะ ชอบยิงมุกตลอดเลย” ฮัสกี้แสดงสีหน้าขุ่นเคือง แต่ในตอนนั้นเอง มันสูดหายใจเข้าอย่างแรง “เปิ่นหวังได้กลิ่นพวกเดียวกัน!”
ที่นี่คือสวนสาธารณะที่ห่างไกล สุดสายตามองไม่เห็นแม้แต่เงาหัวมนุษย์
ทำไมถึงไม่มีมนุษย์มาที่นี่เลยน่ะหรือ? เหตุผลง่ายมาก!
ลองเงี่ยหูฟังดีๆสิ ได้ยินเสียงเห่าหอนดังมาจากรอบทิศทางไหม?
ไม่นานเกินรอ สิ่งมีชีวิตดุร้ายสิบกว่าตัวกระโดดออกมาจากพงหญ้าหนาทึบ เป็นสัตว์สี่หน้าตาเหมือนบิทพูลเทอร์เรีย
แน่นอน ที่ปรากฏเบื้องหน้านี้มิใช่หมาพิทบูลธรรมดาๆ แต่พวกมันคือมอนสเตอร์จากโลกวิญญาณ!
ขนสีแดงเข้ม เขี้ยวแหลมคม หน้าตาดุร้าย น้ำลายย้อยจากมุมปาก ให้ความรู้สึกว่าพร้อมกระโจนเข้าใส่ตลอดเวลา
พวกมันคือสุนัขป่าโลกวิญญาณ!
ส่วนใหญ่เป็นมอนสเตอร์เลเวล 1 บางตัวแข็งแกร่งหน่อยก็เป็นเลเวล 2
แม้พลังรบของพวกมันจะไม่แก่กล้านัก แต่ด้วยจำนวนที่เยอะ อีกทั้งยังชอบโจมตีเป็นกลุ่ม ดังนั้นที่นี่จึงค่อนข้างอันตราย
สถานที่แห่งนี้ถูกระบุให้เป็นพื้นที่โซนสีแดงโดยสมาคมโลกวิญญาณ
ยังไม่ทันขาดคำ!
สุนัขป่าหลายสิบตัวแยกเขี้ยวกระโจนเข้ามา
“หวังเอ๋อ ลงมือเลย เร็วเข้า!”
ฮัสกี้แหงนคอหอนทันที ปลดปล่อยสกิล ‘คลื่นราชาหมาป่า’
สุนัขป่าโลกวิญญาณเหล่านี้ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าหมาป่าในโลกจริง จะมีบางตัวที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ อาจแข็งแกร่งกว่าหมาป่าในโลกจริง ทั้งยังดุร้าย โหดเหี้ยม เป็นมอนสเตอร์ที่รับมือได้ยากมาก
อย่างไรก็ตาม ภายใต้เสียงหอนของฮัสกี้ สุนัขป่านับสิบตัวที่กำลังจะจู่โจม จู่ๆราวกับเกิดความรู้สึกกลัวอะไรบางอย่าง ความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะโจมตีลดลงในทันใด พวกมันทำได้แค่ปิดล้อมทั้งสองอยู่รอบนอก
ถึงจุดนี้ เสียงหอนลากยาวของฮัสกี้สิ้นสุดลง
“ฮ่ง! เจ้านาย ไม่ได้การแล้ว! เปิ่นหวังควบคุมล้มเหลว!” หวังเอ๋อก้มหน้าลง รู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย
เพื่อนร่วมชาติจากโลกวิญญาณเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่ยอมฟังคำสั่งหวังเอ๋อ ยังไงก็ตาม พวกมันก้มหัว ไม่กล้าโจมตีเช่นกัน
ควบคุมล้มเหลวงั้นหรือ?
สุนัขป่าค่อนข้างสู้ลำบาก
แล้วอีกอย่างพวกมันก็ไม่ค่อยมีวัตถุดิบดีๆ เหตุผลที่ฮังอวี่มาที่นี่ จุดประสงค์หลักก็เพื่อทดสอบหวังเอ๋อว่าสามารถควบคุมหรือทำให้สุนัขป่าโลกวิญญาณพวกนี้เชื่องได้หรือไม่ และหากทำได้ มันจะส่งผลดีอย่างมาก
แม้เจ้าพวกนี้จะเป็นแค่มอนสเตอร์ธรรมดาในเลเวล 1-2 ทั้งยังมีพลังรบน้อย แต่ตราบใดที่มีจำนวนมากพอ แล้วอยู่รวมเป็นฝูงซักหลายร้อยตัว ต่อให้เป็นมนุษย์เลเวล 4 อย่างฮังอวี่ ก็เกรงว่าคงยากที่จะหลบหนี
แต่ตอนนี้อย่าพูดถึงเรื่องทำให้เชื่องเลย หวังเอ๋อไม่สามารถแม้แต่จะควบคุม ทำได้แค่สะกดข่มพวกมันเอาไว้
“แปลกจริง ทำไมถึงเป็นแบบนี้? ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย!”
หวังเอ๋อเป็นมอนสเตอร์ชั้นยอด ขณะที่สุนัขป่าส่วนใหญ่เป็นมอนสเตอร์ธรรมดาเลเวล 1 นั่นเท่ากับว่าระดับชั้นยอดของหวังเอ๋อสูงกว่าสุนัขป่าโลกวิญญาณหนึ่งขั้น
หวังเอ๋อสามารถทำให้พวกสุนัขเร่ร่อนในตรอกมังกรฟ้าเชื่อฟังได้อย่างง่ายดาย ฉะนั้นมันควรมีผลกับมอนสเตอร์สุนัขจากโลกวิญญาณในระดับต่ำเช่นกัน
ฮังอวี่กล่าว “ลองอีกครั้ง”
หวังเอ๋อแม้ยังแคลงใจ แต่เมื่อเจ้านายสั่ง มันก็ไม่กล้าขัดขืน
หวังเอ๋อสวมบทบาทเป็นราชาหมาป่าอย่างแข็งขัน เห็นแค่เพียงฮัสกี้แหงนคอกู่ก้องฟ้าอยู่ครึ่งค่อนวัน แต่สุนัขป่าโลกวิญญาณกลับไม่มีแสดงอาการว่าจะเชื่อฟังเลย
อย่างไรก็ตามความคิดที่จะโจมตีของพวกมันก็ถูกข่มไว้เช่นกัน ไม่ได้ตั้งท่าเตรียมพร้อมเหมือนดั่งตอนแรก
สถานการณ์เบื้องหน้าราวกับตกอยู่ในสภาวะชะงักงัน
“ฮ่ง! เจ้านาย ไม่ได้ผล เจ้านอกคอกพวกนี้ไม่เชื่อฟังเลย” ฮัสกี้รู้สึกได้ว่าเสียงของมันแหบแห้ง “เปิ่นหวังคิดว่านี่อาจเกิดจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกันระหว่างสุนัขในเมืองอย่างเปิ่นหวัง กับสุนัขภูธรแบบพวกมัน ไม่อาจฉี่ร่วมเสาเดียวกันได้”
นั่นไม่น่าใช่ ... หรือว่าพลังรบของหวังเอ๋อจะยังอ่อนแอเกินไป?
ฮังอวี่ไม่มีเวลาได้คิดมากไปกว่านี้ จู่ๆเขาได้ยินเสียงสุนัขป่าอีกตัวคำรามขึ้น ดังลอดออกมาจากพุ่มไม้
สุนัขป่าตัวอื่นๆเมื่อได้ยิน จู่ๆก็เริ่มตื่นตัวขึ้นทันที ราวกับได้รับคำสั่ง ความปรารถนาที่จะโจมตีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
“เจ้านาย แบบนี้ไม่ดีแล้ว ลูกพี่ของหมาขนแดงพวกนี้กำลังจะมา” ฮัสกี้ได้กลิ่นอย่างแรง รัศมีราชาหมาป่าของมันหมองลงทันที ตะโกนด้วยความตื่นตระหนกว่า “ที่พวกเราทำเมื่อกี้เหมือนกับเป็นการไปแย่งลูกน้องของมัน ลูกพี่มันเลยโกรธ ถ้าวิ่งตอนนี้พวกเรายังพอมีโอกาสหนีทัน!”
ฮังอวี่ไม่สนใจคำเตือนของหวังเอ๋อ เขาหรี่ตามองไปเบื้องหน้า
และพบว่ามีสุนัขป่าขนสีดำสนิทกำลังก้าวออกมา ขนของมันไม่ใช่แค่แตกต่างจากสุนัขป่าทั่วไปเท่านั้น แต่ยังทรงพลังยิ่งกว่าอีกด้วย มีขนาดใหญ่กว่าตัวอื่นๆ 50%
จ่าฝูงสุนัขป่า?
เห็นได้ชัดว่ามันคือมอนสเตอร์ชั้นยอด!
อย่างไรก็ตาม ฮังอวี่ไม่ได้รู้สึกกังวลมากนัก เพราะจ่าฝูงสุนัขป่าไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากมาย มันเป็นแค่เลเวล 2 ชั้นยอดขั้นบรอนซ์เท่านั้น
เอาจริงๆแม้แต่จ่าฝูงสุนัขป่าก็ยังได้รับเอฟเฟกต์จากการสะกดข่มของคลื่นราชาหมาป่า ความปรารถนาที่จะโจมตีถูกระงับลงระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม จ่าฝูงสุนัขป่าตัวนี้ไม่เหมือนกับมอนสเตอร์ทั่วไป มันไม่ก้มหัวเหมือนสุนัขป่าตัวอื่นๆ
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ทั้งมันและหวังเอ๋อต่างเป็นมอนสเตอร์ระดับชั้นยอดทั้งคู่ อันที่จริงเลเวลของหวังเอ๋อต่ำกว่าด้วยซ้ำ
หวังเอ๋อคงสะกดมันได้อีกไม่นาน การโจมตีกำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้!
ฮังอวี่ใช้สมอง ขบคิดในทุกๆความเป็นไปได้
เพื่อยืนยันการคาดเดาของเขา เจ้าตัวเปิดมิติเก็บของ ดึงหอกก้างปลาอันทรงพลังออกมา และขว้างใส่จ่าฝูงสุนัขป่าโดยไม่พูดอะไรซักคำ
เนื่องจากระยะทางกระชั้นชิดเกินไป ต่อให้จ่าฝูงสุนัขป่าปราดเปรียวเพียงใดก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีครั้งนี้ได้
ด้วยพละกำลังของนักรบเลเวล 4 บวกกับหอกก้างปลาที่มีพลังโจมตีรุนแรง ขาขวาของจ่าฝูงถูกเจาะทะลุโดยตรง
ตัวมันไม่เพียงได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก แต่ยังถูกตอกตรึงลงกับพื้น
จ่าฝูงสุนัขป่าหอนโหยหวนอย่างโกรธจัด
สุนัขป่าตัวอื่นๆกลายเป็นคลุ้มคลั่ง ตัวแล้วตัวเล่ากระโจนเข้ากัดหวังเอ๋อ
“เอ๊ะ!? นั่นพวกแกจะทำอะไร เปิ่นหวังเป็นราชาหมาป่านะ!” หวังเอ๋อตกใจมากกับเหตุการณ์นี้ “เข้ามารุมแบบนี้หมายความว่ายังไง? ตามกฏแล้วต้องตัวต่อตัวสิ ... เอ๋ง!”
หวังเอ๋อยังพูดไม่ทันตบ มันก็ถูกสุนัขป่าสองตัวกดลงกับพื้น
ทันใดนั้นหมาสามกลิ้งเป็นลูกบอลบนพื้น ชุลมุนวุ่นวายขึ้นมาทันที
ฮังอวี่หยิบโล่กลมไอร่อนวูดออกมาแล้วสวมบนมือซ้ายเขา มือขวาถือดาบสั้นแห่งป่า ใช้โล่ตบสมุนสุนัขป่าที่ขวางทาง ตรงดิ่งเข้าหาจ่าฝูงสุนัขป่า
ข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดของจ่าฝูงสุนัขป่าคือความเร็ว เมื่อมันวิ่งฮังอวี่จะไม่สามารถไล่ตามทัน
เนื่องจากรู้ถึงความสามารถของสุนัขป่าเป็นอย่างดี ฮังอวี่จึงลอบโจมตีที่ขาของมันเป็นอันดับแรก ตอนนี้จ่าฝูงสุนัขป่าจึงไม่มีทางหนีรอด
“ปะทะเดือด!”
ฮังอวี่เปิดใช้งานสกิลใหม่ของเขา ในชั่วพริบตาที่เหวี่ยงดาบออกไป คลื่นความผันผวนของพลังงานมารวมตัวกัน ห่อหุ้มใบดาบจนเกิดชั้นแสงระยิบระยับ
หนึ่งดาบตัดกวาดออก กรีดอากาศส่งเสียงหวีดหวิว เพิ่มพลังขึ้นอย่างน้อยสองเท่า!
คอของจ่าฝูงสุนัขป่าเกือบขาด แม้จะไม่สามารถสังหารมันได้ในทีเดียว ทว่าด้วยพละกำลังมหาศาล กระดูกสันหลังส่วนคอของจ่าฝูงสุนัขป่าหัก ส่งผลให้ตัวมันที่กำลังโกรธจัดล้มลงกับพื้น สูญเสียความสามารถในการต้านทานชั่วคราว
อีกสองดาบตวัดลง ปลิดชีพจ่าฝูงสุนัขป่า
อย่างน้อยนี่ก็เป็นมอนสเตอร์ชั้นยอด แต่มันกลับถูกฮังอวี่ฆ่าตายในสองสามกระบวนท่า!
หากคนอื่นมาเห็นภาพนี้ มั่นใจได้เลยว่าพวกเขาต้องตกตะลึงอย่างแน่นอน
ฮังอวี่ไม่ได้รับบาดเจ็บหนักใดๆเลย มีแค่แผลเล็กๆตรงเข่าที่ถูกสุนัขป่ากัดเท่านั้น แต่ด้วยร่างกายในเลเวล 4 หมาป่าไม่สามารถทำร้ายเขาลึกถึงกระดูก ดังนั้นเสียพลังชีวิตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
สุนัขป่าชั้นยอดถูกฆ่าตาย สมุนสุนัขป่าตัวอื่นๆเกิดอาการกระสับกระส่าย
ฮังอวี่รีบวิ่งไปอีกทางหนึ่ง กุดหัวสุนัขเลเวล 2 ที่แข็งแกร่งอีกหลายตัว
จากนั้นตะโกนบอกฮัสกี้ “เจ้าหมา! ใช้สกิลของนายอีกรอบ ลองอีกครั้งตอนนี้เลย!”
หวังเอ๋อได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง มันลุกขึ้น แหงนหน้าขึ้นฟ้าในสภาพน่าอนาถ
สุนัขป่าที่เหลืออีก 8 ตัวสูญเสียความปรารถนาที่จะโจมตี ทั้งหมดหมอบลงกับพื้น สั่นเทาด้วยความกลัว แสดงท่าทียอมสวามิภักดิ์
“ฮ่ง! ทำไมจู่ๆเจ้าภูธรพวกนี้ถึงพลิกลิ้น?” หวังเอ๋องงมาก ก่อนตะโกนออกมาอย่างมีความสุข “เจ้านาย! เปิ่นหวังสามารถควบคุมพวกมันได้แล้ว!”