689 - ค้นหาเส้นทางที่ถูกต้อง
689 - ค้นหาเส้นทางที่ถูกต้อง
“เจ้ารู้ไหมว่าสิ่งมีชีวิตใดถูกผนึกไว้ที่นี่” เย่ฟ่านถาม
“ข้าไม่รู้ สิ่งที่ปรากฏตัวขึ้นเมื่อสักครู่นี้เป็นเพียงบริวารของสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวซึ่งถูกผนึกอยู่ข้างใน เหตุการณ์ครั้งนั้นมันน่ากลัวมากและข้าไม่มีโอกาสได้ชมการต่อสู้ของพวกเขา”
จักรพรรดิดำกล่าวว่า ตามปกติแล้วจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่จักรพรรดิปราศจากจุดเริ่มต้น(อู่เป่ย)จะเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงไม่กี่ครั้ง ไม่ว่าศัตรูจะแข็งแกร่งเพียงใดก็ไม่เคยต่อสู้กับเขาได้ถึงสิบกระบวนท่า
“นั่นคือจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อู๋เป่ย หนึ่งในจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์”
เย่ฟ่านตกใจมาก แม้แต่ชายชราผู้บ้าคลั่งที่มีดวงตาว่างเปล่าก็ยังรู้สึกสนใจในคำพูดนี้
"จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อู๋เป่ยเดิมทีต้องการจะฆ่ามัน แต่ภายหลังเขารู้สึกว่าเจ้าสิ่งนี้อาจจะสามารถใช้ประโยชน์ได้ในอนาคต ดังนั้นเขาจึงผนึกมันไว้ที่นี่ และคนภายนอกก็ไม่รู้ว่ามันคือตัวอะไรกันแน่”
"เลิกคิดเถอะ แม้แต่บริวารของมันยังเป็นถึงสิ่งมีชีวิตอมตะ เจ้าปีศาจตัวนั้นก็คงอยู่ในระดับเดียวกันกับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน!” หลี่เหอซุยใบหน้าซีดขาวเต็มไปด้วยความกลัว
แม้ว่าจะสัมผัสได้ถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็เข้ามาที่นี่แล้ว หากจะออกไปมือเปล่าคงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากเกินไป
ดังนั้นพวกเขาจึงตกลงกันว่าจะต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้นและเดินทางเข้าสู่ภูเขาสีดำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดซึ่งเป็นที่ตั้งของหน้าผาศักดิ์สิทธิ์
เมื่อมายืนอยู่ที่ด้านหน้าของหน้าผาศักดิ์สิทธิ์ในระยะไกล โลหิตสีดำอาบอยู่บนหน้าผาทำให้ร่างกายของทุกคนเย็นเยียบราวกับตกลงไปในบ่อน้ำแข็ง!
“บัดซบ นี่... เป็นไปได้อย่างไร เหตุการณ์ครั้งนั้นผ่านมากกว่าหนึ่งแสนปีแล้ว ทำไมเลือดของเขายังคงมีพลังมากมายถึงขนาดนี้” แม้แต่สุนัขสีดำตัวใหญ่ก็ยังสูญเสียความสงบ
"ก็เพราะคนคนนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะไปแล้ว"
นี่คือคำพูดของชายชราผู้บ้าคลั่ง หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อสำรวจหน้าผาศักดิ์สิทธิ์ที่ว่ากันว่ามีเก้าญาณวิเศษลึกลับถูกแกะสลักไว้
“ผู้อาวุโสคนนี้ไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย เขายังสามารถลอยขึ้นไปบนฟ้าได้ ดินแดนอันน่ากลัวแห่งนี้ดูเหมือนจะไม่สร้างผลกระทบอะไรให้กับเขา” หลี่เหอซุยรู้สึกอิจฉาอย่างยิ่ง
เย่ฟ่านและคนอื่นๆไม่มีความสามารถเช่นนั้น พวกเขาทําได้เพียงเดินเท้าผ่านป่าและภูเขาอันทุรกันดารเพื่อเข้าใกล้หน้าผาศักดิ์สิทธิ์
ในบางครั้งเส้นทางที่พวกเขาก้าวเดินก็จะมีค่ายกลสังหารถูกฝังอยู่เป็นระยะ ซึ่งมันทำให้เสียเวลาในการเดินอ้อมเป็นอย่างมาก
“ข้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของสิ่งมีชีวิตอมตะเมื่อสักครู่!” จักรพรรดิดำอุทานด้วยความตกใจและไม่กล้าเดินหน้าต่อ
เมื่อปราศจากการคุ้มครองของชายชราผู้บ้าคลั่ง มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่พวกเขาจะเดินเข้าหาสิ่งมีชีวิตอมตะตัวนั้น ดังนั้นทุกคนจึงได้แต่รออยู่เงียบๆบนยอดเขาที่อยู่ห่างจากหน้าผาศักดิ์สิทธิ์ไม่ถึงสิบลี้
………..
“เขากลับมาแล้ว...”
หลังจากผ่านไปกว่าครึ่งชั่วยามหลี่เหอซุยก็ชี้ไปยังท้องฟ้า ชายชราผู้บ้าคลั่งกลับมาแล้วในมือของเขามีของบางอย่างที่เปล่งประกายสดใส เมื่อมาถึงเขาก็โยนมันลงพื้นทำให้ทุกคนรีบวิ่งเข้าไปดูด้วยความตื่นเต้น
“มันเป็นอะไร!” สุนัขสีดำตัวใหญ่กรีดร้อง ร่างกายของมันอ่อนแอลง และมันก็ถอยกลับอย่างรวดเร็ว
เย่ฟ่านและคนอื่นๆก็รู้สึกเหมือนกัน แสงที่ส่องประกายออกมาราวกับคมมีด มันทำให้จิตใจของพวกเขาสะท้านหวั่นไหวและต้องถอยหลังกลับอย่างช่วยไม่ได้
นี่คือของที่มีลักษณะคล้ายเกล็ดสีเงินซึ่งใหญ่พอๆ กับฝ่ามือแต่มีความสดใสราวกับผลึก เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์สีเงินที่อยู่ภายในสั่นไหวปลดปล่อยความผันผวนอันน่ากลัวออกมาอย่างต่อเนื่อง
“วัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสร้างขึ้นจากสิ่งมีชีวิตระดับจักรพรรดิ!”
แม้ว่าจักรพรรดิดำจะตัวสั่นไปทั้งตัว แต่น้ำลายของมันก็ยังไหลออกมาและมันก็รีบพุ่งไปข้างหน้าโดยพยายามกดอุ้งเท้าใหญ่ลงไปเพื่อครอบครองวัตถุสิ่งนี้และตะโกนขึ้นว่า
“จักรพรรดิคนนี้จะขอรับไปเอง!”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นสมบัติสวรรค์ที่หายาก ราคาของมันต้องมีมากกว่าต้นกำเนิดบริสุทธิ์หนึ่งล้านจินอย่างแน่นอน มันจะต้องเป็นวัตถุระดับเดียวกันกับเขาสีทองที่ถูกผนึกไว้ในต้นกำเนิดสวรรค์ที่ถูกมอบให้กับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ตระกูลเฟิง
ชายชราผู้บ้าคลั่งขมวดคิ้วและพึมพำด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ
“ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความโลภจริงๆ!”
เย่ฟ่านก็วิ่งกลับเข้าไปอีกครั้งก่อนจะแย่งชิงวัตถุชิ้นนั้นเพื่อนำมาตรวจสอบอย่างละเอียด นี่คือต้นกำเนิดสวรรค์อย่างแน่นอน แต่มันกลับมีลักษณะที่แปลกประหลาดอยู่บ้าง
“ต้นกำเนิดสวรรค์อย่างนั้นหรือ!” หลี่เหอซุยอุทาน
ต้นกำเนิดชิ้นนี้เหมือนกับชิ้นส่วนของต้นกำเนิดสวรรค์ที่ตัดออกจากแท่นบูชาโลหิตพร้อมกับหญิงสาวที่ล่วงลับไปแล้ว แสงสว่างที่ถูกปลดปล่อยออกมามีลักษณะคล้ายกันอย่างยิ่ง
“มีแม้กระทั่งต้นกำเนิดสวรรค์ในภูเขาสีดำและสมบัติที่อยู่ข้างในอาจจะเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ นี่ไม่ได้หมายความว่าหน้าผาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เต็มไปด้วยสมบัติอย่างนั้นหรือ?” แม้แต่เย่ฟ่านเองก็ประหลาดใจ
“แน่นอน พวกเราต้องขนย้ายไปให้หมด!” จักรพรรดิดำอุทานด้วยความตื่นเต้นและกล่าวว่า
“ถ้าพวกเราได้รับต้นกำเนิดสวรรค์มามากมายพวกเราก็เอามาทำเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์และลงไปแช่พร้อมกับยาเซียนที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้ เมื่อถึงเวลานั้นความฝันที่จะเป็นผู้สูงสุดของเจ้าก็อยู่ไม่ไกลเกินไปแล้ว”
“ฮ่าๆๆ”
เสียงหัวเราะที่น่ากลัวดังขึ้นอีกครั้ง และสิ่งมีชีวิตร่างกายดำสนิทตัวนั้นก็ปรากฏขึ้นไม่ไกลจากพวกเขา!
แต่ก่อนที่มันจะมีโอกาสได้ทำอะไรชายชราผู้บ้าคลั่งปลดปล่อยลำแสงสีทองออกจากนิ้วเพื่อโจมตีมันในทันที
“ปัง!”
ก้อนหินที่อยู่รอบๆแหลกสลาย ลำแสงนั้นเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ และแม้แต่สายตาของเย่ฟ่านก็ไม่สามารถมองตามทัน
ความเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตตัวนี้รวดเร็วเป็นอย่างมาก มันหลบหลีกอันตรายอย่างง่ายใดก่อนจะเยาะเย้ยพวกเขาด้วยเสียงหัวเราะและหายสาบสูญไปอีกครั้ง
“นี่มันตัวอะไรกัน”
“เสียงหัวเราะของมันบาดหูยิ่งกว่าสิ่งมีชีวิตที่ออกมาจากนรก แต่ช่างเถอะในเมื่อมีผู้อาวุโสอยู่ที่นี่ก็เห็นได้ชัดว่ามันไม่กล้าที่จะโจมตีพวกเรา”
พวกเขาออกจากภูเขาและมุ่งหน้าเข้าใกล้หน้าผาศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง ในครั้งนี้จักรพรรดิดำยังคงเป็นคนที่ถูกผลักให้เดินไปข้างหน้าเป็นคนแรก
สายฟ้ายังคงผ่าลงมาอย่างต่อเนื่อง และทุกครั้งที่สายฟ้าตกลงมามันก็ดูเหมือนจะมีความแข็งแกร่งมากยิ่งกว่าครั้งก่อน ซึ่งจักรพรรดิดำก็แทบจะไม่สามารถประคองร่างกายให้ยืนอยู่ได้อีกต่อไปแล้ว
แม้ว่าเย่ฟ่านจะนำน้ำพุศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากออกมาฟื้นฟูร่างกายของจักรพรรดิดำ แต่ในสายฟ้าชุดหลังๆมันก็แทบจะไม่สามารถรักษาบาดแผลให้หายขาดได้
“ถ้ามันเป็นอย่างนี้ต่อไป จักรพรรดิคนนี้จะต้องตายแน่ๆ!” จักรพรรดิดำไม่ยอมก้าวไปข้างหน้าอีกแล้ว
“นี่เป็นเพียงรัศมีรอบนอกเท่านั้น ไม่รู้ว่าด้านในจะยังมีความอันตรายมากแค่ไหน…”
เย่ฟ่านรู้สึกลำบากใจอย่างยิ่ง หากเข้าไปข้างในบางทีพวกเขาอาจไม่สามารถรอดชีวิตได้ แต่หากเขาไม่ได้รับทักษะศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ข้างในเขาจะเอาอะไรมาต่อกรกับเทพนักฆ่าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสอง?
“ความจริงแล้วความรู้ในเรื่องทักษะค่ายกลของเจ้ามันไม่ดีอย่างที่เจ้าโม้ ไม่อย่างนั้นเจ้าคงไม่ได้รับบาดเจ็บถึงขนาดนี้” หลี่เหอซุยเยาะเย้ย
“บัดซบถ้าเจ้าเก่งเจ้าก็ลองดูสิ นี่คือค่ายกลของจักรพรรดิโบราณ ต่อให้เข้าใจระบบโครงสร้างของมันเจ้าก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการถูกฟ้าผ่าได้”
“แสดงรูปแบบที่เจ้ารู้ให้ผู้อาวุโสดูสิ” เย่ฟ่านเตือน
จักรพรรดิดำมีความคิดแบบนั้นอยู่แล้ว และมันเห็นด้วยทันที มันเอาม้วนคัมภีร์โบราณกางลงไปที่ด้านหน้าของชายชราผู้บ้าคลั่งพร้อมกับอธิบายอย่างรวดเร็ว
“หมายความว่าเจ้าเข้าใจเพียงหนึ่งในสิบ ไม่แปลกใจที่เจ้าจะถูกสายฟ้าฟาด” หลี่เหอซุยกลอกตาหลังจากฟังคำอธิบายแล้ว
“เจ้าคิดว่าความรู้ของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เป็นกะหล่ำปลีหรือ? นี่คือค่ายกลสังหารโบราณ การทำความเข้าใจเพียงแค่หนึ่งในสิบก็สามารถทำให้เจ้าท่องไปทั่วโลกได้แล้ว” จักรพรรดิดำกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“ในเมื่อมันไม่สมบูรณ์พวกเราจะเข้าไปได้อย่างไร” เย่ฟ่านกล่าว
“ในเมื่อพวกเราไม่สามารถเข้าไปในทิศทางนี้พวกเราก็แค่ค้นหาเส้นทางที่ถูกต้อง” จักรพรรดิดำพูดด้วยความมั่นใจอย่างยิ่ง
หลังจากจ้องมองอยู่นานดวงตาที่ว่างเปล่าของชายชราก็เต็มไปด้วยความสดใส ราวกับว่าเขาเข้าใจมันแล้ว แต่ในขณะเดียวกันเขาก่อนนั่งสมาธิลงกับพื้นพร้อมกับใช้ความคิดเพียงลำพัง
เย่ฟ่านและคนอื่นๆ ไม่กล้ารบกวนและรออย่างเงียบๆ