595 - วิชาโบราณของจูเหยียน
1905 - วิชาโบราณของจูเหยียน
“มีใครอยากไปยังสามพันแคว้นด้วยกันไหม? ไปดูรอบๆอาณาจักรแห่งความว่างเปล่า ไปดูฉากที่น่าสังเวชของชนชั้นสูงที่มาจากอาณาจักรเซียนถูกทุบตีจนฟันร่วงหมดทั้งปาก”
ในเก้าสวรรค์เบื้องบนเฉาอวี่เซิ่งตะโกนออกมาเรียกร้องให้เพื่อนๆเข้าร่วมในปฏิบัติการสามพันแคว้นในตอนนี้คล้ายกับว่าเปลวไฟขนาดใหญ่กำลังลุกโชนอยู่ในหัวใจของเขา
เมื่อเขาได้ยินข่าวจากอาณาจักรแห่งความว่างเปล่าเขาก็ตื่นเต้นมาก มดเขาสวรรค์ตัวน้อยกลับไม่ได้อ้อมค้อมอะไรเลยมันตะโกนออกมาว่าสือฮ่าวคือคนที่จัดการอี้ไห่ ระดับบ่มเพาะของเขาไม่ได้สูญหายไปตามข่าวลือ
“ ฮ่าๆข้ารู้สึกดีจริงๆ! อี้ไห่คิดว่าตัวเองเป็นใคร เขาท้าทายทุกคนหยิ่งผยองและเจ้ากี้เจ้าการข้าอยากจะจัดการเขามาระยะหนึ่งแล้ว
ในที่สุดน้องชายของข้าก็ทุบตีเขาอย่างอนาถ เฮ้ข้าได้ยินมาว่าปากของเขาถูกตีจนฟันหลุดออกไปหมดแม้แต่กระดูกของเขาก็หลุดปลิวออกมาพวกเราสามารถนำมันมาปรุงเป็นโจ๊กได้”
ต้องบอกว่ามดเขาสวรรค์ตัวน้อยนั้นดุร้ายเป็นอย่างมาก แม้ว่าคนอื่นๆจะเพียงแค่สงสัยเท่านั้น แต่มันก็มั่นใจแล้วว่าสือฮ่าวเป็นคนทำเช่นนี้
“นั่นคือรูปแบบของเขาไม่มีผิด!” มดเขาสวรรค์ตบหน้าอกของตัวเองเพื่อการันตี
กลุ่มคนทั้งหมดพูดไม่ออก ทำไมพวกเขาถึงรู้สึกเหมือนว่ามดตัวนี้กำลังภาคภูมิใจอย่างสุดขีดคล้ายกับว่ามันเป็นคนลงมือเอง
“องค์หญิงเหยาเยว่ข้าจะช่วยเจ้าตามหาสามีเองไปกันเถอะ อย่าเข้าร่วมการต่อสู้ไร้สาระแบบนี้อีกเลยรีบมุ่งหน้าไปยังสามพันแคว้นโดยเร็ว” นี่เป็นข้อความที่เฉาอวี่เซิ่งส่งถึงองค์หญิงแห่งราชสำนักอมตะ
“เยว่ฉานชิงยี่เจ้าสองคนกลายเป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆหรือ? ถึงเวลาออกจากความเงียบสงบไปพบเพื่อนเก่าในอาณาจักรแห่งความว่างเปล่ากันเถอะ” ต้องบอกว่าเฉาอวี่เซิ่งรู้จักใช้คำพูดเพื่อกระตุ้นคนจริงๆ
“ดวงตาคู่น้องชายของเจ้าฟื้นมาแล้วเจ้าจะไปกับพวกเราหรือเจ้าจะต่อสู้อยู่ที่นี่”
“ราชันย์สิบสมัยน้องชายของข้าได้จับอี้ไห่ไว้แล้วเจ้ามีปัญญาจะเอาชนะผู้ที่มาจากอาณาจักรเซียนได้เหมือนเขาหรือเปล่า?”
“จินซาน หวังซี หวังสือ ถ้าพวกเจ้ามีความกล้าก็ตามลงมาในอาณาจักรแห่งความว่างเปล่า!”
ดินแดนต่างๆล้วนมีชีวิตชีวาบุคคลที่มีชื่อเสียงของเก้าสวรรค์ล้วนถูกเชิญมาที่อาณาจักรแห่งความว่างเปล่าเพื่อดูว่าคนชั่วร้ายคนนั้นคือใคร
“ข้าสามารถบอกพวกเจ้าได้อย่างมั่นใจมากว่าฮวงนั้นพิการไปแล้ว หากเจ้าต้องการพบเขาในอาณาจักรแห่งความว่างเปล่าก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!”
นี่คือคำกล่าวของผู้สูงสุดตำหนักเซียน บรรพบุรุษโบราณของพวกเขายืนยันว่าสือฮ่าวได้กลายเป็นคนพิการไปแล้วไม่มีทางกลับเข้าสู่อาณาจักรแห่งความว่างเปล่าได้
ผู้อมตะของตำหนักเซียนยืนยันอย่างหนักแน่นถึงสองครั้งสองครา ว่าผู้ที่ถูกคำสาปสังหารอมตะเข้าไปจะต้องกลายเป็นคนพิการต่อให้เป็นผู้อมตะก็ไม่เว้น
ดินแดนต่างๆมีผู้คนมากมายที่กำลังถกกันเรื่องนี้ หลายคนขยับตัวแล้ว ในตอนนี้มีผู้คนมากมายกำลังรวมตัวอยู่ด้านหน้าประตูอาณาจักรวิญญาณเพื่อที่จะเข้าไปข้างในพร้อมกัน
คุณชั่วร้ายผู้นั้นน่ากลัวอย่างยิ่งไม่มีใครกล้าลงไปคนเดียว พวกเขารอให้คนจำนวนมากมารวมกันเสียก่อนแล้วค่อยเข้าไปพร้อมกัน
ในขณะเดียวกันสือฮ่าวไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อีกต่อไปเพราะเขาก็คาดการณ์ว่ามันจะเกิดขึ้น เขาได้ทิ้งเรื่องหลังไว้ให้ผู้อาวุโสทั้งสองเป็นคนจัดการ
ตอนนี้เขาเริ่มค้นหาในถิ่นทุรกันดารอันยิ่งใหญ่ร่วมกับลูกขนพวกเขากำลังค้นหาสมบัติล้ำค่าซึ่งอยู่ในหุบเขาเมื่อครั้งกระโน้น
ย้อนกลับไปเมื่อสมบัติบนภูเขาปรากฏขึ้นแสงมงคลกระจัดกระจายออกมากลายเป็นฉากอันยิ่งใหญ่
ก่อนหน้านี้มันได้ดึง ฉงฉี นกกระจอกกลืนสวรรค์, จูเหยียนและนกสีแดงตัวน้อยมาต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ย้อนกลับไปตอนนั้นเทพหลิวเพิ่งตื่นจากสภาพที่กำลังจะตายดังนั้นจึงไม่ได้เข้าร่วม
เมื่อเขาคิดถึงเทพหลิวสือฮ่าวก็ถอนหายใจอีกครั้ง ร่างต้นไม้ทั้งหมดของเทพหลิวถูกทำลายกลายเป็นเมล็ดพันธุ์และทำการเกิดใหม่
... จากนั้นมันก็ต้องทนทุกข์ทรมานจากสายฟ้าลึกลับดิ้นรนระหว่างชีวิตและความตายอีกครั้ง
ตั้งแต่ยุคโบราณอันยิ่งใหญ่มาจนถึงยุคเซียนโบราณ เทพหลิวน่าจะเป็นคนที่ทำการเกิดใหม่บ่อยครั้งมากที่สุด
“เทพหลิวมีเส้นทางการบ่มเพาะอย่างไรกันแน่? และตอนนี้เทพหลิวอยู่ที่ไหน?” สือฮ่าวคิดถึงสถานที่ที่เทพหลิวหายตัวไป
ที่หลังเขื่อนนั้นแม้แต่เจ้าแห่งดินแดนปิดผนึกซึ่งเป็นราชาอมตะผู้แข็งแกร่งก็ยังได้รับบาดเจ็บจนถึงแก่ความตาย แล้วเทพหลิวจะสามารถเอาชีวิตรอดได้หรือไม่?
ย้อนกลับไปเมื่อเทพหลิวอาศัยอยู่ในหมู่บ้านหินผาร่างกายสีทองที่ไม่มีใครเทียบได้ของเขาถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ เขาจึงถูกบังคับให้เริ่มบ่มเพาะขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ต้น
ชาวบ้านทุกคนรู้ดีว่าในช่วงสองสามปีแรกที่เทพหลิวมาที่นี่ร่างกายของมันไหม้เกรียมเป็นสีดำขาดพลังชีวิต
เพียงไม่กี่ปีต่อมามันก็ฟื้นขึ้นมาจากสภาพที่อ่อนแอที่สุด แต่ถึงกระนั้นก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะฟื้นคืนความแข็งแกร่งได้
หลายสิบปีต่อมามันได้ฝึกฝนอย่างช้าๆและมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
หากไม่ใช่อาการบาดเจ็บสาหัสเทพหลิวคงลงมือแย่งชิงสมบัติวิเศษชิ้นนั้นแล้ว
เราสามารถเห็นได้ว่าสภาพของมันในตอนนั้นย่ำแย่แค่ไหน
เห็นได้ชัดว่าถิ่นทุรกันดารอันยิ่งใหญ่นี้ไม่ได้อยู่ใกล้กับหมู่บ้านหินผาอีกต่อไป แต่เป็นขอบของเขตของดินแดนรกร้างมีหินรูปร่างแปลกประหลาดอยู่ทั่วไปในหุบเขา
สือฮ่าวค้นพบรังนก มันใหญ่มากและยังพิเศษอีกด้วย สร้างมาจากไม้โบราณตั้งอยู่บนยอดเขาหิน แก่นแท้จิตวิญญาณที่ขุ่นมัวถูกปลดปล่อยออกมาจากมัน
“รังของนกกระจอกกลืนสวรรค์?” สือฮ่าวตกใจ
แม้เวลาจะผ่านไปหลายปี แต่เขาก็ยังไม่ลืมนกดุร้ายตัวนั้น มันประทับอยู่ในความทรงจำของเขาอย่างลึกซึ้งนี่คือรัศมีพลังของมันนั่นเอง
อย่างไรก็ตามนกกระจอกกลืนสวรรค์ได้ตายไปแล้วดังนั้นสือฮ่าวจึงไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อีก สือฮ่าวหันหน้าไปทางจูเหยียนด้วยความสงสัย
จูเหยียนส่ายหัวและพูดว่า“เจ้าน่าจะรู้ว่าตอนนั้นข้าได้สมบัติภูเขามาแล้ว แต่เพราะข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสมากเกินไปจึงซ่อนตัวอยู่ในโคลนและสมบัติสวรรค์ชิ้นนั้นก็หายไปด้วย.”
จูเหยียนสูญเสียความทรงจำในตอนนั้นแม้ว่ามันจะฟื้นตัวขึ้นแล้วในหลายปีที่ผ่านมาแต่ความทรงจำบางส่วนของมันก็ยังคงไม่ฟื้นคืน
เป็นที่น่าสงสัยอย่างยิ่งว่านกกระจอกกลืนสวรรค์ได้รับสมบัติในตอนท้ายเพราะมันได้ไปเยี่ยมเยียนบ่อโคลน สือฮ่าวเคยพบกับนกกระจอกกลืนสวรรค์ที่นั่น
แน่นอนว่าสือฮ่าวไม่ได้มั่นใจมากนักเพราะว่าตอนนั้นนกกระจอกกลืนสวรรค์ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน การที่มันร่วงลงไปในบ่อโคลนก็อาจเป็นเพราะมันได้รับบาดเจ็บสาหัสมากเกินไป
“นกกระจอกกลืนสวรรค์ตายไปแล้ว แต่ข้าสังเกตว่ามีใครบางคนเคยมาที่นี่เช่นกัน” ลูกขนพาสือฮ่าวเข้าไปในรัง
สถานที่แห่งนี้เงียบสงบอย่างมากพลังวิญญาณทั้งหมดที่นี่ถูกสร้างขึ้นจากหญ้าไหมสีทอง ที่นี่มีอาสนะสำหรับสวดมนต์รวมทั้งภาชนะบางส่วนซึ่งมันถูกใช้เป็นดินแดนแห่งการบ่มเพาะอันเงียบสงบ
“วิชาแปลงร่างเจ็ดสิบสองแบบของตระกูลของข้ามีชื่อเสียงเป็นพิเศษ แต่เรามีความสามารถระดับสูงอีกอย่างที่สามารถทำให้บางสิ่งกลับคืนสู่สภาพเดิมได้มันจะค้นหาฉากล่าสุดของสถานที่แห่งนั้น” จูเหยียนกล่าว
หลังจากนั้นมันก็แสดงญาณวิเศษออกมา ในที่สุดร่างที่เลือนรางก็ปรากฏขึ้นในรังของนกกระจอกกลืนสวรรค์เป็นชายชราผิวเหี่ยวย่นเส้นขนทุกเส้นขาวโพลนราวกับหิมะ
แม้ว่าจะเป็นภาพที่เลือนลางแต่เขาก็อยู่ที่นี่จริงๆ
มีคนมาเยี่ยมรังของนกกระจอกกลืนสวรรค์ระดับบ่มเพาะของชายชราค่อนข้างแข็งแกร่ง
“ทักษะของข้ายังไม่เพียงพอไม่สามารถยืนยันได้ว่าคนผู้นี้เป็นใคร” จูเหยียนถอนหายใจ อย่างไรก็ตามนี่เป็นเบาะแสที่สำคัญที่สุดที่พวกเขาพบ
เมื่อสือฮ่าวได้ยินดังนั้นเขาก็ตกใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่ายังมีบุคคลที่ทรงพลังบางคนที่รอดชีวิตจากความโกลาหลครั้งใหญ่ในแปดภูมิภาคในอดีต
เทพที่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้กลับสามารถอยู่รอดได้
“เจ้าควรลองดู” จูเหยียนส่งต่อวิชาโบราณนั้นให้สือฮ่าว
หงหลง!
ลมและสายฟ้าพัดเข้ามา เมื่อสือฮ่าวแสดงมันร่างผีก็ปรากฏขึ้นทุกที่แม้กระทั่งความว่างเปล่าก็ยังเกิดการสั่นสะเทือน บริเวณรอบรอบมืดครึ้มลงทันที
จูเหยียนตกใจ มันค้นพบว่าระดับการฝึกฝนของสือฮ่าวทะลวงจากอาณาจักรเทพที่แท้จริงพุ่งสูงเกินกว่าอาณาจักรเทพสวรรค์ไปแล้ว