ตอนที่ 98 ผลของความพยายาม
โดยธรรมชาติ กู่ฉางเกอแค่ตอบด้วยเสียงหายใจและบอกว่าเขาไม่ได้อยากเป็นศิษย์ผู้อาวุโสใหญ่เช่นกัน
ผู้บ่มเพาะในโลกมักเลี่ยงพวกที่ธรรมชาติมาร ธรรมชาติมารไม่ได้แผ่กลิ่นอาย แต่มันจะเป็นที่รู้โดยการกระทำและนิสัยของผู้ถือครอง
นี่เป็นผลให้ผู้อาวุโสใหญ่ผิดหวังมากและความผิดหวังเขาก็ยิ่งมากตอนเขาตระหนักว่ากู่ฉางเกอหมายตำแหน่งผู้สืบทอดวังเต๋า
สำหรับว่าทำไม?มันไม่ยากจะเดา เหนือสิ่งอื่นใด มีแค่ผู้อาวุโสหรือผู้สืบทอดถึงเข้าพื้นที่ใจกลางของวังเต๋า ซึ่งเป็นที่หวงห้ามต่อคนนอก วังเต๋าอมตะสวรรค์มีความลับมากมายที่หลายคนสนใจ
กู่ฉางเกอต้องหมายมันแน่
แถม ตระกูลกู่ดูเหมือนจะมีแผนการอื่นที่เตรียมไว้สำหรับวังเต๋าอมตะสวรรค์ กู่ฉางเกอต้องไม่ได้มีแรงจูงใจที่บริสุทธิ์ในการเข้าร่วมวังตั้งแต่ต้น
นอกจากนี้ การกระทำของกู่ฉางเกอไม่ต่างจากที่ผู้อาวุโสใหญ่เดาไว้จากคนอย่างเขาที่เกิดมาพร้อมธรรมชาติมาร
กู่ฉางเกอขุดเอากระดูกเต๋าของญาติตัวเอง ทำตัวหยิ่งในวังและไม่เคารพผู้อาวุโส ผู้อาวุโสใหญ่คือชายแท้ และถ้าไม่ใช่เพราะกฏของวัง เขาคงเตะกู่ฉางเกอออกวังไปแล้ว
“เซียนเอ๋อร์มีพรสวรรค์มาก ด้วยพรสวรรค์ของเซียนแท้จริง ตาแก่ผู้นี้ต้องสั่งสอนนางอยู่แล้ว ส่วนเจ้า..ทำไมเจ้าถึงแสร้งเป็นคนดีโดยการวิ่งมาที่นี่?”
ผู้อาวุโสใหญ่เหลือบมองกู่ฉางเกอ เขาเห็นคนมานับไม่ถ้วน กู่ฉางเกอจะมาปกปิดจากเขาได้ไง?
กู่ฉางเกอแสดงความรำค่าญ และโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า เขาพูด“แกล้งเป็นคนดี?ผู้อาวุโสใหญ่ ดูเหมือนท่านจะตัดสินข้าผิดนะ!ข้าปรารถนาให้เซียนเอ๋อร์ประสบความสำเร็จและเหนือกว่าข้า ทำไมข้าต้องแสร้งเป็นคนดีด้วยเล่า?”
กู่ฉางเกอเองก็ไม่ได้รู้สึกดีอะไรกับตาแก่ตรงหน้าเขา มากจนเขาไม่คิดเรียกตัวเองว่าผู้เยาว์อีก
ยังไงซะ ผู้อาวุโสใหญ่ก็ไม่กล้าทำอะไรเขา
สำหรับที่พูดว่าเขาแสร้งเป็นคนดี?อืม แม้จะพูดถูก เขาก็ต้องนำหลักฐานออกมาให้ได้ก่อน
“ถ้าเจ้าดีขนาดนั้น แล้วทำไมต้องขุดกระดูกเต๋านางมาปกปิดธรรมชาติมารตัวเองด้วย?’
ผู้อาวุโสใหญ่ย่อมไม่คิดเสียโอกาสนี้
“เกี่ยวกับเรื่องนั้น...ทำไมท่านไม่ปล่อยวางมันไปเล่า ไม่ใช่ว่าเซียนเอ๋อร์มีกระดูกเต๋าใหม่แล้วรึ?”
กู่ฉางเกอตอบด้วยการส่ายหัว มันชัดเจนว่ามีความลับบางอย่างที่เขาไม่อาจเปิดเผยได้ตอนนั้น
ในทางกลับกัน กู่เซียนเอ๋อร์ได้มองกู่ฉางเกอด้วยสีหน้าสับสน
เขาอยากให้นางก้างไกลเกินกว่าเขา?
เขาพูดจริง หรือแค่พูดโกหก?
แถม เขารู้ได้ไงว่านางมีกระดูกเต๋าใหม่แล้ว?
ความจริงชัดเจนอยู่ตรงหน้านาง กู่ฉางเกอไม่ได้ทำอะไรกับนาง และยังปล่อยนางไปซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงแม้แม้นางจะอยากได้ชีวิตเขา
ยิ่งนางคิด นางยิ่งรู้สึกว่าสิ่งที่เกิดตอนนั้นไม่ง่าย และมีความจริงบางอย่างที่ยังปกปิดจากนาง
การกระทำของกู่ฉางเกอต่างจากที่นางคิดไว้!
มันแค่ว่ากู่ฉางเกอไม่พูดความจริง และนางก็ไม่สามารถบากหน้าถามเขาได้
“ความบาดหมางระหว่างเจ้ากับเซียนเอ่อร์ ข้าไม่คิดยุ่ง พูดมาซะถ้าเจ้ามีอะไรจะพูดนอกจากเรื่องไร้สาระ”
สีหน้าผู้อาวุโสใหญ่เปลี่ยน และเห็นได้ชัดว่าอยากไล่แขก
กู่ฉางเกอพูด”ในเมื่อตอนนี้เซียนเอ๋อร์เป็นศิษย์ของผู้อาวุโสใหญ่ ข้า พี่ชายนางจะมาดูไม่ได้หรือไง?แน่นอน สิ่งที่ข้ากังวลคือผู้อาวุโสใหญ่อาจทำร้ายเซียนเอ่อร์ก็เพราะข้า’
คำพูดเหล่านั้นไม่ได้ออกมาจากใจเขา แต่เขาก็ไม่ได้เสียหายอะไรจากการพูดมัน
ความหมายเบื้องหลังคำพูดเขาคือ’ข้ากังวลว่าที่ท่านยอมรับเซียนเอ๋อร์เป็นศิษย์ก็เพราะข้า และท่านจะดูแลนางไม่ดี ใครจะไปรู้ ท่านอาจทำรุนแรงกับนางและต่อว่านางโดยไม่มีเหตุผล’
แน่นอน คำพูดเขาพูดด้วยเจตนาจะยั่วโมโหผู้อาวุโสใหญ่
ไม่เพียงจะใช้โอกาสนี้ปั่นหัวผู้อาวุโสใหญ่ แต่เขายังสามารถบอกให้กู่เซียนเอ๋อร์รู้ว่า เขา พี่ชายนางห่วงนางแค่ไหน เขาเป็นห่วงนางจนไม่สนใจว่าจะกระตุ้นต่อมอารมณ์ผู้อาวุโสใหญ่แค่เพื่อให้มั่นใจว่าเขาจะไม่ทำรุนแรงกับนาง
สีหน้าผู้อาวุโสใหญ่เปลี่ยนไปและแสดงอารมณ์โกรธ โลกเบื้องหลังเขาดำมืด และลมก็ม้วนตัวเร็ว เมฆเปลี่ยนสีมันและสั่นสะเทือน
สายฟ้าคำรามไปทั่ว และกลิ่นอายยิ่งใหญ่ของเทพก็กดทับลงมา
แรงกดดันและการเปลี่ยนแปลงในสภาพบรรยากาศทำให้ศิษย์ของวังเต๋าหลายคนสั่นกลัว ขาพวกเขาอ่อนแรง และแทบคุกเข่า
“นั่นคือที่ที่ผู้อาวุโสใหญ่อาศัยไม่ใช่เหรอ?เกิดอะไรขึ้น?”
สีหน้าของผู้อาวุโสหลายคนเปลี่ยนไปและขาวซีด หัวใจพวกเขาสั่นสะท้าน พวกเขาไม่เคเยห็นผู้อาวุโสใหญ่โกรธเช่นนี้มาก่อน
ผู้นำนั้นเหมือนกระแสน้ำ ส่วนผู้อาวุโสใหญ่นั้นเต็มไปด้วยความนิ่งสงบ ไม่เปลี่ยนแปลง
ประโยคนี้ไม่ใช่แค่คำพูดไร้สาระในวังเต๋า ใครก็สามารถจินตนาการได้ว่าพลังของผู้อาวุโสใหญ่ยิ่งใหญ่แค่ไหนจากคำพูด
“กู่ฉางเกอ อย่าพูดไร้สาระ!อาจารย์ของข้าจะไปทำแบบนั้นได้ไง?!”
กู่เซียนเอ๋อร์เองก็ตกตะลึง และรีบตะโกนใส่กู่ฉางเกอ นางไม่คิดเลยว่ากู่ฉางเกอจะมาที่นี่ด้วยแรงจูงใจนี้ นางจึงอดรู้สึกซับซ้อนใจไม่ได้
กู่ฉางเกอตอแยผู้อาวุโสใหญ่ด้วยคำพูดเหล่านั้น!
ตอนนี้ที่เขาทำให้ผู้อาวุโสใหญ่โกรธ ชีวิตของเขาในวังเต๋าอมตะสวรรค์อาจย่ำแย่ ต่อให้เขาจะเป็นศิษย์แท้จริง
“ดี ดี ดี!มันเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่มีผู้เยาว์กล้าพูดเช่นนี้ต่อหน้าข้า แม้ข้าจะรู้ว่าเจ้าจงใจยั่วยุข้า แต่ข้าก็ต้องบอกว่าเจ้าทำสำเร็จ”
ผู้อาวุโสใหญ่เองก็ไม่ใช่คนธรรมดา และมันก็ใช้เวลาไม่นานก่อนเขาจะระงับอารมณ์ได้ สายตาโกรธเคืองของเขาหายไปและเขาก็มองกู่ฉางเกอด้วยรอยยิ้ม“มันคงไม่เป็นไรถ้าเจ้าไม่พูด แต่ตอนนี้ที่เจ้าพูดแล้ว ข้าก็จะทำให้แน่ใจว่าจะฝึกกู่เซียนเอ๋อร์จนกว่านางจะก้าวข้ามเจ้า!”
“ถ้านางทำไม่ได้ งั้นข้าก็จะลงจากตำแหน่งนี้ และยังจะมอบตำแหน่งผู้สืบทอดให้เจ้าด้วย”
คำประกาศของผู้อาวุโสใหญ่ทำให้กู่ฉางเกอตกตะลึง แต่เขาก็แปลกใจไม่นาน แน่นอน ใบหน้าของเขายังแสดงรอยยิ้มเหมือนเดิม“ในเมื่อผู้อาวุโสใหญ่พูดเช่นนั้น งั้นข้าก็วางใจได้แล้ว ข้ากำลังตั้งตารอวันที่คตำพูดของท่านจะเป็นจริง”
“ฉางเกอขอตัว”
พอพูด กู่ฉางเกอก็เหลือบมองกู่เซียนเอ่อร์ด้วยรอยยิ้ม และเปลี่ยนเป็นรังสีแสงออกภูเขาไป
สภาพแวดล้อมกลับเป็นสงบเหมือนเดิม ลมเบาตัวและเมฆก็หยุดสั่น
สำหรับการตอแยผู้อาวุโสใหญ่?กู่ฉางเกอไม่สน
ในเวลาเดียวกัน ระบบก็ดัง
[ติ้ง!ธิดาสวรรค์ กู่เซียนเอ๋อร์ถูกสั่นคลอนใจอาฆาตแค้นโดยท่าน]
ก้าวแรกของแผนเขาสำเร็จ
ภูเขาของผู้อาวุโสใหญ่ค่อยๆเงียบ
กู่เซียนเอ๋อร์ก้มหัวไม่พูดอะไร
ตอนนี้ หัวใจนางปั่นป่วน นางรู้ดีว่ากู่ฉางเกอแค่พยายามยั่วยุผู้อาวุโสใหญ่ แต่ในเวลาเดียวกัน เขาก็บังคับผู้อาวุโสใหญ่ให้อุทิศตัวสั่งสอนนาง
นางไม่สามารถเข้าใจเจตนาของกู่ฉางเกอได้
ผู้อาวุโสใหญ่จะไม่พยายามสั่งสอนนางมากเพราะกู่ฉางเกอ?
ทำไมเขาต้องทำอะไรแบบนั้น?
เขาพยายามชดเชยสิ่งที่ทำไปในอดีต?
หรือเขาวางแผนการที่ชั่วร้ายกว่า?
กู่เซียนเอ๋อร์เหม่อและคิดไม่ออกว่ากู่ฉางเกอตั้งใจจะทำอะไร
ในทางกลับกัน ผู้อาวุโสใหญ่แค่ถอนหายใจขณะมองสีหน้าซับซ้อนของกู่เซียนเอ๋อร์
“เขาจะต้องยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกนี้ในอนาคต”
ถ้าคำนี้กระจายไป มันจะต้องสร้างความปั่นป่วนไปทั่วทุกสารทิศ มีคนกี่คนที่ได้รับคำชมเช่นนี้จากผู้อาวุโสใหญ่? แถม น้ำเสียงของเขายังหนักแน่นราวกับเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้นจริงแน่
กู่เซียนเอ๋อร์ก้มหัวและเงียบ นางไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
นางสับสน
นางนึกถึงวันที่นางพบกู่ฉางเกอด้านนอกวังเต๋า และตระหนักว่าเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อนางเลย
เขาอยากชดเชยสิ่งที่ทำไปในอดีตจริงเหรอ?
หรือเขาแค่ไม่สามารถซื่อตรงและใช้การกระทำเพื่อยั่วอารมณ์นางแทนเพราะนิสัยเขา?
“เซียนเอ๋อร์ เจ้าไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น ในเมื่อข้าพูดไปแล้ว งั้นข้าก็จะต้องทำตามที่พูด กู่ฉางเกอแค่พยายามทำให้ข้าโกรธ สำหรับว่าเขาทำไปทำไม?มันสามารถโทษธรรมชาติมารเขาได้’
ผู้อาวุโสใหญ่สงบลงและส่ายหัว
“อาจารย์ ทำไมท่านถึงคิดว่ากู่ฉางเกอต้องพยายามอย่างมากเพื่อปกปิดธรรมชาติมารเขา?อะไรคือเหตุผลเบื้องหลังธรรมชาติมารของเขา?’
กู่เซียนเอ๋อร์พลันถามด้วยสีหน้าสับสน กู่ฉางเกอต้องไม่ทำเกินเลยแค่เพื่อปกปิดมันแน่ เหนือสิ่งอื่นใด เขาต้องพยายามปกปิดแหล่งที่มามันสิ
“มีหลายเหตุผลที่คนจะมีธรรมชาติมาร ข้าไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรคือสาเหตุ และเจ้าต้องถามเขาถ้าเจ้าอยากรุ้ความจริง”
ผู้อาวุโสใหญ่บอกปัดด้วยคำพูด มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติสำหรับคนที่จะเกิดมาพร้อมธรรมชาติมาร บ้างเกิดมาพร้อมวิญญาณมาร บ้างเกิดมาโดยปนเปื้อนไอมาร และอื่นๆ
เขาสามารถบอกได้ว่ากู่ฉางเกอมีไอมารรุนแรง สำหรับว่ามันมาจากไหน?เขาต้องตรวจร่างกายถึงได้ข้อสรุป และเขาก็ไม่สนใจจะทำแบบนั้น
ตอนนี้ ผู้อาวุโสใหญ่แค่อยากช่วยกู่เซียนเอ๋อร์ให้ก้าวข้ามกู่ฉางเกอ เพื่อทำให้กู่ฉางเกอเสียใจในคำพูด
“ขอบคุณท่านอาจารย์ ศิษย์เข้าใจแล้ว”
กู่เซียนเอ๋อร์พยักหน้า ในเวลาเดียวกัน นางก็รู้สึกเหมือนนางจับเบาะแสได้
“ธรรมชาติมารของกู่ฉางเกอต้องฝังลงกระดูกเขา และการกระทำส่วนใหญ่ก็ได้รับอิทธิพลโดยมันเช่นกัน ถ้ามันไม่ใช่เพราะธรรมชาติมารของเขา ข้าคงยอมรับเขาเป็นศิษย์ไปนานแล้ว”
ผู้อาวุโสใหญ่ถอนหายใจ เขารู้สึกว่าเมล็ดพันธุ์ชั้นดีเช่นนี้ไม่สมควรโดนธรรมชาติมารทำลายเลย
...
กู่ฉางเกอไม่รีบวางแผนสำหรับอนาคตของกู่เซียนเอ๋อร์หลังกลับที่พักเขา
ก่อนอื่น เขาพิจารณาว่าเขาจะทำอะไรต่อ สำหรับที่เขาไปยั่วยุผู้อาวุโสใหญ่?เขาได้ผลักเรื่องนี้กลับหลังหัวไปแล้วและไม่สนใจอีก
ด้วยความฉลาดและวิธีการของกู่เซียนเอ๋อร์ นางย่อมต้องอยากสืบ’ความจริงของปีนั้น’ ตอนนี้ที่เขาฝังเมล็ดแห่งความสงสัยลงในใจนางแล้ว เขาต้องทิ้งเบาะแสให้นางเข้าถึง’ความจริง’
สำหรับว่าเขาจะจัดการ’ความจริงของปีนั้น’ยังไง เขาสามารถกังวลได้ทีหลังเพราะเขามีแผนแล้วในหัว สำหรับตอนนี้ เขาตัดสินใจพับเก็บเรื่องนางไปก่อน
‘ตอนนี้ สิ่งที่ข้าต้องจดจ่อคือถนนอมตะ’
กู่ฉางเกออดหรี่ตาไม่ได้
ตามความทรงจำ มีถนนอมตะในส่วนลึกของวังเต๋าที่หายไปนาน
ตามการคำนวณต่างๆ ถนนอมตะจะปรากฏในโลกและนำมาซึ่งโอกาส เหตุผลที่เขาหมายตำแหน่งผู้สืบทอดวังเต็เพื่อให้ได้โอกาสนี้แล
‘พูดก็พูด ข้าควรผสานชิ้นส่วนเมล็ดพันธุ์ต้นไม้โลกและเลี้ยงโลกในตัว พอถึงเวลา ข้าอาจสามารถหนีเข้าไปข้างในได้ด้วยความสามารถนี้ที่ผสานเข้ากับพรสวรรค์มิติ’
ทันทีที่กู่ฉางเกอคิดได้ เขาก็เปิดหน้าต่างสถานะและพบชิ้นส่วนสามชิ้น
ขระที่กู่ฉางเกอกลบฝังตัวเองกับเรื่องเหล่านี้ รถม้าหรูหร่าที่ลากโดยฟีนิกส์เก้าตัวก็วิ่งมาทางวังเต๋า
ภายในรถม้าที่ทำจากทองดำ เยวี่ยหมิงคงกำลั่งนั่งเชิดอยู่
คิ้วของนางเหมือนกิ่งไม้เรียว ดวงตาประดุจหงษ์ของนางแสดงความสงบอย่างลึกล้ำ ตอนนี้ นางกำลังยุ่งกับการนวดขมับเพื่อคลายความเหนื่อยล้า
“สามีข้า มันไม่ง่ายเลยจริงๆที่จะจัดการกับท่าน”