ตอนที่ 34 ทุกคน-เก็บคำชมไว้วันพรุ่งนี้ด้วย
“ดึงมันลงมาแล้วโจมตีมันบนฟ้า!’
หวังเช่อตะโกน
ปลายสายของไหม หนอนเขียวเกาะมันไว้แน่น คาบไหมไว้ด้วยปากมัน
หลังได้ยินคำสั่ง มันก็กระชากสุดแรง ความยืดหยุ่นของไหมช่วยให้สองฝ่ายเข้าใกล้กันเร็วขึ้น
เท้าของนกนางนวลโดนจับ ปากมันโดนปิดสนิท และมันก็ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งในอากาศ แต่เปล่าประโยชน์
มันเสียสมดุล โดยเฉพาะตอนหนอนเขียวดึงอย่างแรง
คู่ต่อสู้ทั้งสองฝ่ายเข้าหากันด้วยความเร็วสูง
ในชั่วพริบตา ทั้งสองฝ่ายก็พุ่งผ่านกัน หนอนผีเสื้อยังคงลอยต่อ ส่วนนางนวลหนามก็ดิ่งต่อเนื่องจากแรงเฉื่อยของการดึงลง
ตอนมันมาถึงจุดสูงสุด หนอนเขียวก็ดึงไหมขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้ หัวมันกดลงและคายไหม เหมือนมังกรที่ดิ่งลงจากฟ้า หางมันตั้งตรงและชี้เล็งไปที่ด้านล่าง
ด้วยพลังที่หยิบยืมจากการตกลง มันใช้หางมันเพื่อเหวี่ยงใส่นก
ปัก!
ภายใต้แรงมหาศาล นางนวลหนามบดขยี้กับเวทีอย่างแรงเหมือนดาวตก
หนอนเขียวลงพื้นอย่างนุ่มนวล
ในอีกด้าน นกไม่มีแรงจะลุกขึ้น
มันถนัดความเร็วและการรุก การป้องกันกับร่างกายมันจึงอ่อนแอมาก
ไม่ต้องพูดถึงว่าหลังรับการโจมตีเช่นนี้ใส่จุดอ่อนเข้าไป
การโจมตีจากบนฟ้าน่ากลัวกว่าการใช้หางฟาดปกติ!
ทุกคนเงียบ ไม่มีใครเป็นข้อยกเว้น
การต่อสู้จบลงในเวลาไม่ถึงนาที
“ผู้ชนะคือผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 23 พื้นที่ J!”
ผู้ตัดสินประกาศ
หลินอี้สับสน
มันรู้สึกราวกับการต่อสู้ยังไม่ทันเริ่มเลยและ..
เธอแพ้แล้ว?
ความปั่นป่วนปะทุขึ้น!
ทุกคนเบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อ
“นี่มันบ้าอะไร?เขาชนะทั้งอย่างนั้น?”
“หนอนเขียวนั่น..ทักษะวิญญาณพ่นไหม?แน่ใจนะว่ามันไม่ใช่ลวดเหล็ก?”
“ลวดเหล็กไม่มีทางงอได้อย่างนั้น”
“มันแข็งแกร่งขนาดนั้นได้ไง?ศัตรูไม่มีโอกาสได้สวนเลย..ฉันมักคิดว่าไหมของหนอนเขียวถูกใช้เพื่อผลิตเสื้อได้อย่างเดียวซะอีก”
..
หวังเช่อลูบหัวหนอน
เจ้าตัวเล็กนี่ยังงง มันเอียงหัวมองหวังเช่อ
ดูเหมือนกำลังบอกว่า’ฉันชนะ?เป็นไง?’
หวังเช่อยิ้มแต่ไม่ตอบ
ถ้าเจ้าตัวน้อยนี่สู้เอง โอกาสชนะมันจะน้อยมาก
หวังเช่อมองการโจมตีของศัตรูทะลุหมด ควบคู่กับทักษะวิญญาณที่ทรงพลังของมัน เขาเชื่อว่าคู่ต่อสู้จะไม่มีเวลาตอบสนอง
พวกเขาถึงจบการต่อสู้ได้ไวขนาดนี้
ไม่ต้องกังขาถึงพลังของทักษะวิญญาณ
หวังเช่อเมินเด็กสาว ผู้ยังยืนอึ้ง เขานำหนอนผีเสื้อลงเวทีไปและเตรียมสำหรับการแข่งวันต่อไป
บนชั้นสาม หลินซี ศาสตราจารย์หยานกับผู้อาวุโสตาบอดได้แต่ยืนเงียบ
ผลลัพธ์นั้นไม่คาดคิดเลย
“สรุปใครชนะกัน ศาสตราจารย์หรือเขา?”หลินซีถาม มองชายชราสองคน
“ไม่ใช่ทั้งคู่”สายตาของศาสตราจารย์หยานดูจริงจัง
“ศาสตราจารย์หยาน..”หลินซีเปิดปาก
เขาดูเหมือนจะเข้าใจว่าเธอจะถามอะไรและตอบ “เธอจะถามว่าทำไมทักษะวิญญาณพ่นไหมถึงได้ทรงพลังขนาดนั้นสินะ? ฉันอาจต้องกลับไปศึกษามันด้วยตัวเอง..”
หลินซีไม่พูดอะไรต่อ
ชายชรามีสีหน้าประหลาดขณะถามออกมา
“ทักษะวิญญาณพ่นไหมนั่นทรงพลังมาก แต่มันไม่ใช่สิ่งที่หนอนเขียวฐานบ่มเพาะ 70ปีจะปลดปล่อยได้ อย่างน้อยก็ต้องร้อยปี..”
“แต่การบ่มเพาะพลังวิญญาณไม่อาจปลอมได้...แปลกและน่าสนใจ..”
“ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือประสบการณ์การต่อสู้ของเด็กหนุ่มคนนั้น ด้วยสัญชาตญาณของฉัน เขาควรมองวิธีการโจมตีของเด็กสาวคนนั้นได้ทะลุปรุโปร่ง”
“ทักษะวิญญาณอย่างลมพายุมีระดับความแข็งและหดตัวตอนใช้”
ความตกใจในใจหลินซียังไม่ทันหาย มันก็ถูกซ้ำ
สำหรับหลินอี้ที่โดนบดขยี้แบบนี้ เธอทำได้แค่ถอนหายใจโล่งอก
เธอแตะงูหมวกเมฆที่กำลังดูการต่อสู้
“ฟ่อ ฟ่อ!”
งูส่งเสียงฟ่อเบาๆ ดวงตามันแผดเผาด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้
..
สำหรับการต่อสู้ที่เหลือ หวังเช่อเลือกสังเกตแค่ไม่กี่คน
ตัวอย่างเช่น การต่อสู้ของหลินซีกับหยวนเซียวเล่อ รวมถึงชายที่มีอสูรวิญญาณชื่อแมวไฟ
หลังดู เขาก็ตรงกลับบ้าน
ตอนหวังเช่อกลับ เขาก็พบว่าพ่อหวังกับแม่หวังได้กลับมาแล้วและกำลังเตรียมมื้อเย็น
“โอ้ ลูกชายของเรากลับมาแล้ว!เป็นไงบ้าง? ลูกตกรอบไหม?”พ่อหวังยิ้มราวกับเขาไม่รู้อะไรในการแข่งขันเลย
“อย่าเสียใจไปละ แค่ได้เข้าร้อยอันดับแรกก็ดีถมไปแล้วลูก” แม่หวังแสร้งทำเป็นไม่รู้และปลอบเขา
หวังเช่อเหลือบมองทั้งสองคน
พ่อแม่สองคนนี้ทำให้เขากลัว
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาพยายามจะทำให้เขาประกาศออกมาอย่างภาคภูมิใจเพื่อเขาจะได้รู้สึกภูมิใจในตัวเอง พวกเขาไม่อยากเปิดเผยความจริงที่ว่าพวกเขาไปดูการแข่งขันมา
หวังเช่อคิดเล็กน้อยและพูด “ผมตกรอบจริงๆ ในรอบสุดท้าย ผมเจออสูรวิญญาณประเภทบินได้ มันตอบโต้หนูของผมโดยตรง ลูกของพ่อแม่เลยแพ้”
พอได้ยิน ทั้งคู่ก็ตกตะลึง
“ตอแหล! ไม่ใช่ว่าแกชนะ...” พ่อหวังโพล่งออกมา ทันทีที่เขาพูด เขาก็ตระหนักว่าเขาพลาด
แม่หวังกระแอมเสียงดังและจ้องพ่อหวัง ราวกับไม่เชื่อว่าคู่แต่งงานเธอจะโง่ได้ขนาดนี้
มันเป็นกับดักอย่างเห็นได้ชัด แต่สามีเธอ พ่อของลูกชายกลับกระโดดเข้าไปหามันเอง..
ในเมื่อเขาพูดไปแล้ว ก็ไม่มีทางปกปิดได้อีก
หวังเช่อมองทั้งคู่ “ถ้าพ่อกับแม่อยากไปดู ก็ไปสิครับ ไม่เห็นต้องปิดบัง”
“คือ..” พ่อหวังกระแอม “มันเพราะลูกไม่บอกเรา เราคิดว่าลูกคิดว่าลูกอาจแพ้ตั้งแต่วันแรกและไม่อยากให้เราไปดูลูกแพ้ เราเลยแอบไป..”
“แล้ว?”
“แล้ว..ฮ่าๆ! ลูกทำให้เราตกใจตลอดเวลา!” พ่อหวังตบโต๊ะลั่น ”ลูกที่ดี เจ้าตัวน้อยนี่ก็เก่งมาก! มันแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ไง พ่อคิดว่ามันกินสเตียรอยด์ไปนะเนี่ย นี่มันสุดยอด!’
แม่หวังลูบหัวหนอนผีเสื้อไม่หยุดมือ
มันดูเหมือนจะอายจากคำชมที่สาดเทและเผยสีหน้าอิ่มเอม
บางทีมันคงชอบให้แม่หวังลูบ เหนือสิ่งอื่นใด เธอเป็นคนป้อนข้าวให้มันคนแรก
“ฉันว่าคุณต่างหากที่กินสเตียรอยด์” แม่หวังจ้องสามี “นี่คือผลการฝึกของหวังเช่อต่างหาก พรุ่งนี้ลูกก็ต้องพยายามเข้านะ”
“ใช่ ใช่ เมื่อลูกเข้าสิบอันดับแรก แม่กับผมจะภูมิใจในตัวลูกมาก” พ่อหวังถอนหายใจ “พูดก็พูด ลูกไม่สนใจผู้หญิงคู่แข่งลูกเลยนะ คู่ต่อสู้ลูกเป็นเด็กสาวที่บอบบางเช่นนั้น แต่ลูกก็ไม่ออมมือเลยและเอาชนะในชั่วพริบตา”
“พ่อสงสัยว่าเธอจะบอบช้ำแค่ไหน?”
พ่อหวังดูเสียใจแทน
“หึ? คุณสนใจแค่เด็กสาวสินะ?” แม่หวังแค่นเสียง มองสามีเธอด้วยจิตสังหารในตา
เขารีบพูด “แน่นอนว่าภรรยาคือที่สุด ผมหวงแหนคุณทุกวัน ส่วนสิ่งที่ผมหวงสุดนะเหรอ..ย่อมต้องเป็นใบหน้าที่ล้ำค่าประดุจดอกไม้นี่สิ”
“คุณรู้สึกอายบ้างไหมที่พูดแบบนี้..ฮึ่ม น่ารำคาญจริงๆ!’
หวังเช่อพูดไม่ออก
เขาขนลุกทั่วตัวและรีบกลับห้องนอนหลังกินเสร็จ
เขาไม่คิดว่าเขาจะสามารถทนเห็นพ่อแม่เขาหยอกล้อกันได้ทุกวัน
หลังพักผ่อนสักพัก เขาก็นำอุปกรณ์สื่อสารเขาออกมา
ห้องแชทในชั้นเรียนระเบิดด้วยข้อความมากกว่า 999 ข้อความ
พวกเขาย่อมคุยถึงการต่อสู้วันนี้ ทั้งหมดมุ่งความสนใจมาที่เขาโดยเฉพาะ
หลังครุ่นคิดสักพัก หวังเช่อก็ตอบกลับ
หวังเช่อ : ‘ทุกคน อย่าเพิ่งชมกันหมด เก็บบางส่วนไว้ที่การแข่งขันพรุ่งนี้ด้วย’
หวังเช่อ : ‘ฉันจะพักแล้ว’
ทุกคน : ‘…’