683 - โจมตีข้ามมิติ
683 - โจมตีข้ามมิติ
"นี่เป็นประกาศิตแห่งความตายที่ออกโดยปรมาจารย์แห่งศาลสวรรค์ และนั่นเป็นคำสั่งให้ศิษย์ทุกคนของศาลสวรรค์ออกไล่ล่าเป้าหมายจนกว่าจะประสบผลสำเร็จ!"
มีคนอุทานและอธิบายความหมายของอักขระที่ถูกสร้างขึ้นจากดอกไม้โลหิต นี่คือคำสั่งตายที่มีเป้าหมายคือเย่ฟ่าน และพวกเขาจะไม่หยุดจนกว่าเย่ฟ่านจะตาย
เรื่องที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือพิภพดูเหมือนจะไม่มีความหวาดกลัวต่อปราชญ์โบราณผู้ยิ่งใหญ่ มันสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้คนจำนวนมาก!
“ถ้าเจ้ามีความสามารถก็เข้ามาเถอะ!” เย่ฟ่านตะโกน
ทันใดนั้นท้องฟ้าก็มืดลง และกลีบดอกไม้สีดำจำนวนนับไม่ถ้วนก็ร่วงหล่นลงมาก่อนจะก่อตัวเป็นอักขระอีกครั้ง
“มันเป็นประกาศิตความตายของ *”อเวจี“!” *(เปลี่ยนจากนรกนะครับ)
“อเวจีก็คิดจะมีส่วนร่วมในเรื่องนี้!” ผู้คนอุทานอีกครั้งและใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง
ในท้ายที่สุด กลีบดอกไม้สีดำขนาดใหญ่ก็ก่อตัวเป็นอักษรที่มีใจความว่า เย่ฟ่าน!
"ในดินแดนรกร้างตะวันออกยังคงมีสำนักมากมายที่มีความเกี่ยวข้องกับศาลสวรรค์ และพวกเขาจะตอบรับคำเรียกหาของพิภพและอเวจีอย่างแน่นอน"
นี่เป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก ทุกคนรู้ดีว่าร่างเซียนโบราณอยู่ภายใต้การดูแลของสิ่งมีชีวิตอมตะ แต่เทพนักฆ่าเหล่านั้นยังคงไม่มีความเกรงกลัวแม้แต่น้อย
กลีบดอกไม้สีขาวราวกับดอกไม้งานศพในสุสาน มันเปื้อนเลือด และปลิวไปทั่วถนนโบราณ กลีบดอกไม้สีดำแสดงถึงความตาย และหมอกที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความโกลาหลก็แสดงให้เห็นถึงพลังการทำลายล้าง
การปรากฏตัวของเทพนักฆ่าทั้งสองทำให้ทุกคนตกใจ และมันส่งผลกระทบต่อความคิดของทุกคน โดยเฉพาะดินแดนศักดิ์สิทธิ์และตระกูลขุนนางโบราณทั้งหลายซึ่งมีส่วนร่วมในการทำลายล้างศาลสวรรค์
ย้อนกลับไปเมื่อศาลสวรรค์มีความยิ่งใหญ่เหนือสวรรค์และปฐพี ไม่ทราบว่ามีผู้สูงสุดและครึ่งเซียนมากมายเท่าไหร่ที่ตกเป็นเป้าหมายของพวกเขา
หากผู้ใดคิดจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับศาลสวรรค์พวกเขาจะถูกลอบสังหารด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยมที่สุด
เมื่อหลายหมื่นปีก่อนเพียงเอ่ยชื่อของของเทพนักฆ่าที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ออกมา ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายต่างก็หน้าเปลี่ยนสีไม่กล้าแสดงความหยิ่งผยองเหมือนเช่นปัจจุบัน
สามเทพนักฆ่าโบราณนั้นน่าสะพรึงกลัว แม้แต่เซียนโบราณก็ยังถูกพวกเขาลอบสังหารจนสำเร็จ ในเมื่อพวกเขามีความแข็งแกร่งถึงระดับนี้ผู้ใดจะไม่แสดงความหวาดกลัวต่อพวกเขา?
“ข้าไม่รู้ว่าตอนนี้พวกมันแข็งแกร่งแค่ไหน ในสมัยโบราณตราบใดที่มีคำสั่งให้ฆ่า เป้าหมายที่ถูกกำหนดจะไม่มีทางรอดชีวิตได้!” จักรพรรดิดำพึมพำ
หลายคนมองไปที่เย่ฟ่านด้วยท่าทางแปลกๆ มีตำนานเกี่ยวกับการอยู่ยงคงกระพันเกี่ยวกับเทพนักฆ่าโบราณและไม่มีใครสามารถรอดพ้นจากประกาศิตของพวกเขา
“สองเทพที่ยิ่งใหญ่ได้หายสาบสูญไปนานแล้ว และตอนนี้ชื่อของพวกเขาได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง หากพวกเขายังคงเป็นคนเดิมรับรองได้ว่าพวกเขาจะต้องแข็งแกร่งกว่าในอดีตอย่างแน่นอน” ปรมาจารย์แห่งตระกูลเฟิงขมวดคิ้ว
เขาไม่สามารถพูดอะไรได้ อีกฝ่ายกล้าออกคำสั่งฆ่าในเวลานี้ เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการยั่วยุดินแดนรกร้างตะวันออกทั้งหมด ซึ่งพวกเขาทุกคนจำเป็นต้องเข้าร่วมในการต่อต้าน!
“เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาต้องการฟื้นฟูศาลสวรรค์ขึ้นมาอีกครั้ง!” ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงขมวดคิ้ว
ในอดีตมันเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงได้มีส่วนร่วมอันยิ่งใหญ่ในการทำลายศาลสวรรค์ พวกเขากวาดล้างมือสังหารมากมาย และที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นคือพวกเขาได้ครอบครองมรดกของศาลาสวรรค์ไม่น้อย
ต่อให้ผู้คนที่เข้าร่วมในการกวาดล้างครั้งนั้นได้ตายจนหมดแล้ว แต่ประมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ทุกคนที่อยู่ในห้องก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบได้
ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ตระกูลจี้พยักหน้าอย่างเคร่งขรึมและกล่าวว่า
“หากสุดยอดนักฆ่าเหล่านี้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ข้าเกรงว่าพวกเขาคงสัมผัสได้ถึงยุคแห่งความมืดมนที่กำลังจะมาถึง และพวกเขาต้องการช่วงชิงโอกาสเพื่อทำให้ตัวเองแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น”
คนเหล่านี้เข้าสู่เต๋าโดยการฆ่ามาทั้งชีวิตและพวกเขาคือกลุ่มคนที่เข้าใจต่อศาลสวรรค์มากที่สุด ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดเข้าร่วมในสงครามทำลายล้างแต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถสังหารพิภพและอเวจีได้
ในการต่อสู้ครั้งนั้นศาลสวรรค์มีผู้อมตะซ่อนเร้นอยู่สองคน แต่เป็นโชคดีของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดเพราะพวกเขาเป็นเพียงผู้อมตะที่กำลังจะหมดอายุขัยจากอาการบาดเจ็บ
สุดท้ายพวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานการร่วมมือของยอดฝีมือจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย และปล่อยให้เทพนักฆ่าทั้งสามต้องเผชิญชะตากรรมด้วยตัวเอง
ในตอนนั้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายได้วางแผนอย่างรัดกุมมาก ทันทีที่เทพนักฆ่าโบราณทั้งสามปรากฏขึ้น พวกเขาก็เผชิญหน้ากับค่ายกลสังหารอันยิ่งใหญ่
ถึงแม้ “พิภพ” และ “อเวจี” ในตอนนั้นจะหนีไปได้ แต่ยอดฝีมือจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทุกคนก็มั่นใจว่า “สวรรค์” ซึ่งเป็นสุดยอดนักฆ่าที่แข็งแกร่งที่สุดในคนทั้งสามจะต้องตายอย่างแน่นอนต่อให้ไม่สามารถค้นพบซากศพของเขาก็ตาม
“เปรี้ยง!”
แสงหลากสีที่น่าตกใจตกลงมาจากท้องฟ้าด้วยเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่กว่าสามวา มันคือรังสีกระบี่ที่แหลมคมมากที่สุด!
“อะไร! พวกเขากล้าโจมตีปราชญ์โบราณ!”
ทุกคนใบหน้าเปลี่ยนสี ดูเหมือนพิภพจะเป็นคนบ้าอย่างที่ผู้คนเล่าลือจริงๆ ไม่ว่าเขาจะมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองมากแค่ไหนเขาก็ไม่ควรตอแยชายชราผู้บ้าคลั่งตรงๆ!
นี่เป็นทักษะการฆ่าที่ยอดเยี่ยมโดยเขาเลือกที่จะโจมตีสิ่งมีชีวิตอมตะ รังสีกระบี่ของเขามีขนาดใหญ่มหึมา และมันเพียงพอที่จะตัดแบ่งสวรรค์และปฐพีออกจากกันได้
“บูม!”
ชายชราผู้บ้าคลั่งสะบัดแขนเสื้อของเขาขึ้นสู่ด้านบนเปลี่ยนให้แสงจากดวงอาทิตย์มืดมิดราวกับเป็นเวลากลางคืน แขนเสื้อข้างนั้นไม่เพียงปกคลุมกระบี่ทั้งหมดแต่ยังปิดบังท้องฟ้าขนาดมหึมาอีกด้วย
"บูม!"
โดมสวรรค์แตกเป็นเสี่ยงๆ และมีหลุมดำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่นั่น แสงกระบี่ที่เรืองรองเมื่อสักครู่นี้ถูกทำลายอย่างสิ้นซาก
แต่ในขณะเดียวกันปราณกระบี่อีกเส้นก็ตัดผ่านความว่างเปล่ากลายเป็นช่องว่างขนาดสองพันจ้าง และเป้าหมายของมันคือหนานหนานซึ่งนั่งอยู่บนหลังของจักรพรรดิดำ
ดวงตาของเย่ฟ่านเย็นชา การที่พิภพและอเวจีต้องการฆ่าเขามันเป็นเรื่องที่สามารถยอมรับได้ แต่หนานหนานก็รวมเป็นเป้าหมายของพวกมันด้วย มันทำให้เขาไม่สามารถอดกลั้นความโกรธเกรี้ยวได้อีกต่อไป
“ปัง”
ชายชราผู้บ้าคลั่งชี้นิ้วแทงทะลุเข้าสู่ท้องฟ้า นิ้วของเขาทำให้ความว่างเปล่าพังทลายลงมาคล้ายกับสวรรค์จะพลิกคว่ำ
“บูม!”
ทันใดนั้นชายชราผู้บ้าคลั่งก็ประสานอินอย่างรวดเร็ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้ญาณวิเศษในการโจมตีคู่ต่อสู้ และมือของเขาเคลื่อนไหวเร็วมากจนทุกคนไม่สามารถมองตามทัน
นอกจากนี้ยังมีอักขระเต๋าที่ซับซ้อนบนปลายนิ้วของเขา พวกมันก่อตัวเป็นมังกรยาวหนึ่งจ้าง มือของเขาสั่นอย่างรุนแรงและดวงดาวมากมายก็บินลงมาจากท้องฟ้า
“บูม!”
ในเมืองหวังกง นอกจากเหล่าปรมาจารย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทุกคนไม่สามารถทนต่อแรงกดดันชนิดนี้และต้องร่วงลงไปนอนกับพื้นไม่เว้นแม้แต่ผู้สูงสุด
นี่ไม่ใช่การโจมตีธรรมดาแต่มันคือทักษะที่มุ่งเน้นทำลายวิญญาณศักดิ์สิทธิ์โดยตรง
“บูม!”
คลื่นที่น่าสะพรึงกลัวของเต๋าได้ระเบิดอย่างรุนแรง และประตูมิติขนาดใหญ่ก็เปิดขึ้นกลางความว่างเปล่า
“นี่… ไม่ใช่การเปิดประตูมิติธรรมดา แต่เป็นการเปิดประตูมิติเพื่อส่งการโจมตีเข้าหาศัตรูที่อยู่ในระยะไกลด้วยพลังอันไร้ขอบเขต!”
ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์หลายคนตกใจ ชายชราผู้บ้าคลั่งไม่ได้ใช้ทักษะพิเศษใดๆ มันเป็นเพียงแค่ทฤษฎีง่ายๆ แต่หากคิดจะทำตาม พวกเขาจะต้องมีความแข็งแกร่งมากกว่าเดิมหลายสิบเท่า
“บูม!”
ท้องฟ้าเหมือนกลองที่ถูกกระแทกจนแหลกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย พลังแห่งเต๋าที่ปะทุขึ้นของชายชราผู้บ้าคลั่งตัดผ่านความว่างเปล่าและโจมตีไปยังอีกฟากฝั่งหนึ่งของโลก
ในทันใดนั้นเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดก็ดังขึ้นสองครั้ง เห็นได้ชัดว่ามันมาจากยอดฝีมือที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้สองคน
วิธีการท้าทายสวรรค์แบบนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ! ยอดฝีมือระดับสูงเปิดประตูมิติข้ามเขตแดนเพื่อลอบสังหาร และไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาอยู่ห่างออกไปกี่ลี้
แต่ชายชราผู้บ้าคลั่งก็ยังหาตำแหน่งของพวกเขาเจอ ทั้งยังส่งการโจมตีตัดผ่านมิติและทำร้ายศัตรูที่อยู่ในระยะทางไกลกว่าล้านลี้ได้สำเร็จ
มันทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่หวาดกลัวจับใจและพวกเขาค่อนข้างมั่นใจว่าชายชราผู้บ้าคลั่งหายเป็นปกติแล้ว!