ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 55 ทะลวงด่านสู่จอมยุทธขั้นแรก
เพียง 7 วันซู่เสี่ยวไป่หารายได้ได้มากถึง 160 ล้าน รายได้ขนาดนี้มากกว่าตระกูลขนาดกลางๆ หลายตระกูลด้วยซ้ำ ด้วยรายได้ขนาดนี้เป็นรองแค่ตระกูลใหญ่เท่านั้น!!
ทั้งหมดเกิดจากความแข็งแกร่งของซู่เสี่ยวไป่ที่เพิ่มขึ้น ทำให้สัตว์อสูรระดับ B ไม่สามารถทำอันตรายใดๆ กับร่างเงาของซู่เสี่ยวไป่ได้อีกต่อไป และร่างเงายังสามารถจัดการกับสัตว์อสูรได้ง่ายยิ่งขึ้น จากการติดอาวุธให้กับร่างเงา ยิ่งทำให้ร่างเงาแข็งแกร่งขึ้นแบบเท่าตัว!!
“คุณซู่ครับ เอ่อ….คือทางสมาคมสมบัติอสูรอยากจะเรียกเชิญคุณซู่ไปยังสมาคมของเรา นี่คือที่ตั้งของสมาคมของเราในตลาดมืดครับ หากคุณซู่มีเวลาว่างหวังว่าจะมาเยี่ยมเยียนสมาคมสักครั้ง”
คนจากสมาคมยืนนามบัตที่ระบุตำแหน่งที่ตั้งของสมาคมให้ซู่เสี่ยวไป่
“สมาคมสมบัติอสูรเชิญผมงั้นหรอ?”
หางคิ้วของซู่เสี่ยวไป่ถึงกับยกขึ้น
สมาคมสมบัติอสูรนั้นไม่ได้ขึ้นตรงกับใคร และไม่แข่งขันกับใครทันสิ้น พวกเขาทำธุรกิจเดียวคือการรับซื้อและขายชิ้นส่วนสัตว์อสูร โดยที่เขาจะรับมาในราคาที่ต่ำกว่าตลาด เป็นเรื่องแปลกที่อยู่ๆ สมาคมกลับให้ความสนใจกับซู่เสี่ยวไป่
แต่เมื่อคิดในอีกมุมหนึ่ง ซู่เสี่ยวไป่ก็พอจะเข้าใจได้
มันจะมีใครสักกี่คนที่สามารถหาชิ้นส่วนสัตว์อสูรมาขายได้จำนวนมากๆ ทุกอาทิตย์ ไม่พอชิ้นส่วนของสัตว์อสูรที่ขายทุกครั้งก็เพิ่มระดับสูงขึ้น ถ้าสมาคมไม่สนใจซู่เสี่ยวไป่ก็แปลกแล้ว
และในช่วงเวลาเดือนสองเดือนมานี้
ชิ้นส่วนที่ซู่เสี่ยวไป่ขายให้กับสมาคมนั้น ช่วงแรกๆ ก็อยู่แค่ระดับ D ถึง C แล้วอยู่ๆ ก็กลายเป็น C ทั้งหมด ก่อนที่จะกลายเป็น C ถึง B ภายในเวลาสั้นๆ และมูลค่าของแต่ละครั้งก็มหาศาล ยิ่งทำให้สมาคมนั้นให้ความสนใจในตัวของซู่เสี่ยวไป่มากขึ้นไปอีก
ซู่เสี่ยวไป่พยักหน้าตอบรับกับคนของสมาคม
ที่จริงแล้วเขาไม่ได้สนใจสมาคมสมบัติอสูรเท่าไหร่ แต่ที่สนใจจริงๆ คือตลาดมืดที่เป็นที่ตั้งของสมาคม!!
เมื่อคนจากสมาคมกลับไปซู่เสี่ยวไป่ก็เริ่มตรวจสอบเงินของเขา
“เราขายของได้เงินมามากกว่า 160 ล้าน นี้ไม่รวมที่ไปปล้นมาจากตระกูลหยวนอีก 350 ล้าน ตอนนี้เรามีเงิน 510 กว่าล้าน!!”
“ระบบ!! เพิ่มระดับให้กับความสามารถพื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียว!! เป็นระดับ 10!”
ซู่เสี่ยวไป่ตัดสินใจเพิ่มระดับให้กับความสามารถพื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียว
เพราะเมื่อถึงระดับ 10 จะได้ความสามารถเสริม
“-เพิ่มระดับสำเร็จ-”
เงินถูกหักออกไป 51.2 ล้าน และความสามารถของพื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียวก็กลายเป็น 10 ทำให้เวลาภายในไหลเวียนเร็วขึ้นจาก 1024 เป็น 2048 เท่า!!
“-ติ๊ง! พื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียวถึงระดับ 10 เสริมความสามารถใหม่ *เร่งความเร็วขั้น2* -”
“-*เร่งความเร็วขั้น2*ความเร็วพื้นฐานของความสามารถจะถูกเร่งให้เร็วขึ้นอีกเป็น 2 เท่า-”
จากความเร็วภายในมิติ 2048 เท่าก็เปลี่ยนเป็น 4096 เท่าในทันที!!
“4096 เท่า!!”
ดวงตาของซู่เสี่ยวไป่เบิกกว้าง
4096 เท่าแบบนี้จะหมายถึงอะไรได้อีก!!
1 วันของซู่เสี่ยวไป่เท่ากับการที่ผู้ฝึกตนทั่วไปฝึกบ่มเพาะ 10 ปี!!
“แม่เจ้าโว้ย!! เรารู้สึกได้ถึงกระแสพลังมหาศาล!!”
หากคิดให้เห็นภาพ เหมือนมีแม่น้ำขนาดใหญ่กำลังใหลเข้าไปในตัวซู่เสี่ยวไป่ และไม่ได้มีแค่แม่น้ำสายเดียว แต่มีถึง 4 สาย!!
เท่ากับว่า เพียงสองสามนาทีก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดการทะลวงของด่านและเขตแดนย่อยๆ ได้แล้ว และมันจะยิ่งลดเวลาในการทะลวงด่านที่ใหญ่ขึ้นไปอีก…
บึ้ม!!
ขณะที่ซู่เสี่ยวไป่กำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ กระแสพลังมากมายก็ระเบิดออกมาจากตัวเขาอย่างกระทันหัน
ของทั่วทั้งห้องของซู่เสี่ยวไป่กระเด็นกระจัดกระจายไปทั่วอย่างรุนแรง!!
เขตแดนจอมยุทธขั้นแรก!!
“ในที่สุดก็ทะลวงเขตแดนได้สำเร็จ!!”
“หลังจากที่อยู่ในเขตแดนผู้ฝึกยุทธขั้นสูงมาหลายวัน เราคิดว่าจะไม่สามารถทะลวงเขตแดนได้อีกแล้ว”
ซู่เสี่ยวไป่ถอนหายใจพร้อมกับสูดหายใจเข้าลึกๆ และกำหมัดของตัวเอง เขารับรู้ถึงพละกำลังที่เพิ่มมากขึ้น ยิ่งทำให้เกิดความปิติยินดีมากขึ้นไปอีก
ก่อนหน้านี้ที่ความเร็วในการบ่มเพาะ 1024 เท่า นั่นก็เท่ากับผู้ฝึกตนทั่วไปฝึกบ่มเพาะถึง 2 ปีครึ่ง และหากคำนวนเวลาในการฝึกบ่มเพาะของซู่เสี่ยวไป่ก็เท่ากับว่าเขาฝึกบ่มเพาะมานานกว่า 10 ปี แต่ก็ยังไม่สามารถทะลวงเขตแดนได้สักที ทำให้ซู่เสี่ยวไปคิดว่าเขาคงไม่สามารถทะลวงเขตแดนได้อีกแล้ว
เพราะสำหรับผู้ฝึกตนหลายคนไม่สามารถที่จะทะลวงเขตแดนต่อไปได้ทั้งชีวิตของเขา แต่บางคนก็ไม่แน่ ถ้าหากว่ายังมุ่งมั่นมานะฝึกอย่างไม่ลดละ
และเป็นโชคดีของซู่เสี่ยวไป่ที่ทะลวงได้สำเร็จ
“ดูเหมือนว่าเส้นทางของผู้ฝึกตนของเรา ยังไปได้อีกยาวไกล หากก้าวข้ามมาได้แล้วการจะทะลวงขั้นต่อไปอาจจะใช้เวลาอีกสักหน่อย…..แต่จะไปคิดมากทำไมกันล่ะ”
ซู่เสี่ยวไป่บ่นเบาๆ กับตัวเอง แต่หากใครผ่านมาได้ยินคงขนหัวลุกไปทั้งตัวแน่
ผู้ฝึกตนมากมายใช้เวลากว่าหลายสิบปีเพื่อทะลวงเขตแดน และสูญเสียทรัพยากรไปมากมายเพื่อจะทะลวงเขตแดนให้ได้ แต่ซู่เสี่ยวไป่กลับพูดราวกับเป็นเรื่องง่ายดายเพียงใช้เวลาไม่กี่วันก็ทะลวงได้
แต่ซู่เสี่ยวไป่พูดเหมือนกับว่ามันช้าไป
หากใครมาได้ยินจะคิดว่าอย่างไรได้อีก??
“กว่าจะหลุดจากเขตแดนผู้ฝึกยุทธมาได้ก็ใช่เวลานานพอตัว แต่หลังจากทะลวงเขตแดนมาได้แล้วเรารู้สึกได้ว่าพลังมันมากขึ้น ไหนขอดูหน่อยสิว่าพลังของเราอยู่ในระดับไหนแล้ว?”
ซู่เสี่ยวไป่เปิดดูสถานะของเขาในปัจจุบันทันที
มนุษย์ : ซู่เสี่ยวไป่
เขตแดน : จอมยุทธขั้นแรก
ระดับพละกำลัง: จอมยุทธขั้นสูง
ระดับความคงทน: จอมยุทธขั้นสูง
ระดับความว่องไว: ยอดยุทธขั้นแรก
พรสวรรค์บ่มเพาะ: ขั้นต่ำ
วิชา: กายาเพชร(สูงสุด) เหยียมย่ำข้ามนภา (สูงสุด) หัตถ์อัคนีเที่ยงแท้ (สูงสุด)
โลหิตสังหาร (สูงสุด) วิถีควบคุมมิติ (ฝึกหัด) ดาบพยักฆ์ (สูง) ดาบรวมภูติ(สูง) ขวานประกายรุ้ง (สูง) ทวนทองคำ (สูงสุด) กรีดท้องนภา (สูงสุด)
ความสามารถของระบบที่เปิดใช้งาน: พื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียว[ระดับ 10]
พื้นที่ฝึกวิชาในคลิกเดียว[ระดับ 10] ออกล่าสัตว์อสูรในคลิกเดียว [ระดับ 5] พื้นที่กลั่นยาในคลิกเดียว [ระดับ 3]
“ความว่องไวของเราเท่ากับยอดยุทธขั้นแรกแล้ว!!”
ซู่เสี่ยวไป่อดตื่นเต้นไม่ได้
ขนาดว่าวิชาวิถีควบคุมมิติยังไม่ได้อยู่ในขั้นพื้นฐานเขายังเร็วขนาดนี้!!
หาว่ารออีกสักสองสามวันที่วิถีควบคุมมิติบรรลุขั้นพื้นฐาน การเข้าใจธาตุมิติจะเพิ่มมากขึ้นและยิ่งทำให้ความเร็วของเขามากขึ้นไปอีก 1 ขั้น
“ตอนนี้ทั้งกายาเพชร และเหยียมย่ำข้ามนภาก็ถึงระดับสูงสุดหมดแล้ว เราคงต้องหาวิชาอื่นที่ดีกว่านี้มาเรียนรู้แล้วล่ะ”
ด้วยความเร็วในการฝึกวิชาแบบ 1024 เท่า ทำให้วิชาทั้งหมดที่ซู่เสี่ยวไป่มีบรรลุอยู่ในขั้นสูงสุดเกือบหมด
มีเพียงวิชาวิถึควบคุมมิติที่ยังอยู่ในขั้นฝึกหัด แต่ร่างเงาของเขาก็กำลังฝึกอย่างต่อเนื่องและไม่พัก คงอีกไม่นานก็จะบรรลุขั้นพื้นฐานได้แล้ว
เมื่อถึงตอนนั้นร่างเงาทั้งสามร่างที่ฝึกวิชาจะไม่มีวิชาอะไรฝึกอีก ทำให้ซู่เสี่ยวไป่รู้สึกเสียดายที่จะปล่อยให้มันอยู่เฉยๆ
ถ้าเอาวิชาระดับละเอียดอ่อนมาฝึกเพิ่มอีกมันก็ไม่เพิ่มค่าความแข็งแกร่งได้ไม่เท่าไร ทำให้ซู่เสี่ยวไป่ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากหาวิชาที่ระดับสูงกว่าระดับละเอียดอ่อนมาฝึก!!!