ตอนที่ 441 : การรวยมันวิเศษขนาดนั้นเลยหรอ?
ตอนที่ 441 : การรวยมันวิเศษขนาดนั้นเลยหรอ?
“เป็นอะไรไป ไม่มีทาง?”
เจียงเฉินยิ้ม
เจ้าโง่จูที่อยู่ด้านข้างก็อดไม่ได้ พี่เฉินเป็นใครกัน?
พี่เฉินเป็นไอดอลของฉัน!
ใครกล้ายั่วพี่เฉิน ไม่ว่าแกเป็นใครก็ต้องโดนดี!
เจ้าโง่จูคำรามออกมา “เจ้าหนู นายคิดว่าตัวเองมีเงินเท่าไหร่กันเชียว มันน่าอัศจรรย์ขนาดนั้นเลยหรอ พี่เฉินของพวกเรายอดเยี่ยมกว่านายเยอะ! ในเมื่อนายกล้ายั่วโมโหเขางั้นฉันก็ขอบอกไว้เลยว่าความแข็งแกร่งของพี่เฉินไม่ได้เล็กน้อยอย่างที่นายคิดแน่นอน~~”
ไต้จุนและกลุ่มนักศึกษาที่เป็นคนใหญ่คนโตในมหาลัยพากันหัวเราะคิกคัก
"ฮ่าฮ่า~~ ฟังสิ เขาพูดว่าอะไรนะ"
“เป็นแค่ยามรักษาความปลอดภัยแต่ปากดีจริงๆ”
“หึหึ ในมหาลัยแห่งนี้มันยังยากเลยที่จะหาศิษย์เก่าที่จบไปทำงานแล้วได้เงินเดือนต่ำกว่าหนึ่งล้านต่อปี ส่วนพวกยามรักษาความปลอดภัยอย่างพวกนายมีบ้านมีรถยนต์กันรึยัง”
......
ในเวลานี้หยางยี่ยี่ก็มาที่หอพักของเธอเพื่อเก็บของและเธอก็ได้ยินเพื่อนร่วมชั้นพูดว่า "หือ พวกเธอได้ยินไหม ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นที่จัตุรัสนะ ดูเหมือนจะมียามรักษาความปลอดภัยรายถูกล้อมไปด้วยกลุ่มคนใหญ่คนโตในมหาลัยนะส่วนสาเหตุก็คงจะเพราะเขาหล่อเกินไป. "
"อะไรนะ?"
หยางยี่ยี่รีบออกไป
น่าเกลียด!
ไอ้ไต้จุนอีกแล้วแน่ๆ!
มันกล้าพาความลำบากมาให้พี่เฉิน
......
เจียงเฉินมองไปที่ไต้จุนผู้หยิ่งผยองและส่ายหัว "เด็กน้อย!"
ไต้จุน "???"
"คนสุดท้ายที่กล้าเย่อหยิ่งต่อหน้าฉัน ตอนนี้หญ้าบนหลุมศพสูงสิบฟุตแล้ว"
เจียงเฉินยิ้มอย่างสงบแต่ในความสงบกลับไม่มีความโกรธและความเย่อหยิ่งในตัวเองและเขานั้นก็ไม่ได้กลัวคนใหญ่คนโตพวกนี้แม้แต่น้อย
นี่แหละคือบรรยากาศของผู้ที่เหนือกว่า!
แม้ว่าเจียงเฉินจะเป็นยามรักษาความปลอดภัย แต่มันก็เป็นงานที่ทำให้เขาร่ำรวยในชั่วข้ามคืน!
การที่เขาทำตัวต่ำนั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมโดนคนอื่นตบหน้าและเยาะเย้ยใส่!
(เจียงเฉินทำอะไรไม่ถูก : เมื่อไหร่ที่ระบบห่วยๆ นี่จะให้ฉันได้ไปมีประสบการณ์แบบประธานบริษัทบ้างนะ?)
“เมืองหลวงที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้มีมักจะพูดถึงความเท่าเทียมและเสรีภาพ”
เจียงเฉินมองไปรอบๆ “แต่ในความเป็นจริง พวกนายเคยเคาระความเสมอภาคและเสรีภาพของคนอื่นบ้างไหมหรือว่าพวกนายถือว่าตัวเองเหนือกว่าก็เลยสามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างตามใจชอบ......”
การพูดของเจียงเฉินทำให้คนจำนวนมากตกตะลึง
เจียงเฉินพูดออกมาอย่างเฉยเมย “เคยมีคนคำควณมาแล้วว่ามหาวิทยาลัยปักกิ่งแห่งนี้ต้องการเงินทุนจากประเทศกว่าหนึ่งหมื่นล้านหยวนทุกๆปี แต่ท้ายที่สุดแล้วกลับมีคนน้อยกว่าครึ่งที่จบจากที่นี่แล้วตัดสินใจทำงานในประเทศเพื่อรับใช้ประเทศ! บางคนต้องการไปต่างประเทศเพื่อพัฒนาตัวเองแต่บางคนที่ได้ไปกลับหันมาดูหมิ่นคนที่อยู่ข้างหลัง พวกเราที่เป็น รปภ พวกเราใช้แรงงานทำงานกันอย่างจริงจัง หาเงินมาประทังชีวิตด้วยน้ำมือของตัวเองแล้วพวกนายมีสิทธิอะไรมาดูถูกพวกเรา?!”
แม้ว่าเสียงของเจียงเฉินจะไม่ได้ดังแต่ทุกคำที่เขาพูดออกมาล้วนสมเหตุสมผล!
และในเวลานี้ก็มีนักศึกษาจำนวนมากหันกลับมาประณามไต้จุน
“ใช่แล้ว แล้วมันทำไม? ทำไมนายต้องกลั่นแกล้ง รปภ ด้วย!”
“ใช้แล้ว รปภ คนนี้พูดถูก!”
“นั่นคือเสรีภาพและความเสมอภาค ถ้าพวกเรายังเลือกปฏิบัติกับคนรอบตัวแล้วความเท่าเทียมที่แท้จริงมันคืออะไร?”
“เขาพูดถูก!”
มหาวิทยาลัยปักกิ่งแห่งนี้มีค่าควรแก่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ แม้ว่าก่อนหน้านี้เจียงเฉินจะถูกต่อว่า แต่หลังจากนั้นก็มีนักศึกษาจำนวนมากที่คิดไตร่ตรองจนตระหนักสิ่งที่ควรจะเป็นได้
เจียงเฉินพูดต่อว่า "พวกคุณทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีความรู้และได้รับการยอมรับจากจากมหาวิทยาลัยเพื่อให้พัฒนาตัวเอง และมันก็จริงที่ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับความสามารถของพวกคุณ! แต่! ประเทศนี้ก็ได้ให้โอกาสที่ดีแก่พวกคุณทุกคน ทรัพยากรของทั้งประเทศนั้นได้ถูกนำมาลงทุนกับพวกคุณ! พวกคุณได้ครอบครองทรัพยากรทางการศึกษาที่ดีและมีโอกาสได้รับเงินจากผู้เสียภาษีและแรงงานทั่วประเทศดังนั้นพวกคุณก็ควรที่จะถ่อมตนและเรียนอย่างหนักเพื่อตอบแทนสังคมและประเทศนี้ ไม่ใช่เอาแต่คิดว่าตนเองอยู่เหนือผู้อื่น รังแกผู้อื่นและกดขี่ข่มเหงคนธรรมดาสามัญ!"
“และถ้ายังมีบุคคลแบบนี้ปรากฏตัวอยู่ในมหาวิทยาลัยปักกิ่งมันก็คงเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับมหาวิทยาลัยปักกิ่ง! ที่ชื่อเสียงนับร้อยๆปีของมันกำลังจะขุ่นมัว”
เจียงเฉินพูดเสียงดัง "ถ้าพวกคุณต้องการสวมมงกุฎพวกคุณก็ต้องรับน้ำหนักมันให้ได้ก่อน! พวกคุณเป็นนักศึกษาวิทยาลัยชั้นนำ! พวกคุณควรเป็นคนที่มีคุณภาพสูงสุด! ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยปักกิ่งเป็นความรับผิดชอบอันดับแรกของพวกคุณและมันก็ไม่ได้มีไว้เพื่อให้พวกคุณโอ้อวดและเสแสร้ง!”
เมื่อเจียงเฉินพูดจบ
นักศึกษาของมหาลัยปักกิ่งก็ตกตะลึง
สาวๆทุกคนปรบมือและกรี๊ดออกมา
"เยี่ยมไปเลย!"
“ทำไมตาของฉันเปียก”
“โอ้ พระเจ้า ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่า รปภ. คนนี้จะมีความสามารถขนาดนี้! แถมยังหล่อมากด้วย!!”
แม้แต่นักศึกษาชายก็ยังต้องยอมรับว่าสิ่งที่เจียงเฉินพูดนั้นสมเหตุสมผล
ไต้จุนเหงื่อออกที่หน้าผาก
ให้ตายเถอะ
ฉันคิดไม่ถึงเลยว่า รปภ. คนนี้จะพูดจาฉะฉานขนาดนี้
เขาพูดออกมาเพียงแค่ครั้งเดียวเขาก็สามารถเปิดโปงได้ทันทีว่าฉันเป็นพวกเห็นแก่ตัว!
“นาย นาย~~”
เขานั้นอยากจะด่าเจียงเฉินอีกครั้งแต่น่าเสียดายที่ตอนนี้คนรอบข้างพากันมองเขาต่างออกไปจากเดิมแล้ว....
ดังนั้นไต่จุนจึงยังไม่กล้าต่อว่าเจียงเฉินในตอนนี้
เพราะถ้าเขาต่อว่าออกไปเขาจะไม่ถูกตั้งฉายาว่า “จอมอีโก้” ของมหาลัยตั้งแต่วันแรกเลยหรอ? แล้วเขาจะใช้ชีวิตมหาลัยต่อไปยังไง?
แถมเขายังต้องการที่จะเป็นประธานสภานักศึกษาอยู่ด้วย
ในเวลานี้เอง~~
ไต่เว่ยก็ปรากฏตัว!
เขานั้นมีความคิดที่ซับซ้อนกว่าไต้จุน
เขาจ้องไปที่ไต้จุนอย่างดุเดือดและแสร้งทำเป็นเดินไปอยู่ต่อหน้าเจียงเฉินแล้วยิ้มออกมา “น้องชายคนนี้นายพูดถูก! สิ่งที่ไต้จุนพูดในตอนนี้เขาไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ดังนั้นอย่าเข้าใจผิดนะ”
เขาแกล้งแสดงออกมาและพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นทางการว่า "แล้วนายล่ะในฐานะที่เป็น รปภ. นายก็น่าจะมีความรู้บ้างใช่ไหม"
ไต้เว่ยนั้นเป็นสุนัขจิ้งจอกเฒ่ามานานเขานั้นไม่เหมือนกับไต้จุน!
ท้ายที่สุดแล้วเจียงเฉินนั้นก็มาพร้อมกับรถ Phaeton W12!
รถหรูราคา 2.4 ล้าน!
รปภ. ธรรมดาๆที่ไหนจะไปจ่ายได้?
ดังนั้นเมื่อไต้เว่ยสังเกตุเห็นจุดนี้เขาจึงต้องรีบออกมาทันทีเพื่อที่จะช่วยลูกชายจัดการกับเจียงเฉิน
ไต้เว่ยรู้ดีว่าคนรวยหลายคนในสังคมสมัยนี้มักจะชอบแกล้งทำเป็นหมูกินเสือกัน
ถ้าให้เดา รปภ.คนนี้น่าจะไม่ใช่คนจนและไม่ได้ถูกบังคับให้เป็น รปภ. เพราะทำมาหากิน!
ไต้เว่ยปรากฏตัวขึ้นเพื่อช่วยชีวิตลูกชายของเขาและทำให้เจียงเฉินตกใจ
ให้เจียงเฉินรู้ว่าแม้ว่าลูกชายของฉันจะต่อว่าคุณ แต่คุณก็ไม่สามารถต้านทานได้!
เพราะพ่อของเขาคือฉันคนนี้!
ไต้เว่ย!
ไต้เว่ยยิ้มออกมาและหยิบนามบัตรออกของเขาออกมามาแล้วยื่นให้เจียงเฉิน
“น้องชายเรามาผูกมิตรกันดีกว่า นี่คือนามบัตรของฉัน นายพอจะมีเวลาหน่อยไหม”
อันที่จริงสิ่งที่เรียกว่าการผูกมิตรของเขานั้นเป็นเรื่องปลอมทั้งหมดเขาจงใจมอบนามบัตรให้เจียงเฉินเพื่อให้เจียงเฉินรู้ว่าเขามีตำแหน่งมากมายและสถานะที่สูงส่งนั่นแหละคือจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขา!
"ประธาน/ประธานกรรมการบริหาร บริษัทก่อสร้างกวงเฉิงนิวทาวน์"
"บริษัทที่ติด 500 อันดับแรกของจีน!"
แถมยังเป็นประธานบริษัทด้วย!
เจียงเฉิน: "..."
กระจอก!
ไต้เว่ย →_→!
ภูมิใจ!
หึหึ รปภ.ตัวน้อย แม้ว่าครอบครัวนายจะมีเงินแต่แล้วยังไงล่ะ?
รวยแล้วจะเปรียบอำนาจกับฉันได้อย่างไร?
ฉันเป็นประธานของบริษัทที่ติดอันดับ 500 อันดับแรกของจีน!
ฉันรวยมาก!
ฉันสามารถฆ่านายได้ถ้าฉันต้องการ
ไต้จุนมองไปที่พ่อของเขาด้วยความชื่นชม "พ่อสุดยอดมาก!"
ภรรยาของไต้เว่ยยิ้มเยาะและชำเลืองมองลูกชายแล้วพูดด้วยน้ำเสียงหยิ่งยโส “ลูกเอ๋ยรู้ไหมว่า สมัยก่อนพ่อของลูกเป็นหนึ่งในคนที่โอ้อวดได้เก่งที่สุดเลยนะ! ในสมัยนั้นไม่มีใครกล้ามาโอ้อวดต่อหน้าเขาเลย”
ไต้เว่ยลดเสียงลงและพูดกับเจียงเฉินว่า “น้องชาย ลูกชายของฉันชอบเด็กผู้หญิงคนนั้นมากคนที่ชื่อว่าหยางยี่ยี่ นายคงจะไม่ว่าอะไรใช่ไหมถ้าจะให้ลูกชายของฉันไล่ตามหยางยี่ยี่?”
เจียงเฉินเยาะเย้ย!
จะว่าอะไรไหมหรอ?
ไล่ตามหยางยี่ยี่?
คุณกำลังล้อเล่นอยู่หรอ
เจียงเฉินยังไม่ทันได้พูด
ในเวลานี้~~
อธิการบดีของมหาลัยปักกิ่งก็กำลังต้อนรับกลุ่มศิษย์เก่า EMBA!
(EMBA (Executive MBA)เป็นวุฒิการศึกษาที่สูงกว่าปริญญาตรีทางด้านธุรกิจ ที่ออกแบบมาเพื่อมืออาชีพที่มีประสบการณ์การทำงานเป็นหลัก หลักสูตร EMBA ให้นักศึกษามีความรู้และทักษะเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ ซึ่งมักจะเป็นผู้มีตำแหน่งผู้บริหารหรือผู้จัดการในองค์กร หลักสูตร EMBA ส่วนใหญ่แล้วใช้เวลาเพื่อสำเร็จการศึกษาน้อยกว่า 2 ปี)
ปรากฎว่า~~
วันนี้ไม่ใช่แค่วันเปิดเทอมของนักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัยปักกิ่งเท่านั้นแต่ยังเป็นวันเปิดเทอมของหลักสูตร EMBA ด้วย!
น้องใหม่ของหลักสูตร EMBA ก็มาถึงแล้ว!
แต่!
สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี อธิการบดีของมหาวิทยาลัยปักกิ่งนั้นไม่ได้จำเป็นที่จะต้องไปทักทายพวกเขา แต่สำหรับนักศึกษา EMBA เขาจะต้องไปทักทายพวกเขาเป็นการส่วนตัว!
นั่นก็เพราะสถานะที่แตกต่างกัน
หลักสูตร EMBA ของที่นี่ไม่ใช่หลักสูตร MBA ธรรมดาๆแต่มันเป้นหลักสูตรสำหรับคนดังโดยเฉพาะ!
หลักสูตร MBA ปกติแล้วก็จะสามารถหาได้ทั่วไป
แต่!
หลักสูตร EMBA ทรงพลังกว่ามาก MBA มากโดยเฉพาะกับหลักสูตร EMBA ของมหาวิทยาลัยที่เรียกได้ว่าเป็นที่สำหรับรวมตัวของคนใหญ่คนโต!
เพราะแค่ค่าเรียนอย่างเดียวก็สูงถึง 1 ล้านหยวนแล้ว!
ไม่มีการลดราคาอย่างเด็ดขาด!
ปีละ 1 ล้านหยวน!
ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าคุณจะมีเงิน แต่ก็ใช่ว่าจะเข้ามาเรียนได้
การสอบนั้นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นเพราะมันจะมีทั้งการสอบข้อเขียนและการสัมภาษณ์และมีอุปสรรคมากมายให้คุณได้ผ่าน
และที่สำคัญหลักสูตร EMBA ของมหาวิทยาลัยปักกิ่งนั้นจะต้องผ่านการสอบวัดคุณภาพอย่างเข้มงวด!
ประกาศการรับสมัครกำหนดให้นักศึกษา EMBA ของมหาวิทยาลัยปักกิ่งจะต้องเป็นผู้บริหารระดับกลางหรือสูงของบริษัทที่ติดอันดับ 500 อันดับแรกของโลกหรือของจีนหรือเป็นผู้จัดการระดับกลางหรือสูงของบริษัทขนาดใหญ่หรือวิสาหกิจขนาดกลางที่มีสาขา 100 แห่งจึงจะสามารถสมัครได้!
จะให้พูดก็คือผู้ที่สามารถเข้าศึกษาใน EMBA ของมหาลัยปักกิ่งได้นั้นใม่ใช่แค่ต้องรวยอย่างเดียว!
นักเรียนเหล่านี้หากไม่ได้เป็นประธานก็เป็นซีอีโอ ผู้จัดการแผนกใหญ่หรือผู้อำนวยการกันทั้งนั้น
คุณต้องมีสถานะทางสังคมสูงและได้รับการยอมรับทางสังคมจึงจะได้รับการยอมรับให้เรียนหลักสูตรนี้!
เทอมหนึ่งจะเปิดรับเพียงครั้งเดียวและจะรับสมัครเพียง 30 คนเท่านั้น!
พูดได้เลยว่าถ้าไม่ใช่คนใหญ่คนโตก็อย่าคิดที่จะเข้าไปเลย
เพราะมีแต่คนใหญ่คนโตเท่านั้นที่ผ่านเข้าไปได้
นักศึกษาของมหาวิทยาลัยปักกิ่งต่างเฝ้ามองด้วยความชื่นชมขณะที่คนใหญ่คนโตเหล่านี้เดินผ่านไปพร้อมกับพูดคุยและหัวเราะกัน
ใช่แล้ว แม้แต่นักเรียนที่หยิ่งทะนงก็ทำได้เพียงมองหาคนใหญ่คนโตเหล่านี้ที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการศึกษาถึง 1 ล้านหยวนต่อปี!
“ว้าว อธิการบดีไปทักทายพวกเขาเป็นการส่วนตัวด้วยต้องให้ความสำคัญขนาดนั้นเลยหรอ?”
“แน่นอนสิ ก็พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นศิษย์เก่าดีเด่นกันทั้งนั้นเลยนะ!”
“กลุ่มคนใหญ่คนโตกลุ่มนี้ ไม่รู้ว่าพวกเขายังขาดคนเกาะต้นขาหรือเปล่า แล้วพวกเขายังขาดเลขาอยู่ไหม”
ไต้เว่ยหันไปมองและทันใดนั้นดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น
เดี๋ยวนะ?
มีคนที่ฉันรู้จัก
เขารีบคว้ามือของจี้จิงหลงซีอีโอของไป่เฉิงจี่ถวนกรุ๊ป "คุณจี่! เป็นคุณจริงๆเหรอ?!"
จี่จิงหลงตกตะลึงก่อนจะจำไต้เว่ยได้ “โอ้ คุณไต้ สวัสดีครับ คุณมาที่นี่ทำไมหรอ?”
ไต้เว่ยภูมิใจและชี้ไปที่ลูกชายของเขา "ลูกชายของผมกำลังจะมาเข้าเรียนที่วิทยาลัยปักกิ่งและผมก็มาส่งเขาเข้ามหาลัย"
จี่จิงหลงพูดชม “เยี่ยมไปเลนย ลูกไม้ตกไม่ไกลต้นจริงๆนะครับ”
ไต้จุนรู้สึกราวกับตัวเองเป็นผู้ชนะเขาเหลือบมองไปที่เจียงเฉินและเดินเข้าไปหาจี่จิงหลง "ลุงจี่! ลุงเป็นศิษย์เก่าของที่นี่ผมคงต้องขอคำแนะนำเพิ่มเติมกับลุงหลังจากนี้ด้วยนะครับ"
เขาเริ่มแสดงเส้นสายของพ่อตัวเอง
แต่ใครจะรู้~~
จี่จิงหลงมองตามและเขาก็เห็น~~
ร่างที่คุ้นเคย!
เขาเช็ดตาอย่างหนัก!
ใช่แล้ว!
“ประธานเจียง!”
จี่จินหลงตะโกนออกมาเสียงดัง
เสียงดังมากจนทั้งอธิการบดีของมหาวิทยาลัยปักกิ่งและนักศึกษา EMBA พากันหันกลับมามอง
"อะไรกัน?"
นักศึกษา EMBA หลายพากันพูดออกมาพร้อมๆกัน
เจียงเฉินยิ้มอย่างขมขื่นและกางมือออก
ให้ตายเถอะ!
ฉันต้องการปกปิดตัวตนของฉัน ทำไมนายถึงเปิดเผยตัวตนของฉันให้ทุกคนรู้?
งาน รปภ.คงทำต่อไปไม่ได้อีกแล้ว! !