วันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0023
บทที่ 9 หมาล่าเนื้อซอจีอา (2)
* * *
“…”
ซอจีอาอึ้งไปสักพัก เนื่องจากคังซอนฮูตอบสนองน้อยกว่าที่คิดไว้
รูปลักษณ์ของซอจีอาค่อนข้างพิเศษ ดูไม่เหมือนกับชาวเกาหลีหรือชาวโลก อาจจะด้วยเหตุดังกล่าว จึงแทบไม่มีใครที่เห็นเธอครั้งแรกแล้วยังนิ่งได้ขนาดนี้
เป็นธรรมดาที่ซอจีอาจะสับสน
“ส…สวัสดี”
“มาว่าจ้างหรือ?”
‘อึก…’
คังซอนฮูเข้าประเด็นทันทีโดยไม่ชวนคุยสัพเพเหระ
ไม่ใช่ ‘แกล้งไม่สนใจ’ แต่ท่าทีดูราวกับไม่แยแสจริงๆ
ซอจีอายังไม่ยอมแพ้
“ไม่ได้มาจ้าง แค่ฉันได้ยินว่านายเปิดสำนักงานแถวนี้ ก็เลยแวะมาหา”
“งั้นหรือ… เฮ้! ชาโซฮี!”
“มีอะไร?”
“เธอมาคุยกับผู้หญิงคนนี้แทนหน่อย ฉันมีธุระต้องไปทำ คุยเสร็จแล้วก็ทำความสะอาดเหมือนอย่างเคย ที่เหลือฉันกลับมาจัดการเอง”
“อ้อ? ได้สิ”
คังซอนฮูเดินผ่านซอจีอาผู้ฉาบยิ้มทั่วใบหน้า ก่อนจะตรงเข้าไปในเบสแคมป์
‘…ไม่ยอมแพ้หรอกนะ’
ด้วยเหตุผลบางประการ ซอจีอารู้สึกระคายเคืองศักดิ์ศรีอย่างรุนแรง
* * *
มีบางครั้งที่ชีวิตต้องพึ่งพาเซนส์ หรือระบุให้ชัดคือลางสังหรณ์
และลางสังหรณ์ของฉันกำลังบอกว่า ‘จงระวังผู้หญิงแปลกหน้าที่ยิ้มทักทาย’
อันที่จริง นั่นเป็นแค่มุก ฉันแค่รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีกับผู้หญิงที่ชื่อซอจีอา แถมเธอยังมีพฤติกรรมแปลกๆ
สรุปก็คือ ฉันไม่อยากเข้าไปพัวพันกับเธอเพราะยังมีงานต้องทำอีกมาก
— ต้องเตรียมอุปกรณ์ให้เรียบร้อย
วิถีชีวิตแบบนี้ไม่แย่ก็จริง แต่ฉันจะหมกตัวข้างเบสแคมป์ไปตลอดไม่ได้ ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางไกลเพื่อออกสำรวจเต็มรูปแบบ
และอาวุธคือสิ่งจำเป็น
ฉันจินตนาการถึงอุปกรณ์ที่สร้างจากชิ้นส่วนปรสิต
แจ็กเกตยาวที่ทำจากเปลือกดักแด้ มีดที่ทำจากแขนใบมีด และผ้าคลุมที่ถักทอจากเส้นด้ายรังไหม
แจ็กเกตและผ้าคลุมไม่ใช่ปัญหา แค่ฝากให้คนที่พอจะมีฝีมือจัดการ
ประเด็นอยู่ที่การสร้างมีดจากกรงเล็บ
“ดีบุกผสานสินะ”
ลิลี่ระบุว่านั่นคือวัสดุสำคัญ
โชคดีที่ไม่ใช่แร่หายากอะไร สามารถพบได้ในสายแร่ทุกชนิด
อย่างไรก็ดี ปัญหาคือเหมืองแห่งเดียวในละแวกเบสแคมป์ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก และปัจจุบันต้องปิดตัวลง
ไม่สิ นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา
เพราะฉันจะไปรวบรวมวัตถุดิบด้วยตัวเอง แค่รู้ว่าแถวนั้นเป็นแหล่งกบดานของเมดูซ่าก็พอแล้ว
ฉันแวะสำนักงานจัดการหมู่บ้าน รับบัตรคิว กรอกแบบฟอร์มล่วงหน้า และเดินไปนั่งริมหน้าต่างเพื่อรอให้ถูกเรียกตัว
รู้สึกเหมือนมาทำบัตรประชาชนที่สำนักงานเขต
พนักงานต้อนรับที่แต่งกายในชุดโบราณกล่าวทักทาย
“ยินดีต้อนรับครับ ให้ผมช่วยอะไรดี?”
“ผมมาขอใบอนุญาตออกสำรวจ”
“อา… คุณคังซอนฮูสินะครับ… กรอกแบบฟอร์มเรียบร้อยหรือยัง”
ฉันส่งแบบฟอร์มให้พนักงาน สีหน้าของเขาค่อยๆ ดำมืดขณะอ่าน
“…สำรวจทางตะวันตก? เขียนผิดหรือเปล่าครับ?”
“แถวนั้นมีเหมืองนี่”
“ใช่ครับ มีเหมืองอยู่หนึ่งแห่ง… แต่ตอนนี้ปิดทำการไปแล้ว”
หงึก
“ผมจะไปสำรวจแถวนั้น”
“…แต่ทางตะวันออกมีอัตราการสูญหายสูงมาก”
“ออกใบอนุญาตให้ไม่ได้?”
สำหรับฉัน ประเด็นนี้สำคัญที่สุด และเตรียมใจไว้แล้วว่าอาจไม่ได้รับอนุญาต
พนักงานดึงเก้าอี้ไปข้างหลังเล็กน้อย สะกิดเพื่อนร่วมงานที่นั่งติดกัน
“รุ่นพี่ครับ เขาขอใบอนุญาตสำรวจเหมืองทางตะวันตก”
“หา? ตะวันตก?”
คุยกันสักพัก พนักงานกลับมานั่งในท่าเดิม
“ก็เป็นไปได้ครับ แต่ว่า… คุณจะสำรวจนานแค่ไหน? ทางเราออกใบอนุญาตได้ไม่เกินสามวัน…”
“วันเดียวก็พอ ผมจะกลับมาช่วงเย็น”
“อา… วันเดียวนะครับ”
สามวันนานเกินไป
ฉันจะรีบกลับมาก่อนพระอาทิตย์ตก และเริ่มลงมือสร้างทันที
* * *
ซอจีอาปีนขึ้นต้นไม้เพื่อแอบสอดส่องสำนักงานของคังซอนฮู
วัดจากมาตรฐานของมนุษย์ ค่าสายตาของเธอสูงกว่า 6.0 จึงมองเห็นความเคลื่อนไหวภายในกระท่อมได้ชัดเจน
‘กำลังจะไปทางตะวันตก?’
เธอเห็นเต็มสองตาว่าคังซอนฮูกำลังจัดกระเป๋าเป้ ในนั้นมีขวานคริสตัลและมีดล่าสัตว์แบบพิเศษที่เธอไม่รู้จัก
‘แค่นี้?’
เป็นการเตรียมตัวที่น้อยอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่มีเสบียง ไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยน
‘ทำไมถึงพกไปแค่นี้’
แม้จะรู้ว่าไม่มีทางได้คำตอบ แต่เธอก็หยุดถามไม่ได้
ไม่รู้หรือไงว่าทางตะวันตกมีสัตว์ประหลาดที่เปลี่ยนให้มนุษย์กลายเป็นโลหะ?
ก็เห็นด้วยตาตัวเองแล้วไม่ใช่หรือ? พาธไฟน์เดอร์ที่ตกเป็นเหยื่อคนนั้น
แล้วทำไมถึงจัดข้าวของเหมือนจะไปเดินเล่นแถวบ้าน?
ซอจีอานึกถึงคำพูดลูกน้องที่ว่า ‘คังซอนฮูไม่ธรรมดา’
เธอเริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไมหลายฝ่ายถึงให้ความสนใจคังซอนฮูนัก
“เรื่องราวจะต่างออกไปถ้าเขาเป็นของจริง”
เมื่อประตูมิติเปิดออกและเธอมีลูกน้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซอจีอาก็แทบไม่ต้องลงมือเอง
แต่บัดนี้ เธอเล็งเห็นจังหวะที่ตนควรออกโรง
ส่วนหนึ่งเพราะความอยากรู้อยากเห็นที่มีต่อคังซอนฮูกำลังพลุ่งพล่าน
คังซอนฮูออกจากกระท่อม มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก ซอจีอาแอบตามหลังโดยรักษาระยะห่าง
ถัดมาราวสามชั่วโมง ซอจีอาเริ่มพบความผิดปรกติ
“…ไม่เหนื่อยบ้างหรือ”
เมื่อเวลาผ่านไป ทิวทัศน์ของทิศตะวันตกค่อยๆ กลายเป็นทุ่งกรวด สุดขอบสายตามีภูเขาหินขนาดใหญ่และต้นไม้หย่อมเล็กๆ ที่หยั่งรากลงบนพื้นหิน ใกล้กันมีเหมืองร้าง
ประเด็นก็คือ ภูมิประเทศแถบนี้ทั้งชันและไม่เรียบ
แต่คังซอนฮูกลับไม่แสดงอาการเหน็ดเหนื่อย ปลายเท้าย่ำลงบนผิวหินแผ่วเบาราวกับแพะภูเขา เอาแต่พุ่งตรงไปข้างหน้าประหนึ่งมีพลังงานไม่สิ้นสุด
เพียงไม่นานก็มาถึงเหมืองร้าง
รอบๆ มีต้นไม้สูงตระหง่านที่ปักรากลงบนหิน จำนวนต้นไม้ไม่เพียงพอให้เรียกป่า ใช้คำว่าเป็นหย่อมๆ คงเหมาะสมกว่า
หญ้าสีแดงแซมขึ้นตามซอกกรวดและก้อนหิน
ทุ่งหญ้าสีแดงจาง
นั่นคือชื่อเล่นของที่นี่
สิ่งที่แปลกตาก็คือ ตามต้นไม้และหญ้ามีร่องรอยการปกคลุมด้วยโลหะ
คล้ายกับใครบางคนเทเหล็กละลายลงไปและปล่อยให้แข็งตัว
และต้นตอของโลหะก็อยู่ที่นี่ด้วย
“ฟ่อ…”
คังซอนฮูเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาด
สัตว์ประหลาดต่างโลกที่คังซอนฮูเรียกมันว่าเมดูซ่า
หางงูที่ยาวกว่าสองเมตรกำลังส่ายไปมา ร่างกายท่อนบนคล้ายกับมนุษย์ทั่วไป ค่อนไปทางอัปลักษณ์ ทุกส่วนปกคลุมด้วยเกล็ดงู แลบลิ้นยาวสองแฉก
ผมสีแดงยาวมีลักษณะแข็งคล้ายขนหมูป่า จากบรรดาสิ่งมีชีวิตในต่างโลกที่มนุษย์ค้นพบ เจ้านี่คู่ควรแก่การถูกเรียกว่าสัตว์ประหลาดมากที่สุด
“ฟ่อ!”
และไม่ใช่แค่ตัวเดียว
เมดูซ่าสามตัวกำลังจ้องคังซอนฮูพลางโยกร่างกายท่อนบนไปมา
คล้ายงูเห่าที่เตรียมจู่โจม
ซอจีอากลืนน้ำลายและรีบเปิดโหมดขยายเสียงรอบข้างของเฮดโฟน
แกร่ก—
เสียงที่ไม่น่าอภิรมย์ดังขึ้น ผิวหนังคังซอนฮูค่อยๆ มันวาว
เป็นเสียงขณะเหล็กกล้ากำลังแข็งตัว
คลื่นชนิดพิเศษจากดวงตาเมดูซ่าค่อยๆ ทำให้ร่างกายคังซอนฮูถูกปกคลุมด้วยโลหะ
เนื่องจากถูกเมดูซ่าสามตัวจ้องพร้อมกัน ความเร็วในการกลายเป็นเหล็กจึงสูงกว่าปรกติ
เพียงพริบตา คังซอนฮูกลายเป็นรูปปั้นเหล็กโดยสมบูรณ์
“ฟ่อ…”
เมดูซ่าตัวหนึ่งลากคังซอนฮูที่กลายเป็นโลหะกลับรัง
ปลายทางคือเหมืองร้าง ซึ่งในตอนนี้กลายเป็นรังของเมดูซ่า
“…”
ซอจีอาที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เผยสีหน้าสับสน
“จบแค่นี้…?”
คังซอนฮูเผชิญหน้ากับเมดูซ่าสามตัว ถูกทำให้เป็นรูปปั้น และถูกลากเข้าไปในรัง
จบแล้ว? จริงหรือ?
ไม่ว่าจะข่าวลือมากมายจากปากคนที่เคยเห็นคังซอนฮู การตามตื๊อของ OWIC และความอยากรู้อยากเห็นของเธอเอง
ทั้งหมดแหลกเป็นผุยผงในพริบตา
คังซอนฮูที่ออกสำรวจเหมืองร้างด้วยความมั่นใจ กลายเป็นรูปปั้นและถูกเมดูซ่าลากกลับรังโดยที่ยังไม่ทันได้แสดงฝีมือ
ซอจีอาหรี่ตาลงและมองไปยังปากทางเข้าเหมืองร้างที่เมดูซ่าเพิ่งเข้าไป
เนื่องจากเป็นคนรอบคอบ เธอเฝ้ามองจากจุดห่างไกลนานนับชั่วโมง
จากนั้นก็ตัดสินใจ ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว เธอไม่อยากกลับไปมือเปล่า
ตราบใดที่เหมืองแห่งนี้คือรังเมดูซ่า ซอจีอาคิดหาวิธีตักตวงผลประโยชน์ตามนิสัยของฮาวนด์
หลังจากเกร็งต้นขา ซอจีอาเคลื่อนที่ระหว่างต้นไม้อย่างคล่องแคล่ว
เพียงไม่นานก็มาถึงทางเข้า เธอลงจากต้นไม้ด้วยการไถล
“…แคบกว่าที่คิด”
คนทั่วไปต้องก้มศีรษะเล็กน้อยจึงจะเข้าไปได้แบบพอดีตัว เดาได้ไม่ยากว่าทางเข้าเดิมคงพังถล่มกลางคัน
ด้านในมีสัตว์ประหลาดกี่ตัว? ถ้ำใหญ่แค่ไหน?
ความเสี่ยงสูงเกินกว่าที่เธอจะผลีผลามเข้าไป
แม้จะมาไกลขนาดนี้ แต่เธอกลับไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือ
กลับดีไหม?
“…ไม่คุ้มเลยสักนิด ชิ!”
ซอจีอาสะบัดผมด้วยอาการหัวเสีย
เธอนึกว่าจะได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ หลังจากสถานการณ์ในต่างโลกทรงตัวมานาน
ยิ่งไปกว่านั้น ความบันเทิงในทำนองนี้มักจะมอบความสุขให้เธอ
แต่กลับไม่มีสิ่งใดน่าตื่นเต้น แค่มนุษย์คนหนึ่งเสียชีวิตในต่างโลกเพราะทำเรื่องโง่ๆ
เป็นเช่นนั้นเสมอมา และตลอดไป
ถึงเวลาต้องกลับแล้ว
ขณะกำลังเบือนหน้าออกจากเหมือง
ตุ้บ—
บางสิ่งถูกโยนออกจากเหมืองร้างและกลิ้งไปบนพื้น
“…?”
ซอจีอาหันไปมองตามสัญชาตญาณ
เพียงไม่นานก็พบว่าตนทำพลาดมหันต์
“ฟ่อ…”
หัวของเมดูซ่าที่ยังไม่ตาย
“กรี๊ดดดดด—!”
ซอจีอาเซถอยหลังจากอาการตกตะลึง
ใต้ผมหยักศกสีแดง ดวงตาชุ่มเลือดที่เปื้อนทรายกำลังจ้องมาทางซอจีอา
เมดูซ่ามิใช่สิ่งมีชีวิตที่จะตายเพียงเพราะถูกตัดคอ
กล่าวคือมัน ยังหลงเหลือพลังในการเปลี่ยนให้มนุษย์กลายเป็นรูปปั้น
“บัดซบ!”
คำหยาบถูกสบถโดยไม่รู้ตัว
แกร่กแกร่กแกร่ก!
ข้อเท้าของเธอถูกหุ้มด้วยโลหะจนมิอาจขยับเขยื้อน
ซอจีอาไม่มีทางเลือกนอกจากปล่อยให้ตัวเองถูกสายตาดังกล่าวจ้องมอง
“บ้าบอสิ้นดี…”
ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก เธอกลายเป็นรูปปั้นและล้มลง
ขณะเดียวกัน มือของใครบางคนโผล่ออกจากเหมืองร้าง
เจ้าของมือโน้มตัวลงต่ำพร้อมกับพูดว่า ‘ฮึ้บ’ และเดินออกมา
แขนซ้ายของชายหนุ่มยังคงหลงเหลือเปลือกโลหะ แต่ทุกครั้งที่ขยับตัวโลหะจะค่อยๆ ร่วงกราว
“ฮาวนด์มีแต่พวกน่าหงุดหงิดรึไง?”
คังซอนฮู
“ทำไมต้องตามฉันมาด้วย? หงุดหงิดชะมัด”
* * *
ลิลี่ผู้เฝ้ากระท่อมตามลำพัง ครุ่นคิดเกี่ยวกับหญิงสาวปริศนาที่แวะมายังกระท่อมขณะเธอกินมื้อเช้า
‘…หล่อนเป็นใครกันแน่’
ลิลี่ทราบทันทีว่ารอยยิ้มอีกฝ่ายเป็นเพียงหน้ากาก
โฉมวิญญาณของสตรีคนดังกล่าวเป็นภาพผู้หญิงหูยาว สวมฮู้ดสีดำ ในปากกำลังคาบดาบ
โฉมวิญญาณแบบนี้… หมายถึงอะไรกันแน่?
แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนก็คือ อุปนิสัยค่อนข้างดำมืด แตกต่างจากภายนอกที่สดใสร่าเริง
‘ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ชวนให้รู้สึกแย่’
ลิลี่นั่งครึ่งก้นบนเก้าอี้ พลางสั่นขาขณะใช้ความคิด
เธอมองว่าวันว่างๆ แบบนี้ก็ไม่เลวนัก ดีกว่าต้องกระเสือกกระสนเอาตัวรอดในธรรมชาติ
ขณะแหงนหน้ามองฟ้า ลิลี่สัมผัสถึงบางสิ่งและรีบหันหัว
เมื่อพบว่าคังซอนฮูกลับมา เธอยิ้มโดยไม่รู้ตัว
“เจ้าบังอาจหายตัวไปโดยไม่บอกกล่าว…”
รอยยิ้มอันสดใส เพียงไม่นานก็จางลง
คังซอนฮูสะพายกระเป๋าเป้ตามปรกติ
มือซ้ายถือถุงที่บรรจุวัตถุทรงกลมสามก้อน
มือขวาแบกรูปปั้นที่ดูคล้ายหญิงสาว
“…นั่นอะไร?”
คังซอนฮูหัวเราะในลำคอ
“ฉันหงุดหงิดน่ะ… ก็เลยจับมาสอบปากคำ”
เนื่องจากไม่เข้าใจความหมาย ลิลี่รีบรักษาระยะห่างกับอีกฝ่าย
______________________
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์
ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:
https://www.facebook.com/bjknovel/
หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel