681 - ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อเว่ย
681 - ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อเว่ย
ชายชราผู้บ้าคลั่งเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆโดยไม่พูดอะไร ที่ด้านหลังผู้บ่มเพาะมากมายยังคงตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่นี้
“ศาลสวรรค์ช่างน่ากลัวจริงๆ แม้แต่คนที่ถูกปกป้องโดยปราชญ์โบราณก็ยังกล้าที่จะลงมือ!”
“สถานการณ์ของพวกเขาเปลี่ยนไปแล้ว”สวรรค์“หายสาบสูญและเห็นได้ชัดว่าตอนนี้”นรก“เป็นผู้ปกครองสูงสุด และจากพฤติกรรมในอดีตของเขา คนๆนี้มีความบ้าคลั่งกล้าทำทุกอย่างที่คนทั่วไปไม่คิดที่จะทำ”
ดวงตาของเย่ฟ่านเย็นชา เมื่อตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มนักฆ่าจากมหาอำนาจโบราณนี้มันทำให้เขาเกิดความหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา ภัยคุกคามอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะทำลายลงได้!
“เจ้ารู้ไหมว่าวังโบราณของพวกเขาอยู่ที่ไหน” เย่ฟ่านถามสุนัขสีดำตัวใหญ่
“ไม่มีใครรู้ ทุกคนเพียงรู้ว่ามันเป็นวิหารโบราณที่สร้างด้วยหัวกะโหลกของยอดฝีมือระดับผู้สูงสุดขึ้นไป สถานที่แห่งนั้นถูกเรียกว่าหอคอยแห่งความตาย!” สุนัขสีดำตัวใหญ่ตัวสั่นเมื่อกล่าวคำนี้
“หากเจ้ารู้ก็บอกพวกเราออกมาดีๆ เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราจะได้รวบรวมยอดฝีมือทั้งหมดเพื่อทำลายปีศาจจากยุคดึกดำบรรพ์เหล่านี้ให้สิ้นซาก” หลี่เหอซุยกัดฟัน
“ไม่รู้ก็คือไม่รู้เจ้าจะเซ้าซี้เพื่ออะไร แล้วต่อให้พวกเจ้าสามารถรวบรวมยอดฝีมือได้เจ้าคิดจริงๆว่าจะทำลายพวกเขาได้หรือ?
ในยุคโบราณที่มีสิ่งมีชีวิตอมตะมากมายก็ยังล้มเหลวไม่สามารถสังหารพวกเขาทั้งหมดได้ ลำพังแค่ยอดฝีมือระดับผู้สูงสุดในปัจจุบันจะมีปัญญาทำอะไร” สุนัขสีดำตัวใหญ่ส่ายหัว
“นี่เป็นสัญญาณที่แย่มาก ศาลสวรรค์มาเพื่อฆ่าข้าแม้แต่ในปัจจุบันข้าก็ยังไม่รู้เลยว่าผู้จ้างวานพวกเขาคือใคร!” เย่ฟ่านนึกถึงปัญหาร้ายแรงนี้
การเดินทางสู่หน้าผาศักดิ์สิทธิ์จะต้องดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เขาต้องการได้รับมรดกอันไร้ที่ติของศาลสวรรค์และครอบครองทักษะระดับสูงสุดของนักฆ่า ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่สามารถปกป้องตัวเองได้
……
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงตั้งอยู่ในภูเขาลึก ดาวสีม่วงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลางท้องฟ้า
นี่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากเพราะดวงดาวดวงนี้ไม่เคยโคจรไปไหน และมันจะตั้งอยู่ด้านบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงตลอดกาล
“มันเป็นเพียงภาพธรรมไม่ใช่ดวงดาวจริงๆ!” สุนัขสีดำตัวใหญ่กล่าว
“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงลึกลับสมกับเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์” เย่ฟ่านพูดกับตัวเองและเฝ้าดูอย่างตั้งใจ
ข้างหน้าภูเขาไม่มีที่สิ้นสุดนับหมื่นลูกมาบรรจบกันในสถานที่แห่งนี้พลังงานสีม่วงที่กระจัดกระจายขึ้นสู่ท้องฟ้างดงามราวกับมังกรตัวใหญ่
“การที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงสามารถเบียดเข้าสู่ตำแหน่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้พวกเขาย่อมมีของวิเศษที่ทรงคุณค่าอย่างเช่นกัน” หลี่เหอซุยกล่าว
“มันคืออะไร” เย่ฟ่านประหลาดใจ
สุนัขสีดำตัวใหญ่ดูงุนงง ครุ่นคิดหนัก และดูเหมือนจะจำอะไรบางอย่างได้
“ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกันจริงๆ ดินแดนแห่งนี้เคยได้รับมรดกตกทอดจากจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่บางคน เจ้ามองดูประตูสีม่วงขนาดใหญ่นั่นสิ นั่นคือประตูที่ทำมาจากหินอุกกาบาตซึ่งเป็นผลงานของจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่คนนั้น”
"พวกเจ้าเป็นใคร?"
หลังจากคนเฝ้าประตูพบเห็นพวกเย่ฟ่านและคนอื่นๆ สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาชายชราที่อยู่กับร่างเซียนเพิ่งสังหารผู้อาวุโสใหญ่ของพวกเขา เรื่องนี้ลูกศิษย์ของนิกายจื่อเว่ยต่างทราบดีทุกคน
ในเวลานี้ เมื่อคนกลุ่มนี้มาปรากฏตัวที่ประตูของพวกเขา ผู้ใดจะสามารถสงบสติอารมณ์ลงได้
หลังจากนั้นไม่นานปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์จื่อเว่ยก็ทราบข่าว เขาอุทานด้วยความตกใจและยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความลังเลโดยไม่รู้จะทำเช่นไร
ตัวตนที่เทียบได้กับปราชญ์โบราณมาถึงแล้ว เขามาที่นี่เพื่อทำลายดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อเว่ยหรือไม่ ไม่มีใครสามารถรับประกันเรื่องนี้ได้?
หากเป็นเช่นนั้นจริงเขาคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขอความช่วยเหลือจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะมีใครยินดีช่วยพวกเขาหรือเปล่า?
“นี่…” ผู้อาวุโสของดินแดนศักสิทธิ์คฤหาสน์ทั้งหลายของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อเว่ยใบหน้าซีดขาวไม่มีผู้ใดเอ่ยวาจาได้
“ผู้เยาว์เย่ฟ่านมากราบพบปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงด้วยความจริงใจ!” เย่ฟ่านกล่าวกับผู้พิทักษ์ประตูด้วยรอยยิ้ม
ผู้พิทักษ์ประตูเหล่านั้นใบหน้าซีดขาวและไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดี
“ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ขอเชิญสหายน้อยเย่ฟ่านและผู้ติดตามเข้ามาด้านใน!”
เสียงของผู้อาวุโสดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อเว่ยถ่ายทอดออกมาจากส่วนลึกของขุนเขา ในเมื่อเย่ฟ่านมาถึงที่นี่แล้วพวกเขาก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอ้าแขนต้อนรับ
สำหรับคนรุ่นหลังของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อเว่ยพวกเขาไม่กล้าที่จะปรากฏตัวออกมา ไม่มีใครรู้ว่าเย่ฟ่านจะแสดงความบ้าคลั่งออกมาตอนไหน ต่อให้ชายชราคนนั้นไม่ลงมือพวกเขาก็ไม่มีโอกาสที่จะต่อต้านเย่ฟ่านได้
ชายชราผู้บ้าคลั่งไม่พูดอะไร ดวงตาที่ว่างเปล่าของเขาจ้องมองไปที่ดวงดาวเหนือดินแดนโบราณราวกับว่าเขากำลังคิดอะไรบางอย่าง
“ขออภัยผู้อาวุโสที่ผู้เยาว์มารบกวนการฝึกฝนของท่าน”
เย่ฟ่านทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายโดยอธิบายว่าชายชราผู้บ้าคลั่งกำลังจมอยู่กับการศึกษาเต๋า ดังนั้นน้อยครั้งนักที่เขาจะสนใจสิ่งที่อยู่รอบตัว
บางครั้งเขาก็ทำอะไรโดยไม่ตั้งใจและเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความสูญเสีย นั่นรวมไปถึงความตายของผู้อาวุโสใหญ่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อเว่ย
ซึ่งการที่เย่ฟ่านมาที่นี่ก็เพื่ออธิบายสถานการณ์ที่แท้จริงให้ทุกคนทราบ! เย่ฟ่านอ่อนน้อมถ่อมตนมากและไม่พึ่งพาพลังของชายชราผู้บ้าคลั่งมากดขี่ผู้คน
เพราะไม่ว่าอย่างไรด้วยการดำรงอยู่ของชายชราผู้บ้าคลั่ง ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อเว่ยจะไม่มีทางฉีกหน้าลงมืออย่างแน่นอน
แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นไปไม่ได้ที่ชายชราผู้บ้าคลั่งจะติดตามอยู่ด้านหลังเขาไปตลอดเวลา บางทีผู้อาวุโสคนนี้อาจจะหายตัวไปเมื่อใดก็ได้
ดังนั้นเย่ฟ่านจึงจำเป็นต้องใช้สถานการณ์นี้เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อเว่ยก่อนที่เรื่องนั้นจะเกิดขึ้น
“ท่านลุงไม่ชอบพูด สิ่งที่พี่ใหญ่พูดเป็นความจริง…” หนานหนานพูดอย่างไร้เดียงสา จากนั้นนางก็เขย่าชายเสื้อของชายชราผู้บ้าคลั่งเบาๆ
ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายจื่อเว่ยเวียนหัวไปหมด เด็กน้อยคนนี้ทำราวกับว่าเป็นญาติกับปราชญ์โบราณ สิ่งที่นางแสดงออกมาเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่มีวันกล้าทำ
สุนัขสีดำตัวใหญ่ก้าวไปข้างหน้าและอุ้มนางขึ้นไปนั่งบนไหล่ของชายชราผู้บ้าคลั่ง เด็กหญิงตัวน้อยส่งเสียงหัวเราะเบาๆและนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างมั่นคง
ชาวนิกายจื่อเว่ยไม่กล้าที่จะรบกวนชายชราผู้บ้าคลั่ง และในขณะที่พวกเขาเดินไปในดินแดนโบราณ พวกเขาก็ดึงเย่ฟ่านออกไปและถามว่า
"เจ้าพบผู้อาวุโสคนนั้นได้อย่างไร?"
“พวกท่านไม่รู้หรือว่าผู้อาวุโสคนนี้อาศัยอยู่ในนิกายเทียนซวนพวกเราเคยรู้จักกันมาก่อนดังนั้นข้าจึงแวะไปทักทายเขา และเขาก็ติดตามข้าออกมาท่องเที่ยวด้านนอก” เย่ฟ่านยิ้ม
ผู้คนของนิกายจื่อเว่ยร่างกายแข็งค้าง และทันใดนั้นทุกคนก็นึกไปถึงชายชราผู้บ้าคลั่งซึ่งเป็นยอดฝีมือที่เหลือรอดเพียงคนเดียวของนิกายเทียนซวนในปัจจุบัน!
สุนัขสีดำตัวใหญ่ตะโกน “หลังจากนี้พวกเจ้ายังคิดที่จะฆ่าเย่ฟ่านหรือไม่”
มันกล่าวความต้องการออกมาตรงๆ หากคนเหล่านี้กล้าที่จะเป็นศัตรูกับเย่ฟ่าน แน่นอนว่าชายชราผู้บ้าคลั่งจะไม่แสดงความเมตตาอย่างแน่นอน
“มันจะเป็นไปได้อย่างไร...”
ผู้อาวุโสสูงสุดแห่งสำนักจื่อเว่ยปาดเหงื่ออันเย็นเยียบออกจากหน้าผาก ชายชราผู้บ้าคลั่งนี้เป็นบ้ามาถึงหกพันปี และเห็นได้ชัดว่าเย่ฟ่านมีวิธีที่จะควบคุมเขา
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อเว่ยไม่มีอาวุธเต๋าสุดขั้ว หากพวกเขาตั้งตัวเป็นศัตรูกับเย่ฟ่านก็เชื่อได้เลยว่าชายชราผู้บ้าคลั่งจะลงมือทำลายดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในวันนี้เลย
“แต่เราได้ยินเรื่องนี้กับหู เรื่องนี้พวกเจ้าจะอธิบายอย่างไร” จักรพรรดิดำพูดเสียงดัง
ไกลออกไปหนานหนานนั่งบนบ่าของชายชราผู้บ้าคลั่ง ดูน่าสงสารแล้วพูดว่า “ท่านปู่ อย่าฆ่าพี่ใหญ่ได้หรือไม่”
ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสองคนของนิกายจื่อเว่ยแทบจะอาเจียนเป็นเลือด พวกเขาจะกล้าเป็นศัตรูกับบรรพบุรุษน้อยคนนี้ได้อย่างไร คำพูดของเด็กหญิงตัวน้อยมันเหมือนกับคำพิพากษาที่จะตัดสินชีวิตของทุกคนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อเว่ย
“ท่านปู่ ท่านไม่ฆ่าพวกเราแล้วใช่ไหม?” หนานหนานยังคงอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร
“ทุกอย่างเป็นเพียงความเข้าใจผิด สิ่งนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้น” ผู้อาวุโสสูงสุดคนหนึ่งพยักหน้าหงึกหงัก
“เจ้าวางใจได้เลย ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อเว่ยของพวกเราเก็บตัวเงียบสงบไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับความวุ่นวายของโลกภายนอก ก่อนหน้านี้ลูกศิษย์อกตัญญูพวกนั้นฝ่าฝืนคำสั่งของสำนักและลงเขาไปโดยไม่ได้รับอนุญาต เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเราเลย”
อาวุโสสูงสุดอีกคนรีบผลักความผิดไปยังจ้าวฟาและคนอื่นๆโดยไม่กระดากปาก
“ดีที่ไม่มีเรื่องแบบนั้น ถ้าเจ้าต้องการจะฆ่าเราจริงๆพวกเราก็ใช่ว่าจะเกรงกลัว เพราะปราชญ์โบราณผู้ยิ่งใหญ่คนนี้จะช่วยเหลือพวกเราทำลายดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อเว่ยเอง” จักรพรรดิดำพูดอย่างกล้าหาญ
“ผู้อาวุโสไม่ต้องสนใจมัน ข้ามาที่นี่ก็เพราะต้องการที่จะชดใช้ความผิดไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น” เย่ฟ่านยังคงทำตัวนอบน้อม