ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 51 ฆ่าจอมยุทธขั้นสูงราวกับหมูหมา
“ไปเอามันมาเดี๋ยวนี้!!”
ซู่เสี่ยวไป่สั่งร่างเงาทันที ก่อนที่เงาจะหายไปในพริบตา
เศษส่วนของวิชาควบคุมธาตุมิติ…แม้ว่าไม่ใช่วิชาเดียวกับที่ได้มาจากเดรก แต่มันก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้ซู่เสี่ยวไป่สนใจได้
“ขอให้มันเป็นวิชาเดียวกันทีเถอะ!!”
แววตาของซู่เสี่ยวไป่เป็นประกายอย่างมีความหวัง
*วิถีควบคุมมิติ* เขาสำเร็จแค่ขั้นฝึกหัดแต่ความสามารถของมันนั้นมากมายมหาศาล ความสามารถของมันเพียงพอที่จะใช้จัดการกับจอมยุทธขั้นสูงได้อย่างง่ายดาย แล้วถ้าบรรลุถึงขั้นพื้นฐาน ขั้นสูงได้ล่ะ? หรือกระทั้งสูงสุด มันจะทรงอนุภาพขนาดไหน?
และเศษส่วนเนื้อหาที่ซู่เสี่ยวไป่มีอยู่ มันเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับเสริมความสามารถ ไม่ใช่เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการโจมตีแต่อย่างใด หากว่ามันพอจะมีเนื้อหาที่สอนเกี่ยวกับการสร้างใบมีดมิติ หรือผ่ามิติ มันจะเป็นการโจมตีที่น่ากลัวขนาดไหน
แล้วไม่นานของก็มาถึงมือซู่เสี่ยวไป่
“ทำไมมันดูไม่เหมือนกันเลย…”
ซู่เสี่ยวไป่เมื่อเห็นวิชาที่ร่างเงาเอามาให้ หัวใจที่เคยพองโตด้วยความหวังก็ห่อเหี่ยวในทันที
อาจจะเป็นวิชาควบคุมธาตุมิติ แบบอื่น
มีวิชาควบคุมธาตุชนิดเดียวกัน มากกว่า 1 วิชาเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
“จับมันคุกเข่า!”
ซู่เสี่ยวไป่สั่งให้ร่างเงาของเขาจับตัวของหยวบเฟ่ยเคอแทน เพื่อกันไม่ให้หยวนเฟ่ยเคอหนี
ก่อนที่เขาจะค่อยๆ เปิดอ่านดูเนื้อหาของวิชาอย่างตั้งใจ
เมื่อเขาอ่านบรรทัดแรกจบ หัวใจที่เคยห่อเหี่ยวกับมาพองโตอีกครั้ง พร้อมกับสายตาที่เป็นประกาย
ปรากฏว่าเนื้อหาภายในนั้นเป็นส่วนที่ขาดไปของวิชาวิถีควบคุมมิติจริงๆ
หลังจากที่พลิกอ่านไปมาอยู่หลายรอบ เขาก็อุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น
“ถึงจะดูเละเทะไปหน่อย! แต่มันคือวิชาเดียวกัน!!”
ใบหน้าของซู่เสี่ยวไป่เต็มไปด้วยความดีใจ
มันคือวิชาเดียวกัน สิ่งที่หยวนเฟ่ยเคอเก็บเอาไว้คือส่วนที่ขาดไปของวิชาวิถีควบคุมมิติ
แม้ว่าจะมีเพียงแค่ 10 หน้าก็ตาม แต่รวมกับส่วนของซู่เสี่ยวไป่ที่มีอยู่ มันก็ทำให้สามารถเรียนรู้ได้ถึงบทกลางของเนื้อหาวิถีควบคุมมิติได้แล้ว
“ฮ่าๆๆๆๆ”
ซู่เสี่ยวไป่อดหัวเราะไม่ได้
เขาไม่คิดว่าส่วนหนึ่งของวิชาวิถีควบคุมมิติจะอยู่กับตระกูลหยวน
ของที่เขายกเค้ามาทั้งหมดไม่มีค่าเลย หากเทียบกับส่วนที่ขาดหายไปของวิชานี้
“ฑ-ฑูตซู่…ตอนนี้ฑูตซู่ก็ได้ทรัพสมบัติที่มีของตระกูลหยวนไปหมดแล้ว ได้โปรด…ไว้ชีวิตด้วย”
หยวนเฟ่ยเคอรู้สึกโล่งอกทันทีที่เห็นซู่เสี่ยวไป่หัวเราะออกมา
มันดูเป็นธรรมชาติราวกับเด็กน้อยได้ของเล่นที่ถูกใจ
เพราะหากว่าซู่เสี่ยวไป่พอใจ เขาอาจจะรอดชีวิต
อันที่จริง หยวนเฟ่ยเคอไม่นึกเลยด้วยซ้ำว่าวิชาควบคุมธาตุที่ไม่สมบูรณ์ที่เขาเก็บเอาไว้จนลืม จะสามารถทำให้ซู่เสี่ยวไป่มีความสุขขนาดนี้ได้
หยวนเฟ่ยเคอเองก็รู้สึกดีใจที่เขานึกถึงของชิ้นนี้ได้
ในตอนที่เขาลองศึกษาวิชานี้ เขาใช้เวลาอยู่หลายวันก็ไม่สามารถทำความเข้าใจได้หรือฝึกฝนมันได้ หลังจากนั้นเขาก็ไม่แตะมันอีกเลย แต่ไม่ใช่หยวนเฟ่ยเคอไม่เคยพยายามตามหาเนื้อหาส่วนแรกของวิชานี้ เขาตามหามันแบบเงียบๆ
แต่หลังจากออกตามหาอยู่นานก็ไม่พบแม้แต่ร่องรอย
และด้วยความกลัวว่าเรื่องที่เขาครอบครองวิชาควบคุมธาตุมิติจะหลุดออกไป ทำให้เขาเก็บมันไว้และ ล้มเลิกที่จะตามหาส่วนที่เหลือ
อีกอย่าง ต่อให้เขาสามารถหาส่วนแรกเจอ วิชานี้ก็ยังยากเกินไปที่จะเรียนรู้ได้ นอกจากเขาจะทะลวงเขตแดนเป็นยอดยุทธได้ก่อน ถึงจะพอที่จะเข้าใจเนื้อหาของวิชาได้ ไม่เช่นนั้นต่อให้เขาฝึกวิชานี้เป็นชาติก็ไม่สำเร็จ
แต่เวลานี้มันกลับเป็นของล้ำค่าสำหรับเขา
มันอาจจะเป็นเครื่องมือที่รักษาชีวิตของตัวเขาเองได้
“รอก่อนเถอะ…ตราบใดที่รอดออกไปได้ ฉันจะรายงานเรื่องนี้กับตระกูลใหญ่!!”
“ฉันไม่สามารถจัดการกับแกได้…แต่ฉันสามารถหาคนมาจัดการกับแกได้!!”
หยวยเฟ่ยเคอคิดอยู่ภายในใจ อย่างเคียดแค้น
ก่อนหน้านี้ ซู่เสี่ยวไป่นั้นยังไม่มีความผิดอะไร และไม่รู้จะหาความผิดอะไรให้ซู่เสี่ยวไปได้
แต่ตอนนี้มันต่างออกไป ซู่เสี่ยวไป่ได้ลงมือสังหารหมู่ในพื้นที่ส่วนใน นั่นคือเขาได้แหกกฏเหล็กของรัฐบาลอย่างตั้งใจ และเขาต้องโดนทั้งตระกูลใหญ่และรัฐบาลหมายหัว
ต่อให้เป็นสัตว์ประหลาดอย่างซู่เสี่ยวไปก็ไม่อาจจะต้านทานได้
แต่มันก็อาจจะมีตระกูลใหญ่บางตระกูลไม่ลงมือกับซู่เสี่ยวไป่ ไม่แม้แต่จะจับกุมอีกทั้งยังยินดีที่จะให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลอีกด้วย แต่หากเรื่องของเขาถูกเปิดเผยออกไป ไม่ว่าซู่เสี่ยวไป่จะเข้าหรือไม่เข้าร่วมกับตระกูลใหญ่ ตระกูลอื่นๆ ก็จะทำเช่นเดียวกัน หากไม่เข้าร่วมกับเขาก็ต้องฆ่าให้ตายอย่างเดียว
“สุดยอด!!”
“ฮะๆๆ”
ซู่เสี่ยวไป่กำลังจมอยู่กับความสุขที่ได้รับส่วนที่ขาดไปของวิชาวิถีควบคุมมิติ แล้วเมื่อซู่เสี่ยวไป่ได้ยินสิ่งที่หยวนเฟ่ยเคอกล่าว เขาก็ดูอารมณ์ดีอย่างมาก ทำให้ในแววตาของหยวนเฟ่ยเคอมีความหวัง
“แม้…ท่านผู้นำตระกูลให้ของดีๆ กับผมมาต้องเยอะ ทำไมผมจะให้ท่านผู้นำตระกูลหยวนไม่ได้ละ”
“อีกอย่างผมเป็นคนรักษาคำพูด!!”
ซู่เสี่ยวไป่เหลือมมองหยวนเฟ่ยเคอ ขณะที่ยิ้มร่า
“ฑูตซู่!! จิตใจเมตตา!! ผมเป็นหนี้บุณคุณฑูตซู่แล้ว!!”
หยวนเฟ่ยเคอพูดออกมาอย่างดีใจ นัยน์ตาของเขาแสดงออกถึงความสุขอย่างมาก
“ท่านผู้นำ!!”
“ช่วยพวกเราด้วย ท่านผู้นำ!!”
เมื่อคนอื่นได้ยินเช่นนี้ก็ต่างร้องขอความช่วยเหลือจากหยวยเฟ่ยเคอ
“ไม่ต้องคิดมาก..”
“ผมพูดว่า…จะไม่ฆ่าท่านผู้นำก็จริง….แต่…..ไม่ได้บอกว่าน้องชายของผมจะไม่ทำ!!”
เมื่อซู่เสี่ยวไป่พูดจบ หัวใจของหยวนเฟ่ยเคอก็ตกไปอยู่ที่ตาตุ๋มทันที
“หากไม่มีใครมายุ่งกับผมก่อน ผมก็จะไม่ยุ่งกับเขา…แต่หากว่าทำร้ายผมก่อนแล้วละก็ ก็อย่าได้หวังความเมตตาจากผมเลย!!”
“ต้องแสดงความยินดีกับท่านผู้นำตระกูลหยวนด้วย ท่านคือคนแรกที่ได้รับสิทธิ์นี้!!”
“ไม่ว่ายังไงท่านก็ต้องตายอยู่ดี!!!”
“ซู่เสี่ยวไป่ !! เจ้ามันสัตว์เดรัจฉาน!!!”
หยวนเฟ่ยเคอคำรามอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่ดาบยาวจัดสะบั้นคอของหยวนเฟ่ยเคอในทันที แล้วเสียงคำรามก็เงียบหายไป!!
สมาชิกของตระกูลหยวนคนอื่นๆ ก็ต่างหวาดกลัวอย่างสุดหัวใจ พวกเขาผงะเดินถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว อีกทั้งยังตัวสั่นงั้นงกไปหมด บางคนนั้นถึงกับมีคราบน้ำเปียกที่ตรงระหว่างขา
จอมยุทธขั้นสูงถูกฆ่าราวกับหมูหมา!!